ใบหน้าที่ตกแต่งอย่างปราณีตของอี๊ฟพลันปรากฏสีหน้าที่ค่อนข้างเก้อเขินเล็กน้อย
ในเมื่อธาวินเอ่ยปากถามแล้ว เธอไม่ตอบก็ไม่ได้
เธอยิ้มเล็กน้อยครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดเสียงบางเบาว่า ฉันเคยเจอคุณธิชามาก่อน ถ้าพูดถึงสัมพันธภาพ อาจจะยังไม่ได้คุยกัน แต่คุณธิชาเป็นคนสุภาพอ่อนโยน ร่าเริงสดใส ทำให้ใจของอี๊ฟชื่นชมเป็นอย่างมาก จึงมีความตั้งใจที่อยากเป็นเพื่อน
เพราะถึงอย่างไรก็อยู่ในที่สาธารณะ แม้ว่าในใจอี๊ฟจะมีความขัดแย้งอันน่าอาย แต่ในเวลานี้ไม่สามารถแสดงออกได้
อีกอย่างธาวินยังเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่คอยตรวจสอบระแวดระวัง ไม่มีความผิดปกติใดๆ ในตัวเธอที่สามารถรอดพ้นสายตาของเขาได้
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเพิ่มเติมที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ธิชาจึงเริ่มพูดขึ้นเองว่า คุณอี๊ฟเห็นชุดฉันเปื้อนไวน์แดง จึงมีน้ำใจมาช่วยฉัน นำชุดสำรองของตัวเองมาให้ฉันยืมโดยเฉพาะ ฉันกำลังขอบคุณเธอสำหรับความใจดี
ธาวินโอบกอดเอวเธอพลางก้มหน้าชำเลืองมองเธอ
ธิชาเห็นดวงตาลึกล้ำของเขามองมาอย่างมีแววสนอกสนใจ จิตใจพลันว่างเปล่าขึ้นเรื่อยๆ แค่อยากจบสถานการณ์ที่น่าอายนี้เสียที
อย่างไรก็ดีธาวินเหมือนจะกระตือรือร้นและสุภาพกับอี๊ฟอย่างมาก เขายิ้มอ่อนโยนอย่างสุภาพบุรุษ พูดกึ่งล้อเล่นว่า คนงามข้างกายคุณดนัยกฤตนั้นแน่นอนว่าคงไม่ใช่สวยแต่รูปจูบไม่หอม ไม่เพียงแต่สวยจนใจเต้น แม้แต่การพูดยังฉลาดด้วย ถึงขนาดเป็นที่ชื่นชอบของใครๆ หลายคน ไม่แปลกใจเลยที่ในแวดวงสังคมมีข่าวลือว่า……คุณอี๊ฟเป็นคนโปรดที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ข้างกายคุณดนัยกฤต
คำพูดเหล่านี้โดยทั่วไปมักฟังดูเป็นคำชมของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงสวย แต่เมื่อเข้าหูของอี๊ฟในเวลานี้ การยกย่องไม่ได้ทำให้มีความสุขเลย แต่กลับเป็นหนามแหลมทิ่มแทงหลังเสียมากกว่า
ยิ่งธิชายิ่งแข้งขาอ่อนแรงและจิตใจไม่สงบ เธอไม่เข้าใจเลยว่าธาวินคิดจะทำอะไร
ธาวินจงใจยกย่องอี๊ฟต่อหน้าเธอ เป็นการเตือนเธอ ว่าดนัยกฤตไม่ได้สนใจแค่ตัวเธอคนเดียว……ข้างกายดนัยกฤตรายล้อมไปด้วยคนสวยมากหน้าหลายตา และรูปลักษณ์ของอี๊ฟก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอ
ธาวินอาจต้องการคว้าทุกโอกาสที่จะทำให้เธออับอาย และที่สุดคือการทำให้เธอละอายแก่ใจ จากนี้ไปจะได้ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนอีกนอกจากเขา….อาจเป็นประมาณนั้นหรือเปล่า
แม้อี๊ฟจะมีใจคอคับแคบ แต่การฝึกฝนมาหลายปีทำให้เธอยิ้มและคงความเสแสร้งเอาไว้ได้ หัวหน้าธาวินชมเกินไปแล้วค่ะ อี๊ฟไม่กล้าหรอก
ธิชาไม่เก่งเรื่องมารยาทและการเสแสร้ง เธอแค่อยากดึงธาวินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
แต่ก่อนที่เธอจะได้ดึงธาวินไป ดนัยกฤตก็เดินมาทางนี้เสียก่อน
เธอแทบจะนึกถึงเหตุการณ์ที่สนามม้าขึ้นมาทันที……
ตอนนั้นเธอถูกธาวินทำให้บาดเจ็บสาหัส ทันทีที่นึกถึงว่าร่างกายส่วนล่างของตัวเองมีเลือดไหลนองสภาพน่าอนาถ ในใจเธอก็สาบานทันที ว่าแม้ต้องตาย……ก็จะไม่กลับไปอยู่ข้างกายธาวินอีก
ตอนนั้นเธอไร้เดียงสาจริงๆ คิดว่าตราบใดที่ซ่อนตัวหลบหลังดนัยกฤต ก็มีความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์จริงๆ เสียที
เธอคิดว่าตราบใดที่ดนัยกฤตแข็งแกร่งพอที่จะงัดข้อกับธาวิน เธอก็ไม่ต้องกลัวที่จะอยู่รอดอีกต่อไป……
แต่ในเวลานั้นเธอคาดไม่ถึงเลยว่าธาวินจะลงมือโหดร้ายกับเธอเสียยิ่งกว่าความตาย
เมื่อสิ่งเหล่านั้นถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ เธอไม่สามารถเรียนต่อในสถานศึกษาได้อีกต่อไป นอกจากนี้ยังลงทะเบียนศึกษานิติศาสตร์สาขายุติธรรม เพราะในอนาคตเธออยากเป็นทนายความ……
วัยรุ่นอายุสิบกว่าสำส่อนสมสู่กับพี่ชายลูกติดสามีใหม่ของแม่ จะมีคุณสมบัติใดสวมชุดคลุมทนายความอยู่บนที่นั่งของอัยการ
ต่อให้เธอจะไม่แคร์ศักดิ์ศรีและอนาคตของตัวเองก็ตาม
ถึงอย่างนั้นแล้วณิชานาฏกับลุงรัณล่ะ……
เธอไม่แคร์ความรู้สึกของพวกเขาไม่ได้
หนึ่งคือผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย อีกหนึ่งคือผู้พิการอัมพาต
เธอกลัวว่าลุงรัณจะเป็นแบบที่ธาวินเคยพูดไว้ โกรธจนเลือดออกในสมองอีกครั้ง
ผู้ป่วยที่เลือดออกในสมองเป็นครั้งที่สอง……มีโอกาสน้อยมากที่จะได้รับการกู้ชีวิตกลับมา
ไม่ว่าธาวินจะดูถูกเธอแค่ไหน ใจเธอนั้นรู้สึกกตัญญูต่อชรัณมาโดยตลอด
ถ้าไม่มีการแต่งงานระหว่างชรัณกับณิชานาฏ ไม่รู้ว่าวัยรุ่นและวัยสาวของเธอจะต้องเสียให้กับพวกเศรษฐีไปอีกกี่มากน้อย
ไม่ต้องฟังเรื่องราวน่ากลัวระหว่างลูกเลี้ยงกับพ่อเลี้ยงให้มาก……
ถ้าไม่มีชรัณ บางทีเธออาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตดีดีอย่างตอนนี้
ธาวินโหดร้ายทารุณต่อบิดาผู้ให้กำเนิดของตัวเอง แต่เธอไม่สามารถลืมความกรุณาที่รับเลี้ยงดูได้
……
แยกทางกันไม่กี่วัน
เธอไม่กล้ามองหน้าดนัยกฤตตรงๆ รู้สึกอับอายที่ตอนนี้ตัวเองอยู่ในท่าทางที่ถูกธาวินโอบกอดไว้ในอ้อมแขน……มันช่างดูน่าบัดสีอย่างร้ายแรง
ชายในชุดสูทสีกรมท่าดูหรูหราเย่อหยิ่ง สายตามองผ่านเธอไปบางเบา
ธิชาทำได้เพียงคิ้วตกลดสายตา ต้องการปกปิดทุกความรู้สึกให้มิดชิด
ธาวินเอ่ยทักทายเขา เน้นเสียงดูถูกถากถางตามสไตล์เขา
ดนัยกฤตอาจจะเคยชินกับนิสัยเด็กๆ ที่ยอมแพ้ไม่เป็นของเขาแล้ว สีหน้าไม่พอใจไม่มีแม้เพียงครึ่ง กลับกันกลับมีความหมายบางอย่างแทน หัวหน้าธาวิน ไม่ได้เจอกันไม่กี่วัน ดูเหมือนน้องสาวของคุณจะยิ่งดู……ทรวดทรงวิจิตรงดงามขึ้นนะ
ธิชาใจกระตุกอย่างรุนแรง เหงื่อออกฝ่ามือไม่กล้าส่งเสียงพูด
อะไรคือทรวดทรงวิจิตรงดงาม……ไม่เคยเห็นการชมคนแบบนี้เลย
ใจธาวินปรารถนาจะฉีกชายคนนี้เป็นชิ้นๆ แต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มเหยียดหยามบางเบา กล้าลูบเอวธิชาอย่างเอาแต่ใจมากขึ้น พูดกลั้วหัวเราะว่า น้องสาวผมรูปร่างวิจิตรงดงาม……เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาจริงๆ เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นลูกสาวคนเดียวของณิชานาฏสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองJ เป็นสิ่งโดดเด่นที่ได้มรดกตกทอดมาแต่กำเนิด
เท้าที่ยืนบนร้องเท้าส้นสูงของธิชาอ่อนแรง ความรู้สึกอัปยศค่อยๆ แล่นจากฝ่าเท้าขึ้นมาที่หน้าอก
ธาวินถูกดนัยกฤตเหยียบหางเข้าให้แล้ว
ในเมื่อดนัยกฤตใช้คำว่าทรวดทรงวิจิตรงดงามมาบ่งบอกความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับน้องสาวของเขา
ธาวินจึงเยาะเย้ยเธอว่าเป็นของเล่นที่ไม่มีศักดิ์ศรี
แม้คำว่าสิ่งโดดเด่นจะเป็นคำชม แต่ไม่มีใครใช้คำนี้ชมผู้หญิงที่มาจากตระกูลดี
ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว แต่ก็เป็นแบบณิชานาฏที่เป็นสาวสังคมใช้ความงามเอาใจชาย
ธิชารู้ว่าได้สูญเสียศักดิ์ศรีทั้งหมดต่อหน้าดนัยกฤตแล้ว สมองของเธอโล่งไปหมด และไม่อยากคิดอะไรอีกต่อไป
ดนัยกฤตยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา การเลือกตั้งใหม่ของหอการค้าใกล้มาถึงแล้ว ช่วงนี้เกรงว่าหัวหน้าธาวินคงยุ่ง ถ้ายุ่งจนหัวหมุน งานประจำภายในหอการค้า ผมในฐานะสมาชิกคณะกรรมการประจำหอการค้าสามารถช่วยจัดการได้นะ
หัวข้อสนทนาเปลี่ยนจากผู้หญิงเป็นหอการค้า ธิชาตระหนักได้ว่าการห้ำหั่นระหว่างพวกเขาได้หนักหนาขึ้นถึงจุดสูงสุดในฉับพลัน
เธอคาดไม่ถึงว่าดนัยกฤตผู้ซึ่งสงบนิ่งอยู่เสมอจะยั่วโทสะอีกฝ่ายด้วยหัวข้อที่ละเอียดอ่อนที่สุด
ธาวินหน้าบึ้งดังคาด ไม่จำเป็นต้องช่วยหรอก เถ้าแก่ดนัยกำลังยุ่งอยู่กับการหาเสียง คิดว่าคงยุ่งไม่น้อยไปกว่าผม จะกล้ารบกวนคุณได้ยังไง
เกี่ยวกับเรื่องจริงจังระหว่างผู้ชาย อี๊ฟไม่แสดงออกว่าเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และยิ่งไม่กล้าเข้าไปแทรก
แน่นอนว่าธิชาก็ไม่มีแผนจะพูดแทรกแม้เพียงครึ่งประโยค
แต่จู่ๆ ธาวินก็บีบเอวของเธอ บีบจนตัวเธอตึงแน่น
ธิชา มาเดาดูหน่อยล่ะ พี่ชายกับเถ้าแก่ดนัย……ใครจะได้รับเลือกเป็นประธานหอการค้าสหพันธ์แปดจังหวัดในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า สบายๆ ผ่อนคลาย ลองเดาดู ถ้าเดาถูก พี่ชายจะให้อมยิ้มเธอกินเป็นรางวัล
ธิชาที่เดิมทีถูกเขาบีบจนเจ็บ ค่อยๆ สูดลมหายใจ
ตอนนี้มาได้ยินคำถามที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ของเขา มันแทบจะฆ่าเธอให้ตาย
เหงื่อเย็นออกหลังทันที จิตใจสับสนทำอะไรไม่ถูก
เธอขาสั่น ชั่วพริบตาเดียว ของเหลวบางส่วนที่เหลืออยู่ในร่างกายหลั่งออกมากะทันหัน……
ธิชาชะงักไปครึ่งวินาที รู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น……
ทุกอย่างเป็นความผิดของไอ้โรคจิตธาวิน
เขากระทำต่อเธออยู่นานมาก……
แถมยังเร่งให้เธอแต่งตัวออกมาภายในห้านาที
เธอรีบจัดการ แต่แค่จัดการใบหน้าและเส้นผม
ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีเวลาพอ……
ธิชาก้มลงแอบมองโดยไม่รู้ตัว ภาพที่เธอเห็นทำให้อยากหมดลมตายลงไปตรงนี้
เดรสชุดใหม่ที่ผู้ช่วยนำมาให้มีชายกระโปรงเป็นผ้าบาง สีขาวบริสุทธิ์……
ใต้โคนขาเป็นกึ่งโปร่งแสงเลือนราง
เดิมทีไม่ใช่สไตล์ที่เปิดเผยเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้เมื่อมันเปียกเพราะของเหลวบางชนิด คนมองเพียงแวบแรกก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ดนัยกฤตเหลือบมองตามสายตาของเธอ เพ่งมองครู่หนึ่ง แล้วมุมปากก็ขดยิ้มอย่างหล่อเหลาและชั่วร้าย ทำไมหัวหน้าธาวินแกล้งน้องสาวตัวเองแบบนี้ ดูสิน้องสาวหวาดกลัวจนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เลยเห็นไหม