ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 40 ตรวจสอบเฉินอี

บทที่ 40 ตรวจสอบเฉินอี

เป็นเช่นนี้จริง ๆ

ในตอนนั้นที่หงส์แดงมาท้าประลอง มีคนจำนวนไม่น้อยอยู่ที่นั่นด้วย และส่วนใหญ่ก็พ่ายแพ้ให้กับหงส์แดง แต่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็รู้สึกเลื่อมใสในตัวของหงส์แดงคนนี้

ระหว่างทางอะไรยิ่งใหญ่ที่สุด

แน่นอนว่าหมัดยิ่งใหญ่ที่สุด

หมัดของใครแข็งแกร่งคนนั้นสุดยอด นี่เป็นตัวอย่างที่เซียวเทียนหู่กำลังหยิบยกให้เห็น

นอกจากนี้ไม่ต้องพูดถึงว่ามังกรเขียวหรือแม้แต่เถ้าแก่คนนั้นเองจะแข็งแกร่งสักเพียงไหน ลำพังแค่สภาพคล่องทางการเงินจำนวนนับล้านล้านหยวนเพียงอย่างเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขายอมเชื่อฟังได้แล้ว ไม่ว่าจะเดินในเส้นทางที่ถูกต้องหรือเดินในเส้นทางที่ผิด พวกเขาก็ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อเงินทั้งนั้น

เมื่อเห็นท่าทีคล้อยตามของบรรดาลูกสมุน เซียวเทียนหู่ก็พยักหน้าออกมาด้วยความพึงพอใจ จากนั้นจึงถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีที่ไม่ต่างไปจากวังจ่างหลิน

เมืองฉือแห่งนี้กำลังจะเปลี่ยนขั้วอำนาจแล้ว

มังกรเขียวเหลือบมองโทรศัพท์ มีข้อความจากมังกรสิบเอ็ดส่งเข้ามา

เจ้ามังกรครับ ท่านตาวถูกเซียวเทียนหู่ไล่กลับไปแล้ว ในช่วงนี้คงยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เกิดขึ้นครับ

เฉินอีได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า : แต่ก็เป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ฉันให้เซียวเทียนหู่ทำเช่นนี้ เกรงว่าอิทธิพลของเขาจะลดลง อย่างไรเสียคนในกลุ่มสังคมใต้ดินจำนวนมากที่ต้องอาศัยธุรกิจผิดกฎหมายในการหาเลี้ยงชีพ หากให้เขาละทิ้งทุกอย่างแล้วขึ้นมาทำธุรกิจที่ถูกกฎหมาย เกรงว่าอาจเป็นการยากที่จะโน้มน้าวใจคนทั้งหมดได้

หรือว่าเราควรกวาดล้างสังคมใต้ดินสักครั้งครับ ?

มังกรเขียวถามหาคำชี้แนะ แต่เฉินส่ายหัว

ตอนนี้ยังไม่จำเป็น เรารอดูการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆ ก่อน ดูว่ามีตระกูลไหนที่ยังคงดื้อรั้นหัวแข็งไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแล้วเราค่อยลงมือจัดการก็ยังไม่สาย

อีกอย่าง สิ่งที่เราควรให้ความสนใจก็คือโครงการก่อสร้างจงชุน ถ้าเดาไม่ผิด ทางการน่าจะเป็นผู้จัดตั้งโครงการนี้ขึ้นมาใช่ไหม ?

ใช่ครับ เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยกรมการก่อสร้าง มีหน่วยงานราชการหลายหน่วยที่ที่สนับสนุนโครงการนี้ เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่มาก ได้ยินมาว่าเฉพาะเงินลงทุนเพียงอย่างเดียวก็สูงถึงสี่พันล้านหยวน ดังนั้นตระกูลหลี่จึงต้องการคว้าโครงการนี้มาไว้ในมือให้ได้ เพราะอย่างน้อยหากพวกเขาสามารถคว้าโครงการนี้มาได้ก็อาจทำกำไรได้ถึงสองสามพันล้านเลยทีเดียว

มังกรเขียวพูดอธิบายอย่างชัดเจน ทางฝั่งเฉินอีเลิกคิ้วขึ้น

ถ้าหากพูดว่าสองพันล้านก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าหากพวกเขาวางแผนเอาไว้ถึงสามพันล้าน เกรงว่าพวกเขาคงอาศัยช่องโหว่ทุกอย่างในการทุจริตเงินของโครงการอย่างแน่นอน

เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยส่วนบุคคลของผู้อยู่อาศัยในอนาคต จึงจำเป็นต้องจับตาดูให้ดี เอาอย่างนี้ นายไปปรึกษากับวังจ่างหลินให้เขาเริ่มลงมือ หากเป็นไปได้ ก็ให้ผนึกกำลังกับบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ต่าง ๆ ในเมืองฉือเพื่อร่วมมือกันแข่งขันโครงการ และที่สำคัญที่สุด ให้จับตามองตระกูลฉินเอาไว้ให้ดี ไม่ต้องรีบร้อนยื่นข้อเสนอให้พวกเขา ให้รอดูไปก่อน

เฉินอีพูดอย่างมั่นใจ

ตอนนี้วังจ่างหลินยังไม่สามารถคว้าโครงการมาได้ แต่เฉินอีกลับมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าท้ายที่สุดแล้ววังจิ่งกรุ๊ปจะต้องเป็นผู้กุมชัยชนะอย่างแน่นอน เพราะมีเขาอยู่

หลังจากมังกรเขียวออกไปแล้ว เฉินอีก็เดินไปยังหน้าต่างบานใหญ่อีกครั้ง แล้วจู่ ๆ หัวใจของเขาก็เต้นระส่ำขึ้นมา

จู่ ๆ เขาก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง

มีคนกำลังจับตาดูฉันอยู่หรือเปล่านะ ?

เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าบริเวณใกล้ ๆ นี้ มีคนกำลังจับตาดูเขาอยู่ อีกทั้งกำลังพุ่งเป้ามาที่ชั้น 25 และชั้น 26

หากเป็นคนอื่นอาจคิดว่าความรู้สึกนี้คือภาพลวงตา แต่เฉินอีผ่านประสบการณ์การต่อสู้และผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้ง เขาจึงรู้สึกคุ้นชินกับความรู้สึกเช่นนี้เป็นอย่างดี

จะต้องมีคนคอยแอบดูเขาอยู่แน่นอน !

ตอนนี้คนที่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่มีไม่มากนัก อีกทั้งคนที่มีความแค้นกับฉันก็มีอยู่เพียงแค่ตระกูลเดียวเท่านั้น

ตระกูลหลี่ !

เขาค่อย ๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาทันที เป็นสายจากวังจ่างหลิน

มีเรื่องอะไร ?

น้ำเสียงของเฉินอียังคงเย็นชา

ฝั่งของวังจ่างหลินเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขารีบพูดขึ้นว่า : เถ้าแก่ครับ เมื่อครู่ผมเพิ่งได้รับรายงานมาว่า คนของตระกูลหลินกำลังตรวจสอบเรื่องของคุณอยู่ครับ !

อะไรนะ ?

เฉินอีมีปฏิกิริยาตอบสนองเล็กน้อย

ฉันรู้แล้ว

วังจ่างหลินซึ่งอยู่ปลายสายผงะไป แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามเฉินอี เพราะชายคนนี้ลึกลับเกินไป การเคลื่อนไหวของตระกูลหลี่เพียงเล็กน้อย ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาของเถ้าแก่ไปได้

ถ้าอย่างนั้นเถ้าแก่ต้องการให้ผมจับตัวสายลับของตระกูลหลี่พวกนั้นออกมาไหมครับ ?

ไม่ต้องหรอก รอดูการเคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ ก็พอ

นายจัดการเรื่องของนายให้ดี ส่วนเรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง

พูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นพร้อมด้วยดวงตาที่หมองหม่น

อยู่ดี ๆ ตระกูลหลี่ก็จับตาดูฉัน คงต้องมีแผนการอะไรบางอย่าง

แต่น่าเสียดายที่การสะกดรอยตามและการสืบสวนเรื่องต่าง ๆ สำหรับพวกนายแล้วก็คงเป็นได้แค่คนภายนอกเท่านั้น

ไม่ใช่ว่าเขาหยิ่งยโส แต่เพราะเขามองโลกนี้ออกอย่างแท้จริง คนที่มีความสามารถที่พอจะต่อกรกับสำนักมังกรลับได้ พอที่จะมีความสามารถในการสะกดรอยตามและตรวจสอบเขาได้ มีอยู่เพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่ใช่พวกที่เกี่ยวข้องกับหน่วยราชการที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ก็มักจะเป็นพวกมหาอำนาจที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อโลก

ส่วนตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลหลี่ ไม่ได้อยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ

เพียงแต่ตระกูลหลี่ โดยเฉพาะหลี่เจ๋อ ไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย

เขาเพิ่งได้รับข่าวสารมาว่า ตอนที่ท่านตาวและฉินหวยจือกำลังจะหาตัวฉินปิงหลินเจอ กลับพบเข้ากับเซียวเทียนหู่

และที่สำคัญที่สุดก็คือ เซียวเทียนหู่กลับพูดเรื่องแผนการที่จะเปี่ยนแปลงกลุ่มสังคมใต้ดินของเมืองฉือใหม่ !

เจ้าเซียวเทียนหู่คนนี้เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ทำไมจู่ ๆ ถึงคิดที่จะกวาดล้างสังคมใต้ดินให้ขาวสะอาด อย่าว่าแต่คนที่อยู่ในสังคมใต้ดินเหล่านั้นเลย แม้กระทั่งคนที่อยู่ในสังคมปกติรวมไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนเองก็รู้สึกไม่พอใจในตัวเขา และคิดว่าทำไมจู่ ๆ เซียวเทียนหู่ถึงได้ลุกขึ้นมาทำเรื่องที่เปลืองแรงเปล่าเช่นนี้

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำไมเซียวเทียนหู่ถึงไปอยู่ที่ตึกจิ่งช่าง ที่นั่นดูเหมือนจะไม่ใช่ที่ของเขา หรือว่าเขาคือผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าของฉินปิงหลันคนนั้นกัน ?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เจ๋อก็รู้สึกถอดใจไม่น้อย

หากเป็นเช่นนี้จริง เขาก็ไม่กล้าลงมือกับฉินปิงหลัน เพราะคนอย่างเซียวเทียนหู่นั้นน่ากลัวเกินไป

คุณชายครับ ผมสืบมาได้แล้วครับ !

ผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าของฉินปิงหลันคนนั้นดูเหมือนจะชื่อว่าเฉินอี เขาเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองฉือเมื่อสองสามวันก่อน ได้ยินมาว่าเป็นทหารของเมืองอสูรครับ !

อะไรนะ !

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องพูด ความคิดที่เลิกล้มไปเมื่อครู่ของหลี่เจ๋อ ก็กลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

เป็นเรื่องจริงหรือ ?

เป็นเรื่องจริงแน่นอนครับ อีกทั้งข่าวนี้มาจากวังซื่อกรุ๊ปครับ

ลูกน้องรีบพูดขึ้น ทำให้หลี่เจ๋อผงะไป

ทำไมถึงเกี่ยวพันไปถึงวังซื่อกรุ๊ปได้ ?

ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะเป็นพนักงานเล็ก ๆ ในวังซื่อกรุ๊ปครับ วันนี้เพิ่งจะเข้าทำงานเป็นวันแรก ผมเองบังเอิญพบเข้ากับพนักงานระดับล่างของวังซื่อกรุ๊ปเข้าถึงได้สอบถามเรื่องนี้

หลี่เจ๋อรู้สึกประหลาดใจมาก

บังเอิญขนาดนั้นเลยหรือ ?

พวกเขาเพิ่งจะเริ่มสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าของฉินปิงหลันคนนั้น แต่จู่ ๆ กลับมีคนเดินเข้ามาเล่าให้ฟังเสียเอง ?

เขาไม่ใช่คนโง่ จึงรู้สึกว่าน่าจะมีปัญหาใหญ่แอบแฝงอยู่

ไปสืบเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อเฉินอีเดี๋ยวนี้ ไปขุดเรื่องของบรรพบุรุษของเขาออกมาให้ฉันดูให้หมด !

ถึงแม้หลี่เจ๋อจะเป็นลูกหลานเศรษฐี แต่เขาก็เป็นลูกหลานเศรษฐีที่เข้าในพื้นฐานของกฎเกณฑ์เป็นอย่างดี ถึงแม้เขาจะใช้วิธีการที่ง่าย แต่กลับสามารถทำให้เข้าเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งภายใต้กฎเกณฑ์ได้ และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้คนที่มีอำนาจอย่างเฉินเทียนเชิงไม่อาจจัดการกับเขาได้

แต่ทว่า !

หลินเทียนเชิงเอ๋ย หลินเทียนเชิง หลายปีมานี้แก่พยายามตามจีบฉินปิงหลินอย่างยากลำบากแต่ก็ยังไม่สำเร็จ ครั้งนี้ฉันจะช่วยทำความฝันของแกให้เป็นจริงเอง แต่น่าเสียดายที่แกตายไปเสียก่อน

มิฉะนั้น ฉันอยากจะอัดคลิปวิดีโอตอนที่เทพธิดาของแกกำลังสนุกส่งไปให้แกดูเสียเหลือเกิน

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท