ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 81 การขึ้นลงพลิกผันของฉินหวยจือ

บทที่ 81 การขึ้นลงพลิกผันของฉินหวยจือ

วันรุ่งขึ้นฉินหวยจือมาถึงที่หน้าบริษัทวังซื่อกรุ๊ปแต่เช้า

ยังคงเป็นรปภ.คนเมื่อวานนี้ เขาไม่ได้เห็นตอนที่ฉินหวยจือถูกไล่ออกไป จึงยังคิดว่าฉินหวยจือเป็นแขกคนสำคัญของวังซื่อกรุ๊ป รีบเสนอหน้ายิ้มเข้าไปต้อนรับ

 ท่านฉิน ท่านมาอีกแล้ว 

 อือม์  

ฉินหวยจือส่งเสียงรับไปตามเรื่องมุ่งหน้าตรงขึ้นไปชั้นบน ปล่อยรปภ.คนนั้นยืนเซ่อ

 เมื่อวานแกไปทำอะไรให้ท่านฉินไม่พอใจไม่ใช่หรือ แน่นอนว่าเขาเลยไม่สนใจแก 

เพื่อนร่วมงานพูดเย้ย

อีกคนยังส่ายหน้าทำเสียงชิชะ

 ตระกูลฉินนี่เท่าที่รู้มานะ เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่ไม่อยู่ในสายตาใครเลย ตอนนี้มาพันเกี่ยวกับวังซื่อกรุ๊ปเรา คงต้องรุ่งโรจน์ก้าวไกลไปได้ในไม่นานเกินรอ 

 ถึงว่า ตระกูลฉินนี่ต้องก้าวขึ้นเป็นตระกูลดังของเมืองฉือเป็นแน่แท้ พวกเราจึงต้องนอบน้อมต่อท่านฉินถึงจะถูกนะ ต่อไปถ้าใครกล้าทำอะไรขัดใจท่านฉินอีกนะ ข้าจะตะเพิดไล่ไปให้ก่อนเลยแหละ! 

เสียงหัวหน้ารปภ.ออกดังอย่างตั้งใจ ชัด ๆ ว่าจะให้ฉินหวยจือได้ยิน

ฉินหวยจือในขณะนั้นเลยได้หัวเราะลั่นออกไป

เขายังไม่เคยได้รับการดูแลถึงขนาดนี้เลย โดยเฉพาะจากวังซื่อกรุ๊ป

ที่ผ่านมาเขาก็เคยคิดจะหาทางร่วมมือกับวังซื่อกรุ๊ปอยู่ แต่อย่าว่าแต่วังจ่างหลินเลย แม้กระทั่งเหยียนเลว่ที่แค่เป็นรปภ.กระจอก ๆ ยังกล้าทำหน้าบึ้งใส่เขาเลย มาตอนนี้แล้วทีใครทีมันมั่งละ ช่างน่าสะใจดีแท้

อย่างรวดเร็ว ฉินหวยจือขึ้นไปถึงชั้นบน

มาครั้งนี้ก็ยังคงเป็นเยว่ชูหลิงมาต้อนรับเขา

 ทำไมเป็นคุณ? 

เยว่ชูหลิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

หล่อนไม่ค่อยจะเข้าใจ การคุยในข้อตกลงเป็นฉินปิงหลัน แล้วทำไมกลับให้ฉินหวยจือมาสานต่อ หรือคนที่ชื่อฉินปิงหลันนั่นคิดว่าพอคุยตกลงกันแล้วจะใช้ให้ใครมาก็ได้?

มาแบบนี้มันกวนโมโหกันเกินไปแล้ว

ยิ่งมองดูสายตาของฉินหวยจือคนนี้แล้ว ยิ่งทำให้นางไม่สบอารมณ์เอามาก

สายตาประเภทคนบ้าตัณหา ทำเจ้าชู้ประตูดินแบบนั้น

ฉินหวยจือไม่รู้ว่าเยว่ชูหลิงคิดกับเขายังไงอยู่ ได้ยินหล่อนพูดก็ยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยพูดไปว่า  คืออย่างนี้ เจ้าฉินปิงหลันนั้นไม่ใช่ผู้มีอำนาจเต็มของบริษัท ต้องผมนี่ถึงจะใช่ เพื่อแสดงออกถึงการร่วมมือกับบริษัทคุณด้วยความจริงใจอันบริสุทธิ์ ฉะนั้นแล้วการประสานงานขั้นต่อไปผมจะเข้ามารับผิดชอบด้วยอำนาจเต็มโดยตรง 

 อ๋อ 

เยว่ชูหลิงตอบรับไปอย่างเรียบ ๆ แต่ในใจยังให้สงสัยอยู่

ฉินปิงหลันก็ประธานของฉินซื่อกรุ๊ปไม่ใช่หรือ?หล่อนก็เคยได้ยินวังจ่างหลินพูดถึงอยู่ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องไม่จริง แต่นี่มันคงเรื่องภายในของพวกเขาซึ่งไม่ใช่เราต้องไปยุ่งด้วย คงทำไปตามที่วังจ่างหลินสั่งไว้ให้จัดการเรื่องร่วมงานกันให้เสร็จสิ้น

แต่ในช่วงที่ดำเนินการในข้อตกลงของสัญญา เยว่ซูหลิงได้เห็นเลยว่าความสามารถในเชิงธุรกิจของฉินหวยจือนั้นแย่มาก อย่างน้อยถ้าเทียบกับฉินปิงหลันนั้นด้อยไปไกลอีกหลายขั้น

หล่อนหาข้ออ้างแล้วใช้โอกาสขึ้นไปพบวังจ่างหลิน

 ท่านประธานวัง งานร่วมมือกันนี้ฉันทำต่อไม่ได้แล้วคะ 

หล่อนพูดเข้าตรงประเด็น

 อะไรนะ? 

วังจ่างหลินชะงัก

หรือทีท่าของฉินปิงหลันมีอะไรดูเลวร้าย

ประสิทธิภาพในกางาน เมื่อวานนี้เยว่ซูหลิงเองก็เพิ่งจะยอมรับฉินปิงหลัน นั่นก็ไม่น่าใช่ปัญหาเรื่องนี้

เยว่ซูหลิงพูดด้วยความไม่พอใจว่า  ฉินซื่อกรุ๊ปเปลี่ยนคนทำสัญญา คือคนที่ชื่อฉินหวยจือที่มาเมื่อวาน อ้างตัวเองว่าเป็นประธานตัวจริงมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ดิฉันเห็นว่าความรู้พื้นฐานธุรกิจงานสร้างของเจ้าหมอนี่มันดูเลื่อนลอยเรื่อยเปื่อย ไม่มีพื้นฐานความสามารถเอาเลย 

 อะไรนะ! 

คราวนี้ วังจ่างหลินทะลึ่งพรวดยืนขึ้น อารามโกรธเกรี้ยวนั้นทำเอาเยว่ซูหลิงสะดุ้งโหยง

 ถ้างั้นท่านวัง เป็นว่าดิฉันจะคุยกับเขาในงานต่อคะ แต่จะขอให้คุณฉินปิงหลันมาด้วยได้ไหม?ดิฉันไม่ใช่ต้องการวิธีอะไรที่เป็นทางการ แต่เพียงอยากให้มีคนที่ทำงานได้จริง ๆ มาเท่านั้นเอง 

หล่อนคงคิดไปว่าวังจ่างหลินไม่พอใจในความเห็นของนาง จึงได้รีบชี้แจงต่อไป

แต่วางจ่างหลินไม่ได้ฟังหล่อนให้พูดจบ ต่อโทรศัพท์ออกไป

 เถ้าแก่ ไอ้เจ้านั่น ฉินหวยจือมาอีกแล้ว ยังอ้างตัวว่าเป็นประธาน…………อ๋อ เป็นอย่างนี้เอง ผมเข้าใจละ งั้นเดี๋ยวผมจะไปด้วยตัวเอง จะต้องให้ไอ้หมอนั่นมันรู้ว่ามันกับเถ้าแก่…..คุณฉิน มันคนละชั้นกัน 

พูดจบ ลุกขึ้นเดินออกนอกห้องไป ปากก็บ่นก่นว่า  ไอ้ประธานขี้หมาอะไรกันนี่ ไล่ออกไปแล้วครั้งหนึ่งยังกล้าหน้าด้านกลับมาอีก! 

เยว่ซูหลิงดูแล้วฟังแล้วงงแล้วงงอีก

ขณะเดียวกันก็ตื่นตระหนกอย่างเอาการ

เถ้าแก่?

ก็วังจ่างหลินก็เป็นเถ้าแก่ใหญ่วังซื่อกรุ๊ปไม่ใช่หรือ ทำไมยังมีเถ้าแก่อีกหละ?

ที่จะให้วังจ่างหลินเรียกว่าเถ้าแก่ได้นี่ หรือว่าจะเป็น………

สมองของเยว่ซูหลิงเกิดความคิดขึ้นได้มาเรื่องหนึ่ง หล่อนคิดถึงไม่นานก่อนหน้านี้มีข่าวลือเรื่องหนึ่ง

วังซื่อกรุ๊ปได้ถูกซื้อไปแล้ว

ผู้ที่ซื้อไปก็คือ กองทุนมูลนิธิโตว๋โนว่!

 อ้าวชิบ หรือเรี่องนี้จะไปเกี่ยวอะไรกับเฉินอี จะว่าไป ก็ไม่ใช่อีก เขาทำงานอยู่กับลูกน้องฉันนะ นี่ไม่น่าจะใช่พฤติกรรมของคหบดีชั้นเทพท่านนั้น 

 หรือจะเป็นว่า คนที่อยู่เบื้องหลังฉินปิงหลันนั้นที่แท้ก็คือคหบดีชั้นเทพท่านนี้? 

เยว่ซูหลิงให้รู้สึกว่ามิติในวิสัยทัศน์ของหล่อนกำลังจะพังทะลายแล้ว

และความเป็นไปได้ใช่ว่าจะน้อยลง กลับยิ่งไปยิ่งมากขึ้น

ได้ยินมาว่า ในปีนั้นฉินปิงหลันดูเหมือนจะถูกคนโรคจิตคนหนึ่งข่มขืน หรือคนโรคจิตที่ว่านี้ก็คือเจ้านายใหญ่ของ กองทุนมูลนิธิโตว๋โนว่?

เรื่องนี้ดูจะมีความเป็นไปได้ไม่มาก แต่ถ้าตัดประเด็นเป็นไปได้อย่างอื่นออกไป ก็จะเป็นคำตอบที่เป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเป็นไปไม่ได้

 ซืด! 

เยว่ชูหลิงสูดหายใจเยือกเข้าลึก ๆ รู้สึกเห็นความสำคัญกับหญิงฉินปิงหลันคนนี้มากขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เราเองดันกล้าไปดูถูกหล่อน ไม่ได้ถูกไล่ออกนี่โชคดีไม่รู้เท่าไหร่แล้ว!

ฉินหวยจือที่ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่ คงยังนั่งจมอยู่กับฝันแสนหวาน

 ผู้อำนวยการเยว่คงเห็นความสามารถสูงของข้าแล้ว คงจะกำลังคุยชมให้ประธานวังฟังอยู่ ไม่แน่อาจเป็นว่าต้องตาในตัวข้าละ คืนนี้ต้องพาไปร่วมฉลองกันใต้แสงเทียนด้วยกันแล้วจะได้รวบรัดจัดการเรียบร้อยต่อเสียเลย 

 ปัง! 

ในขณะที่ฉินหวยจือกำลังวาดฝันแสนหวานอยู่นั้น วังจ่างหลินเข้ามาพร้อมรปภ.อีกหลายคน ชี้หน้าฉินหวยจือ ตะคอกใส่  ลากไอ้หมอนี่ออกไปให้พ้น! 

พวกรปภ.ปรี่กันเข้าไปลากฉินหวยจือขึ้นมา เจ้าหมอนี่จึงได้รู้สึกตัว มองวังจ่างหลินอย่างตกตื่น

 ประธานวัง นี่มันหมายถึงอะไรกัน? 

 ยังจะมีหมายถึงอะไรกันอีก?ผู้ที่ข้าจะเซ็นสัญญาด้วยคือคุณผู้หญิงฉินปิงหลัน แกมาเสือกอะไรด้วย? 

วังจ่างหลินตอกใส่หน้าไปอย่างไม่เกรงใจ

ไม่มีอะไรที่เขาต้องสงวนท่าทีในคำพูดกับฉินหวยจือคนนี้อีก ถึงยังไงก็ให้รู้สึกขัดตากับไอ้หมอนี่เต็มที

เล่นเอาฉินหวยจือตาเซ่อไปเลย

แต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว  ไม่นะ ประธานวัง ข้านี่แหละจึงจะใช่ประธานของฉินซื่อกรุ๊ป ที่มานี่ก็เพื่อแสดงความจริงใจจากฉินซื่อกรุ๊ปของพวกเรา……… 

 ไม่ต้องเลย ทิ้งคำพูดแกไว้เถอะ นอกจากคุณผู้หญิงฉินปิงหลันแล้ว ข้าจะไม่คุยเรื่องร่วมธุรกรรมกับใครทั้งสิ้น และก็ไม่ต้องมาอ้างเรื่องฟ้องเรียกค่าชดเชยในการผิดสัญญามาบังคับข้า เพราะในสัญญาที่ทำกันเมื่อวานนี้มีระบุไว้ชัดเจน ถ้าฝ่ายฉินซื่อกรุ๊ปมีการเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบโครงการนี้จากคุณผู้หญิงฉินปิงหลันเป็นอื่น ให้ถือว่าข้อตกลงตามสัญญานี้เป็นโมฆะ! 

วังจ่างหลินพูดไปอย่างเต็มปากเต็มคำ

และแล้วฉินหวยจือก็ถูกพาไปโยนออกจากอาคารวังซื่อกรุ๊ป ภายใต้สายตามองอย่างเหยียดหยามของรปภ.

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท