ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 85 หลอดเสียงของคุณใหญ่ไปหน่อยไหม

บทที่ 85 หลอดเสียงของคุณใหญ่ไปหน่อยไหม

เยว่ซูหลิงตัดสินใจรอ

แต่รอไปรอไปถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ฉินปิงหลันยังไม่เห็นกลับมา ก็ไม่ต้องพูดถึงเฉินอีแล้ว

 โอ้แม่จ้าว 

เฉินอีกับฉินปิงหลันในขณะเดียวกันนั้น กำลังพากันนั่งกินอาหารเช้ากับโต๋วโต๋วและโน่วโน่วที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

ที่พวกเขาเลือกมาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อสะดวกในการที่โต๋โต๋จะต้องมาสอบสัมภาษณ์เช้านี้

 ประถมต้นสมัยนี้ร้ายจริง จะเข้าเรียนนี่แม้แค่ชั้นประถมต้นยังต้องสอบสัมภาษณ์ 

เฉินอีไม่ได้กลับประเทศมาหลายปี กับเรื่องพวกนี้ย่อมไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

ฉินปิงหลันส่ายหน้า พูดว่า  ก็ไม่ใช่จะเป็นแบบนี้ทุกโรงเรียน โดยพื้นฐานก็จะมีแต่โรงเรียนเอกชนจึงมีระเบียบการแบบนี้ 

 ช่วยไม่ได้ โรงเรียนเอกชนหรือที่เรียกกันว่าโรงเรียนไฮโซ ก็ต้องดูที่ลูกหลานของตัวเอง อีกทั้งพ่อแม่ก็ต้องถูกสัมภาษณ์ด้วยนะ เฉินอี คุณ………… 

หล่อนมองเฉินอีด้วยมีรู้สึกกังวลเล็กน้อย

โรงเรียนแห่งนี้ฉินปิงหลันเพิ่งติดต่อมาเมื่อสองวันก่อนนี้เอง เกรงว่าเฉินอีจะมีปัญหาไม่สะดวกอะไรบางอย่าง เพราะสถานะรอบด้านของผู้ปกครองมีผลสะท้อนถึงระดับชั้นในสังคมอนาคตของเด็ก ถึงแม้จะไม่สามารถยืนยันได้แต่ก็มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง

 วางใจเถอะ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาจะดีเลวยังไงผมก็คุณชายใหญ่บ้านสกุลเฉินนะ 

ฉินปิงหลันได้ยินว่าเข้านั่นอดไม่ได้ต้องเคาะหัวตัวเอง

ใช่สิ ตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรไม่ใช่ตระกูลรวยฟลุ๊คขึ้นมา เป็นตระกูลใหญ่สืบทอดมาตั้งแต่ราชวงศ์ก่อน การที่เป็นตระกูลใหญ่ที่มีพื้นฐานทางประวัติศาสตร์อยู่ชัดเจน ลูกหลานสืบทอดมาก็จะไม่ถึงกับเลวร้ายหรือแค่ระดับคนธรรมดาเป็นแน่

โรงเรียนไฮโซจิ่งช่าง

ที่นี่เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองฉือ มีตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมต้น ประถมปลายจนถึงระดับอุดมศึกษา นักเรียนที่นี่ล้วนเริ่มเรียนชั้นแรกกันที่นี่ ถึงบางคนจะไม่ใช่คนในตระกูลใหญ่ แต่เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็จะได้เป็นสมาชิกของสมาคมในเวลาต่อมา เป็นบุคลากรชั้นนำในสังคม จึงเป็นเส้นทางลัดสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอนเด็ดขาด

เข้าไปในโรงเรียนโดยสะดวกเพราะมีการนัดหมายอยู่ล่วงหน้า เฉินอีกับฉินปิงหลันมาพบกับหญิงไฮโซวัยกลางคนคนหนึ่งที่ห้องธุรการ

 ว้าว ดูท่าปิงหลันไม่ได้คุยเลย แค่เพียงสภาพที่เห็น ในมืองฉือนี่จัดว่าอยู่ในระดับไม่เลวทีเดียว 

เฉินอีเหลือบตามองผ่านแล้วเก็บสายตากลับ

แม้หญิงไฮโซวัยกลางคนนั้นจะสวยมาก แต่เฉินอีไม่มีรสนิยมแบบนั้น

 คุณผู้หญิงฉิน คุณเฉิน สวัสดีค่ะ 

หญิงไฮโซวัยกลางคนพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า  ดิฉันชื่อซ่งหลัน ผู้จัดการฝ่ายธุรการของโรงเรียนนี้ เป็นผู้ให้การต้อนรับและประสานงานกับคุณทั้งสองค่ะ 

แล้วมองไปที่โต๋โต๋กับโน่วโน่ว  แน่นอนกับหนูน้อยน่ารักทั้งสองด้วยค่ะ 

สุดท้ายสายตามาหยุดที่โต๋วโต๋ว ในจอตาฉายแววแปลกใจโดยที่ไม่มีใครมองเห็น

 สาวน้อยคนนี้ทำไมดูผอมจัง เหมือนว่าบกพร่องในสารอาหารนะ 

ดูเหมือนเป็นการวิเคราะห์พื้น ๆ แต่การวิเคราะห์ของซ่งหลานนั้นครอบคลุมไปหลายเรื่อง

เป็นต้นว่าสภาพการเงินของครอบครัวนี้ดูท่าคงไม่สู้จะดีแน่นอน

โชคดีว่า หล่อนก็ไม่อ้อมค้อมมาก ตรงเข้าหาประเด็นหลักเลย

 พวกเราเริ่มการสัมภาษณ์กันเถอะ หนูน้อยนี่ต้องไปรออยู่ห้องข้าง ๆ นั่นก่อน ส่วนคุณเฉินกับคุณผู้หญิงฉิน พวกคุณใครท่านหนึ่งนั่งคุยกับดิฉันที่นี่เลยค่ะ 

 ได้ค่ะ 

ฉินปิงหลันก็พาโต๋โตเดินออกจากห้องไป ถึงแม้การศึกษาของหล่อนก็อยู่ในระดับดี แต่เทียบกับเฉินอีจากตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรแล้วคงยังห่างอีกมาก

เพียงแต่ว่าซ่งหลันไม่รู้ หล่อนจึงเอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุด

ในสายตาของหล่อน ถึงยังไงฉินปิงหลันก็เป็นคนมีชื่อเสียงอยู่ แม้ชื่อเสียงจะมีส่อไปทางไม่ค่อยดีแต่ก็เป็นตระกูลใหญ่ อีกทั้งประวัติการศึกษาก็ไม่เลวอยู่

กลับมาดูฝ่ายสามี ดูไม่น่าเชื่อถือเอาเลย ถึงแม้หน้าตาดีหุ่นให้ แต่สำหรับซ่งหลันแล้วถ้าไม่รู้หัวนอนปลายตีนมาจะตัดสินว่าเป็นคนธรรมดา โดยหาคิดไม่ว่าเรื่องเพชรในตมมีจริง

เฉินอีนั้นลดทิฐิลงไปมากแล้ว มิฉะนั้นกระจอกกระจอกอย่างซ่งหลานไม่มีสิทธิ์มานั่งอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้

 ผู้จัดการซ่ง เริ่มว่ามาเลยครับ 

เฉินอียิ้มอย่างสุภาพ

ซ่งหลานเริ่มคำถาม  คุณเฉินน่าจะเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กสองคนนั้นนะ 

 อืม ไม่ใช่นะ ผมเป็นพ่อให้บังเกิดของพวกเขา 

เฉินอีอึ้งขึ้นมาก่อน แล้วตอบกลับไปทันที

ซ่งหลานขมวดคิ้วย่น ไม่พอใจนิด แต่คงถามต่อไป  ขอเรียนถามวุฒิการศึกษาของคุณเฉิน….. 

 นี่คือวุฒิบัตรของผม 

เฉินอีควักเอกสารฉบับหนึ่งส่งให้ ซ่งหลานเปิดออกดูถึงกับตาตื่น

มหาวิทยาลัยกั๋วอีคืออะไร ซ่งหลานต้องรู้ดี

ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีเจ็ดยอดสถาบันการแพทย์ มหาวิทยาลัยกั๋วอีเป็นสถาบันหนึ่งในนั้น อีกทั้งยังเป็นสถาบันการแพทย์หนึ่งเดียวที่ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบัน

พูดง่าย ๆ ได้ว่า สถานะภาพของมหาวิทยาลัยกั๋วอีในประเทศ ก็เหมือนกับโรงเรียนการทหารแห่งหนึ่งในวงการทหารแถวมหาสมุทรแอตแลนติค ยืนหยัดคงอยู่ในระดับสูงสุด

หากเปลี่ยนให้เป็นท่านผมขาวโพลนมานั่ง ซ่งหลานก็คงจะเชื่อได้บ้าง

แต่เฉิงอีที่ยังหนุ่มมาก ถ้าจะบอกว่าเป็นนักศึกษากำลังทำปริญญาโทก็ยังพอทำใจเชื่อบ้าง แล้วนี่เป็นถึงศาสตราจารย์รับเชิญเลยรึ?ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด!

 ใช่พวกต้มตุ๋นหลอกลวงจริง ๆ คำถามสองข้อแล้วที่เอาเรื่องโกหกมาตอบ 

ไฟโกรธในใจซ่งหลานกำลังจะระเบิดออกแล้ว แต่ก็ต้องฝืนกลั้นไว้ ถามคำถามอีกข้อสุดท้าย——

 คุณเฉิงคะ ปกตินี้ท่านชอบสนุกกับงานอดิเรกอะไรบ้าง? 

คำถามนี้ก็ดูแปลกดีนะ

อยู่สำนักมังกรลับมาก็หลายปี ยังไม่เคยมีใครถามเฉินอีถึงคำถามนี้เลย เขานิ่งคิดอยู่พักใหญ่จึงตอบไปว่า  เมื่อก่อนผมมีเรื่องชอบอยู่มากมาย เช่นหมากรุก บาสเกตบอล เปียโนประมาณนี้ และก็เคยได้ก้าวไปถึงมาตรฐานระดับโลกมาแล้ว ส่วนเวลานี้ผมก็เพียงชอบที่จะดื่มชา นอน และก็อยู่กันอย่างอบอุ่นกับลูกเมีย  

เขาพูดมาแต่เรื่องจริง

สำหรับผู้ที่ก้าวขึ้นไปถึงสุดยอดในวงการทหารระดับโลกแล้ว งานอดิเรกที่เขาจะชอบนั้นมีไม่มากจริง ๆ ในเมื่อมีหลายอย่างที่เขาเคยได้ทำลายสถิติมาแล้ว ที่เหลือนั้น โดยพื้นฐานเขาไม่ได้สัมผัสมาหรือเป็นเรื่องที่เขาไม่รู้สึกชอบ

อยู่เป็นเพื่อนลูกเมียนั่นสิเป็นธรรมะสูงส่ง

 เชอะ! 

ซ่งหลานลุกขึ้นตบโต๊ะในฉับพลัน ชี้ไปที่ประตู  คุณเฉิน ฉันทนคุณมามากพอแล้ว ขอให้คุณออกไป! 

 …… 

เฉินอีชะงักงงไปที ถามไปอย่างสงสัย  ผู้จัดการซ่ง ผมพูดอะไรผิดไปหรือ? 

 เฮอะ เฮอะ คุณลองคิดเองดูเองไหม?  ซ่งหลานหัวเราะเหยียด ๆ

 เริ่มต้นก็อ้างตัวเองเป็นสามีคุณผู้หญิงฉิน พ่อให้บังเกิดโต๋โต๋กับโน่วโน่ว แต่เท่าที่ฉันทราบมาว่าปีนั้นคุณผู้หญิงฉินเกิดเรื่องนิดหน่อย จากการกระทำของคนโรคประสาท ซึ่งไม่มีทางมารับผิดชอบอะไรได้ ฉะนั้นคุณไม่น่าจะใช่พ่อแท้ ๆ ของโต๋โต๋กับโน่วโน่วเป็นแน่! 

คำพูดเหล่านี้ทำเอาเฉินอีหนังตากระตุก เจ็บแปลบขึ้นมาที่หัวใจ

ใช่สิ ถ้าในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะได้รับโทรศัพท์จากโต๋โต๋ เขาเองยังไม่รู้จะกลับมาเมื่อไหร่ ถ้าไม่ได้เป็นไปอย่างนี้น่ากลัวฉินปิงหลันยังมีโต๋โต๋กับโน่วโน่วคงซวยเละเทะเป็นแน่

แต่ซ่งหลานยังพูดไม่จบ

 คุณผู้หญิงฉินปิงหลานถูกข่มขืน พูดคำเดียวได้ว่าโต๋โต๋กับโน่วโน่วไม่ได้มีพ่อบังเกิดเกล้าเลยทั้งสิ้น คุณมันคนโกหก! 

หล่อนพูดเรื่องที่จะพูดจนจบได้ แต่นัยน์ตาของเฉินอีฉายแววเย็นเยือกในฉับพลัน

 ผู้จัดการซ่ง เสียงของคุณดังไปหน่อยไหม? 

 โอ๊ะ! 

ซ่งหลานชะงักวูบ คืนกลับสติมาได้ ข้างห้องมีฉินปิงหลันสามแม่ลูกอยู่

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท