ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 95 เล่นเกมจับปลาใหญ่

บทที่ 95 เล่นเกมจับปลาใหญ่

ครอบครัวสี่คนของเฉินอีอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุข

แต่ชีวิตของหลี่เจ๋อกำลังจะพังทลาย

เขานึกไม่ถึงว่าขณะที่ตนเองพลั้งปากพูดนั้นจะบังเอิญเจอกับเขา และเขานั้นยังเป็นคนเก่งของกรมอนามัยและความปลอดภัย

 อธิ อธิบดีหยาง ผม ผม! 

หลี่เจ๋อต้องการอธิบายบางอย่าง แต่ถูกหยางเหลียนหลงพูดขัดจังหวะ

 นำตัวไป! 

คราวนี้เขาออกมาพร้อมกับลูกน้องที่แต่งตัวด้วยชุดธรรมดา เมื่อบวกกับท่าทางที่น่าเกรงขามของเขาแล้ว แม้แต่บอดี้การ์ดของหลี่เจ๋อก็ไม่กล้าเข้ามาขัดขวางเขา

ขณะนี้เฉินฝูเดินออกไปอย่างช้า ๆ ด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

 อธิบดีหยาง คุณ…… 

 แล้วคุณเป็นใคร? 

หยางเหลียนหลงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง

ซึ่งแน่นอนว่าเขานั้นรู้สถานะของอีกฝ่าย แต่เขาก็ไม่แยแส

 ผมคือเฉินฝู ตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร 

เฉินฝูต้องการใช้ชื่อนี้เพื่อสยบอีกฝ่าย หยางเหลียนหลงแสดงออกว่าเข้าใจ แต่วินาทีต่อมาเขาก็ออกคำสั่ง——

 นำตัวไปพร้อมกัน! 

ไม่ช้า เฉินฝูและหลี่เจ๋อต่างก็ถูกพาตัวออกไป ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความมึนงง

 พวกคุณเป็นใครกันแน่? 

เฉินฝูรู้สึกว่าสถานการณ์นี้ยากที่จะรับมือ

เดิมทีเขาคิดว่าอาศัยชื่อเสียงก็สามารถสยบอีกฝ่ายได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกหยางเหลียนหลงขัดจังหวะ และไม่คิดว่าหยางเหลียนหลงจะหยิ่งยโสขนาดนี้

 บัดซบ! 

เขาไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรชั่วขณะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะถูกคุมขังอยู่ในห้องสอบสวน ตามความคิดของเขาแล้วมีเพียงแต่เขาที่จะส่งคนอื่นเข้ามาให้ห้องคุมขัน และไม่เคยมีฉากดังกล่าวอยู่ในความคิดของเขาเลย

 นั่งดี ๆ 

เมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายใจของเฉินฝู เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกรมอนามัยและความปลอดภัยกล่าวเสียงดัง ซึ่งทำให้เฉินฝูโกรธเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินประโยคนี้

 บัดซบ! 

 พวกคุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร? 

 ผมเป็นสมาชิกของตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร การที่พวกคุณล่วงเกินผม ก็เท่ากับพวกคุณกำลังล่วงเกินตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร และผลที่ตามมานั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะสามารถจินตนาการได้แน่นอน! 

เฉินฝูอดไม่ได้ที่จะข่มขู่เจ้าหน้าที่เหล่านั้น

ขณะนี้ หยางเหลียนหลงเดินเข้าไปและหัวเราะเบา ๆ  ตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรนั้นเก่งมากหรือ? อืม เก่งมากจริง ๆ 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉินฝูก็ยิ้มออกมา แต่ประโยคถัดมาของหยางเหลียนหลงทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

 พวกคุณมีส่วนร่วมกับตลาดมืดของเมืองฉือ ฮ่า ๆ พวกคุณตระกูลเฉินเก่งมากจริง ๆ พูดออกมาสิว่าพวกคุณขโมยสมบัติของชาติไปกี่ชิ้น และขายของที่ขโมยไปกี่ชิ้น 

คำพูดประโยคนี้ของหยางเหลียนหลงเป็นการกำหนดโทษ ซึ่งโทษนั้นอาจใหญ่หรือเล็ก

ตลาดมืด สถานที่ดังกล่าวพบได้ในหลายเมืองและส่วนใหญ่จะไม่ถูกห้ามปราม อย่างมากที่สุดการกระทำเช่นนี้จะถูกควบคุมกักกันเพื่อรอถูกดำเนินการ

การขายโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมไม่ใช่สิ่งต้องห้าม แต่การขายสมบัติของชาตินั้นแตกต่างกัน

การขายโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ถือเป็นสมบัติของชาติ เช่น เหรียญทองแดงที่มีมากมาย ถึงแม้จะมีมูลค่าสะสม แต่ก็ไม่ถือเป็นสมบัติของชาติ

สมบัติของชาติที่แท้จริง คือของที่มีอยู่แค่สถานที่เดียวเท่านั้น สามารถกล่าวได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สืบทอดมาเป็นเวลาห้าพันปี และของเช่นนี้ประเทศจะควบคุมอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด มีเพียงพิพิธภัณฑ์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ที่เก็บสะสม อย่างมากที่สุดก็เป็นนักสะสม และไม่อนุญาตให้ซื้อขายเก็งกำไรอย่างแน่นอน

ถ้าถูกตรวจพบ มีแนวโน้มว่าจะมีโทษเท่ากับโทษของกบฏ!

ดังนั้นจึงทำให้เฉินฝูมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด และกระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐน่าจะไม่รู้เรื่องนี้ภายในระยะเวลาหลายปี แต่ไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะรู้เรื่องนี้อย่างชัดเจนภายในช่วงเวลาสั้น ๆ

แต่ถึงอย่างนั้น เขายังคงปากแข็ง

 อธิบดีหยาง คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ผมไม่ค่อยเข้าใจ การขายสมบัติของชาติอะไร ผมไม่เคยทำเรื่องเช่นนั้นมาก่อน! 

 บัดซบ! 

หยางเหลียนหลงเริ่มสอบสวน เขาจ้องมองเฉินฝูและส่งเสียงฮึ่ม  พวกคุณตระกูลเฉินคิดว่าพฤติกรรมของตนเองเป็นความลับมากหรือ? 

 ช่างน่าขำสิ้นดี! 

 การกระทำทั้งหมดของคุณอยู่ในความคาดเดาของพวกเรา นอกจากนี้คุณยังอาศัยตระกูลหลี่เพื่อยึดและครอบครองวังซื่อกรุ๊ป เพื่อต้องการเปลี่ยนหมู่บ้านในเมืองให้กลายเป็นตลาดขายวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมของคุณในอนาคต โดยไม่เสียเงินแม้แต่น้อย แต่ไม่คิดว่าวังซื่อกรุ๊ปจะลงมือเร็วกว่าพวกคุณ ตอนนี้วังซื่อกรุ๊ปได้ซื้อกิจการเกือบหนึ่งในห้าของหลี่ซือกรุ๊ปแล้ว ฮ่า ๆ นี่เรียกว่าเดินหมากผิดตัวเดียว ล้มทั้งกระดาน! 

หยางเหลียนหลงรู้สึกดูถูกเฉินฝู

สมบัติของชาติ เป็นสมบัติที่สืบทอดมาจากทิศตะวันออกมานับพันปี และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ คนเหล่านี้มีความคิดที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?

นอกจากนี้!

 พวกเราได้ตรวจสอบจนชัดเจนแล้ว นักฆ่าคนนั้นคุณเป็นคนจัดหามา จากนั้นหลี่เจ๋อจ่ายเงินเพื่อให้เธอไปลอบสังหารคุณเฉินอี คุณยอมรับเรื่องนี้หรือไม่? 

 ผม ไม่! เรื่องนี้เป็นการกระทำของหลี่เจ๋อคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย 

 ฮ่า ๆ แต่หลี่เจ๋อบอกว่าคุณเป็นคนจัดหา ใช่แล้ว พวกคุณยังคงต้องการขยายอาณาเขตนักฆ่าในตลาดมืดอีกด้วย และติดตั้งอาวุธที่รุนแรงใช่ไหม? 

หยางเหลียนหลงบีบถามเรื่อย ๆ

เฉินฝูกำลังจะสติกแตก

เขาไม่เคยคิดว่าคนอย่างหยางเหลียนหลงจะตรวจสอบเรื่องนี้จนละเอียดขนาดนี้

เหมือนพวกเขาได้รวบรวมหลักฐานมาครบแล้ว แต่ต้องการให้ตนเองยอมรับ และนี่เป็นการกดดัน

 ไม่ใช่ ตระกูลเฉินและยังมีนายหญิง พวกเขาจะต้องมาช่วยผมอย่างแน่นอน อย่างไรเสียพวกเขายังรอให้ผมไปบุกตลาดของตระกูลเฉินในเมืองชิงชวน ดังนั้นทำอย่างไรผมก็จะไม่ยอมรับ เรื่องหลังจากนั้นก็จะง่าย 

เฉินฝูรู้สึกว่าอีกฝ่ายอาจกำลังหลอกถามตนเองอยู่ แต่ความจริงแล้วอีกฝ่ายอาจไม่มีหลักฐานอะไร ขอแค่ไม่ยอมรับอีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำอะไรตนเองได้

ความจริงแล้วในมือของหยางเหลียนหลงยังไม่มีหลักฐาน

และเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เฉินฝูสารภาพความผิดแล้วค่อยตัดสินโทษ เพราะเฉินอีกล่าวว่าเขาจะใช้เฉินฝูล่อสมาชิกคนอื่นของตระกูลเฉิน และหลังจากนั้นค่อยจับให้หมดทีเดียว

วันที่สอง

วันที่สาม

ในที่สุดเฉินฝูก็เห็นคนจากตระกูลเฉิน

 คุณชายเฉินฝู 

คนที่มานั้นเป็นทาสเก่าแก่ของตระกูลเฉิน แม้ว่าเขาจะเรียกเฉินฝูว่าคุณชาย แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

ก็แค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดไพเราะแต่ไร้ความจริงใจของเขานั้นทำให้นายหญิงโปรดปราน เขาก็ไม่จำเป็นต้องมาช่วยคนไร้ประโยชน์คนนี้หรอก?

 ลุง ลุงจง 

เฉินฝูรีบวิ่งตามเขาออกไป ช่วงเวลาที่เขาถูกคุมขัง ทำให้เขารู้สึกแย่มาก

ลุงจงเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา จากนั้นก็โบกมือ  กลับ 

 แล้วเรื่องนี้ล่ะ? 

 อีกฝ่ายไม่มีหลักฐาน พวกเขากำลังหลอกคุณ 

ลุงจงได้ตรวจสอบเรื่องนี้จนชัดเจนแล้ว และได้รู้จากเมืองชิงชวนว่าหยางเหลียนหลงไม่มีหลักฐานอะไรอยู่ในมือ เขาแค่อาศัยการเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น

 ยังดีที่คุณยังไม่ได้สารภาพ มินั้นผมคงพาคุณออกไปไม่ได้ 

คำพูดของลุงจงทำให้เฉินฝูรู้สึกโล่งใจ และรู้สึกว่าตนเองโชคดีมาก

แต่ไม่ว่าจะเป็นลุงจงหรือว่าเฉินฝู ก็ไม่รู้ว่าเฉินอีกำกับเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง

เมื่อเห็นทั้งสองคนเดินจากไป หยางเหลียนหลงก็โทรศัพท์ไปหาบุคคลหนึ่ง

คนที่เขาโทรหานั้นคือเฉินอี

 เจ้าพ่อเฉินทาสเก่าคนหนึ่งของตระกูลเฉินที่แซ่จงมาช่วยเฉินฝู คุณต้องการปิดเกมไหม? 

 หือ? ชายชราแซ่จง? ผมคิดว่าเป็นใครเสียอีก ที่แท้เป็นชายชราที่ติดตามผู้หญิงคนนั้นมาที่ตระกูลเฉินของผมนี่เอง 

เฉินอีที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์หัวเราะเบา ๆ  ยังไม่ต้อง คนแซ่อื่นไม่ใช่ปลาใหญ่ 

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท