ศึกเดือด มหากาฬ – บทที่ 102 เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มู่หรงหลันหลัน

บทที่ 102 เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มู่หรงหลันหลัน

ลุงจงสีหน้าราบเรียบ แต่สีหน้าของเฉินฝูดูทนไม่ไหว

 ผู้ดูแลจง ใครมากันแน่เนี่ย ถึงกล้าให้เรารอแบบนี้ 

ตอนนี้เฉินฝูพูดอย่างไม่สบอารมณ์

เป็นถึงคุณชายตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรอันยิ่งใหญ่ ถึงเป็นคำร่ำลือที่เกินจริง แต่คนทั่วไปก็ไม่สามารถเทียบได้ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมคนพวกนี้ถึงกล้าไม่เห็นความสำคัญของพวกเขา และผิดนัดพวกเขา

 เงียบ! 

ลุงจงดูไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

เขาไม่สนใจการมาสายของฝ่ายซื้อขาย แต่นิสัยของเฉินฝูไม่แน่นอน ทำให้คนหงุดหงิดจริงๆ

 ฉันหิ้วนายออกมาด้วย ไม่ได้ให้นายมาทำอวดนู้นอวดนี่ข้างนอก ทางที่ดีนายจำเอาไว้ นายไม่มีสิทธิ์มาพูดไร้สาระที่นี่ ถ้ายังกล้าทำแบบนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนาย 

เขามองเฉินฝูอย่างเย็นชา และอดส่ายหน้าไม่ได้

ถึงลุงจงไม่คิดว่าเฉินอีจะก่อเรื่องใหญ่อะไรได้ในตอนนี้ แต่เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสองคน เฉินฝูยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของเฉินอีเลย

 แค่ใช้ปากที่พูดเก่งเท่านั้น ไม่งั้นนายท่านจะเห็นความสำคัญของไอ้หมอนี่ได้ยังไง เหอะๆ 

 เฉินอีในตอนนั้น เป็นโอรสสวรรค์ที่สร้างอี้หยวนกรุ๊ปด้วยกำลังของเขาเพียงคนเดียว ถึงล้มลง แต่คนธรรมดาอย่างเฉินฝู ก็คงไม่สามารถรับมือได้หรอก 

 แต่เฉินอีคือระเบิดเวลาจริงๆ ฉันต้องกำจัดไอ้หมอนี่ ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ไม่งั้นผลที่ตามมา ต้องเหนือความคาดหมายมาก 

ลุงจงอดนวดหน้าผากไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเขาสัมผัสได้ถึงระดับความวุ่นวายของเรื่องราว

แต่เห็นได้ชัด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เห็นแวบเดียวก็เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ากำจัดเฉินอีไม่ได้ กลัวว่านายหญิงจะไม่ปล่อยวางอย่างแน่นอน

 รอให้ธุรกิจครั้งนี้เสร็จสิ้น รอให้ตระกูลเฉินของเราผูกธุรกิจตลาดมืด กับตระกูลมังกรแห่งเมืองฉืออย่างเป็นทางการ นั่นคือเวลาที่เราจะก้าวออกไป 

เขาอดลูบจมูกไม่ได้ และแอบคิดในใจ

จำเป็นต้องรับมือและจัดการเฉินอีแน่นอน

ธุรกิจตลาดมืดก็ต้องเอามาอยู่ในมือให้ได้ เขารู้ดีอยู่แก่ใจ ว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน

แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ตอนนี้โดนคนแน่ใจแล้วว่าเป็นสวะ แค่เป็นคนที่ถือโอกาสจัดการ และกำลังจับตามองเขากับเฉินฝูทุกฝีก้าว

 ทำไมสายขนาดนี้ ผู้ซื้อยังไม่มาอีก 

รออยู่พักหนึ่ง เฉินอีลูบคางอย่างสงสัยเล็กน้อย เพราะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

มังกรเก้าเดินเข้ามา พูดด้วยเสียงต่ำ  ผิดนัดหรือเปล่า 

 นั่นเป็นเรื่องวุ่นเลยนะ 

เฉินอีส่ายหน้า

เขาไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ

เพราะอยากจับคน ต้องจับคาหนังคาเขา ถ้าทำให้คนพวกนี้ยอมจำนนไม่ได้ เฉินอีก็ไม่อยากเริ่มทำอะไร

ตอนนี้คนของกรมอนามัยและความปลอดภัย อยู่บริเวณนี้ คงไม่ได้โดนจับได้แล้วหรอกนะ

คิดไม่ถึง ในเวลานี้ คนที่พวกเขาเตรียมไว้อย่างดี โดนจับได้เสียแล้ว

ไม่ใช่สิ

ถ้าพูดให้ถูกคือ คนของพวกเขาจับคนกลุ่มหนึ่งได้แล้ว

ตอนนี้สีหน้าของหลงจื่อโยว ไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก

เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ตอนแรกแค่อยากลองเชิงความซื่อสัตย์และความสามารถ ในการทำงานของพวกคนตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโดนไปด้วย

 พวกนายเป็นใคร 

หลงจื่อโยวมองคนพวกนั้นอย่างหวาดระแวง

เขาไม่กล้าเชื่อว่าคนพวกนี้คือกรมอนามัยและความปลอดภัย หรือคนของทางการ ความน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด น่าจะเป็นตระกูลใดตระกูลหนึ่งอยากต่อยตีแย่งผลประโยชน์กันเองของพวกนักเลง

ตลก!

ไม่เห็นความสามารถและฐานะของตระกูลมังกร ในเมืองใหญ่อย่างเมืองชิงชวนบ้าง

อยากมาลองดีกับเรา ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย!

แต่อำนาจของพวกเขา ใช้ไม่ได้ผลกับตำรวจหญิง เธอมองคนพวกนั้น ด้วยท่าทางได้ใจ ยิ้มยียวนแล้วพูดว่า  เหอะๆ ยังมาถามว่าเรามาจากตระกูลไหน ช่วยเบิกตาดูให้ดีๆ ฉันเป็นคนของกรมอนามัยและความปลอดภัย! 

 ถึงคืนนี้ฉันจะอยู่นอกเครื่องแบบ แต่สายตาฉันยังหลักแหลม ดูก็รู้ว่านายไม่ใช่คนดี 

มู่หรงหลันหลันคิดว่า พวกคนที่หลงจื่อโยวนำมา ไม่ใช่คนดีแน่นอน

ใครที่ไหนจะสวมสูทเวลาเช้าตรู่สามสิบนาที มาในสถานที่ห่างไกลผู้คนขนาดนี้ ถ้าในหนังก็เหมือนใส่ชุดราตรีไปโผล่บ้านใครซักคนตอนกลางคืน ทำนองเดียวกันนั่นแหละ

หลงจื่อโยวก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคนของกรมอนามัยและความปลอดภัย แต่ก็รู้สึกโล่งใจ

 คุณเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ผมว่าเราน่าจะมีอะไรเข้าใจผิดกันนะ 

 เราเป็นคนของหลงซื่อกรุ๊ป มาที่นี่เพราะต้องการตรวจดูโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมือง 

 คุณผู้หญิงอาจไม่เข้าใจ ตอนนี้เรากำลังจะสำรวจแถบนี้ ถ้าเป็นไปได้ เราจะคิดเรื่องการลงทุน 

โครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมือง เป็นโครงการก่อสร้างอันดับหนึ่งของเมืองฉือในตอนนี้ และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก

แน่นอนว่ามู่หรงหลันหลันรู้อยู่แล้ว

เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นคนของหลงซื่อกรุ๊ป เธอขมวดคิ้วขึ้นมาเบาๆ

พนักงานของกรมอนามัยและความปลอดภัยคนอื่นๆ ต่างมีสีหน้าไม่สู้ดี คนมีอายุที่เป็นหัวหน้าโน้มหน้าเข้ามา แล้วกระซิบเบาๆ ว่า  หลันหลัน ในเมื่อพวกเขาเป็นคนของหลงซื่อกรุ๊ป มาสำรวจโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมือง งั้นน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เราปล่อยไปเถอะ 

 ใช่ ตอนนี้โครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมือง เป็นเรื่องใหญ่ ถ้ามีคนในเมืองเอกมาลงทุนจริงๆ ท่านพวกนั้นคงดีใจเป็นอย่างมาก ถ้าเราล่วงเกินผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ กลัวว่าต่อไปจะต้องแบกรับผลที่ตามมา 

มีคนพูดเสริมขึ้นมาเช่นกัน

กลับกันนอกจากมู่หรงหลันหลัน คนอื่นๆ รู้สึกว่าปล่อยพวกหลงจื่อโยวไป เป็นตอนจบที่ดีที่สุดแล้ว

หลงจื่อโยวมีสีหน้าตกใจและดีใจ เขาคิดว่าเรื่องนี้ใกล้จะสำเร็จแล้ว

แต่ว่า!

 ไม่ได้! 

เหมือนมู่หรงหลันหลันได้ไตร่ตรองมาแล้วครู่หนึ่ง จึงได้ผลสรุปเช่นนี้ออกมา

 จะปล่อยคนไปแบบนี้ไม่ได้ สัญชาตญาณของฉันบอกว่า คนพวกนี้ไม่ใช่คนดี ทุกคนฟังฉัน พากลับไปให้หมด! 

พูดจบก็โบกมืออย่างแรง

มองภาพตรงนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแก่ๆ ต่างยิ้มอย่างขื่นขม

ถึงพวกเขามีประสบการณ์มากมาย แต่เห็นได้ชัดว่าด้านผลงาน แตกต่างกับมู่หรงหลันหลัน ราวฟ้ากับดิน อีกทั้งว่ากันว่า ท่านนี้มีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับสาขาของพวกเขา อาจจะเป็นญาติกัน แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าเถียงสักคำ พาหลงจื่อโยวไปอย่างว่าง่าย

หลงจื่อโยวก่นด่าในใจ

ในใจเฉินฝูก็เช่นกัน ขนาดคนที่มีนิสัยนับว่าดีอย่างผู้ดูแลจง ก็มีสีหน้าโมโหเช่นกัน

พวกเขาโดนผิดนัดจริงๆ

 สมควรตาย! 

พวกเขาออกไปอย่างหงุดหงิด ไม่ได้สังเกตเฉินอีกับมังกรเก้า เดินมาจากด้านหลัง

 เจ้ามังกร พวกเขาโดนผิดนัดจริงๆ 

มังกรเก้าหัวเราะอย่างขมขื่น

เรื่องซื้อขายประเภทนี้ ต้องเร็ว โหดเหี้ยม แม่นยำ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ยื้อมาเกือบสองชั่วโมง แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้ซื้อ เห็นได้ชัดว่ามีคนกำลังเล่นงานเฉินฝูกับผู้ดูแลจง

เฉินอีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขากวักมือแล้วพูดว่า  ช่างเถอะ ตามฉันไปซื้อของกินข้างทางสักหน่อย แล้วค่อยกลับบ้านกัน 

 

ศึกเดือด มหากาฬ

ศึกเดือด มหากาฬ

Status: Ongoing

เขาเป็นเจ้าแห่งสำนักมังกรลับ เป็นเทพสงครามที่ภาคภูมิ แต่ลูกสาวทั้งสองของเขากลับถูกกระทำทารุณ ภรรยาถูกรังแกข่มเหง เขากลับมาจากชายแดนพร้อมกลับความน่ากลัว ทุกคนต่างรู้ว่า คนบ้าเลือดเหล่านั้น จุดจบจะมาพร้อมกับความตาย!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท