Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 2130 พบภัยในปราการ

ตอนที่ 2130 พบภัยในปราการ

ขุนเขาเขียวชอุ่มแม่น้ำใสสะอาดตาพร้อมกลิ่นหอมไม้ดอกและเสียงนกสัตว์ร้อง

เวลานี้เรือน้อยอันเดียวดายมันกำลังไหลล่องไปตามแม่น้ำท่ามกลางภูเขา

คนทั้งหลายยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือมองดูชมวิวทิวทัศน์สวยงามสองข้างทางพร้อมกล่าวชมอย่างไม่ขาดปาก

“นายน้อย ที่แห่งนี้มันสวยงามจริง ๆ! หากเราได้มาอยู่ที่นี่กับพวกพี่ลี่เอ๋อทั้งหลายแล้วมันคงจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย!”

เมื่อได้เห็นทิวทัศน์เหนือโลกนี้ลู่เอ่อจึงรู้สึกชื่นชมมันอย่างสุดหัวใจ

ส่วนพวกกู้หงทั้งหลายนั้นต่างก็แสดงสีหน้าชื่นชมในอีกรูปแบบออกมา

เมืองบูรพาโลกเสมือนนั้นมันเป็นสิ่งที่สุดแสนลึกลับมีคนในมหาพิภพถงเทียนแค่ไม่กี่คนที่จะรู้จักมัน

เขาเองก็ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้เดินทางไปยังที่แห่งนั้น

ทุกอย่างนี้มันล้วนเป็นเพราะบารมีของอาจารย์!

เย่หยวนยิ้มออกมา “สวยก็สวยหรอก แต่มันกลับแฝงจิตสังหารไว้หนักหน่วงนัก! มีหรือที่มันจะมีสรวงสวรรค์เช่นนี้เกิดขึ้นในโลกหล้าได้จริง ๆ?”

ลู่เอ๋อที่ได้ยินต้องอ้าปากค้าง “แฝงจิตสังหาร? ทำไมข้าไม่เห็นจะรู้สึกถึงมันเลยเล่า?”

ตอนนี้มันมิใช่แค่ลู่เอ๋อแต่แม้เทพสวรรค์อย่างกู้หงเองก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ถึงอันตรายใด ๆ

เย่หยวนตอบกลับมา “ด้วยพลังของเผ่ามังกรแล้วมีหรือที่ค่ายกลกับดักใด ๆ มันจะถูกมองออกได้ง่ายดายปานนั้น? สองฝั่งน้ำนี้มันเปี่ยมไปด้วยชีวิตและพลังงาน ส่วนเกินกว่าที่จะมีอยู่จริงได้หากแค่มองมันอาจจะดูสมบูรณ์แต่หากมันเกิดเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามกฎขึ้นแล้วที่แห่งนี้มันก็จะปลดปล่อยพลังที่แฝงออกมาจนสิ้น ยิ่งสวยงามมันจะยิ่งอันตรายรอบ ๆ พื้นที่นี้มันต่างมีพลังปิดกั้นรุนแรงแฝงอยู่สิ้น ข้าเกรงว่าแม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็ตาม แต่หากโดนพลังนี้เข้าพวกเขาก็คงไม่อาจจะรอดกลับออกไปได้แน่”

เมื่อทุกผู้คนได้ยินพวกเขาก็ต้องขนลุกชันทั้งกาย

พื้นที่โดยรอบนี้มันสุดแสนสวยงาม แต่สวยงามจนเกินกว่าที่จะสัมผัสได้ถึงอันตรายใด ๆ

ที่ด้านข้างหลงฉือต้องหันมามองเย่หยวนอย่างตกตะลึง “สมแล้วจริง ๆ ที่ได้ชื่อรองมหาปราชญ์ ท่านมองทุกสิ่งอย่างออกได้ในคราเดียวจริง ๆ ดูท่าท่านรองมหาปราชญ์คงก้าวไปถึงแก่นของยอดเต๋าแล้ว”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แค่เดาสุ่ม ๆ น่ะ แต่เย่ผู้นี้เองก็ตกใจเหมือนกันนะที่ผู้อาวุโสหลงฉือท่านยอมให้ข้ามายังเผ่ามังกรด้วย”

แม้ว่าตัวหลงฉือนั้นจะกังวลอยู่มากแต่สุดท้ายเขาก็ยอมรับพาเย่หยวนมา

หลังจากพักกันอยู่ในอาณาจักรวิญญาณประจิมอีกหลายวันพวกเขาก็ได้นำพากลุ่มเย่หยวนออกเดินทางมายังเมืองบูรพาโลกเสมือน

หลงฉือได้แต่ยิ้ม “ให้พูดตรง ๆ ข้าเองก็สงสัยเรื่องของท่านรองมหาปราชญ์เช่นกัน”

หลงเสี่ยวฉุนรีบลุกขึ้นร้องบอก “ใช่ ๆ เจ้านี่มันเป็นคนลึกลับจริง ๆ มีแต่ความน่าสงสัยตั้งแต่หัวจรดเท้า!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะตอบกลับไป “เจ้าต่างหากเล่าที่เป็นสาวน้อยลึกลับ!”

พูดไปก็หัวเราะกันไปจนในที่สุดผู้คนทั้งหลายก็รู้สึกเหมือนตนเองเพิ่งจะพุ่งตัวผ่านม่านพลังอะไรสักอย่างมา

นั่นทำให้พวกเขาทั้งหลายเข้าใจทันทีว่าจากนี้ไปมันคงเป็นเขตแดนของเมืองบูรพาโลกเสมือนแล้ว

วิวทิวทัศน์เบื้องหน้ามันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเป็นเขาเขียวชอุ่มและน้ำใส ๆ พร้อมด้วยกลิ่นหอมของไม้ดอก

แต่ในเวลานี้สายเลือดมังกรในกายเย่หยวนมันกลับร่ำร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจ ราวกับว่ามันกำลังจะเดือดขึ้นมา

คลื่นพลังสายเลือดมังกรอันบริสุทธิ์จากกายของเย่หยวนนี้มันทำให้แม้แต่หลงฉือยังต้องเหลือบตามอง

แน่นอนว่าคลื่นพลังในระดับนี้มันย่อมจะไม่ทำให้เขาตื่นตกใจใด ๆ เพียงแค่ว่าความบริสุทธิ์ของคลื่นพลังนี้มันกลับเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมาก

หลงฉือได้แต่ตั้งคำถามในใจว่าบรรพบุรุษของเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงได้มีพลังสายเลือดที่บริสุทธิ์นัก?

เขานั้นไม่รู้ว่าเดิมทีสายเลือดของเย่หยวนมันก็บริสุทธิ์มากมายอยู่แล้ว

ตอนนี้เมื่อได้ผ่านทุกขจุติของระดับหกและมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับหกมาครอบครองมันจะยิ่งทำให้คลื่นพลังสายเลือดนั้นดูบริสุทธิ์หนักแน่นไปกว่าเก่า

แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันไม่ได้ทำให้เส้นทางในวันหน้าของเขาง่ายขึ้นแต่อย่างใด

กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ดที่รอเย่หยวนอยู่นั้นมันคงเป็นห้วงความเป็นความตายของเย่หยวนแน่!

“นี่มันเหมือนได้กลับมาบ้าน! หรือว่าต้นตระกูลข้าจะมาจากที่นี่จริง ๆ?” เย่หยวนเงยหน้าขึ้นมองบนฟ้าครามพร้อมกล่าวออกมาอย่างครุ่นคิด

ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มา เย่หยวนก็ได้ออกเดินทางไปทั่วทุกมุมโลก

แต่ในวันนี้เขากลับรู้สึกเหมือนได้กลับมายังบ้านเก่า มันเป็นอารมณ์ที่ยากจะอธิบายได้

“เสี่ยวฉุน เสี่ยวไห่ พวกเจ้านำรองมหาปราชญ์ไปยังที่พักก่อนเลย ข้าจะไปรายงานเรื่องราวกับทางเผ่าก่อน” หลงฉือบอก

หลงเสี่ยวฉุนยกมือขึ้นมาโบกไล่ทันที “ไปเถอะ ๆ! ให้ข้าจัดการต่อเอง!”

หลงฉือนั้นพยักหน้ารับก่อนจะก้าวเท้าส่งร่างจางหายไปกับอากาศทันที

ไม่รู้ว่าผ่านไปอีกนานเท่าใด แต่ในที่สุดคนทั้งหลายก็มาถึงฝั่ง

คนทั้งหลายกระโดดเก้าลงจากเรือเหยียบเท้าลงเดินทางบนแผ่นดินต่อ

หลายวันจากนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ได้เดินมาจนถึงปราการใหญ่ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขา

หลังจากก้าวผ่านกำแพงปราการนั้นมาเย่หยวนก็ได้หันหน้ามองดูภาพตรงหน้าอย่างตื่นเต้น

ภายในปราการที่มั่นนี้มันมีทั้งชายทั้งหญิง ทั้งแก่ทั้งหนุ่ม

การปรากฏตัวของพวกเย่หยวนนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมามอง

แต่เย่หยวนกลับได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นว่ามันดูแปลกจนผิดปกติ ภายในดวงตานั้นมันแฝงไปด้วยความหวาดกลัว และพยายามหลบเลี่ยงพวกเขาราวกับเป็นตัวเชื้อโรค

“เมืองบูรพาโลกเสมือนนั้นมีเก้าปราการสวรรค์ แปดสิบเอ็ดปราการปฐพีพร้อมปราการนิลและปราการทองอีกมากมายนับไม่ถ้วน ปราการมังกรพิรุณเรานี่เป็นหนึ่งในแปดสิบเอ็ดปราการปฐพี! ส่วนลุงฉือเป็นผู้อาวุโสพิทักษ์ปราการมังกรพิรุณ…”

หลงเสี่ยวฉุนเริ่มเล่าเรื่องราวการปกครองและชีวิตคนในเมืองบูรพาโลกเสมือนออกมาให้เย่หยวนฟังอย่างตื่นเต้น

ตามที่หลงเสี่ยวฉุนว่ามานั้นเก้าปราการสวรรค์นั้นจะเป็นเขตของผู้ปกครองเมืองบูรพาโลกเสมือนอย่างแท้จริง มีเพียงแค่มังกรสายเลือดชั้นสูงเท่านั้นที่จะเข้าไปยังปราการสวรรค์ได้

ที่แห่งนั้นมันคือแก่นกำลังของเผ่ามังกรอย่างแท้จริง มียอดฝีมือมากมายอย่างนับไม่ถ้วน

แต่แม้จะเป็นแค่เหล่าแปดสิบเอ็ดปราการปฐพีนี้มันก็เทียบเคียงได้กับวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ของโลกภายนอกแล้ว

เพราะแต่ละปราการปฐพีนั้นมันจะมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่ดูแลเสมอ!

เมื่อได้เห็นเช่นนั้นเย่หยวนและพวกต่างก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมา

เผ่ามังกรนี้สมชื่อว่าเป็นสุดยอดเผ่าโบราณ มีกำลังมากมายมหาศาลอย่างที่ไม่อาจคาดคิดได้จริง ๆ

“เสี่ยวฉุน ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนว่าคนทั้งหลายกำลังกลัวเราเล่า?” เย่หยวนถาม

หลงเสี่ยวฉุนหัวเราะขึ้น “เป็นไปได้อย่างไร? ไม่ต้องไปสนใจพวกนั้นหรอก มาเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่พักเอง”

ที่ด้านข้างทางหลงเสี่ยวไห่นั้นทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงไป

เพียงแค่ว่าเรื่องนั้นมันจะหลุดรอดจากสายตาเย่หยวนไปได้หรือ?

แต่หากอีกฝ่ายไม่คิดพูดบอก เย่หยวนเองก็ไม่กล้าจะเสียมารยาทไปถามย้ำ เขาจึงได้แต่ต้องปล่อยมันผ่านไป

หลงเสี่ยวฉุนพาเย่หยวนมายังบ้านหินหลังหนึ่งที่ดูใหญ่ไม่น้อยและบอกให้เขาพักที่นี่

“พี่เย่ ท่านอยู่ที่นี่ก่อนเถอะ วันพรุ่งนี้ข้าจะพาท่านไปเดินเล่นรอบ ๆ ปราการมังกรพิรุณ” หลงเสี่ยวไห่ยกมือขึ้นคารวะพร้อมบอก

เย่หยวนพยักหน้าออกมา “เช่นนั้นคงต้องลำบากท่านแล้ว!”

หลังจากหลงเสี่ยวไห่จากไป เย่หยวนก็เข้าเก็บตัวในทันทีตลอดคืน

เช้าวันต่อมาเย่หยวนเดินออกมาหน้าบ้านและคิดจะไปเดินเล่นรอบ ๆ เสียหน่อยก่อนจะพบว่ามีกลุ่มคนไม่ไกลไปนักกำลังร้องโวยวายกันอยู่

เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ เย่หยวนก็ต้องรู้สึกเดือดดาลขึ้นทันที

เพราะเวลานี้มันมีชายหนุ่มเผ่ามังกรสามคนกำลังรุมล้อมตัวลู่เอ๋อและหยางเฟยเอ๋อไว้ ดูจากสีหน้าของทั้งสองแล้วมันคงมิใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

“ฮ่า ๆ ๆ นางมนุษย์ นายน้อยผู้นี้ไม่เคยจะลิ้มรสมนุษย์เลย! มากับข้าหลงห่าวผู้นี้ แล้วข้าจะมอบชีวิตแสนสุขให้เจ้าทุกวี่วันตลอดกาล!” ชายหนุ่มคนตรงกลางเดินเข้าไปใช้มือช้อนคางของหยางเฟยเอ๋อขึ้น

ในเวลานี้สภาพของหยางเฟยเอ๋อและลู่เอ๋อนั้นดูอ่อนล้าไม่มีแรงจะขัดขืนใด ๆ

มังกรหนุ่มทั้งสามนั้นมีพลังแข็งแกร่งไม่น้อย ดูจากคลื่นพลังที่ปล่อยออกมาแล้วมันคงอยู่ในระดับหกขั้นสุด

แม้ว่าหยางเฟยเอ๋อเองก็จะเป็นเทพถ่องแท้เก้าดาว นับเทียบกับระดับหกขั้นสุดได้แต่ตัวนางก็เป็นแค่มนุษย์ ย่อมจะไม่อาจไปเทียบพลังกับเผ่ามังกรได้

ส่วนทางลู่เอ๋อนั้นยิ่งไปกันใหญ่ แม้นางจะมากพรสวรรค์แต่นางก็ยังอ่อนแออยู่มาก

เวลานี้หยางเฟยเอ๋อและลู่เอ๋อนั้นมีเสื้อผ้าดูยับยู่ยี่ ดูท่าคงผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาแล้วเป็นแน่

เมื่อเย่หยวนเห็นเรื่องราวแน่นอนว่าตัวเขานั้นต้องเดือดพล่านไปทั้งกาย

“หยุด!” เย่หยวนตะโกนบอกก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาคนทั้งหลายนั้น

เมื่อหลงห่าวเห็นหน้าของเย่หยวน หลงห่าวก็ร้องทักขึ้น “ว่าไง นี่มันเจ้ามนุษย์ที่มากับดาวหายนะมิใช่หรือ? ทำไมเล่า? สองนางนี้เป็นหญิงของเจ้าหรือ? แต่จากวันนี้ไปมันจะกลายเป็นหญิงของข้าแล้ว!”

………………………….

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท