บทที่ 19 ลูกผู้ชายไม่รู้จักการยอมแพ้!
ยาของพวกเราใกล้หมดแล้ว ยังเหลือมานาอยู่อีกไหม?
พอมองไปรอบตัว ก็พบว่ามีศพเสือกองพะเนินอยู่รอบ ๆ เซียวเฟิง แต่เถียซูกับเจ๋าซือคงไม่สามารถทำอะไรต่อได้ในสภาพที่พลังชีวิตเหลือน้อยขนาดนี้ ตอนนี้ทั้งพลังชีวิต และมานาก็เหลือน้อยเต็มที ยิ่งกว่านั้นยาของพวกเขาใกล้จะหมดแล้ว
มานาของฉันก็ไม่เหลือแล้ว เซียวเฟิงส่ายหัว ถึงเขาจะใช้แต้มค่าสถานะในการเพิ่มค่าจิตวิญญาณไปแล้ว แต่ว่ามานาก็ยังไม่พอ
งั้นคงต้องกลับก่อน เราไม่มียามานาเลย ถึงจะซื้อได้ที่หมู่บ้านก็มีน้อย และแพงมาก เราคงจะต้องพึ่งยาเพิ่มพลังชีวิตมากกว่าเดิมแล้วล่ะ เถียซูพูดระหว่างเก็บกวาดพวกที่เหลือ มองไปที่เศษเหรียญเงินและของที่หล่นอยู่กับพื้น
อีกนิดเดียวจะเลเวลขึ้นแล้ว ขออีกสักตัว 2 ตัวแล้วกัน เซียวเฟิงว่าแล้วก็เดินไปทางกลุ่มมอนสเตอร์
งั้นไปจัดการพวกที่เลเวลน้อยกว่านี้เถอะ ปลอดภัยไว้ก่อน ถึงจะไม่ถูกฆ่าตายง่าย ๆ ก็เถอะ แต่ถ้าตายขึ้นมาแล้วดันของหล่นเดี๋ยวจะซวยเอา เถียซูพยายามปรามเซียวเฟิงเพราะเขากับเจ๋าซือพลังชีวิตเหลือน้อยแล้ว แถมสถานการณ์ของตัวเองยังแย่กว่าเจ๋าซือที่สามารถใช้เทคนิคฮิตแอนรันได้
ไม่ต้องห่วง พลังชีวิตฉันยังเต็มอยู่ เซียวเฟิงยังคงเดินไปทางพวกเสือต่อ
งั้นนายต้านมันเอาไว้นะ เดี๋ยวพวกเราโจมตีเอง ฉันหวังว่านายคงต้านพวกเลเวล 8 ได้นะ เถียซูไม่ว่าอะไรต่อแล้วเดินตามเซียวเฟิงไปพร้อมเจ๋าซือ พวกเขาตกลงกันว่าจะช่วยเซียวเฟิงด้วย
ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวจัดการเอง พวกนายเก็บของได้เลย ชายหนุ่มพูดอย่างง่าย ๆ ว่าแล้วก็เอาไม้เท้าฟาดเสือที่พุ่งเข้ามาหาทันที
-110! คริติคอล!
ตัวเลขสีแดงลอยขึ้นมา แล้วเสือที่มีพลังชีวิตแค่ 100 หน่วยทรุดลงในทันที
โหว!
เถียซูและเจ๋าซือที่ต้องการเข้าไปช่วยเหลือพลันนิ่งค้างไป
ขนาดว่าพวกเขาร่วมมือกันยังไม่สามารถทำได้ขนาดนั้น
ฉันว่ามันแปลก ๆ นะ พลังรักษานี่ก็ว่าสุดยอดแล้ว ถ้าเขาสามารถฮีลได้ครั้งละ 30 หน่วยแปลว่าค่าจิตวิญญาณจะต้องสูงมากแน่ ๆ
เถียซูยังคงยืนมองเซียวเฟิงอยู่ นี่ ดูพลังชีวิตสิ… เจ๋าซือเปิดหน้าจอทีมขึ้นมาแล้วมองพลังชีวิตของเซียวเฟิง
เฮ้ย! 165! ถึงจะเป็นคลาสนักรบที่เน้นค่าต้านทานเป็นหลักยังไม่ได้ขนาดนี้เลยนะ! เจ๋าซืออุทานออกมาทันที
ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ทีมเดียวกันก็คงไม่มีทางรู้ได้ ก็เหมือน ๆ กับชุดที่พวกเขาใส่ ๆ กัน ซึ่งสามารถตรวจสอบคุณภาพได้จากสีของชุด แต่ถ้ามีชุดแฟชั่นก็ไม่สามารถทำได้
การโจมตียังสุดยอดมาก จัดการมอนสเตอร์เลเวล 8 ได้ในครั้งเดียว…
นี่พวก นายเป็นผู้เล่น vip หรือเปล่า? ได้ของพิเศษมาตอนที่เข้าเล่นเกมใช่ไหม? เจ๋าซือตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
ฉันจำได้แล้ว ก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีนักบวชคนหนึ่งที่สามารถจัดการบอสตัวแรกของเกมได้ นั่นนายใช่ไหม? เถียซูคิดแล้วก็ถามเซียวเฟิงตรง ๆ
ใช่ ฉันเองแหละ เซียวเฟิงพูดโดยไม่ได้หันมามอง ยังคงจัดการพวกเสือต่อ เขาต้องการค่าประสบการณ์อีก 6,000 ถึงจะเพิ่มเลเวลได้ ซึ่งชายหนุ่มคงต้องจัดการอีกเยอะเลย เพราะเสือ 1 ตัวให้ค่าประสบการณ์แค่ 10 หน่วยเท่านั้น
เจ๋งโคตรเลย! เจ๋าซือพูดขึ้น
คงต้องเปลี่ยนเป็นขอโทษนะที่ทำให้นายเพิ่มเลเวลช้า แทนที่จะเพิ่มเลเวลได้เร็วกว่านี้ เถียซูรู้สึกละอายใจมาก
ไม่หรอก นักบวชไม่มีความสามารถด้านการโจมตี ร่วมมือกับคนอื่นก็เร็วกว่าจริง ๆ นั่นแหละ เขาจัดการเสือตัวสุดท้าย แล้วก็เลเวลเพิ่มจนได้
ยินดีด้วย! คุณกลายเป็นเลเวล 6 แล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะ 1 แต้ม
ไปกันเถอะ
เขาเลือกที่จะเพิ่มค่าจิตวิญญาณแล้วก็เดินกลับมา จริง ๆ จะจัดการกับพวกมอนสเตอร์ต่อก็ได้ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มมีสิ่งสำคัญกว่าที่ต้องทำ เขาคงจะต้องหาที่ขายมีดสั้นเขี้ยวสีชาดแล้ว
ตอนที่ช่วยฮีล 2 คนนั้น เขาก็หาข้อมูลในเว็บไซต์ไปพลาง ๆ จนรู้ราคาของมีดเล่มนั้นแล้ว มีดเขี้ยวสีชาดเป็นแค่ไอเทมเลเวล 5 และยิ่งเวลาผ่านไปผู้เล่นยิ่งเลเวลสูงขึ้น ความต้องการคงจะน้อยลงแน่ ๆ แม้มันจะเป็นอุปกรณ์ระดับเงินก็ตาม นี่คงเป็นจังหวะดีที่จะขายมันแล้ว
มิดซัมเมอร์โรสต้องการเพิ่มคุณเป็นเพื่อน จะรับหรือไม่?
ตอนที่กำลังจะเดินออกมา เขาได้รับข้อความจากระบบ แล้วก็นิ่งไปนานก่อนจะรับข้อเสนอของอีกฝ่าย
มิดซัมเมอร์โรสส่งข้อความเสียงหาคุณ ต้องการรับหรือไม่?
แล้วข้อความต่อมาก็ปรากฏแทบจะทันที
ชายหนุ่มรู้สึกแปลก ๆ เพราะว่าเขามีความประทับใจบางอย่างกับโรส และถ้าเป็นเธอจริง ๆ คงจะไม่ทำอะไรแบบนี้แน่ แต่เขาก็รับข้อความ ทำให้รู้แล้วว่าตนเองคิดถูก
เฮ๊ย! ไอบ้า! นี่บล็อกฉันใช่ไหมหะ? ไอ้คนชั่ว! คำด่าทอโกรธเกรี้ยวดังมาจากปลายสายทันทีที่เขารับสาย ซึ่งทำให้ตกใจมาก ชายหนุ่มรู้สึกคุ้น ๆ กับเสียงนี้มากแต่ไม่ใช่เสียงของโรสแน่ คนคนนั้นคงไม่มีเสียงที่เกรี้ยวกราด หรือใช้คำด่าแบบนี้แน่ ๆ แล้วเขาก็นึกออกว่าปลายสายคือ ไนท์ คูนเนอร์ แต่เธอคงใช้ตัวละครของโรสส่งข้อความมาหา
โอ้ว จิ๋ง เยี่ยซือมีอะไร? เขาพึ่งจะนึกออกว่าบล็อกอีกฝ่ายไป
ไอ้บ้า! นี่ความจำสั้นหรือโง่หะ? ฉันชื่อซือ เยี่ยจิ๋งว้อยยยยย! ไนท์ คูนเนอร์ที่อยู่ปลายสายเดือดดาลขึ้นมาทันที และดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงขำคึกคักของโรสด้วย
ก็ตอนนั้นบอกไว้ว่าถ้าแพ้ล่ะก็ จะยอมโดนเรียกชื่อแบบกลับหลังไม่ใช่หรือไง? หรือว่าจะอำเล่นงั้นเหรอ? เซียวเฟิงพูดอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ
ไอ้บ้า! ไอ้คนหน้าด้าน! ไปตายซะ! ไนท์ คูนเนอร์ยังคงด่าชายหนุ่มอยู่แบบนั้น แต่เซียวเฟิงก็เป็นฝ่ายถูกอยู่ดี เพราะเธอบอกเขาไว้แบบนั้นจริง ๆ
งั้นถ้าไม่มีอะไร จะวางสายแล้วนะ เซียวเฟิงที่กำลังเดินกลับไปกับเถียซูและเจ๋าซือเตรียมที่จะวางสายแล้ว
เดี๋ยวก่อน มีเรื่องอยากให้ช่วย
มีอะไร?
มาช่วยพวกเราจัดการบอสหน่อย
โทษทีนะ ไม่ว่าง
เขาปฏิเสธโดยไม่ลังเล ชายหนุ่มวางแผนไว้ว่าจะไปหาที่ขายของ แถมยังไม่ได้เผื่อเวลาไปทำอย่างอื่นด้วย ยิ่งงานนี้ไม่ได้ค่าตอบแทนอีกต่างหาก
ไม่ได้ขอให้ช่วยฟรี ๆ หรอกนะ
ได้เลย! อยู่ที่ไหน จะไปหาเดี๋ยวนี้แหละ หลังจากได้ข้อเสนอแล้ว เขาก็วางสายก่อนบอกลาคนทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง
จะไปไหนเหรอ ท่านยอดฝีมือ? เจ๋าซือที่ขอเพิ่มเพื่อนกับเซียวเฟิงถามออกมาอย่างตรงไปตรงมา
ไปช่วยคนจัดการบอส กลับไปก่อนได้เลยนะ ว่าเสร็จเขาก็มุ่งหน้าไปทางตะวันออกของหมู่บ้านทันที
เขาคงเจ๋งจริง จัดการบอสได้สบาย ๆ เลย เฮ้อ อดเห็นบอสเลย
พวกเขาถอนหายใจอย่างปลงตกแล้วเดินกลับไปที่หมู่บ้าน ไปเถอะ รีบซื้อยาแล้วรีบไปอัปเลเวลกันต่อเถอะ เราต้องรีบเปลี่ยนคลาสของพวกเราก่อนนะ
…
หลังจากใกล้ถึงจุดที่ไนท์ คูนเนอร์ส่งมาให้ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าทางที่มานั้นมันคุ้น ๆ แล้วชายหนุ่มก็เห็นหุบเขาที่ลักษณะคล้ายรังนก นี่มันที่ที่เขามาเก็บดอกไม้แล้วเปิดร้านขายของนี่หว่า!
เขามาแล้ว!
ไนท์ คูนเนอร์เห็นเซียวเฟิงแล้ว เธอเลยส่งข้อความให้เขาเดินมาหา
ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ? แล้วบอสอยู่ไหน? เซียวเฟิงเดินเข้ามาหาแล้วถามด้วยความสงสัย
ผู้ติดตามของโรสที่อยู่ตรงนั้นมีจำนวนมากมาย แต่พวกเขากลับยืนรวมกันด้านฝั่งภูเขาที่พรุนเหมือนรังผึ้ง โดยไม่เฉียดเข้าใกล้หน้าผาเลยสักคน
มันอยู่บนยอดเขา ในถ้ำที่ใหญ่ที่สุด
ไนท์ คูนเนอร์มองอีกฝ่ายอย่างดูถูก ก่อนที่จะใช้มีดชี้ไปทางถ้ำที่มีมากมาย มันสูงขึ้นไปสัก 10 เมตร มีอยู่ 2 ถ้ำที่ใหญ่กว่าถ้ำอื่น ๆ
ในถ้ำ? งั้นบอสก็คือวิหคกิ้งก่ายักษ์สินะ?
เซียวเฟิงถาม แต่เขาก็พอจะเดาได้ว่าภูเขาลูกนั้นเป็นรังของพวกมัน
ใช่ สมาชิกของเราเจอมันโดยบังเอิญในตอนที่มาเก็บเลเวล มันมีเลเวลอยู่ที่ 6 คล้าย ๆ กับบอสราชาหมาป่าโลหิต ฉันว่านายน่าจะพอจัดการมันได้
โรสชายตามองมาทางเซียวเฟิง แล้วก็มองไปทางอื่นต่อ เสียงของเธอฟังดูล่องลอยไร้อารมณ์ เหมือนคุยอยู่กับตัวเองมากกว่า
บอสตัวนี้ยากนะ เซียวเฟิงขมวดคิ้วก่อนจะเดินไปทางภูเขา แล้วก็มาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ โรส
บอสน่ะไม่ใช่ปัญหาหลักเลย ปัญหาจริง ๆ อยู่ที่พวกลูกน้องนับพันของมันมากกว่า เขาเคยเห็นมาก่อน ถ้าไม่สามารถจัดการได้เร็วพอคงจะตายก่อนแน่ ๆ
ใช่ เราลองมาหลายครั้งแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือล่อบอสออกมา เราจะดึงพวกมอนสเตอร์ตามออกมาคราวละ 10 ตัว แต่การโจมตีทางอากาศนั้นโหดร้ายเกินไป เราไม่สามารถจัดการได้ทันเวลา โรสว่า พอมายืนใกล้ ๆ เธอแบบนี้แล้ว เซียวเฟิงก็สังเกตว่าผิวของเธอเรียบเนียนราวกับเด็ก ทำให้นึกถึงน้องสาวของเขา
แล้วนายจะทำได้ไหม? ลิลลี่มองเซียวเฟิงอย่างเคลือบแคลงแล้วถามออกมา
ทำได้สิ! ลูกผู้ชายไม่รู้จักการยอมแพ้! อยากให้ฉันทำอะไร แน่นอน เขาพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล
ถ้าอย่างนั้นฉันจะล่อให้บอสออกมาเอง พวกลูกกระจ๊อกต้องตามออกมาแน่ แต่เราจะล่อมันไว้ด้วยจำนวนคนที่มากกว่า จัดการพวกลูกกระจ๊อกให้เร็วที่สุด ส่วนบอสฉันจะจัดการเอง ไนท์ คูนเนอร์เดินออกมาแล้วบอกแผนการอย่างมั่นใจ
ได้เลย ฟังดูง่ายดี แถมยังได้เงินอีก เขาจะต้องบ่นอะไรอีกล่ะ