บทที่ 33 ฆ่าบอสเลเวล 9
มันโจมตีแรงเกินไป ฉันเอาไม่อยู่แล้ว! เถียซูกรีดร้องออกมา ความเสียหายจากพิษของมันแรงเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้ แม้ว่าเซียวเฟิงจะฮีลเขาไปแล้วก็ตาม
มันยากเกินไป! เจ๋าซือเองก็ตะโกนออกมา เขาคือนักธนูที่เพิ่งจะเลเวล 7! แถมยังไม่มีอุปกรณ์ดี ๆ อีก อาวุธของเขาแค่เลเวล 5 เท่านั้น! แต่ก็ยังสามารถทนความเสียหายจากจระเข้พิษได้ ซึ่งมันทำให้เขาตึงมือมากขึ้น
เซียวเฟิงเองก็พูดไม่ออก เขาเห็นว่าจระเข้ตัวนี้โจมตีเถียซูด้วยกรงเล็บที่หนาเท่าขาช้างของมัน ทำไมไม่หลบล่ะ?
อะไรนะ? มันเป็นบอสตัวใหญ่แถมวงโจมตีกว้างมากเลยนะ ฉันหลบไม่ได้หรอก! เถียซูตะโกน แล้วเขาก็โดนกรงเล็บของจระเข้ตบเข้าที่หัวอีกครั้ง
เซียวเฟิงจึงฮีลให้กับเขา เถียซูมีประสบการณ์มากในเกมออนไลน์แนวนี้ เขารู้วิธีหลบการโจมตีของพวกลูกกระจ๊อกได้ก็จริง แต่เขาก็ใช้การป้องกันเพื่อหนีจากการโจมตีของพวกบอสใหญ่ไม่เก่งนัก ทว่าโอกาสในการป้องกันพลาดก็สูงอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ยังเก่งกว่าคนอื่นอยู่บ้าง ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับบอสแบบนี้ แถมมันยังมีพิษอีก วิธีการของเขาจึงใช้ไม่ได้กับพวกตัวแบบนี้
เล็บมันหนาเกินไป แถมนายยังโดนมันโจมตีอีก ถอยออกมาก่อนแล้วเดี๋ยวฉันจะแสดงวิธีหลบให้นายดูเอง เมื่อเห็นแบบนั้นเซียวเฟิงก็อดเจ็บแทนไม่ได้ และเมื่อเถียซูถอยออกมา เซียวเฟิงพลันเข้าไปฉายเดี่ยว
ฮู่ม!
จระเข้ตัวนี้เริ่มโจมตีเซียวเฟิงที่อยู่ใกล้มันที่สุดด้วยกรงเล็บตามเดิม แต่ชายหนุ่มยังไม่ถอยทันที เขาเพียงเบี่ยงตัวเองหลบกรงเล็บมัน
พลาด!
เจ๋าซือและเถียซูตะลึง พวกเขารีบถาม นายทำได้ยังไง? พวกเขาหวังจะหลบการโจมตีแบบเดียวกัน แต่ทั้งสองนั้นต่างกันมาก เถียซูต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทิ้งระยะห่างจากมัน แต่เซียวเฟิงกลับเพียงขยับร่างกายตัวเองเพื่อหลบการโจมตีของมันต่อไป ถ้าเป็นเกมที่แล้วเขาทำไม่ได้หรอก ตอนนั้นเขาต้องคุมตัวละครด้วยมืออย่างเดียว แต่ในมิธเขาสามารถใช้ระบบเสมือนจริงเพื่อควบคุมร่างกายตัวเองได้
ทำไมไม่หลบกรงเล็บมันล่ะ? ถ้าใครจะทำร้ายนาย นายก็แค่หลบสิ ใช่ไหม? ตอนนี้เซียวเฟิงเริ่มรู้สึกแปลก ๆ เขากระโดดเล็กน้อย และหลบการโจมตีของหางมัน จากนั้นก็หันมาถาม จริง ๆ แล้วหลายคนในเกมมิธก็ทำพลาดแบบเถียซูอยู่บ่อยครั้ง พวกเขายังคิดว่านี่เป็นเกมแบบเก่า และยังใช้ระบบควบคุมแบบเดิม พวกเขาจึงต้องทนรับการโจมตีของมอนสเตอร์ไป
ฉันจะลองอีกครั้ง
เถียซูมองมาที่การเคลื่อนไหวของเซียวเฟิง เขานิ่งเงียบก่อนที่จะออกมายืนแทนตำแหน่งของเซียวเฟิง และเมื่อชายหนุ่มถอยออกมา จระเข้ตัวนี้จึงหันมาเล็งที่เถียซูอีกครั้งพร้อมกับใช้กรงเล็บโจมตี
เย้!
เถียซูจำการเคลื่อนไหวของเซียวเฟิง และใช้มันด้วยตัวเอง เขาเบี่ยงร่างกายตัวเองให้หลบการโจมตีของจระเข้ยักษ์ตัวนี้ได้
โครม!
กรงเล็บของมันโจมตีลงไปที่พื้น ทั่วทั้งบริเวณสั่นสะเทือนและเถียซูเองก็หัวเราะออกมา
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ฉันไม่โดนโจมตีเลยเว้ย!
แต่ในขณะที่เขากำลังดีใจอยู่นั้นก็โดนหางของจระเข้ตัวนี้ฟาดเข้าใส่จนพลังชีวิตลดลงไปอีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก เลยรีบพุ่งเข้าไปหามันอีก เซียวเฟิงจึงใช้ฮีลฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับอีกฝ่าย ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่าเถียซูนี่มีพลังเหลือเฟือจริง ๆ
ชิ! แล้วฉันล่ะ? บอกแผนฉันบ้างสิ! เจ๋าซือร้อนใจที่เห็นแบบนั้น และอยากให้เซียวเฟิงสอนเขาบ้าง
ชายหนุ่มครุ่นคิดสักพัก นายเป็นนักธนูนี่ ใช้โหมดอิสระสิ
โหมดอิสระ? แต่มันไม่ช่วยอะไรนี่นา แล้วถ้าฉันยิงพลาดล่ะ?
นายต้องหาทางเล็งยิงด้วยตัวเอง เซียวเฟิงบอก
ได้ยินแบบนั้นเจ๋าซือก็ขมวดคิ้วยอมทำตาม เขาเปิดโหมดอิสระด้วยความสงสัยแล้วจากนั้นก็เล็งไปที่จระเข้นั่น
ยิงเลย! ลูกศรพุ่งไม่โดนตัวบอส
เจ๋าซืองุนงงหนักมาก ก่อนที่จะเล็งยิงอีกครั้ง
โอ๊ย! ยิงฉันทำไมวะ? ครั้งนี้ลูกศรของเขาดันไปปักที่ตูดของเถียซูแทน
เฉียนโตวโตวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ได้แต่หัวเราะออกมา
โทษที ๆ ผิดพลาดทางเทคนิคน่ะ ฮ่า ๆ เจ๋าซือหัวเราะออกมาอย่างเขิน ๆ และเล็งยิงต่อไป
ยิง!
ครั้งนี้เขายิงโดนตัวจระเข้จนได้ และกระหน่ำยิงมันต่อไป
นายจะลองใช้สกิลหลังจากที่เล็งยิงบอสด้วยก็ได้นะ แต่นายจะต้องคุมการเล็งยิงด้วยตัวเองเหมือนเดิม เซียวเฟิงถอยออกมาและให้นิโคลัสทั้งสองจัดการเจ้าจระเข้ตัวนี้ โดยที่เขาเองก็คอยทำการฮีลให้ ตอนแรกพวกเขาอาจจะพลาดบ้างด้วยความตื่นเต้น บางทีก็ถึงขั้นโมโหกันเพราะเจ๋าซือยิงพลาดไปโดนเถียซูบ่อยครั้งเข้า ส่วนเจ๋าซือก็เอาแต่หัวเราะพร้อมขอโทษแล้วก็ยิงต่อไป
เถียซูได้แต่แอบด่าในใจ เพราะเขารู้ว่านี่เป็นการฝึกของพวกเขาแน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเซียวเฟิงก็ยังคอยฮีลให้เขามีพลังชีวิตไม่ต่ำกว่า 60 หน่วยตลอดเวลา ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก เถียซูและเจ๋าซือใช้เวลา 2 ชั่วโมงเต็มไปในการฆ่าบอสตัวนี้ ตอนแรกพวกเขาทำพลาดบ่อยมาก แต่หลังจากที่ผ่านอะไรมาหลาย ๆ อย่าง พวกเขาก็ร่วมมือกันจนปราบบอสลงได้
ในจังหวะเดียวกัน พลังชีวิตของราชันจระเข้พิษก็เหลือต่ำกว่า 20% แล้ว เซียวเฟิงจึงก้าวขึ้นมาและพร้อมที่จะโจมตีบอสแล้ว เพราะเมื่อพลังชีวิตของจระเข้ลดลงถึง 10% มันจะใช้สกิลดำน้ำหนีหายไป
ผัวะ!
ยิ่งพลังชีวิตของมันลดต่ำลงจระเข้ก็ยิ่งดุร้ายมากขึ้น มันเริ่มใช้สกิลสั่นสะเทือนแล้ว
-41!
พื้นดินสั่นไหวพร้อมกับอากาศที่กระแทกอัดมา เถียซูที่อยู่ในระยะสกิลก็ต้องตะลึงเพราะว่าพลังชีวิตของเขาลดลงไปครึ่งหนึ่งพร้อมกับติดสถานะมึนงงบนหัวของเขา
ฮุ่ม!
ทว่ามันยังไม่จบ หลังจากสกิลสร้างความเสียหายแล้ว จระเข้ตัวนี้ก็อ้าปากกว้างโจมตีใส่เถียซูที่ยังไม่หลุดจากสถานะมึนงง
-48!
-3!
-3!
เขาไม่คิดว่ามันจะใช้สกิลพวกนี้ เถียซูตอนนี้กำลังจะตายเพราะพลังชีวิตใกล้หมดหลอดแล้วรถ
เถียซู! เจ๋าซือตะโกนออกมา ถ้าเกิดว่าเถียซูยังอยู่ในรัศมีการโจมตีแบบนั้น อีกฝ่ายจะต้องตายแน่ ๆ แม้ว่าจะมีเซียวเฟิงคอยฮีลให้แต่ก็ไม่น่าจะเพียงพอ
+111!
ทว่าตัวเลขสามหลักก็ลอยขึ้นมาบนหัวของเถียซูได้ทันเวลา มันทำให้พลังชีวิตของเขากลับมาเต็มอีกครั้ง มันคือแหวนเงินของเซียวเฟิง แหวนแห่งศรัทธามีเอฟเฟคพิเศษ มันสามารถสละพลังชีวิตของผู้ใช้ครึ่งหนึ่ง และเพิ่มในปริมาณที่เท่ากันให้เป้าหมาย เซียวเฟิงที่มีเลเวล 8 และมีพลังชีวิต 221 ครึ่งหนึ่งของเขาจึงเป็นเลขสามหลักแน่ ๆ ไม่ทันที่พวกเขาจะได้รู้ตัว เซียวเฟิงก็เข้ามาจัดการเจ้าจระเข้ยักษ์นี่ที่หัว
-28!
เลขความเสียหายทำให้พลังชีวิตของจระเข้ตัวนี้ที่น้อยอยู่แล้ว เสียหายมากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มหวดไม้เท้าของเขาไม่ยั้งมือใส่หัวของมัน แม้ว่าจะไม่ติดคริติคอลแต่เขาก็ฟาดจนพลังชีวิตมันลดต่ำกว่า 10% ได้แล้ว
เมื่อจระเข้ตัวนี้ไม่อาจขย้ำเถียซูไว้ในปากได้ มันเลยปล่อยเหยื่อทิ้งไป และรีบมุ่งหน้าไปยังหนองน้ำพิษ แต่เซียวเฟิงไม่ปล่อยให้มันหนีไปได้ง่าย ๆ เขายืนประจันหน้ากับมันและใช้กระบองทุบลงไปกลางหัวของมัน
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!…
การโจมตีของเซียวเฟิงนั้นรุนแรงจนจระเข้ตัวนี้ไม่สามารถทนรับได้ พลังชีวิตของมันหมดหลอดไปก่อนที่มันจะได้กลับหนองน้ำ
ตู้ม!
ร่างของมันล้มลงจนพื้นสั่นไหวที่มาพร้อมกับไอเทมที่ดรอปมาอย่างมากมาย
ทีมของคุณจัดการบอสเลเวล 9 ราชันจระเข้พิษลงได้ และได้รับค่าประสบการณ์ 4,500 แต้ม
ในจังหวะเดียวกัน เซียวเฟิงก็ได้ค่าประสบการณ์มากมาย ทำให้หลอดเลเวลของเขาเพิ่มขึ้นมาครึ่งหนึ่ง ส่วนนิโคลัสทั้งสองและเฉียนโตวโตวเองก็เลเวลอัปขึ้นมาทันที พวกนิโคลัสในตอนนี้มีค่าประสบการณ์เกือบเต็มสำหรับเลเวล 7 และเฉียนโตวโตวก็ต้องการอีกแค่ 5,000 แต้มเท่านั้นเพื่ออัปเป็นเลเวล 5 !
แสงสว่างของเลเวลอัป 3 แสงส่องขึ้นมาพร้อมกัน!