บทที่ 114 อัศจรรย์ใจ
หลังจากเรียนสกิลไปแล้ว เซียวเฟิงก็ออกจากเมืองไปโดยไม่ลังเล เขาเรียกเสี่ยวเสวียออกมาในที่ที่ไม่มีคนแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังทุ่งเทาทันที
เขาไม่รู้ว่าโบลตันจะสร้างแนวหน้าเสร็จเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้เขาต้องการม้วนวาร์ปมาก อีกทั้งเขายังตั้งเป้าว่าจะไปที่เมืองร้างเพื่อเข้าโซนภารกิจด่วนพิเศษและเก็บเลเวลที่นั่น
ขั้นแรกสุดเลยพวกมอนสเตอร์ทั้งหลายในเมืองร้างแล้วก็ยังเป็นธาตุมืดอีกด้วย เขาสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย
อย่างที่สองคือ เมืองร้างก็ยังให้อุปกรณ์เลเวล 15 ด้วย และถ้าเขาทำภารกิจสำเร็จเป็นคนแรกก็จะได้ไอเทมเพิ่มอีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงอีกสิบเก้าคนที่จะเข้ามาทำภารกิจต่อจากนี้ ไม่มีใครทำได้เร็วกว่าเซียวเฟิงอีกแล้ว
แต่ประเด็นหลักก็คือ…เซียวเฟิงต้องการปราบบอสของที่นั่นอีกครั้ง!
สกิลฝันร้ายของมันลึกล้ำเกินกว่าที่ผู้เล่นจะเข้าใจ มันคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสั่งให้พวกพี่น้องนิโคลัสห้ามบอกสถานที่นี้ให้กับทุกคนได้รับรู้…
เซียวเฟิงไปหาโบลตันที่ค่ายเล็ก ๆ กองทัพมนุษย์ในโลกเกมออนไลน์ช่างมีความรวดเร็วในการสร้างค่ายจริงๆ
“อะไรน่ะ? ยูนิคอร์นแสงงั้นเหรอ?!” โบลตันตะลึงกับเสี่ยวเสวียตัวนี้
เซียวเฟิงไม่คิดจะอยู่ที่นี่นาน เขาทักทายอีกฝ่ายและซื้อม้วนวาร์ปก่อนมุ่งหน้าไปยังเมืองร้าง
เมืองร้างกลายเป็นโซนด่วนพิเศษไปแล้ว NPC ทั้งหลายยืนล้อมรอบเพื่อให้ผู้เล่นเข้ามารับภารกิจจากเขา
“คุณได้เข้าสู่โซนภารกิจด่วนพิเศษ”
พวกมอนสเตอร์ชาวบ้านเดินกันขวักไขว่ ที่นี่มีมอนสเตอร์มากกว่าที่ถ้ำซาลาแมนเดอร์เยอะมาก แต่พวกมันก็ไม่เก่งสักเท่าไหร่ถ้าไม่นับบอสตัวนั้น
เซียวเฟิงเปิดแผนที่ขึ้นมาและพบกับบอสสามตัวในนี้ ตัวแรกเป็นหัวหน้าทหารชาวบ้านที่อยู่ใจกลางเมือง ตัวที่สองคือชนชั้นสูง และตัวที่สามคือเจ้าของเมือง
ชายหนุ่มตะลึงหลังจากที่ได้อ่าน…แล้วปีศาจแห่งความขยะแขยงล่ะ?
เขาไม่สามารถเรียกเสี่ยวเสวียออกมาได้แต่ยังได้ค่าสถานะจากมันอยู่ นี่คือสิ่งที่ทำให้มันเก่งกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไปแม้จะไม่สามารถช่วยสู้ได้ก็ตาม
-258!
-258!
-258!
-258!
…
สกิลโฮลี่ไลท์ระดับกลางสังหารพวกมอนสเตอร์ธาตุมืดไปได้มากมาย อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาเองอีกต่างหาก…
พวกมอนสเตอร์ระยะประชิดวิ่งเข้ามามากมายและเซียวเฟิงก็ใช้รองเท้าซาลาแมนเดอร์วิ่งเข้าไปประจันหน้ากับมัน
เขาร่ายสกิลอวยพรอาวุธแล้วทำการทุบหัวมอนสเตอร์อย่างเมามันส์
ในตอนนี้เขาสร้างความเสียหายไปถึง 422 หน่วยเลยทีเดียว!
ค้อนยักษ์สีทองปรากฏขึ้นในมือเพราะสกิลค้อนแห่งการพิพากษาที่กลายเป็นเลเวล 2 แล้ว ความเสียหายจึงแรงขึ้นมาก…
-844!
-844!
-844!
…
พวกมอนสเตอร์มากมายถูกจัดการด้วยความเสียหายเพียงครั้งเดียว
ในเวลานี้เซียวเฟิงเหมือนกับหมาป่าในฝูงแกะ เขาใช้สกิลไฟจากรองเท้าเผาพวกมอนสเตอร์ให้เป็นจุล ไม่มีใครหยุดเขาได้อีกแล้ว
พวกมอนสเตอร์ชาวบ้านถูกฆ่าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะพุ่งเป้าหมายไปยังบอสของเมือง
เขาพบกับหัวหน้าทหารชาวบ้านที่ใจกลางเมือง มันเป็นบอสระดับอีลิทเลเวล 15 มันมีสกิลเกือบทุกอย่างของอาชีพนักรบ แต่เซียวเฟิงไม่พบสกิลฝันร้ายเลย
ชายหนุ่มฆ่ามันเกือบจะในทันทีและได้รับดาบสองมือระดับสีเงินมาพร้อมกับอุปกรณ์สีน้ำเงิน มันคือเกราะไหล่ที่เขาสามารถใส่ได้เพื่อเพิ่มค่าสถานะหลักด้านกายภาพ
จากนั้นเซียวเฟิงก็ไปหาบอสตัวต่อไปที่เป็นชนชั้นสูง มันยืนอยู่ในลานกว้างรายล้อมไปด้วยเหล่าข้ารับใช้ มันเก่งกว่าพวกชาวบ้านแต่ก็ไม่อาจสู้กับเซียวเฟิงได้
ชายหนุ่มจัดการพวกมันทั้งหมดได้ภายใน 5 นาที
บอสตัวที่สองให้ของมีค่ามากมายรวมไปถึงอุปกรณ์สีทองอีกด้วย มันคือดาบมือเดียวที่มีค่าสถานะสูงและสกิลป้องกันสองสกิล
นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์สีเงินอีกสองชิ้น หนึ่งในนั้นคือถุงมือที่ทุกอาชีพสามารถใช้ได้ มันช่วยเพิ่มอัตราการติดคริติคอลกับอัตราความแม่นยำ แต่ไม่มีสกิลแถมมาด้วย เซียวเฟิงใช้มันทันทีพร้อมกับเสื้อผ้าระดับสีน้ำเงิน
ข้อดีของการลุยเดี่ยวในโซนด่วนพิเศษก็คือ เขาสามารถเลือกของทุกอย่างได้เท่าที่ต้องการ
แต่ชนชั้นสูงตนนี้ก็ไม่มีสกิลฝันร้ายเหมือนกัน
บอสตัวสุดท้ายคือเจ้าของเมือง ก่อนที่จะไปลุยกับมันเซียวเฟิงก็ไปยังที่ใต้โบสถ์เพื่อหาปีศาจตัวนั้น แต่เมื่อไปถึงเขาก็พบว่าโบสถ์นั้นได้กลายเป็นสถานที่ธรรมดาไปแล้ว จะมีก็เพียงสาวกนิดหน่อยกับพวกมอนสเตอร์กระจอกเท่านั้น…
เซียวเฟิงที่ประหลาดใจก็ได้มุ่งหน้าไปหาเจ้าของเมืองแทน
บอสตัวนี้เหมือนกับซาลาแมนเดอร์ลอร์ด…แต่เก่งกว่ามาก!
เจ้าของเมืองคือนักรบที่เก่งกาจและมีสกิลมากมาย อีกทั้งยังตัวเล็กหาตัวจับได้ยาก ผู้เล่นที่อยู่แนวหน้าจะต้องพ่ายแพ้ให้กับความเสียหายของมันแน่
เซียวเฟิงจัดการมันหลังจากที่อ่านข้อมูลเสร็จเพียงไม่นาน และมันก็ไม่มีสกิลฝันร้ายอีกด้วย ดูเหมือนว่าบอสปีศาจตัวนั้นจะเป็นบอสพิเศษที่ไม่มีใครหาพบได้อีกในช่วงเวลานี้
ชายหนุ่มได้รับไอเทมระดับสีทองมา มันคือธนู และยังได้อุปกรณ์หายากมาอีก เขาเปลี่ยนอุปกรณ์เกือบทั้งหมดที่เป็นของเริ่มต้น มีเพียงบางอย่างเท่านั้นที่เขาไม่สามารถเปลี่ยนได้
เซียวเฟิงเป็นคนแรกที่ทำภารกิจด่วนพิเศษของเมืองร้างสำเร็จ และได้รับรางวัลมากมาย
มันคือหนังสือสกิลนักรบ…
“คุณทำภารกิจด่วนพิเศษของเมืองร้างสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 200,000 หน่วยเป็นรางวัลพิเศษ”
เซียวเฟิงออกจากโซนนี้และเข้าสู่โหมดไลฟ์เพื่อบันทึกสถานที่สำคัญเอาไว้และปิดก่อนที่จะมีใครได้เห็น แต่ว่ามันกลับมีบางคนที่ติดตามไลฟ์ของเขาตลอดเวลาเพื่อติดตามข่าวคราวจากเขานี่เอง
จากนั้นเซียวเฟิงก็กลับไปยังเมืองเทียนหลงและเอาของทุกอย่างให้เฉียนโตวโตว
เธอตื่นเต้นมากและประกาศว่างานประมูลจะเริ่มในเย็นวันนี้!
“ข่าวด่วน! ข่าวด่วน! ตำหนักขุมทรัพย์กำลังจะเปิดประมูลอย่างเป็นทางการในเวลาสามทุ่มของวันนี้!”
“ตำหนักขุมทรัพย์? สถานที่ที่เซิร์ฟเวอร์เพิ่งประกาศไปนี่นา”
“ใช่แล้ว! แถมยังจะเริ่มประมูลเร็ว ๆ นี้ด้วย พวกนั้นซื้อที่แล้วตั้งหอการค้าแล้วงั้นเหรอ?”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนสร้างหอการค้าได้แล้ว! สุดยอดจริงๆ!”
“จริงด้วย! ระบบเงินจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ เจ้าของตำหนักนี่โคตรมีความพยายามเลย!”
“นี่มันโคตรจะทรงอำนาจเลยนี่นา! แล้วรู้ไหมว่าในงานประมูลจะมีอะไรบ้าง?”
“อะไรนะ? อุปกรณ์ระดับทองงั้นเหรอ?”
“ฉันจะบอกความจริงก็ได้แต่อย่ากระโตกกระตากไปล่ะ พวกเขามีสินค้าสิบอย่างในงานและอุปกรณ์ระดับสีทองคือของที่มีราคาถูกที่สุด อีกทั้งยังมีไข่สัตว์เลี้ยงกับหนังสือสกิลอีกด้วย แถมของที่เป็นดาวเด่นของงานก็คือโทเคนกิลด์ยังไงล่ะ!”
“อะไรนะ? โทเคนกิลด์? ล้อกันเล่นรึเปล่าเนี่ย?”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนหาโทเคนกิลด์ได้จริง ๆ แถมยังในช่วงเวลาแบบนี้ด้วยเนี่ยนะ?!”
“มีรูปสินค้าในงานประมูลมาแล้ว ไปดูกันได้เลยถ้าไม่เชื่อฉัน”
…
ที่ฟอรั่มของเกม เฉียนโตวโตวโพสของทุกอย่างด้วยชื่อของเธอพร้อมทั้งรูปภาพของสินค้าแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าโพสของเธอมีคนเข้ารับชมกว่าหนึ่งร้อยล้านภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ผู้เล่นทุกคนในเขตฮัวเซียตกตะลึงกับโทเคนกิลด์มาก
“โทเคนกิลด์ของจริงเว้ยเฮ้ย! รวมเงินกันเดี๋ยวนี้…พวกเรากลอรี่จะต้องประมูลมาให้ได้!”
“อะไรนะ? โทเคนกิลด์ชิ้นแรกของมิธ? แล้วเอามาขายทำบ้าอะไรวะ…ช่างเถอะ รวมเงินมาเดี๋ยวนี้ กิลด์เราจะต้องได้มัน!”
“โทเคนกิลด์มาแล้วโว้ย! พวกเรากิลด์ไดนัสตี้ห้ามยอมแพ้นะ!”
“รวมเงินเดี๋ยวนี้! ใครที่ไม่ให้เงินมาก็ออกไปจากกิลด์เราเลย!”
…
ถึงจะเป็นช่วงเช้าตรู่แต่ผู้เล่นทุกคนก็ตื่นเต้นกันมาก ทุกกิลด์ทั้งหมดช็อกตาตั้งเมื่อได้รับข่าวลือแบบนี้ พวกเขารีบระดมทุนกันอย่างร้อนรน
ทุกหอการค้าและนักธุรกิจทั้งหลาย รวมไปถึงมันนี่ฮังกรีเองก็ตะลึงมาก เขารู้เลยว่าการประมูลนี้มีความหมายยังไง
พวกผู้เล่นระดับสูงแทบจะวุ่นวายกันทุกวินาที ในขณะที่ผู้เล่นสายเรื่อยเปื่อยก็ยังนั่งเล่นเกมกันต่อไป…
ยิ่งไปกว่านั้น การประมูลนี้จะทำให้ตำหนักขุมทรัพย์กลายเป็นหอการค้าแห่งใหม่ที่จะมีชื่อเสียงและมีอำนาจมากที่สุดในเกมนี้
แม้จะยังไม่เริ่มต้นขึ้น แต่ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอกันไม่ไหวแล้ว!