สีหน้าของเซียวเฟิงดูแข็งเกร็ง เขาไม่รู้ว่าการที่พาเสี่ยวไป๋ออกไปจากที่แห่งนี้จะนำพาอะไรมาใส่ตัวเองบ้าง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนจะต้องกลายเป็นศัตรูกับเทพธิดาแห่งแสงตนนี้หรือเปล่า เพราะในบรรดา NPC ทั้งหมดน่ะ เธอเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในเกมนี้แล้ว
เทพธิดาแห่งแสงไม่ได้พูดอะไรออกมา และมันทำให้ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ภายใต้สีหน้าที่สงบนิ่งนั้น สายตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์มองมายังเซียวเฟิงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองเสี่ยวไป๋แทน
เสี่ยวไป๋หันมองเทพธิดาแห่งแสงด้วยความอยากรู้อยากเห็นขณะที่เอียงหัวไปข้างหนึ่งด้วย เธอเหมือนเด็กแรกเกิดที่กำลังรู้สึกประหลาดใจผนวกกับสับสนเมื่อได้เห็นทุกสิ่งอย่าง ผู้เดียวที่เธอรู้สึกสนิทใจด้วยคือเซียวเฟิง และเทพธิดาแห่งแสงตรงหน้านี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เธอไม่รู้สึกกลัว
ทันใดนั้น เทพธิดาแห่งแสงละสายตาจากเสี่ยวไป๋แล้วหันกลับมามองเซียวเฟิง เธอยกนิ้วที่สวยเรียวราวกับงาช้างแกะสลัก ชี้มันไปยังชายหนุ่ม
[คุณถูกแบนไม่ให้ใช้มิติสัตว์เลี้ยงชั่วคราว ระหว่างช่วงที่ติดแบน คุณไม่สามารถเปิดมิติสัตว์เลี้ยงได้ ระยะเวลาการแบน : ไม่ทราบ]
เสียงของระบบดังขึ้นในหูของเซียวเฟิง ซึ่งมันทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
เธอ!?
เซียวเฟิงตกใจมาก เขารู้ว่าเธอคนนี้น่ากลัวก็จริง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะสามารถสั่งแบนมิติสัตว์เลี้ยงของเขาได้เช่นนี้ เห็นท่าทีอ่อนโยนแบบนั้น แต่นี่มันก็ชัดเจนแล้วว่าเธอกำลังริบตัวเสี่ยวไป๋ไปจากเขา เพราะการที่ทำแบบนี้ มันชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่สามารถอัญเชิญเสี่ยวไป๋ออกไปได้อีก!
เมื่อไหร่ที่ผู้ส่งสารแห่งสวรรค์พลังกลับคืนสู่ระดับตำนานอีกครั้ง ข้าจะปลดแบนให้
เธอชิงพูดก่อนที่เซียวเฟิงจะได้แย้งอะไรด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง จากนั้นก็เดินกลับไปยังประตูมิติที่ตนออกมา ทันทีทันใดร่างของเธอก็หายไปจากจุดนี้ราวกับกลุ่มแสง ท่าทีที่ดูยิ่งใหญ่กว่าทุกสรรพสิ่งนั้นไม่เคยหย่อนคลายลงเลย และมันทำให้เซียวเฟิงไม่มีโอกาสที่จะได้พูดอะไรจริง ๆ
สีหน้าของเซียวเฟิงค่อนข้างอมทุกข์ในตอนนี้ ถึงจะรู้ว่าเทพธิดาแห่งแสงลงโทษเขาแรงเกินไป แต่ก็ไม่สามารถต่อต้านเธอได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น
หันมองไปยังเสี่ยวไป๋ที่กำลังงุนงง เซียวเฟิงก็ยื่นมือไปลูบหัวเธอเบา ๆ และทำจิตใจให้ผ่อนคลาย
เสี่ยวไป๋สามารถรับค่าประสบการณ์จากเขาได้พร้อมทั้งใช้พลังของบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เพิ่งพลังของตน เพราะงั้นเซียวเฟิงจึงไม่ต้องฝึกฝนอะไรเธอมากนัก ถึงแม้ว่าจะโดนริดรอนสิทธิ์การใช้มิติสัตว์เลี้ยงก็จริง แต่เมื่อไหร่ที่เธอกลับไปสู่ระดับตำนานได้ เธอก็จะเป็นอิสระได้อีกครั้ง ยังไงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรนักสำหรับเขาอยู่แล้ว
หลังจากที่เล่นกับเสี่ยวไป๋เสร็จไปซักพัก รวมถึงรอให้เธอกลับไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เซียวเฟิงก็ไปหาซื้อยาหายากติดไม้ติดมือไปด้วย ไหน ๆ ก็เป็นทางผ่านแล้ว
เดี๋ยวก่อนพี่เซียว ฉันมีอะไรมาให้
ขณะที่เซียวเฟิงกำลังจะจากไปหลังจากที่ส่งโพชั่นให้เฉียนโตวโตวไปแล้ว เธอก็หยุดเขาไว้ก่อน
มีอะไรเหรอ? เขาถามด้วยความสงสัย
พวกเขาอยู่กันที่อาคารหลักของร้านค้ามหาสมบัติในเมืองเทียนหลง ที่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวามาก ๆ ยกเว้นที่ชั้น 4 ที่พวกเขากำลังยืนอยู่นี้ นั่นเพราะมันเป็นเขตหวงห้าม ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ คนงานบนชั้นนี้ก็มีแต่ผู้เล่นหญิงที่เป็นคนของร้านค้าแห่งนี้เท่านั้น
สาขาย่อยของร้านค้ามหาสมบัติถูกกระจายไปเปิดกว่า 10 เมืองหลัก ๆ ด้วยจำนวนขนาดนี้ เฉียนโตวโตวไม่สามารถควบคุมมันด้วยตัวเองได้แน่ ๆ ดังนั้นเธอจึงจ้าง NPC ที่มีสถานะค่อนข้างดีในด้านการสืบหาข้อมูลของสิ่งที่นำมาเข้าสู่ระบบการค้าเทียบเท่ามนุษย์มาช่วยดูแลแทน แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าที่ร้านจะมีแต่ NPC เท่านั้น เฉียนโตวโตวจัดให้มีผู้เล่นจริง ๆ ช่วยประจำสาขาแต่ละสาขาด้วย อย่างน้อยสาขาละ 1 คน เพื่อให้เป็นเจ้าภาพในการประมูลประจำสาขารวมถึงช่วยบันทึกข้อมูลสินค้าต่าง ๆ ภายในร้าน
ข้อมูลสินค้าในแต่ละสาขานั้นไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะยังไงซะร้านค้ามหาสมบัติก็เป็นหอการค้าจำลองหาใช่ธนาคารที่รับแต่เงินไม่ ดังนั้นมันจึงมีข้อมูลความต้องการของผู้เล่นมากมายที่แต่ละเมืองจะมีไม่ซ้ำกัน ไหนจะยังต้องส่งอุปกรณ์ชั้นยอดกลับมายังสาขาหลักเพื่อประมูลด้วย หรือบางครั้งสาขาหลักก็ต้องดูว่าสาขาย่อยไหนขาดของทำเงินบ้างก็จะส่งกลับไปให้เพื่อรักษายอดขายเอาไว้…
ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์และอาวุธของนักรบโล่นั้นขายไม่ค่อยออกในบางเมือง มีผู้ที่เข้ามาหาสินค้าเหล่านี้เป็นจำนวนน้อย อนึ่งก็เพราะราคามันสูง เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้จัดการสาขานั้น ๆ ก็จะต้องส่งข้อมูลกลับมายังสาขาหลัก และส่งต่ออุปกรณ์เหล่านั้นไปยังเมืองเซิงสุ่ย เมืองเทียนหลง หรือเมืองที่มีผู้ที่ต้องการมันแทน ทั้งนี้จะผิดกันกับเมืองที่มีผู้คนที่นิยมลงดันเจี้ยนมารวมตัวกันเยอะ ๆ เมืองพวกนี้ความต้องการอุปกรณ์ระดับสูงจะมีมาก พวกของทั่ว ๆ ไปก็จะขายไม่ออกแทน ข้อมูลเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้จัดการสาขาจะต้องดูแลและคอยส่งให้สาขาหลักเรื่อย ๆ
เซียวเฟิงไม่ค่อยเข้ามายุ่งกับสถานที่ทำงานของเฉียนโตวโตวมาก่อน เพราะงั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่าที่แห่งนี้มีผู้เล่นกี่คนที่เธอจ้างเอาไว้ จากการที่สังเกตเหล่าพนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้ว เขาคาดการณ์ไว้ว่าที่นี่น่าจะมีผู้เล่นราว ๆ 20 คน ผู้เล่นเหล่านี้มีทั้งสุขุม ขยันขันแข็ง และอีกหลาย ๆ คนก็ยังเป็นผู้เล่นที่หน้าตาสวยมาก ๆ อีกด้วย
โดยทั่วไปแล้ว อาคารพาณิชย์เหล่านี้ หากผู้เล่นซื้อจากเกมแล้ว กรรมสิทธิ์ในการจัดการก็จะเป็นของผู้เล่นคนนั้นไปด้วย ดังนั้นแล้วผู้ซื้อจะสามารถจัดแจงได้ว่าจะเปิดให้ชั้นไหนเป็นสาธารณะ และชั้นไหนเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่น สาขาหลักของร้านค้ามหาสมบัติแห่งนี้ ชั้น 1 และชั้น 2 ถูกตั้งให้เป็นส่วนจัดแสดงโดยมีชั้น 1 เป็นหน้าร้าน เพราะงั้นแล้วผู้เล่นทั่วไปจะสามารถเข้าชมชั้น 1 และชั้น 2 ได้ ในขณะที่ชั้น 3 เป็นส่วนของสถานที่ประมูล จะมีเพียงผู้เล่นที่มีตั๋วเท่านั้นถึงจะเข้ามาในส่วนนี้ได้
ชั้น 4 ถูกตั้งให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว จะมีเพียงผู้เล่นที่กำหนดเอาไว้แล้วเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาได้ นอกจากเฉียนโตวโตวและพนักงานของเธอแล้ว ก็มีแต่เซียวเฟิงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าออกอย่างอิสระในชั้น 4 นี้ แม้แต่ซางกวน อาโอเชิน หรือสองพี่น้องนิโคลัสก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซียวเฟิงเข้ามายังชั้น 4 ของอาคารหลังนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามซ่อนตัวตนของตัวเองทุกครั้งที่เข้ามา แต่เพราะเขาเป็นคนนอกเพียงคนเดียว รวมถึงเป็นผู้เล่นผู้ชายท่ามกลางสาว ๆ ด้วย ดังนั้นชายหนุ่มจึงกลายเป็นจุดสนใจของเหล่าผู้เล่นหญิงที่ทำงานอยู่ที่นี่ไปโดยปริยาย
แม้จะไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก แต่เซียวเฟิงกลับได้ยินเธอเหล่านี้นำเขาไปเป็นหัวข้อสนทนาอยู่หลายครั้งหลายครา ดูท่าเขาจะกลายเป็นที่สนใจของพวกเธอขึ้นมาจริง ๆ
ดูนั่นสิ ชายปริศนาคนนั้นมาอีกแล้ว
เขาไม่ใช่พนักงานแบบพวกเราใช่ไหม? ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย
นั่นสิ เขาเป็นใครกันนะ? ไม่มีชื่ออยู่ที่หัวด้วย แล้วก็ไม่ใช่พนักงานแบบพวกเรา เขาเข้ามาที่ชั้น 4 นี้ได้ตามใจชอบได้ยังไงกัน? ฉันว่าฉันเห็นเขาบ่อยแล้วนะ
จะว่าไปเขาก็ดูสนิทกับหัวหน้าพวกเราอยู่เหมือนกันนะ แถมเธอยังดูดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นเขาด้วย
ใครบางคนกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ พวกเธอเหล่านี้กำลังอยากรู้อยากเห็นถึงตัวตนของเซียวเฟิงมาก ๆ และหัวหน้าที่พวกเธอพูดถึงก็หมายถึงเฉียนโตวโตวนั่นแหละ
ชู่ววววว เบาเสียงหน่อย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญลึกลับน่ะ! ผู้เล่นหญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเอ่ยเตือนขึ้น เธอคนนี้คือคนที่เคยส่งแหวนความเร็วให้เซียวเฟิงเมื่อตอนที่เขาเป็นผู้ซื้อมันไปจากการประมูลครั้งแรกของร้านค้ามหาสมบัติแห่งนี้
ผู้เชี่ยวชาญลึกลับ? ฉูซิน เธอรู้จักเขาเหรอ? ได้ยินเช่นนั้น ผู้เล่นหญิงคนอื่นก็รีบเข้าไปล้อมรอบเธอทันที
ฉันก็ไม่กล้าพูดถึงตัวตนของเขามากนักหรอก แต่ฉันกล้าบอกเธอได้เลยนะว่าเขาคนนี้มีอำนาจมาก ๆ! พวกเธอก็รู้นี่ว่าห้องที่ 1 ของโถงประมูลในอาคารสาขาหลักน่ะ ไม่เคยขายตั๋วให้ใครเลยนะ ห้องนั้นถูกเก็บไว้ให้เขาโดยเฉพาะ นอกจากนี้โทเคนกิลด์ชิ้นแรกของเกมที่กลายเป็นข่าวไปทั่วทั้งเขตน่ะ คนคนนั้นคือคนหามันมาแล้วนำมันมาประมูลกับร้านค้ามหาสมบัติของเราเลยนะ!
หา? เขาคือคนที่เป็นเจ้าของห้องหมายเลข 1 ที่ลึกลับสุด ๆ ห้องนั้นน่ะเหรอ?
โทเคนกิลด์! ที่ถูกขายออกไปในราคาพันล้านน่ะนะ!?
จริงสิ ตอนนั้นฉันเคยได้ยินมาว่ายาหายากที่อยู่ในร้านของพวกเราน่ะ ก็ได้มาจากเขาด้วยนะ!!
ว้าว! แม้แต่ยาหายากพวกนั้นยังมาจากเขางั้นเหรอ เธอรู้ไหมว่ามีผู้เล่นหลายคนที่พยายามติดสินบนฉันเพื่อหวังจะขอซื้อยาพวกนั้นในปริมาณมากเลยนะ!
พวกฉันเองก็เคยโดน! ชายลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่? ฉูซิน บอกพวกเราหน่อยนะ ได้โปรด!
ไม่! ฉันบอกพวกเธอไม่ได้จริง ๆ! ไม่งั้นหัวหน้าได้ไล่ฉันออกแน่!
…
กลุ่มของพนักงานที่เป็นผู้เล่นหญิงนั้นเดินไปเดินมาพร้อมกับพูดถึงเรื่องชายลึกลับคนนั้นไปด้วย มันย่อมเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เฉียนโตวโตวจะได้ยิน
นี่พวกเธอเอาเวลางานมาพูดเรื่องอะไรกันน่ะ หา! เฉียนโตวโตวเอ็ดสาว ๆ เหล่านั้นด้วยสีหน้าจริงจังทันที แต่อันที่จริง ท่ามกลางสาว ๆ เหล่านี้ เธอน่าจะเป็นคนที่เด็กสุดแล้ว แต่ที่ทุกคนต่างเกรงกลัวก็เพราะว่าเธอมีศักดิ์เป็นหัวหน้านั่นแหละ
ไปเร็ว หัวหน้าโมโหแล้ว! ขืนมีเรื่องขึ้นมาล่ะยุ่งแน่! สาว ๆ เหล่านั้นรีบพากันวิ่งออกไปทันทีเมื่อโดนดุ
พี่เซียว ดูเหมือนพี่จะลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้พี่มาขออะไรไว้
เฉียนโตวโตวส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะส่งของบางอย่างให้เซียวเฟิงไป
เอ๊ะ? อุปกรณ์ระดับทองเหรอ? ฉันลืมไปเลยแฮะ
สิ่งที่เซียวเฟิงได้รับมาจากเฉียนโตวโตวมี 3 อย่าง และ 2 ใน 3 ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ระดับทองเลเวล 20 ประกอบไปด้วยเกราะโครงกระดูกทอง กับแหวนราชาโครงกระดูก ของทั้งสองชิ้นนี้ดร็อปมาพร้อมกับต่างหูระดับเทพเจ้า ‘วัฏจักรชีวิต’ ที่เซียวเฟิงเคยได้มาจากการฆ่าราชาโครงกระดูกทอง แต่เพราะเมื่อตอนนั้นเลเวลของเซียวเฟิงยังไม่ถึงระดับที่จะใช้มันได้ เพราะงั้นเขาจึงส่งมันให้กับเฉียนโตวโตว นี่ถ้าหากเธอไม่เตือน ชายหนุ่มก็คงลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตัวเองเลเวล 20 แล้ว ดังนั้นตัวเขาสามารถนำมันกลับมาใช้ได้สักที…
เกราะโครงกระดูกทองคำนั้นเป็นชุดเกราะแบบเต็มตัวที่มีทั้งชิ้นส่วนท่อนบนและท่อนล่างมาแล้วในเซ็ต ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกราะหนัก แต่ความสามารถของมันก็เหนือกว่าชุดเกราะโครงกระดูกกับเกราะขาโครงกระดูกรวมกันเสียอีก ด้วยความสามารถของสกิล ‘วงแหวนแห่งความอ่อนแอ’ มันทำให้ศัตรูรอบตัวถูกลดพลังป้องกันลง 10% นี่จึงเป็นอะไรที่วิเศษมาก ๆ เซียวเฟิงไม่รอช้าที่จะสวมใส่มันและนำเอาเกราะโครงกระดูกกับเกราะขาโครงกระดูกที่เพิ่งถอดออกมาส่งให้เฉียนโตวโตวไปแทน
แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคงจะไม่พ้นแหวนราชาโครงกระดูกที่เป็นแหวนระดับทองวงนี้! นั่นเพราะแหวนวงนี้เป็นสิ่งหายาก ไหนจะเหมาะสมกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเซียวเฟิงตอนนี้ด้วย! เขาจึงไม่รอช้าที่จะเปิดหน้าต่างมาตรวจสอบคุณสมบัติของมันทันที
แหวนราชาโครงกระดูก
ระดับ : ทองคำ
ประเภทของอุปกรณ์ : แหวน
เลเวลอุปกรณ์ : 20
ข้อจำกัดการใช้ : ไม่มี
สกิล :
ออร่าแห่งความคลั่ง : พันธมิตรที่อยู่รอบข้างได้รับอัตราการฟื้นฟูเลือด 1 แต้ม / วินาที
ออร่าแห่งการสั่งการ : พันธมิตรที่อยู่รอบข้างได้รับอัตราการฟื้นฟูมานา 1 แต้ม / วินาที
ออร่าแห่งอันเดด : พันธมิตรที่อยู่รอบข้างได้รับพลังป้องกันเพิ่ม 10 หน่วย
เซียวเฟิงถึงกับตะลึง เพราะความสามารถของแหวนวงนี้มันทรงพลังเกินตัวมาก ๆ แถมมันยังมีมาตั้ง 3 สกิล! แม้ว่าสกิลทั้งหมดจะหนักไปทางเสริมสมรรถภาพ แต่ก็นับว่าเป็นสกิลที่น่ากลัว ยิ่งในช่วงที่เกมยังอยู่ในช่วงต้นเช่นนี้ มันสามารถช่วยยื้อชีวิตได้มากเลยทีเดียว!
อันดับแรก ถึงมันจะช่วยเพิ่มอัตราในการฟื้นฟูเลือดและมานาวินาทีละ 1 แต้มก็จริง แต่ภายใน 1 นาที ทั้งมานาและเลือดก็จะฟื้นมาถึง 60 หน่วย! ซึ่งมันเทียบเท่า 15% ของเลือดทั้งหมดที่เซียวเฟิงมีเลย! (หากมีเลือดไม่เกิน 400 หน่วย) แล้วคิดดูว่าผู้เล่นธรรมดาทั่วไปมันจะมากขนาดไหน พวกเขาบางคนอาจจะได้เลือดกลับมาเต็มหลอดเลยก็ได้! เพราะงั้นพลังในการฟื้นฟูของมันน่ะ นับว่าวิเศษมาก ๆ
ในส่วนของพวกออร่าที่สามารถเพิ่มพลังป้องกันได้ ปริมาณ 10 หน่วยที่เพิ่มขึ้นมานั้นถึงจะดูน้อยนิด แต่สำหรับคนทั่ว ๆ ไปแล้ว ช่วงเวลาปัจจุบันก็น่าจะมีแต้มพลังป้องกันกันหลายสิบเป็นทุน ดังนั้นหากได้เพิ่มมาอีก 10 ก็ถือว่าไม่น้อยเลย!
บางทีหากเป็นหลังจากนี้ เมื่อค่าเฉลี่ยพื้นฐานเลเวลของผู้เล่นมีการเปลี่ยนแปลง ผลของออร่าเหล่านี้อาจจะไม่น่าประทับใจอย่างเดิมแล้วก็ได้ แต่ยังไงซะของพวกนี้ก็แค่อุปกรณ์เลเวล 20 เพียงให้รอดจากช่วงนี้ไปได้ก็ถือว่ามีค่ามากหากอยู่ในปาร์ตี้!
เซียวเฟิงพึงพอใจสุด ๆ เขาสวมแหวนราชาโครงกระดูกลงไป หัวกระโหลกทองคำที่อยู่บนแหวนนั้นดูดีไม่ใช่น้อย จากนั้นเซียวเฟิงก็หันไปตรวจสอบของอย่างที่ 3 ที่เฉียนโตวโตวส่งมาให้ต่อทันที
พวกนี้มัน… หินอวกาศเหรอ?
เขาค่อนข้างคุ้นเคยกับหินเหล่านี้มาก ๆ นั่นเพราะตัวเองเป็นคนส่งหินพวกนี้ให้เฉียนโตวโตวเก็บไว้ตอนจัดกระเป๋า เซียวเฟิงได้พวกมันมาจากก้นทะเลสาปมู่กวาง มันมีทั้งหมด 128 ชิ้น ซึ่งขุดมันออกมาได้จากแผ่นหินที่ใช้สำหรับวาร์ปอีกทีหนึ่ง ในตอนนี้เขาก็ยังมีแผ่นหินพวกนั้นอยู่ในกระเป๋าอยู่เลย เพราะงั้นชายหนุ่มจึงเตรียมจะส่งของเหล่านี้กลับไปให้เฉียนโตวโตวดังเดิม
ไม่ใช่ว่าพี่เซียวให้ฉันตรวจสอบวิธีใช้งานวัสดุชิ้นนี้ให้เหรอคะ? เฉียนโตวโตวพูดขึ้น
อืม… แล้วเธอไปตรวจสอบมาแล้วหรือยัง? เซียวเฟิงรีบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เรียบร้อยแล้วค่ะ สิ่งเหล่านี้เป็นวัตถุดิบระดับสูง หนึ่งในพนักงานของฉันบังเอิญไปพบว่ามันสามารถใช้เคลียร์ภารกิจรายวันของเธอได้ ดังนั้นมันมีค่ามาก ฉันเลยไม่อยากจะขายมัน บางทีฉันว่ามันอาจจะมีประโยชน์กับพี่ก็ได้นะ เธอมองหินอวกาศทั้งหลายในมือของเซียวเฟิงอย่างไม่เต็มใจที่จะได้มันคืนนัก
แล้วฉันใช้มันยังไงได้บ้าง? เซียวเฟิงถามอีกครั้ง เขาคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับการวาร์ปไปยังที่ต่าง ๆ แน่ ๆ เพราะในเมื่อแผ่นหินสามารถทำให้เขาวาร์ปกลับมายังเมืองได้ มันเองก็น่าจะเช่นกัน
วิธีที่เบสิคที่สุดที่เขาใช้กันก็คือขยายช่องเก็บของในกระเป๋ากับ NPC ในคลังค่ะ หินจักรวาล 1 ก้อนสามารถขยายช่องว่างได้ 10 ช่อง แต่ถ้าจะใช้มันในทางนี้ก็ค่อนข้างเสียของระดับหนึ่งเลย มันควรจะต้องมีอะไรที่ใช้แล้วคุ้มค่ากว่านี้แน่ ๆ! เฉียนโตวโตวพูดขึ้นอย่างจริงจัง
อะไรละนั่น? เซียวเฟิงจำได้ว่าเมื่อครั้งที่ตัวเองขยายกระเป๋าเป็น 100 ช่อง หัวหน้า NPC บอกเขาไว้ว่าเขาจะสามารถขยายช่องเก็บของเพิ่มได้อีกหากมีหินอวกาศ แต่เพราะตอนนั้นชายหนุ่มไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะคิดว่าแค่ 100 ช่องก็เพียงพอ แต่ในตอนนี้ เขามีหินอวกาศถึง 128 ก้อน ดังนั้นเซียวเฟิงจะสามารถขยายกระเป๋าเพิ่มขึ้นได้อีกเป็น 1,000 ช่องเลยทีเดียว!
จริง ๆ หินอวกาศเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างหอเคลื่อนย้าย ซึ่งแทบจะทุกกิลด์ต่างก็อยากจะมีหอเคลื่อนย้ายไว้ในแคมป์ของตัวเองกันทั้งนั้น แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีซักกิลด์เลยที่มีหินอวกาศ ไม่มีแม้แต่ก้อนเดียวเลยด้วย!
ทันใดนั้นเอง เซียวเฟิงก็เหมือนจะคิดอะไรออกได้บางอย่าง เขาหันมองเฉียนโตวโตวและตระหนักได้แล้วว่าเธออยากจะสื่ออะไร