บทที่ 267 สิ่งแปลก
หลังจากบรรยากาศรอบ ๆ เงียบไปครู่หนึ่ง เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง จิตวิญญาณแห่งนักสู้ของเหล่ามิดซัมเมอร์ไม่ได้มอดดับลงไปสักนิดเดียวเลย แถมมันยังพุ่งสูงขึ้นมากกว่าเดิมเฉกเช่นเสียงกู่ร้องที่ก้องดังดั่งสายฟ้าฟาดอีก
ในทางกลับกัน เหล่าผู้เล่นของกิลด์กลอรี่กลับเป็นฝ่ายที่กำลังขวัญหนีดีฝ่อลงไปเรื่อย ๆ แทน พวกเขาเพิ่งจะโดนมิดซัมเมอร์ถล่มเละไปเมื่อครู่ แต่นี่มิดซัมเมอร์กลับเลือกที่จะถล่มพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกจนไฟที่จะสู้มันไม่เหลือแล้ว!
เซียวเฟิงส่ายหน้าเบา ๆ หลังจากได้สติกลับมา เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลิวเฉียวเหว่ยจะเป็นผู้หญิงที่โหดร้ายขนาดนี้ ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ นั่นก็หมายความว่ากิลด์กลอรี่นั้นถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะมิดซัมเมอร์คงจะทำซ้ำ ๆ แบบนี้จนกระทั่งกิลด์กลอรี่ถูกกำจัดจนไม่เหลืออย่างแน่นอน…
แต่ก็อาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ยังไงเสียกิลด์กลอรี่ก็เป็นกิลด์ที่ทรงพลังมาก่อน จะต้องมีอะไรซ่อนไว้เบื้องหลังที่คนอื่น ๆ ยังไม่รู้เผื่อเป็นไพ่ตายสุดท้ายแน่ ๆ
ไม่เพียงแต่เซียวเฟิงเท่านั้นที่คิดเช่นนี้ เพราะกิลด์อื่น ๆ อีกทั่วทั้งฮัวเซียต่างก็คิดเช่นเดียวกันและคอยจับตามองกิลด์วอร์ครั้งนี้กันหมด กระนั้น ลึก ๆ แล้วพวกเขาก็แอบชื่นชมในความกล้าและวิธีการอันดิบเถื่อนนี้ของมิดซัมเมอร์กันอยู่ในใจ กลายเป็นกิลด์ที่ร้ายกาจขึ้นมาเสียแล้ว ด้วยการบุกทะลวงที่จะไม่หยุดจนกว่าจะไม่มีใครกล้าแข็งข้ออีกนั้นมันทำให้แม้แต่กิลด์ที่มีประวัติมายาวนานยังต้องหวาดกลัว
การรวมตัวของผู้คนในแต่ละกิลด์นั้น ต่างก็เพื่อผลประโยชน์อะไรบางอย่าง ทว่าในส่วนของมิดซัมเมอร์ ผู้คนที่เข้ามารวมกันเป็นกิลด์นั้นกลับกลายเป็นเหล่าผู้ที่ต้องการต่อสู้เพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศของกิลด์โดยไม่สนว่าจะได้รับผลประโยชน์หรือเสียอะไรไปบ้าง!
ก่อนหน้านี้ การต่อสู้แบบนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นกันนัก นั่นเพราะการทำสงครามแต่ละครั้ง นั่นหมายถึงการลงทุน หากไม่ใช่ว่ามีปัญหากับเรื่องผลประโยชน์ของพวกตนแล้ว เหล่าผู้มีอำนาจสูง ๆ ที่คอยสนับสนุนกิลด์ใหญ่ ๆ ทั้งหลายก็ไม่เห็นด้วยกับการก่อสงครามแต่ละครั้งหรอก
และเมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้นแล้ว มันจะจบลงก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ไม่มีใครอยากจะต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายและแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าพวกตนตั้งตนเป็นศัตรูขนาดไหน เพราะถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำทุกวิถีทางเพื่อต้อนให้อีกฝ่ายหนึ่งจนมุม ฝ่ายที่จนมุมก็จะต้องงัดทุกอย่างมาสู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี้ถือเป็นการลงทุนที่เกินความจำเป็น ในท้ายสุดมันจะกลายเป็นดาบสองคมที่หันมาทิ่มแทงทั้งสองฝ่ายไปพร้อม ๆ กันแทน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มิดซัมเมอร์ได้ทำมันลงไปแล้ว พวกเธอเหล่านี้ก่อสงครามที่บีบให้กิดล์กลอรี่ไม่เหลือทางหนีทีไล่ หรือต่อให้กิลด์กลอรี่จะเป็นฝ่ายเปิดฉากระรานมิดซัมเมอร์ก่อน วิธีโต้ตอบที่บ้าระห่ำของมิดซัมเมอร์ก็ยังต้องทำให้หลายกิลด์รู้สึกหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน แต่ในความหวาดกลัวนั้น พวกเขาก็ยังแอบประทับใจกับมิดซัมเมอร์กันอยู่ลึก ๆ และถือว่ามิดซัมเมอร์นั้นน่ากลัว พวกเขาไม่ควรจะเป็นศัตรูด้วยเป็นอันขาด ไม่งั้นแล้วคงจะต้องเจอกับการล้างแค้นอันบ้าระห่ำเช่นนี้เหมือนกันแน่
ยิ่งกว่านั้น กิลด์ที่เพิ่งจะโดนมิดซัมเมอร์ถล่มเละไปนั้นคือกิลด์กลอรี่! กิลด์ที่เป็นถึงผู้คุมดินแดนฟากใต้ทั้งหมด! แถมกิลด์นี้ยังมีสมาชิกกิลด์มากกว่ามิดซัมเมอร์อีกเป็นเท่าตัว…
แบบนี้หมายถึงมิดซัมเมอร์มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะถล่มกิลด์กลอรี่ได้ และถล่มได้แบบราบคาบเลยด้วย เมื่อปลายทางออกมาเช่นนี้ ผลลัพธ์ก็ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จารึกหน้าประวัติศาสตร์มิธว่า กิลด์กลอรี่ถูกโค่นลงแล้ว
[ผู้เล่นในเขตทุกท่านโปรดทราบ! กิลด์วอร์ได้จบลงแล้ว! กิลด์กลอรี่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามและได้รับการลงโทษเป็นการลดเลเวลกิลด์ 1 เลเวล! ด้วยการที่เลเวลกิลด์กลอรี่น้อยกว่า 1 แล้ว ดังนั้นกิลด์กลอรี่จึงถูกบังคับให้โดนเพิกถอน! กิลด์มิดซัมเมอร์เป็นผู้ชนะสงครามและได้รับค่าประสบการณ์กิลด์เป็นของรางวัล!]
ผลลัพธ์ของสงครามในครั้งที่ 2 นี้ไม่ต้องสงสัยเลย มันจบเร็วกว่า 2 ชั่วโมงเสียอีก แคมป์ของกิลด์กลอรี่นั้นถูกมิดซัมเมอร์ถล่มจนย่อยยับอีกครั้ง ก่อนจะถูกระบบทำลายทิ้งหลังสิ้นเสียงประกาศ สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่หลงเหลือมลายหายไปในพริบตาราวกับไม่เคยมีอะไรอยู่เลย
สมาชิกในกิลด์กลอรี่ทุกคนต่างหดหู่และหมดหวัง หลาย ๆ คนหยิบเอาใบวาร์ปขึ้นมาใช้งานและจากไปทันที ส่วนผู้นำกิลด์นั้นยังคงไม่โผล่มากล่าวอะไรกับพวกเขา เพราะตัวเขาเองก็ต้องสูญเสียอย่างหนักเหมือนกัน
เมื่อเหตุการณ์มันจบลงด้วยชัยชนะแบบขาดลอยเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้เล่นของมิดซัมเมอร์ถึงได้ตื่นเต้นกันนัก ภายในอาณาจักรของเอลฟ์แห่งนี้ เซียวเฟิงยังแอบเห็นเหล่าผู้เล่นจากกิลด์ใหญ่ ๆ อีกมากมายที่มารับชมกิลด์วอร์ในครั้งนี้อยู่เงียบ ๆ ด้วย
แล้วก็… เขายังได้เห็นบราเธอร์ไนน์ออฟกลอรี่เดินออกมาจากฝูงชนโดยที่บนหัวเขาไม่มีชื่อของกิลด์ปรากฏอยู่อีกแล้ว รอบ ๆ ตัวของอีกฝ่ายตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและเยือกเย็นปกคลุมไปหมด
เซียวเฟิงหันมองเขาอยู่หลายครั้ง แต่เพียงไม่นานร่างนั้นก็เดินปลีกหายไป กำลังรบของมิดซัมเมอร์นั้นสูงเกินไปแล้ว แม้แต่ดูมส์เดย์ลีกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเธออีกต่อไป เพราะงั้นเซียวเฟิงเองก็จะขอเป็นแค่คนดูห่าง ๆ ด้วยอีกคน
หลังจากสงครามจบลง ภายในฟอรั่มกิลด์ของเขตฮัวเซียอึกทึกครึกโครมทันที!
หัวข้อสนทนาหลัก ๆ นั้นมีอยู่สองเรื่องคือ เรื่องที่กิลด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฟากใต้อย่างกลอรี่ถูกโค่นลงโดยสมบูรณ์แล้ว กับอีกเรื่องหนึ่งคือความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของกิลด์มิดซัมเมอร์
ไม่มีใครสงสัยว่าทำไมมิดซัมเมอร์ถึงกลับมาแข็งแกร่งได้ระดับนี้ กิลด์มิดซัมเมอร์คืนชีพกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ และกลับเข้าสู่ยุคแห่งความรุ่งเรืองแล้ว
กิลด์วอร์ระหว่างมิดซัมเมอร์และกลอรี่เกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในขณะที่ทุก ๆ ครั้งมิดซัมเมอร์เป็นฝ่ายชนะและกลอรี่เป็นฝ่ายที่ต้องสูญเสียทรัพยากรณ์ไปอย่างมากมายจนไม่สามารถเทียบชั้นกับมิดซัมเมอร์ได้อีกต่อไป…
เหล่ากิลด์เก่าแก่ชื่อดังในอุตสาหกรรมเกมต่างมองคำว่า ‘มิดซัมเมอร์’ กันอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้พวกเขากำลังรู้สึกว่ามีภูเขาลูกใหญ่ตระหง่านขึ้นมาท่ามกลางอกแล้ว และภูเขาลูกนี้กำลังกดพวกเขาให้ค่อย ๆ จมลงไปในโคลนอยู่
ในโลกแห่งความจริง คฤหาสน์ทางฟากใต้ชายฝั่งทะเลของเมือง ประตูบานหรูถูกเปิดออกจากด้านในอย่างรุนแรงพร้อมกับชายหนุ่มผู้หนึ่งซึ่งมีชื่อในเกมว่า บราเธอร์ไนน์ออฟกลอรี่ และชื่อจริงคือ ซูเจี่ยว เดินออกมาจากห้องที่เป็นห้องเล่นเกมของเขาด้วยสีหน้าทุกข์ใจ
ซูเจี่ยวเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นกดโทรหาเบอร์หนึ่งโดยไว
พรินซ์ ให้โอกาสกิลด์กลอรี่อีกครั้งเถอะนะ! ตราบใดก็ตามที่นายช่วยฉันโจมตีมิดซัมเมอร์อีกครั้ง กลอรี่จะต้องกลับมาอยู่เหนือทุกกิดล์อีกครั้งแน่ ๆ! แล้วถ้ากลับมาได้แล้วล่ะก็ ฉันจะจัดการกิลด์อื่น ๆ ทางฟากใต้ให้นายเอง!
ปลายสายนั้นถูกรับอย่างรวดเร็ว มันไม่ยากเท่าไหร่ที่จะเดา ซูเจี่ยวกำลังโทรหาคราวน์ปรินซ์!
ทว่าสีหน้าของซูเจี่ยวก็ต้องมืดหม่นมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากได้ยินคำพูดของคราวน์ปรินซ์ ท้ายที่สุดเขาก็วางสายไปด้วยความโกรธ และด้วยความโกรธนี้เอง ซูเจี่ยวถึงกับเขวี้ยงโทรศัพท์ลงไปบนพื้นจนมันแตกกระจาย
ซูเจี่ยวในตอนนี้แทบไม่เหลืออะไรแล้ว ใบหน้าที่มืดมนสุด ๆ นั้นได้แต่มองไปยังทิศใต้ด้วยความเยือกเย็น
กลุ่มชิงหลงของพวกเราไม่เคยต้องพ่ายแพ้แบบนี้มาก่อน! ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ต้องจับมันมาชดใช้ให้พรินซ์ให้ได้!
เซียวเฟิงกลับไปยังมหาสุสานใต้พิภพแล้ว และเขากำลังมุ่งหน้าตรงไปยังชั้นที่ 3 ของปราสาทใต้พิภพเพื่อจัดการมอนสเตอร์ และดูว่าผู้พิทักษ์ที่อยู่ชั้น 3 นี้จะจัดการได้ง่าย ๆ หรือเปล่า แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาตั้งใจจะอัปเลเวลให้ได้ก่อน
ตอนนี้เซียวเฟิงเลเวล 29 แล้ว ถ้าชายหนุ่มสามารถหาค่าประสบการณ์ได้อีกครึ่งหลอด เขาก็จะถึงเลเวล 30 เสียที และด้วยเลเวล 30 นี้เอง เขาก็จะสามารถเลือกทางเดินชีวิตตนเองใหม่ได้อีกครั้ง นั่นเพราะเมื่อผู้เล่นคนใดก็ตามเลเวลถึง 30 ก็จะสามารถเลือกเปลี่ยนคลาสเป็นครั้งที่ 2 ได้ ดังนั้นมันจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งเซียวเฟิงเองก็สนใจเรื่องนี้จึงอยากจะอัปเลเวลตนเองก่อน หากชายหนุ่มได้เป็นคนแรกของเซิร์ฟเวอร์ที่เปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ล่ะก็ เขาจะต้องได้ของรางวัลจากระบบแน่ ๆ
เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ…?
ทว่าเมื่อมาถึงจุดที่น่าจะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ของชั้นที่ 3 เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อที่แห่งนั้นกลับกลายเป็นเพียงลานโล่ง ๆ ที่ไม่มีอะไรอยู่เลย รวมถึงมอนสเตอร์ด้วย
ที่นี่มันอะไรกัน…
เซียวเฟิงเริ่มขมวดคิ้ว ในตอนแรกเขาคิดว่าบางทีมอนสเตอร์ในชั้นที่ 3 นี้อาจจะเป็นมอนสเตอร์ที่สามารถล่องหนได้ทุกตัว ชายหนุ่มจึงลองเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ ก่อน แต่แล้วก็ต้องพบกับความจริงที่ว่า ที่แห่งนี้ไม่มีมอนสเตอร์อยู่จริง ๆ!
ชั้นที่ 3 ของปราสาทใต้พิภพเป็นเพียงพื้นที่โล่งที่ไม่กว้างเท่าชั้นที่ 1 และ 2 ที่แห่งนี้เงียบสงบ และต่อให้เซียวเฟิงไปยืนอยู่กลางชั้นพักใหญ่ ๆ ผู้พิทักษ์ประจำชั้นนี้ก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นมา
ความเครียดเริ่มครอบงำเซียวเฟิงแล้ว เขาเริ่มคิดแล้วว่าที่แห่งนี้เคยมีคนผ่านมาก่อนหรือเปล่า? เป็นไปได้ไหมว่าที่ชั้น 3 นี้จะเคยมีคนเคลียร์มันไปแล้วก่อนหน้านี้?
แม้จะไม่อยากปักใจเชื่อในความคิดนั้นมากนัก แต่มันก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นเซียวเฟิงจึงรีบวิ่งไปยังทางเข้าชั้นที่ 4 ของปราสาทใต้พิภพต่อเพื่อไปชั้นต่อไปอย่างรวดเร็ว
อืม…
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ชั้น 4 นี้ก็ยังทำให้เซียวเฟิงต้องอยู่ในอาการประหลาดใจดังเดิม นั่นเพราะที่แห่งนี้เองก็ว่างเปล่าเช่นกัน มันไม่มีอะไรอยู่เลย
ท่าทีที่สง่าของเซียวเฟิงนั้นชะงักนิ่งขณะที่กำลังตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ที่แห่งนี้จะต้องมีอะไรที่ไม่ปกติเกิดขึ้นแน่ ๆ แต่เพราะมันไม่มีเบาะแสอะไรเลย ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงมองตรงไปเรื่อย ๆ เผื่อว่าจะเจออะไรในระยะสายตาบ้าง
ทว่าหลังจากที่เข้าไปยังชั้น 5 และชั้น 6 อย่างต่อเนื่องแล้ว หรือแม้แต่ชั้น 7 เองก็ยังไม่มีอะไรเช่นกัน ชั้นที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย อย่างกับว่าทั้งมอนสเตอร์ทั้งบอสต่างพากันสลายไปในอากาศอย่างไรอย่างนั้น!
แผนที่มหาสุสานใต้พิภพนั้นค่อนข้างที่จะเล็ก เพราะงั้นในตอนนี้เขาเหลือเพียงชั้นเดียวที่สามารถไปได้แล้ว
ดังนั้นเซียวเฟิงจึงไม่รอช้าที่จะมุ่งหน้าไปยังชั้น 8 ของปราสาทใต้พิภพแห่งนี้ต่อ แต่สิ่งที่เขาเจอกลับเป็นประตูที่ถูกผนึกไว้บริเวณชั้น 7 ประตูที่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ มันถูกผนึกไว้ตั้งแต่ขอบประตูลงมาจนเปิดออกไม่ได้เลย
เซียวเฟิงไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่มหาสุสานใต้พิภพแห่งนี้กันแน่ แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจว่าที่นี่ไม่ปกติแน่ ๆ จริง ๆ แค่เซ็ตไอเทมมังกรปีศาจนี่ก็น่าจะอธิบายได้แล้วว่ามันประหลาด แต่เมื่อครั้งที่เซียวเฟิงเข้ามายังมหาสุสานใต้พิภพแห่งนี้ครั้งแรก เขาก็ได้พบกับเจ้าแห่งลิชที่ควรจะอยู่ในป่ามู่กวางเดินเข้ามาภายในนี้ด้วย
แต่เพราะตอนนี้เข้าไม่สามารถหาเบาะแสเพิ่มได้ เซียวเฟิงจึงไม่สามารถรับรู้ได้ว่าที่แห่งนี้เกิดอะไรขึ้น รวมไปถึงไม่รู้ว่าจะฝ่าประตูที่ถูกผนึกนี้เข้าไปได้ยังไงด้วย เพราะงั้นชายหนุ่มจึงไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากถอยออกจากที่นี่ก่อน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล เซียวเฟิงจึงใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ปัจจุบันแผนที่ที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งเก็บค่าประสบการณ์ได้มากที่สุดคือกองพันซี่โครงในหุบเขากระดูก ที่นั่นมีมอนสเตอร์จำนวนมากให้อารมณ์เหมือนกองทัพอันเดด ด้วยความที่มันมีจำนวนเยอะมาก ค่าประสบการณ์ที่จะได้จึงเยอะมากด้วยเช่นกัน ถ้าเป็นที่นั่นก็น่าจะเพียงพอให้เซียวเฟิงอัปเลเวลได้
เมื่อก่อน เซียวเฟิงไม่มั่นใจนักว่าตนเองจะสู้กับพวกกองพันซี่โครงนี้ได้ นั่นเพราะภายในกลุ่มของพวกมันนี้ มีมอนสเตอร์ที่สามารถโจมตีระยะไกลได้อยู่ด้วย และด้วยการโจมตีระยะไกลนี้ มันสามารถสยบเซียวเฟิงให้ลงไปนอนหมอบกับพื้นได้อย่างง่ายดาย แล้วไหนจะการโจมตีจากพวกมอนสเตอร์ระดับสูงอีก เขาไม่มีทางสู้ได้เลย
แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ด้วยไอเทมชิ้นใหม่อย่าง เกราะไหล่มังกรปีศาจ พลังโจมตีของเซียวเฟิงก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากอีกครั้ง และโดยเฉพาะสกิลเกราะมังกรที่สามารถป้องกันการโจมตีจากด้านหน้าได้ทุกอย่างภายใน 1 นาที เท่านี้ก็เพียงพอจะซื้อเวลาให้เซียวเฟิงสามารถร่ายโฮลี่ไลท์และถ้อยคำแห่งเงาได้อย่างต่อเนื่องแล้ว…
แค่สกิล 4 ชุดมันก็น่าจะทำให้ชายหนุ่มสามารถเคลียร์มอนสเตอร์ทั้งหมดได้ ด้วยผลของการลดคูลดาวน์สกิลรักษา 10% ของคทานักปราชญ์ที่เสียหาย สกิล 4 ชุดใช้เวลา 81 วินาที ในขณะที่โล่มังกรมีระยะเวลา 60 วินาที นั่นหมายถึงชายหนุ่มแค่ต้องต้านไว้ให้ได้ 21 วินาทีเท่านั้น!
คำนวนจากความสามารถในการหลบหลีกและป้องกันของตนเองรวมกับผลการคืนชีพได้ 1 ครั้งของกายาศักดิ์สิทธิ์ รวม ๆ แล้วเขามีโอกาสที่จะทำสำเร็จได้แน่ ๆ มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง!
เมื่อสรุปได้แล้ว เซียวเฟิงก็รีบออกจากมหาสุสานใต้พิภพและมุ่งหน้าตรงไปยังยอดของภูเขากระดูกในทันที โชคดีที่ว่ามอนสเตอร์โครงกระดูกมากมาย ณ ที่แห่งนี้ไม่ได้หายไปด้วย ดังนั้นแล้วด้วยความไม่ลังเล เซียวเฟิงก็รีบหาจุดที่สามารถจัดการมอนสเตอร์จำนวนมากได้ง่าย ๆ เพื่อเริ่มแผนการอย่างไม่รีรอ!
อวยพรชีวิต!
อวยพรป้องกัน!
เวลานี้เขาไม่จำเป็นต้องโจมตี สิ่งที่จำเป็นคือการเอาชีวิตรอดไปให้ได้ เพราะงั้นร่ายบัฟแค่ 2 ชนิดก็เพียงพอ เขามองไปยังกองพันซี่โครงที่มีจำนวนมากจนหลุดระยะสายตา และทันใดนั้นโฮลี่ไลท์กับถ้อยคำแห่งเงาก็แสดงผลใส่มอนสเตอร์เหล่านั้นอย่างพร้อมเพรียงกันทันที!
-322!
-322!
-322!
ในพริบตาเดียว กองพันซี่โครงที่มีสมาชิกโครงกระดูกหนาแน่นก็กลายเป็นเพียงฝุ่นสลายไปตามอากาศและเหลือไว้เพียงพื้นที่ว่างเปล่าเสียแล้ว!
ครืน!
ขณะเดียวกัน เหล่ากองพันซี่โครงจุดอื่นที่เคยเงียบสงบต่างก็ตกอยู่ในความยุ่งเหยิง เสียงอึกทึกครึกโครมดังขึ้นราวกับแผ่นดินไหวกำลังเข้าใกล้เซียวเฟิงเรื่อย ๆ พวกมันกำลังไล่ล่าเขาแล้ว!
ฟิ้ว!
ฟากฟ้าไกลถูกแทนที่ด้วยห่าฝนหอกที่ปามาจากมอนสเตอร์โครงกระดูกมากมายเบื้องล่างรวมถึงนักธนูกระดูกและนักเวทกระดูกที่ทั้งยิงศรและร่ายเวทใส่ด้วย การโจมตีทั้งหมดนั้นเกาะกลุ่มกันมาจนแทบจะมองไม่เห็นท้องฟ้าแล้วในตอนนี้!
เซียวเฟิงหันหลังแล้วสับขาวิ่งอย่างไม่ลังเล เขาเลือกที่จะไม่รีบใช้โล่มังกรก่อน และพยายามอยู่ให้ได้อีก 21 วินาที ขอบเขตการป้องกันของโล่มังกรนั้นไม่ได้กว้างมากพอที่จะรับการโจมตีทั้งหมดได้ ยังไงเสียมันก็ยังเป็นแค่โล่กระดูกอันไม่ใหญ่มาก แม้ว่ามันจะช่วยเขาได้เยอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหวังพึ่งมันได้อย่างเต็มที่
หลังจากที่วิ่งหนีมาได้ครู่หนึ่งแล้ว เซียวเฟิงก็ตัดสินใจหยุดและหันกลับไปยังกลุ่มของมอนสเตอร์มากมายที่วิ่งตามเขามาอยู่ จากนั้นก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาบังอกตนเองไว้
โล่มังกร!
โล่กระดูกมังกรที่วิจิตรงดงามอันหนึ่งปรากฏขึ้นที่แขนซ้ายของเซียวเฟิง และทันทีทันใด มันก็ป้องกันการโจมตีระยะไกลที่พุ่งเข้ามาได้อย่างฉิวเฉียด
ป้องกันได้!
ป้องกันได้!
ป้องกันได้!