Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] – บทที่ 306 ตกอยู่ในความวุ่นวาย

บทที่ 306 ตกอยู่ในความวุ่นวาย

บทที่ 306 ตกอยู่ในความวุ่นวาย
บทที่ 306 ตกอยู่ในความวุ่นวาย

นี่เป็นเวลาเช้าแล้ว เมื่อตอนที่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในฟอรั่ม เนื่องจากตอนนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่เป็นพนักงานบริษัทหรือนักเรียนไม่สามารถเล่นเกมได้ ดังนั้นพวกเขาจึงบรรเทาความอยากเล่นเกมด้วยการเข้าไปนั่งอ่านนู่นอ่านนี่ในฟอรั่มหรือไม่ก็ดูไลฟ์สตรีมเกมแทน

เพราะอย่างนั้นแล้ว วีดีโอที่กำลังเป็นกระแสทั้งสองวีดีโอที่ซึ่งถูกดันขึ้นไปอยู่ด้านบนสุดของฟอรั่ม จึงเต็มไปด้วยคอมเมนต์มากมายล้นหลาม

ในฐานะที่คนดังอันดับ 1 ของเขตฮัวเซียแล้ว เจ้าแห่งฮีลเลอร์จึงพลอยเป็นผู้ที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะด้านไหนก็ตามมากที่สุดในเขตฮัวเซีย ไปโดยปริยาย แต่เพราะตามปกติแล้วชายหนุ่มจะทำตัวติดดิน ไม่เป็นที่โดดเด่น มันจึงทำให้หลาย ๆ คนที่ต้องการจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเซียวเฟิงไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้เลย ดังนั้นเมื่อมีวีดีโอที่เกี่ยวกับเขาปรากฏขึ้นในสื่อ มันจึงกลายเป็นที่นิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็นมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาประดุจน้ำหลากนั้น ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมาก ๆ ที่ตัวตนของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ผู้ลึกลับจะเป็นเช่นนี้ มันทำให้ชายหนุ่มดูเป็นคนที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเพียงไม่นาน จำนวนความคิดเห็นก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

ท่ามกลางความคิดเห็นเหล่านั้นก็ยังมีความคิดเห็นที่วิจารณ์การกระทำของเจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่บ้าง แต่มันน้อยมาก ๆ น้อยเสียจนโดนกลบไปด้วยความคิดเห็นขำขันได้อย่างรวดเร็ว

มีเพียงเหล่ากิลด์ที่เริ่มต้น ณ หมู่บ้านเริ่มต้นหมายเลข 9191 เท่านั้นที่จะรู้ว่า เมื่อก่อนหน้านี้เซียวเฟิงก็เคยผูกขาดการขายดอกไม้แห่งจิตวิญญาณสีขาวในราคาที่แพงลิบลิ่วมาก่อน และกิดล์ที่โชคร้ายเหล่านั้นก็อย่างเช่น วอร์สปิริตฮอลล์ ไฟโลกันตร์ วอร์มบลัด เป็นต้น โดยพวกเขาเหล่านี้ต่างรู้กันดีว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นล่อลวงให้คนอื่นมาติดกับดักที่ไม่ได้แนบเนียนอะไรนี่เลยได้ดีขนาดไหน ดังนั้นพวกเขาจึงกล้าบอกได้เต็มปากเลยว่า คนพวกนี้คงไม่รู้จริง ๆ ว่าหากมามีเรื่องกับเซียวเฟิงแล้ว จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขนาดไหน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อผู้เล่นหลาย ๆ คนเริ่มสังเกตได้ว่า เหตุการณ์ในวีดีโอนั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า พวกเขาที่เสร็จภารกิจเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 หมดแล้วต่างก็รีบเทเลพอร์ตกลับเมืองตนเองเพื่อเทเลพอร์ตมายังเมืองจักรวรรดินี้อย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงผู้เล่นทั่ว ๆ ไป กิลด์บางกิลด์ที่กล้าพอที่จะไม่ฟังคำเตือนต่างก็พากันมุ่งหน้าไปยังแท่นเทเลพอร์ตประจำเมืองจักรวรรดิด้วย เพื่อดูสถานการณ์

ซึ่งทันทีที่พวกเขามาถึง คนเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ทันที

ทัฟเซเบอร์ ผู้เป็นหัวหน้ากิลด์ทัฟแมนอาลิแอนซ์ ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขากำลังทำภารกิจอยู่ในเมืองจักรวรรดิพอดี ครั้นเมื่อเห็นวีดีโอดังกล่าวก็รู้สึกทึ่ง เพราะงั้นจึงรีบไปยังจุดดังกล่าวเพื่อดูด้วยตาตนเอง แต่แล้วไม่ทันได้คิดอะไร เขาก็ตกหลุมพลางของเซียวเฟิงจนได้

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ เดี๋ยวก่อน! เดี๊ยววววววว เราคุยกันได้!”

เหงื่อเย็น ๆ ไหลอาบหน้าทัฟเซเบอร์ เขาพูดอะไรไม่ออกและจำเป็นต้องรีบจับแขนเซียวเฟิงไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะล้มลงไปนอนกับพื้น แล้วถ้าเขาไม่จับเซียวเฟิงไว้แน่นพอล่ะก็ ท้ายสุดเซียวเฟิงก็ได้ลงไปนอนกองกับพื้นอีกแน่

ตอนนี้รอบ ๆ มี NPC ทหารยามเฝ้าจับตามองเต็มไปหมด คนที่ได้ดูวิดีโอเหล่านั้นแล้วอย่างเขารู้ดีว่าตัวเองได้ไปนอนคุกแน่ ๆ ถ้าเซียวเฟิงสามารถล้มลงไปนอนกับพื้นได้สำเร็จ

แม้จะไม่รู้ว่านี่เป็นกับดักหรือเปล่า แต่ตัวเขาเทใจว่าตนเองได้ตกหลุมพรางกับดักแล้วอย่างแน่นอน ขนาดเขาเป็นถึงหัวหน้ากิดล์ และเคยเป็นทหารมาก่อนยังรู้สึกกระวนกระวายได้จนเหงื่อตกขนาดนี้

“จ่ายหินอวกาศมาสามก้อน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม!”

เซียวเฟิงพูดด้วยเสียงเบา ถึงแม้ว่าทัฟแมนอาลิแอนซ์จะเป็นพันธมิตรที่ดีกับวอร์สปิริตฮอลล์ก็จริง แต่เพราะเช่นนี้เขาจึงกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายเพราะความแค้นใจที่เกิดกับคนรู้จักนั้นย่อมชำระได้ง่ายกว่าเป็นไหน ๆ

“เอ่อ…ถ้าสองพอจะได้ไหมครับ?” ทัฟเซเบอร์รู้ชัดแล้วว่าตนเองตกอยู่ในกับดักของเซียวเฟิงแล้ว เพราะงั้นจึงพยายามจะต่อรองเพื่อลดความสูญเสีย ดังนั้นเขาจึงเริ่มขอลดหย่อนกับเซียวเฟิง

“อืม…”

ได้ยินเช่นนั้นน้ำเสียงของเซียวเฟิงก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้ตอบอะไร หากแต่ร่างที่จับอยู่นั้นดูเหมือนจะอ่อนแรง และพร้อมจะล้มลงไปบนพื้นแล้ว ซึ่งมันทำให้ทัฟเซเบอร์แทบจะกรีดร้องออกมาราวกับเจอนรกมาอยู่ตรงหน้า เขารีบพูด

“โอเค ๆ! หินอวกาศสามก้อนก็ได้ครับ!”

“เอามาเลย!”

ความหน้าไม่อายของเซียวเฟิงนี้ทำเอาทัฟเซเบอร์หวาดหวั่นไปหมด เขารีบหันไปบอกให้คนที่อยู่ด้านหลังนำหินอวกาศมาให้ตนก่อนจะส่งมันให้เซียวเฟิงตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว ผู้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ที่นำหินอวกาศออกมาให้นั้นแสดงสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัดขณะมองเห็นการแลกเปลี่ยนอันน่าช้ำใจนี้ เขาเศร้าเหมือนว่าเมื่อครู่ตนเพิ่งจะเผลอกลืนแมลงวันเข้าไปก็มิปาน

“โอเค เป็นการแลกเปลี่ยนด้วยความจริงใจ เดี๋ยวฉันจะคอยดูแลนายในเมืองจักรวรรดินี้เอง”

เซียวเฟิงรีบรับหินอวกาศทั้งสามก้อนนั้นมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เขาสวมชุดแฟชั่นกลับไปดังเดิมแล้วพูดบอกกับอีกฝ่าย

ในที่สุดทัฟเซเบอร์ก็โล่งใจขึ้นมาแล้ว ด้วยสิ่งที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์ให้คำสัญญาไว้นั้น ก็ถือว่าหินอวกาศทั้งสามก้อนไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบอะไรนัก ยังไงเสียเขาคนนี้ก็เป็นผู้ที่อยู่เหนือ NPC หลาย ๆ คนในจักรวรรดินี้ สักวันหนึ่งพวกเขาจะต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างแน่นอน

“เอ่อ…เจ้าแห่งฮีลเลอร์ นายอยากได้หินอวกาศเหรอ?”

ตอนนั้นเอง ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนที่ใบหน้ายิ้มแย้มจนราวกับว่าเป็นพระศรีอริยเมตไตรยในร่างมนุษย์ก็เดินเข้ามาหาเขาพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่เจือจาง

“ใช่แล้ว นายเองก็มีงั้นเหรอ?”

เขามองจากรูปร่างและชื่อที่อยู่บนหัวของอีกฝ่าย ชื่อของคนคนนี้คือ ‘นักธุรกิจหิวเงิน’ ดังนั้นเซียวเฟิงจึงปัดการหยอกล้อทิ้งและเอ่ยถามอย่างจริงจัง

“ฉันพอจะมีอยู่บ้าง สักราว ๆ สามสิบก้อนได้” นักธุรกิจหิวเงินพูดพร้อมกับรอยยิ้มกว้างนั้น ด้วยรอยยิ้มนี้มันทำให้ผู้คนที่ได้คุยด้วยต่างรู้สึกดี และใช่แล้ว คนประเภทเขานี้คือคนที่สามารถทำให้กลไกการป้องกันตนเองของผู้อื่นลดประสิทธิภาพลงง่าย ๆ เลย

“ไหนบอกมาซิ ว่านายจะแลกกับอะไร?” เซียวเฟิงรู้เรื่องของนักธุรกิจหิวเงินคนนี้บ้างแล้ว ยังไงเสียคนคนนี้ก็เป็นพ่อของเฉียนโตวโตว เซียวเฟิงไม่มีทางลืมแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงถามด้วยความใจเย็น

นี่มันเป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงเหมือนกัน ที่คนอย่างนักธุรกิจหิวเงินที่เป็นเพียงผู้เล่นสายใช้ชีวิตจะสามารถผ่านภารกิจเปลี่ยนคลาสที่ 2 ได้เร็วขนาดนี้ ความเร็วของเขานั้นพอ ๆ กับผู้เล่นระดับต้นของเขตเลย

“ช่างเป็นคนที่คุยด้วยง่ายจริง ๆ เลยคุณเจ้าแห่งฮีลเลอร์ ถ้างั้นฉันจะเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะ” นักธุรกินหิวเงินมองเซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจก่อนจะพูด

“ฉันเป็นหัวหน้า ‘หอการค้าเงินตรา’ หินอวกาศสามสิบก้อนที่บอกว่าจะให้นั้น เพียงเพื่อแลกกับการที่นายช่วยพวกเราหาซื้อพื้นที่ในย่านการค้าภายในเมืองจักรวรรดิแห่งนี้เท่านั้น แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสที่พวกเราจะสามารถร่วมงานกันได้ พวกเราก็ยินดีที่จะรับข้อเสนอที่นายพึงพอใจเลยล่ะ”

นักธุรกิจหิวเงินผู้นี้ไม่รอช้าที่จะบอกข้อแลกเปลี่ยนพร้อมกับยื่นกิ่งโอลีฟให้เซียวเฟิงในเวลาเดียวกัน

ทัฟเซเบอร์ไม่ได้เดินไปไหนไกลนักหลังจากที่สูญเสียหินอวกาศไปแล้วสามก้อน เขายืนอยู่ละแวกนั้นและฟังบทสนทนาของทั้งสองพลางลูบคางตนเองไปด้วย ในหัวเขาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ความแข็งแกร่งของเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นก็ประจักษ์แก่ทุกสายตาไปแล้ว ถ้าหากเขาไร้ซึ่งตำแหน่งใด ๆ เหมือนอย่างตอนนี้ ก็คงไม่สามารถที่จะซื้อพื้นที่ในย่านการค้าภายในเมืองจักรวรรดิ รวมถึงอยู่เหนือผู้เล่นคนอื่นได้ สิ่งเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ของเขาดีแล้วไม่ใช่หรือไง?

เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ ทัฟเซเบอร์ก็คิดจะยื่นข้อเสนอกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์เพิ่ม เผื่อว่าเขาจะได้ใช้จุดนี้ของอีกฝ่ายเพื่อให้ตนได้รับผลประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น

“พื้นที่ในย่านการค้างั้นเหรอ?” เซียวเฟิงถามด้วยความสนใจมาก ๆ

“ใช่แล้ว ถ้าหากหินอวกาศสามสิบก้อนไม่เพียงพอ พวกเราสามารถเพิ่มเป็นสี่สิบก้อนก็ได้ หอการค้าเงินตราน่ะต้องการที่จะได้ทำงานร่วมกับนายจริง ๆ นะ ฉันหวังว่าข้อเสนอของฉันจะมากพอที่จะแสดงความจริงใจและความสามารถของพวกเราได้”

ตลอดเวลาที่พูดนั้น นักธุรกิจหิวเงินก็ยิ้มให้ตลอด จะมีก็แต่น้ำเสียงที่แข็งกร้าวบางในบางจังหวะ ในขณะที่ร้านค้ามหาสมบัติ ที่ถึงแม้จะหาหินอวกาศได้มากถึงสี่สิบก้อนในเวลาอันสั้น แต่ยี่สิบก้อนนั้นก็ถูกผูกขาดไปแล้ว

แต่นักธุรกิจหิวเงินคนนี้กลับสามารถหามาได้ในปริมาณมากในคราเดียว ไม่มีอะไรต้องสงสัยในความสามารถของหอการค้าเงินตรานี้แล้ว พวกเขาค่อนข้างยิ่งใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“ณ ตอนนี้ ภายในเขตฮัวเซีย มีเพียงคุณเจ้าแห่งฮีลเลอร์เท่านั้นที่มีค่าชื่อเสียงมากพอที่จะซื้อขายพื้นที่ในย่านการค้า” เขายังคงพูดด้วยรอยยิ้มและหว่านล้อมเซียวเฟิงไม่หยุด

“ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ฉันพาไปหาซื้อไม่ได้ แต่มันอยู่ที่มีคนซื้อพื้นที่ในย่านการค้าของเมืองจักรวรรดิไปแล้ว” เซียวเฟิงส่ายหน้าแล้วพูด

“ว่ายังไงนะ!? คุณเจ้าแห่งฮีลเลอร์ มุกนี้ไม่ขำเลยนะ…” นักธุรกิจหิวเงินดูจะโกรธขึ้นมาผ่านแววตาของเขาที่จ้องมองไปยังเซียวเฟิง นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่เขาหลุดท่าทีแบบนี้ออกมา

“นายคิดว่าฉันจะเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นเหรอ?” เซียวเฟิงแสยะยิ้มแล้วถามกลับ

“ถ้างั้นนายพอจะรู้ไหมว่าใครซื้อพื้นที่ในย่านการค้าไป?” รอยยิ้มบนใบหน้าของนักธุรกิจหิวเงินนั้นไม่กลับมาแล้ว มันถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง

เป็นไปไม่ได้ที่ย่านการค้าทั้งหมดของเมืองจักรวรรดิจะโดนซื้อไปแล้ว! ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นเสาหลักในบรรดาหอการค้าทั้งหมดที่มาจากเขตฮัวเซียแท้ ๆ! ขนาดรีบมาแล้วก็ยังโดนตัดหน้า! ใครกัน?! ใครมันสามารถที่จะทำแบบนี้ได้!?

“ท่ามกลางบรรดาหอการค้าทั้งหมดในเขตฮัวเซีย นอกจากร้านค้ามหาสมบัติ แล้วจะยังมีใครทำได้อีกหรือไง?”

เซียวเฟิงตอบกลับด้วยคำถามเช่นเดิม จริง ๆ เขาก็คิดว่าทางฝั่งนักธุรกิจหิวเงินเองก็น่าจะเดาคำตอบได้ลาง ๆ แล้ว แต่ดูเหมือนเจ้าตัวอยากจะฟังคำยืนยันจากเซียวเฟิงเสียก่อน

“ขอบคุณมาก ๆ ที่บอกฉันเรื่องนี้ ถ้ายังไงหอการค้าเงินตราของพวกเราเองก็ยังอยากจะเป็นมิตรกับนายอยู่ เพราะงั้นรับหินอวกาศทั้งสี่สิบก้อนนี้ไว้โดยไม่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนก็ได้”

เมื่อรู้ทุกอย่างแล้วนักธุรกิจหิวเงินก็พูดกับเซียวเฟิงด้วยรอยยิ้มที่ค่อนข้างอึดอัดใจแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความจริงใจอยู่

สำหรับบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนก็สามารถรับรู้ความจริงเรื่องนี้ได้เช่นกัน อย่างที่นักธุรกิจหิวเงินพูดไว้ก่อนหน้า ในเขตฮัวเซียนี้ ไม่มีใครที่มีค่าชื่อเสียงสูงไปกว่าเซียวเฟิงแล้ว เพราะงั้นมีเพียงเซียวเฟิงคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถซื้อพื้นที่ในย่านการค้าได้ก่อนคนอื่น

เพราะแบบนี้จึงไม่ต้องถามต่อว่า ร้านค้ามหาสมบัติจะสามารถซื้อพื้นที่ในย่านการค้าทั้งหมดได้อย่างไร

“ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจนี่มาก ๆ เลย แต่ฉันมีหินอวกาศครบแล้วล่ะ ไม่ต้องการเพิ่มแล้ว” เซียวเฟิงยิ้มแล้วพูดด้วยท่าทีเย็นชาก่อนจะทำตัวเหินห่างและเดินจากไป

ทัฟเซเบอร์มองเซียวเฟิงที่เดินจากไป ก่อนที่ตนจะเดินจากไปเช่นกัน แต่ระหว่างนั้นเขาก็ยังคงคิดนู่นคิดนี่อยู่ไม่คลาย มีเพียงนักธุรกิจหิวเงินเท่านั้นที่ยังคงยิ้มแห้งแบบเขิน ๆ และยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอีกพักใหญ่ ๆ

เซียวเฟิงไม่สามารถตกลงข้อเสนอกับนักธุรกิจหิวเงินได้ มิเช่นนั้นแล้วอาจจะทำให้เฉียนโตวโตวไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงเลือกที่จะตีตัวออกมา

ยังไงเสียตอนนี้เขาก็เกือบจะเก็บสะสมหินอวกาศได้ครบตามที่ต้องการแล้ว ที่เหลืออีกนิด ๆ หน่อย ๆ เดี๋ยวไปยืมเอาจากวอร์สปิริตฮอลล์เอาก็ได้ เพราะงั้นตอนนี้เซียวเฟิงจึงเลือกที่จะเดินไปหา NPC ทหารยามเพื่อขอให้นำทางชายหนุ่มไปยังคุกที เขาอยากจะรู้ว่าตอนนี้ไดนัสตี้พร้อมจะมาจ่ายค่าไถ่ตัวนักธนูอายุ 17 ปีหรือยัง

หลังจากมีเรื่องกับเซียวเฟิงที่จะจัตุรัสเทเลพอร์ต ไดนัสตี้ซอร์ดก็รู้แล้วว่าเซียวเฟิงนั้นต้องการหินอวกาศ เพราะงั้นเขาจึงรีบรายงานคราวน์ปรินซ์ไปอย่างรวดเร็ว

“ปรินซ์ เรามีปัญหาแล้ว นักธนูอายุ 17 เพิ่งจะถูกส่งตัวเข้าคุกไป หากเจ้าแห่งฮีลเลอร์ไม่สั่ง เขาจะโดนขังไปยาว ๆ 24 ชั่วโมง แล้วถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะหลุดออกจากอันดับเลเวลแน่ ๆ ”

ที่ดันเจี้ยนด้านนอกเมืองตงฮวง คราวน์ปรินซ์กำลังถอยออกจากตำแหน่งตัวทำความเสียหายและให้นักรบโล่ขึ้นมาแทนอย่างรวดเร็ว

เขามองไปยังบอสตัวสุดท้ายที่เหลือเลือดเพียง 20% ด้วยความเงียบเชียบ สลับกับดูวีดีโอที่ถูกอัปโหลดไว้ในฟอรั่ม ใบหน้าที่สงบนิ่งของเขาไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ และเจ้าตัวก็ยืนนิ่ง ๆ อยู่อย่างนี้อยู่หลายนาทีโดยที่ไม่พูดอะไรทั้งนั้น

“จ่ายค่าไถ่ไป”

“รับทราบ!” ไดนัสตี้ตอบรับอย่างรวดเร็วก่อนจะถามต่ออย่างระมัดระวัง “ถ้างั้น พวกแอนติควิตี้…”

“อยู่ให้ห่างจากพวกนั้นตั้งแต่นี้ไป ปัญหาของฟากใต้ก็ปล่อยให้ฟากใต้จัดการกันเอง ระดับเจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะ ไม่ใช่คนที่แอนติควิตี้จะสามารถทำอะไรได้ง่าย ๆ หรอก”

คำพูดของคราวน์ปรินซ์ดูจะมีความหมายอะไรบางอย่างขณะที่พูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่สนใจ

“เขตฮัวเซียกำลังตกอยู่ในความวุ่นวายแล้ว”

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

Status: Ongoing

เซียวเฟิง นักเล่นเกม E-Sport แนว MOBA ชื่อดังกำลังถูกบังคับให้ยอมแพ้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เขาเลือกที่จะปฏิเสธจนทำให้ชีวิตของเขาต้องล้มเหลว จนต้องไปสมัครเป็นพนักงานร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ยินประกาศเกี่ยวกับเกมออนไลน์แนวใหม่ชื่อว่า “มิธ” มันเป็นเกมที่ไม่ใช่เกม แต่มันคือโลกใบที่สอง จิตวิญญาณความเป็นเกมเมอร์ได้กลับเข้าร่างของเขาอีกครัั้ง เซียวเฟิงจะต้องก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในโลกแห่งมิธเพื่อหาเลี้ยงน้องสาวตัวเองให้ได้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท