Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] – บทที่ 288 การคาดเดา

บทที่ 288 การคาดเดา

บทที่ 288 การคาดเดา

บทที่ 288 การคาดเดา

 พี่เฉียงเหว่ย คืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมจู่ ๆ เซียวเฟิงถึงมาพูดแบบนั้น? 

ที่จุดวาร์ปของสุสาน ซือเยี่ยจิ๋งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับม้าที่เป็นกระดูกทั้งตัวรูปงาม เธอกล่าวถามหลิวเฉียงเหว่ยที่อยู่ข้าง ๆ ขณะที่รีบมุ่งหน้าไปยังทางเข้าดันเจี้ยนสุสานนายพลด้วย

 ก่อนเธอจะออฟไลน์จากเกม ใครบางคนเข้ามาในคฤหาสน์ เซียวเฟิงเจออีกฝ่ายเข้าก่อนเลยวิ่งตามออกไป 

ม้าของหลิวเฉียงเหว่ยนั้นเป็นม้าขาวทั่วไปที่ซื้อจากร้านค้าของ NPC ดังนั้นความเร็วของมันจึงไม่สูงมาก โชคยังดีที่ซือเยี่ยจิ๋งไม่ได้ใช้ความเร็วเต็มที่ของม้าศึกของเธอ ทั้งสองจึงควบม้าข้างกันได้ หลิวเฉียงเหว่ยตอบคำถามไปหลังจากที่ได้ยินอีกฝ่ายถามมา

 มีคนบุกเข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้เนี่ยนะ? ขโมยเหรอ?  ซือเยี่ยจิ๋งประหลาดใจและรีบถามต่อ

 ไม่น่าจะใช่ เพราะฉันเห็นจากสีหน้าของเซียวเฟิง เขาค่อนข้างตื่นตระหนกมากเลย ซึ่งพอเห็นแบบนั้นฉันเองก็รู้สึกหนาวเย็นแล้วก็หวาดกลัวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย ฉันคิดว่าเซียวเฟิงน่าจะรู้จักผู้บุกรุกคนนั้นแล้วมันน่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องคืนนี้นั่นแหละ 

หลิวเฉียงเหว่ยส่ายหน้าลึก ๆ แล้วเธอก็ยังคงตื่นตระหนกเมื่อนึกถึงสีหน้าของเซียวเฟิงเมื่อครั้งนั้น

 แล้วสุดท้ายเป็นยังไง? เขาจับชายคนนั้นได้หรือเปล่า?  ซือเยี่ยจิ๋งถามอย่างต่อเนื่องด้วยความกังวล

หลิวเฉียงเหว่ยส่ายหน้าอีกครั้ง กระนั้นก็ไม่ได้ห้ามให้ถามแต่อย่างไรแถมยังคอยตอบให้ทุกคำถามอีก  คนคนนั้นน่าจะถูกเซียวเฟิงฆ่าตายไปแล้วมั้งนะ  ทว่าครั้งนี้เธอกลับตอบด้วยท่าทีที่ไม่ปกตินิดหน่อย

 ฮะ? พี่พูดว่าอะไรนะ? ฆ่าตาย? เซียวเฟิงฆ่าคนด้วยเหรอ? 

ร่างของซือเยี่ยจิ๋งนิ่งแข็งขึ้นมาทันที จากนั้นม้าศึกกระดูกตัวใหญ่ที่เธอขี่มาก็ค่อย ๆ หยุดวิ่งลงไปและยืนอยู่กับที่ในที่สุด หญิงสาวถามลูกพี่ลูกน้องของตนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

 เมื่อตอนที่เขากลับมา ฉันได้กลิ่นเลือดจากตัวเขาแรงมาก ๆ เธอก็รู้ว่าสัญชาติญาณของฉัน น้อยครั้งที่จะพลาด 

เห็นดังนั้นหลิวเฉียงเหว่ยก็หยุดควบม้าด้วยเหมือนกัน เธอหันกลับไปมองยังซือเยี่ยจิ๋งที่กำลังงุนงงและพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง  จิ๋งจิ๋ง เซียวเฟิงไม่ใช่คนใจดีหรอกนะ เขาเป็นคนที่กลับมาจากเส้นขอบของความตาย เขาฆ่าคนมามากมาย ภายในโลกของเขา มันถูกเติมเต็มไปด้วยเลือด…มันไม่ใช่โลกแบบที่พวกเราเห็นหรอกนะ…รู้แบบนี้แล้ว… เธอยังชอบเขาอยู่หรือเปล่าล่ะ? 

ภาพการเจอกันครั้งแรกระหว่างหลิวเฉียงเหว่ยและเซียวเฟิงนั้นยังถูกตราตรึงไว้ในส่วนลึกของสมอง ไม่ว่าจะเป็นเซียกวงเหว่ย ประธานคนก่อนของมิดซัมเมอร์กรุ๊ป ผู้ที่ซึ่งเป็นพ่อของเซียวหลิง หรือนักสืบที่เธอส่งไป ทุกคนล้วนตายด้วยเงื้อมมือของเซียวเฟิง แม้แต่เธอเองก็ยังเคยเกือบจะถูกโยนลงมาจากตึกสูงด้วยเงื้อมมือของชายหนุ่มเช่นกัน ภาพความตายที่เข้ามาใกล้เธอครั้งนั้นยังคงชัดเจนเสมอไม่ว่าจะผ่านมานานสักเท่าไหร่

 พี่เฉียงเหว่ย…พูดอะไรเนี่ย? ฉันไม่ได้ชอบตานั่นสักหน่อย…  ซือเยี่ยจิ๋งที่งุนงงในตอนแรกกลับกลายเป็นเขินอายในทันที ถึงแม้ว่าใบหน้าของเธอจะถูกปิดบังไว้ด้วยหน้ากาก แต่น้ำเสียงของเธอก็สั่นคลอนอย่างปิดไม่มิด

 เธอไม่ต้องหลอกฉันก็ได้ เพราะเธอน่าจะรู้จักฉันดีอยู่แล้ว ว่าซิกส์เซนส์ของฉันมันแม่น ฉันก็แค่อยากจะเตือนเธอไว้ ว่าเซียวเฟิงไม่ใช่คนทั่วไปหรอกนะ กฏที่ใช้กับคนทั่วไปไม่สามารถผูกมัดเขาไว้ได้หรอก  หลิวเฉียงเหว่ยพูดเสริมด้วยความใจเย็น

 พี่เฉียงเหว่ยเองก็ด้วยไม่ใช่หรือไง? ฉันเห็นพี่เสนอตัวให้เขาอยู่ก็ตั้งหลายครั้ง! ไม่ใช่ว่าพี่เองก็ชอบเขาเหมือนกันเหรอ?  ซือเยี่ยจิ๋งปัดความเขินด้วยการปัดเรื่องไปหาอีกฝ่ายแทนด้วยความซุกซน

 มันเป็นการแลกเปลี่ยน ฉันได้ในสิ่งที่ต้องการ และฉันจำเป็นต้องตอบแทนอย่างเท่าเทียมแม้มันจะต้องเสียสละบางอย่าง มันก็แฟร์ดีอยู่แล้ว  ทว่าน้ำเสียงของหลิวเฉียงเหว่ยก็ยังคงสงบนิ่งดังเดิม

 แต่ฉันไม่คิดว่าพี่จะไม่เต็มใจเลยนะ ถ้าพี่ไม่ได้ชอบหมอนั่น พี่คงไม่เป็นฝ่ายเริ่มหรอก จริงไหม?  ถึงอย่างนั้นซือเยี่ยจิ๋งก็ยังคงไม่ยอมแพ้

 เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์จะรู้สึกอะไรทั้งนั้น เธอเองก็รู้เรื่องนั้นดีอีกนั่นแหละ  หลิวเฉียงเหว่ยปฏิเสธ ทว่าครั้งนี้เธอกลับเหลียวมองไปทางอื่นแทน

ซือเยี่ยจิ๋งจำได้ถึงเรื่องโชคชะตาสีเทาของหลิวเฉียงเหว่ย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและความมุ่งมั่นก่อนจะพูด  พี่เฉียงเหว่ย หากเขาสามารถช่วยพี่จากชะตากรรมได้จริง ๆ มันก็คุ้มค่าที่จะจ่ายด้วยราคานั้น ต่อให้ฉันต้องเสียสละ มันก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา 

 ฉันเชื่อในตัวเขา เขาจะต้องช่วยฉันได้แน่ ๆ สัญชาตญาณของฉันไม่เคยผิดพลาด  หญิงสาวพูดด้วยความมั่นใจ

 เซียวเฟิง…เขาเป็นคนประเภทไหนกันแน่นะ…  ซือเยี่ยจิ๋งพูดด้วยเสียงเบา ตอนนั้นเองเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้จึงรีบถามขึ้นมา  ยังไงก็เถอะ พี่เฉียงเหว่ย เซียวเฟิงบอกให้ฉันหาใครคนหนึ่งให้เขา พี่พอจะรู้ไหมว่ามันหมายความว่ายังไง? 

 ถ้าเรื่องนี้เราคงต้องคุยกันหลายเรื่องเลย เริ่มจาก เธอยังจำงานแข่งขันรอบสุดท้ายของอีสปอร์ตเมื่อห้าปีที่แล้วได้หรือเปล่า?  หลิวเฉียงเหว่ยเริ่มควบม้าเคลื่อนที่ต่อไปด้านหน้า เธอเปลี่ยนโทนเสียงแล้วเอ่ยถาม

 แน่นอน ฉันจำได้แม่นเลย! มันเป็นการแข่งขันรอบสุดท้ายที่ไอดอลของฉัน ออลเรเลีย ได้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งการต่อสู้! ตอนนั้นฉันนอนไม่หลับหลายวันหลายคืนเพราะตื่นเต้นกับการที่เขาสามารถสั่นสะเทือนทั้งโลกได้ขนาดนี้! จะว่าไปตอนนั้นเหมือนว่าสปอนเซอร์ของทีมฮัวเซียก็จะเป็นมิดซัมเมอร์กรุ๊ปด้วยนี่นา ฉันพูดถูกไหม?  ซือเยี่ยจิ๋งดูตื่นเต้นมาก ๆ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้

 ถูกแล้ว จากนั้นออลเรเลียก็หายไปเลย หลังจากที่การแข่งขันจบลงเมื่อห้าปีก่อน คนทั่วไปคงไม่คิดมากเรื่องนี้กัน แต่ฉันดันไปรู้อะไรบางอย่างเข้าก่อนเซียวเฟิงจะปรากฏตัวเนี่ยสิ 

หลิวเฉียงเหว่ยพูดช้าลง  เมื่อห้าปีที่แล้ว ใครสักคนในทีมฮัวเซียต้องการจะทำลายออลเรเลีย แถมคนคนนั้นจงใจจะให้ออลเรเลียพ่ายแพ้เกมนั้นด้วย 

 ว่าไงนะ!? ฉันจำได้ว่าการแข่งขันระดับโลกรอบสุดท้ายนั้นมันเดิมพันกับทรัพยากรที่เหลือที่กระจัดกระจายอยู่ในทุกประเทศเลยไม่ใช่เหรอ? ทีมฮัวเซียรวมออลเรเลียกับคู่หูของเขาเอาไว้ด้วยกันจนสามารถกลายมาเป็นฮีโร่ประจำถิ่นได้แท้ ๆ ! ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นภายในได้ล่ะ? 

สิ่งที่หลิวเฉียงเหว่ยพูดมันทำเอาซือเยี่ยจิ๋งถึงกับช็อกไปเลย

 ชายที่คิดจะทำลายเซียวเฟิง คือคนที่อยู่เบื้องหลังที่เซียวเฟิงต้องการจะหาตัว ในตอนนั้น สปอนเซอร์ของทีมฮัวเซีย คือมิดซัมเมอร์กรุ๊ปอย่างที่เธอว่า และเซียวเฟิงก็เพิ่งบุกเข้าไปยังมิดซัมเมอร์กรุ๊ปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกิลด์มิดซัมเมอร์ถึงได้หมายหัวเซียวเฟิงตั้งแต่ที่หมู่บ้านเริ่มต้น ทุก ๆ คนในมิดซัมเมอร์กรุ๊ปต่างเกลียดชังตัวเขา และเพราะตอนนั้นฉันเป็นประธานมิดซัมเมอร์กรุ๊ป ฉันเลยพลอยโดนลูกหลงการข่มขู่จากเขาไปด้วย 

การเจอกันของเธอและเซียวเฟิงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงอย่างนั้นหลิวเฉียงเหว่ยกลับอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ช่างเป็นโชคชะตาที่มหัศจรรย์อะไรแบบนี้นะ?

 คนที่อยู่เบื้องหลังที่ว่านั่นเป็นคนของมิดซัมเมอร์กรุ๊ปเหรอ? ไม่สิ เซียวเฟิงยังหาคนคนนั้นไม่เจอนี่นา มันจะต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ ว่าแต่ทำไมเขาต้องพยายามที่จะหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังด้วยล่ะ? มีใครบ้างที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้ว? มันน่าจะเป็นเรื่องที่รู้กันวงกว้างใช่ไหมล่ะ? ไม่งั้นเซียวเฟิงคงไม่รู้ละเอียดขนาดนี้หรอก  ซือเยี่ยจิ๋งยิงคำถามรัว ๆ

 ฉันเคยส่งคนไปสืบหาข้อมูลของเซียวเฟิงมาก่อนหน้า ถึงแม้จะไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก แต่ก็พอจะเดาอะไรได้บ้าง  หลิวเฉียงเหว่ยลังเลแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นนักก่อนจะพูดออกไปแบบนี้

 พี่เดาอะไรได้?  ด้วยความอยากรู้ เด็กสาวรีบเค้นหาคำตอบทันที

 เธอบอกว่าออลเรเลียเป็นไอดอลของเธอใช่ไหม?  หลิวเฉียงเหว่ยทวนคำพูด

 ใช่แล้ว! เพราะฉันดูการแข่งขันเกมของเขา ฉันถึงได้เข้ามาในโลกของเกมแบบนี้!  ซือเยี่ยจิ๋งตอบอย่างภาคภูมิใจ

 ดี แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าเมื่อห้าปีที่แล้วออลเรเลียอายุเท่าไหร่?  หลิวเฉียงเหว่ยถามต่อ

 ตอนนั้นออลเรเลียอายุสิบเก้าปี เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในทีมฮัวเซีย ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย เขาเป็นถึงหัวหน้าทีมเลยนะ!  ซือเยี่ยจิ๋งรีบตอบหลังคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 แล้วอายุของเซียวเฟิงล่ะ?  หลิวเฉียงเหว่ยเปิดถามประเด็นหลัก

 เอ่อ… เขาน่าจะยี่สิบสี่หรือเปล่า ฉันไม่เคยถามด้วยแฮะ แต่ไม่น่าเกินยี่สิบห้าหรอกมั้ง  ซือเยี่ยจิ๋งพูด

 เมื่อห้าปีที่แล้ว ออลเรเลียหายตัวไปเมื่อคนที่อยู่เบื้องหลังเริ่มจะทำลายชื่อเสียงของเขา และห้าปีหลังจากนั้นเซียวเฟิงจู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา เขาพยายามตามหาคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องในครั้งนั้นด้วยวิธีการต่าง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น อายุของเซียวเฟิงน่ะ ยังเท่ากับอายุของออลเรเลียหลังจากบวกห้าปีแล้วด้วยนะ 

แม้หลิวเฉียงเหว่ยจะไม่ได้สรุปข้อเท็จจริงให้ฟัง แต่คำพูดของเธอก็ค่อนข้างชี้ไปในทางเดียวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันทำให้ซือเยี่ยจิ๋งถึงกับผงะเมื่อเธอพยายามรวมทั้งเซียวเฟิงและออลเรเลียเข้าด้วยกัน

 พี่เฉียงเหว่ย…พี่หมายถึงเซียวเฟิงคือออลเรเลีย เมื่อห้าปีที่แล้วเหรอ? 

 ถ้าเรื่องนี้ถูกต้อง ทุก ๆ อย่างก็จะกระจ่าง แต่ฉันไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันหรอกนะ ก็แค่เดาน่ะ  ถึงเจ้าตัวจะส่ายหน้าแต่สายตาของเธอนั้นกลับแสดงให้เห็นว่าเธอเชื่อมั่นในการคาดเดาของเธอขนาดไหน

 เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! ถึงฉันจะยกย่องให้ออลเรเลียเป็นไอดอลก็เถอะ แต่ตัวจริงของเขาต้องเป็นหนุ่มอ้วนตุ๊ต๊ะสิ! จะมาหน้าหล่อแบบนี้ไม่ได้นะ! เซียวเฟิงน่ะ…เซียวเฟิง…  ซือเยี่ยจิ๋งส่ายหน้าทันทีเมื่อภาพใบหน้าและเรือนร่างอันเพอร์เฟกต์ของเซียวเฟิงมันลอยเข้ามาในหัว

ซือเยี่ยจิ๋งอาจจะเชื่อถ้ามีใครสักคนบอกเธอว่า เซียวเฟิงเป็นเพียงนักศึกษาที่อ่อนแอคนหนึ่ง แต่เธอไม่อาจจะเชื่อได้ว่า เซียวเฟิงคือชายที่เคยน้ำหนักกว่าสองร้อยโลเมื่อห้าปีก่อน

 มันก็แค่การคาดเดา มีเพียงเซียวเฟิงเท่านั้นที่รู้ความจริง 

หลิวเฉียงเหว่ยเงยหน้าขึ้นแล้วเธอก็พบว่าพวกตนนั้นมาถึงปากทางเข้าดันเจี้ยนสุสานนายพลกันแล้ว ที่แห่งนี้มีผู้คนมากมาย มันเลยทำให้การพูดคุยกันของหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งชะงักไว้ด้วยเสียงรบกวนจากผู้เล่นคนอื่นที่กำลังประกาศหาคนเข้าปาร์ตี้

 ท่านหัวหน้ากิลด์! หัวหน้าไนท์ คูนเนอร์! 

ผู้เล่นของมิดซัมเมอร์กิลด์บางส่วนที่ยืนอยู่ด้านหน้าทางเข้าดันเจี้ยนรีบวิ่งเข้ามาหาหลังจากที่เขาเห็นหลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งเดินเข้ามา

ยังไงก็ตาม ซือเยี่ยจิ๋งก็มีศักดิ์เป็นหัวหน้าหน่วยแอสซาซินอยู่แล้ว

 นายเจอเจ้าแห่งฮีลเลอร์แล้วหรือยัง? 

สายตาที่เยือกเย็นของทั้งสองสาวหวนคืนกลับมาก่อนจะถามผู้เป็นสมาชิกกิลด์กลับไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

 ผมเห็นเขาอยู่ตรงหน้าป้ายเชิดชูเกียรติเมื่อครู่นี้ครับ 

ผู้เล่นคนนี้เองก็เป็นผู้เล่นระดับสูงของกิลด์มิดซัมเมอร์เช่นกัน เขาพูดออกมาหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในตอนนี้ผู้เล่นหลาย ๆ คนของมิดซัมเมอร์มีทัศนคติที่ดีต่อเซียวเฟิงมากขึ้นแล้ว หลังจากที่เขานำปาร์ตี้กิลด์เข้าไปพิชิตดันเจี้ยนถึงสองครั้ง

 โอเค 

หลิวเฉียงเหว่ยพยักหน้ารับ จากนั้นเธอก็มุ่งหน้าไปยังป้ายเชิดชูเกียรติพร้อมกับซือเยี่ยจิ๋ง อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าเซียวเฟิงรอพวกเธออยู่ที่นั่น

เมื่อพวกเธอเดินทางไปถึงป้ายเชิดชูเกียรติ เธอก็พบว่าเซียวเฟิงกับเฉียนโตวโตวรออยู่ที่นั่นอยู่แล้ว แล้วก็ชัดเจนอีกว่าเฉียนโตวโตวนั้นมาถึงก่อนพวกเธอเสียอีก

 มาช้านะ ไปกันได้แล้ว 

เซียวเฟิงดูใจร้อนขึ้นมานิดหน่อย กว่าเขาจะว่างมาช่วยพวกเธอผ่านดันเจี้ยนนั้นมันไม่ง่ายเลย แต่สุดท้ายพวกเธอก็ยังมาช้ากันอยู่ดี ผู้หญิงเนี่ยมักจะมีปัญหาตลอดเลยแฮะ

พวกเขาจัดปาร์ตี้กันอย่างรวดเร็ว จากนั้นทั้งสี่ก็มุ่งหน้าเข้าดันเจี้ยนกันไป ดันเจี้ยนนี้ไม่มีเลเวลจำกัด ดังนั้นเฉียนโตวโตวที่เลเวลราว ๆ สิบกว่าจึงสามารถเข้าดันเจี้ยนมาได้ด้วย ภายในนั้นมันเปรียบเสมือนสังเวียนให้ไปสู้กับบอสโดยเฉพาะ เพราะแบบนี้ต่อให้ผู้เล่นเลเวล 1 เข้าไปก็ยังสามารถสู้กับบอสภายในได้

แต่ก็ไม่รับประกันหรอกนะว่าจะชนะหรือเปล่า เพราะบางทีบอสภายในนั้นอาจจะเลเวล 100 ก็ได้

ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เล่นทั่ว ๆ ไปจึงไม่อยากจะเข้าดันเจี้ยนมั่วซั่วนัก ขืนเข้าไปเจอบอสเลเวลสูงในดันเจี้ยน แทนที่จะได้ปราบบอส ดันกลายเป็นเอาตนเองไปให้บอสฆ่าแทนแน่ ๆ

ทว่าสำหรับเฉียนโตวโตวนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล สิ่งที่เธอต้องทำนั้นมีเพียงเดินตามปาร์ตี้ไปเพื่อรับค่าประสบการณ์เท่านั้น และค่าประสบการณ์ที่ได้จากบอสเลเวล 25 ภายในดันเจี้ยนนั้น มันก็มากพอที่จะทำให้เธอเลเวลอัปได้หลายเลเวลเลย

หน้าที่กำจัดมอนสเตอร์เป็นของเซียวเฟิง ดังนั้นมันเลยทำให้ซือเยี่ยจิ๋งมีเวลาอยู่กับตนเองมากขึ้น เธอมองเซียวเฟิงด้วยดวงตาที่สับสน

ทุก ๆ คนล้วนแต่มีไอดอลเป็นของตนเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะหญิงสาว หากออลเรเลียไม่ใช่หนุ่มอ้วนสองร้อยกิโลแล้วล่ะก็ เธอเองก็กลัวว่าเขาอาจจะมีสาว ๆ อีกนับไม่ถ้วนที่แต่งตั้งให้ออลเรเลียกลายเป็นรักที่ใฝ่ฝันและถ้าหากมีโอกาส พวกเธอก็คงพยายามไต่เต้าขึ้นมาหาเขาเพื่อถวายตัวเองแน่ ๆ

ถ้าหากเซียวเฟิงเป็นออลเรเลียจริง ๆ …

 

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

Status: Ongoing

เซียวเฟิง นักเล่นเกม E-Sport แนว MOBA ชื่อดังกำลังถูกบังคับให้ยอมแพ้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เขาเลือกที่จะปฏิเสธจนทำให้ชีวิตของเขาต้องล้มเหลว จนต้องไปสมัครเป็นพนักงานร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ อยู่มาวันหนึ่งเขาได้ยินประกาศเกี่ยวกับเกมออนไลน์แนวใหม่ชื่อว่า “มิธ” มันเป็นเกมที่ไม่ใช่เกม แต่มันคือโลกใบที่สอง จิตวิญญาณความเป็นเกมเมอร์ได้กลับเข้าร่างของเขาอีกครัั้ง เซียวเฟิงจะต้องก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในโลกแห่งมิธเพื่อหาเลี้ยงน้องสาวตัวเองให้ได้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท