Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 2187 ลืมบอก

ตอนที่ 2187 ลืมบอก

“ผนึก!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมปล่อยพลังออกไปผนึกผลึกมารดำของจ่าฝูงมารนรกลง

เร็วล้ำกว่าคำพูดใดๆ

การกระทำทั้งหลายนี้มันสำเร็จลงในเวลาไม่ถึงหนึ่งอึดใจ

เมื่อเสร็จสิ้นเรื่องราวเวลาชะงักก็ได้คลายลง

ทุกสิ่งอย่างกลับสู่ความปกติ

เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้แต่จ้องมองดูเย่หยวนราวกับเห็นผี

เพราะเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งหลายหยุดชะงักลงพร้อมๆ กัน!

แม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่อึดใจแต่คนทั้งหลายก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลยในวินาทีนั้น!

“เจ้า… เจ้าหมอนี่มันกลับควบคุมห้วงเวลาได้? มันคืออะไรกัน? คำบัญชาเต๋าสวรรค์หรือ?” หลี่เยว่มองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง

แม้ว่าเข็มของเย่หยวนนี้จะเปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้ลงแต่ความไม่พอใจของหลี่เยว่มันก็ยังไม่จางหาย

เขานั้นรู้ว่าเย่หยวนต้องการอะไรจึงได้คิดเปลี่ยนไม่ให้เรื่องราวเป็นไปตามแผนการของเย่หยวน

ขาคิดจะฆ่าปิดปากเจ้ามารนรกตัวนี้เพื่อดับความหวังของเย่หยวน!

แต่เย่หยวนกลัใช้วิชาประหลาดนี้ชิงตัวจ่าฝูงมารนรกไปจากหน้าเขา

มีหรือที่ตัวเขาจะไม่ตื่นตกใจ?

เจ้าเด็กคนนี้มันจะมีไม้ตายอีกสักกี่อย่าง?

จบเรื่องราวแล้วเย่หยวนก็หันกลับมามองด้วยจิตสังหารรุนแรง

หลี่เยว่นั้นได้ทำการล้ำเส้นเสียแล้ว!

“อย่าได้ลืมไปว่าหลังจากเข็มทองนี้หมดฤทธิ์ลงมันจะมีเวลาที่เจ้าจะแสนสุดอ่อนแอ! ถึงเวลานั้นแล้วความเป็นตายใดๆ ของเจ้าจะขึ้นอยู่กับมือข้านี้!”

คำพูดของเย่หยวนมันเย็นเยือกถึงกระดูก

นั่นทำให้สีหน้าของหลี่เยว่เปลี่ยนสีไป ดูท่าก่อนหน้านี้เขาแค่จะระบายอารมณ์ไม่ได้คิดถึงเรื่องราวหลังจากนั้นใดๆ

แต่เวลานี้เมื่อได้ยินคำของเย่หยวน หลี่เยว่จึงได้สะดุ้งตัวขึ้น

เข็มทองทั้งหลายนี้มันทำให้คนมีพลังรุนแรงเหนือล้ำขึ้นได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเล่า?

แต่จู่ๆ หลี่เยว่ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าว “แล้ว? เทพสวรรค์ผู้นี้มีพลัง มันยังไม่ถึงเวลานั้น!”

เจิ้นหยูเฟิงที่ได้ยินก็ร้องขึ้นมาขัดทันที “หลี่เยว่ เจ้ายังมีความละอายบ้างหรือไม่? หากมิใช่เพราะเย่หยวนนี้แล้วเราคงถูกมารนรกมันฆ่ากันสิ้น! แต่นี่เจ้ากลับคิดตอบแทนบุญคุณด้วยความชั่วช้าเช่นนี้หรือ?”

หลี่เยว่ที่ได้ยินก็ยิ้มตอบขึ้น “แล้ว? เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังอวดดีเกินรับ! เทพสวรรค์ผู้นี้เบื่อหน้ามันเต็มทน! เวลานี้เมื่อความวิบัติผ่านพ้นไป เราก็สามารถกลับไปรายงานโลกด้านนอกอย่างไม่ต้องอับอายแล้ว เจ้าเด็กคนนี้มันไร้ประโยชน์ใดๆ กับเราอีกอต่อไปแล้วเช่นกัน!”

เจิ้งหยูเฟิงจึงได้แต่หรี่ตาลงอย่างเย็นเยือก “เจ้าเคยได้ถามข้าหรือไม่ว่าข้าคิดอย่างไรเรื่องสังหารเย่หยวน? เจ้าคิดว่าข้าจะยืนดูอยู่เฉยๆ หรือ?”

หลี่เยว่ที่ได้ยินก็ยกมือขึ้นมาทันที

พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏร่มคันใหญ่ขึ้นปกคลุมฟ้าดิน ครอบคลุมเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายไว้สิ้น

เจิ้งหยูเฟิงที่ได้เห็นต้องร่ำร้องออกมา “ร่มวิญญาณต้องห้ามสิบทิศ! เจ้ากลับเอาของเช่นนี้ออกมาด้วยหรือ!”

ร่มวิญญาณต้องห้ามสิบทิศนั้นเป็นสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ขั้นสุดของวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงลั่วที่หลี่เยว่อยู่

ว่ากันว่ามันนั้นมีพลังเทียบเคียงสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ทีเดียว!

และเจ้าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนี้มันก็มีชื่อเสียงลือลั่นไปทั่วทั้งเจ็ดค่ายสำนักรอบๆ ดินแดนนี้

เพราะว่าเจ้าสมบัติวิญญาณชิ้นนี้มันสามารถจะดูดกลืนพลังงานปราณเทวะของเหล่านักยุทธในรัศมีให้ไปสู่ผู้ใช้งานมันได้

มันเท่ากับว่าสมบัติชิ้นนี้มีพลังที่จะลดความสามารถคู่ต่อสู้และเพิ่มพลังให้กับผู้ใช้งานไปพร้อมๆ กัน

หากเป็นสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีฝีมือเท่าเทียม สมบัติชิ้นนี้มันย่อมจะเป็นไม้ตายอันน่าหวาดกลัว!

และสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนี้จะแสดงความสามารถออกมาได้สูงสุดก็เมื่อได้อยู่ในสนามรบ

อย่างเช่นในเวลานี้!

พร้อมๆ กันนั้นเองทุกผู้คนต่างก็สัมผัสได้ว่าปราณเทวะในร่างถูกดูดออกไปภายนอกอย่างไม่อาจควบคุม

ส่วนคลื่นพลังบนกายของหลี่เยว่นั้นกลับพุ่งทะยานสูงล้ำ

จนในที่สุดเขาก็ก้าวขึ้นมาถึงระดับของเทพสวรรค์เจ็ดดาวอย่างแท้จริง!

แม้ว่ามันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชั่วคราวแต่เวลานี้เขาก็มีพลังมากถึงระดับของเทพสวรรค์เจ็ดดาวอย่างแท้จริงแล้ว!

“ฮ่าๆๆ… เอาล่ะ มันจะยังมีใครโผล่หน้าออกมาปกป้องเจ้าเด็กคนนี้อีกหรือไม่?” หลี่เยว่หันไปมองดูรอบๆ พร้อมเสียงหัวเราะลั่น

แล้วมีหรือที่คนทั้งหลายจะยังเทียบเคียงหลี่เยว่ที่ดูดกลืนพลังปราณเทวะของผู้คนไปได้?

นั่นทำให้แม้แต่ตัวเจิ้งหยูเฟิงเองก็ยังต้องเงียบปากลง

เพราะพูดจากล่าวใดๆ ขึ้นมาในเวลานี้มันอาจจะถึงตายได้ง่ายๆ!

แต่หลี่เยว่นั้นได้แต่ต้องหันไปมองเย่หยวนด้วยความกังวลเต็มใบหน้า

เพราะก่อนหน้านี้พลังของสมบัติชิ้นนี้มันได้พุ่งทะยานเข้าหาตัวเย่หยวนเช่นกัน มันเป็นพลังที่พยายามจะดึงปราณเทวะของเย่หยวนออกมา

แต่ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่สมบัติชิ้นนี้ก็ไม่อาจจะดึงปราณเทวะโกลาหลของเย่หยวนออกมาได้

สุดท้ายมันจึงได้แต่ต้องกลับมาหาหลี่เยว่มือเปล่า

เย่หยวนมองดูหลี่เยว่ด้วยสายตาไร้อารมณ์ “สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนี้ดูดี ข้าขอรับมันไปล่ะ”

หลี่เยว่ได้แต่ต้องหรี่ตามอง “เจ้าโง่เง่า! ที่พึ่งของเจ้านั้นคือคำบัญชาเต๋าสวรรค์? ด้วยกำลังของข้านี้อย่างมากเจ้าก็ทำได้แค่ให้ข้าชะงัก! แต่ต่อให้ข้าจะยืนให้เจ้าโจมตี มีหรือที่เจ้าจะทำอะไรข้าได้? แล้วเจ้าคิดว่าตนเองจะใช้มันออกมาได้สักกี่ครั้ง?”

เทพสวรรค์เจ็ดดาวปะทะเทพสวรรค์สองดาว ความแตกต่างมันย่อมมากมายราวฟ้ากับเหว

ต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจปานใดมันก็ย่อมจะไม่อาจสังหารหลี่เยว่ลงได้ด้วยเวลาสั้นๆ นั้น

เพราะฉะนั้นหลี่เยว่จึงไม่กลัว!

เย่หยวนเบิกตามองดู “หากเจ้ายังพูดจาเหลวไหลอยู่อีกพลังของเข็มทองมันจะหมดเอาก่อนแล้ว!”

หลี่เยว่ที่ได้ยินจึงร้องร่ำขึ้น “รนหาที่ตาย!”

ภายใต้ความโกรธเคืองของเขานี้หลี่เยว่ได้ใช้พลังของเทพสวรรค์เจ็ดดาวที่มีออกมาจนทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายต้องซีดขาวลง

ความแตกต่างของเทพสวรรค์หกดาวและเทพสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันมากมายล้น

เวลานี้เมื่อหลี่เยว่ก้าวข้ามมันไปได้แล้วมันย่อมจะหมายความว่าพลังของเขานั้นเพิ่มพูนขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหลี่เยว่ยังได้รับพลังเสริมจากเข็มทองอยู่ ทำให้ยิ่งมีพลังฝีมือเก่งกาจเหนือล้ำฟ้าดิน!

“ดาบจันทร์แดงแสงคราม!”

หนึ่งดาบนี้ถูกฟันออกมาพร้อมสีแดงครามพุ่งทะยานใส่เย่หยวนทันที

ไม่อาจหลบเลี่ยง!

ปัง!

หลังจากแรงปะทะราวระเบิดนั้นมันก็เกิดหลุมกว้างขึ้นแทนที่ที่เย่หยวนเคยอยู่

เวลานี้แม้แต่มิติรอบๆ ยังเกิดรอยร้าวขึ้นมา ร่างกายของเย่หยวนใดๆ หายไปสิ้น

หลี่เยว่จึงได้แต่หัวเราะ “จะมีไม้ตายมากล้นแล้วทำไมเล่า? มีวิชาฝังเข็มทองแม่นยำแล้วทำไมเล่า? สุดท้ายก็ยังตายด้วยมือเทพสวรรค์ผู้นี้มิใช่หรือ?”

“กระบวนท่านี้มันยังขาดพลังไปมาก! ข้าขอเตือนอีกครั้ง ผลของเข็มทองมันอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังของทุกผู้คน

ทุกผู้คนได้แต่ต้องหันไปมองดูเย่หยวนที่ยืนสง่าอยู่บนยอดไม้

บนร่างกายของเขานั้นมันไร้ซึ่งรอยแผลใดๆ

หลี่เยว่ได้แต่ต้องหรี่ตาลงมองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อ “บ้าน่า! ดาบจันทร์แดงแสงครามของข้านั้นมันน่าจะกักขังห้วงมิติไว้แท้ๆ! ทำไมเจ้ายังหนีรอดไปได้?”

เย่หยวนจึงตอบกลับมาด้วยสีหน้าเฉยเมย “อ่า ลืมบอกไปว่าแนวคิดแห่งห้วงมิติของข้านั้นมันอยู่ในระดับหกดาว เกรงว่าคนอย่างเจ้าคงไม่อาจจะทำร้ายอันตรายใดๆ ข้าได้แล้ว”

หลี่เยว่สั่นสะท้านไปทั้งกาย ดวงตาทั้งสองข้างแทบจะถลนออกจากเบ้า

แนวคิดแห่งห้วงมิติบรรลุระดับหกดาว มันคือเรื่องราวยิ่งใหญ่ปานใด?

มันหมายความว่าหากมิใช่จักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว การจะคิดสังหารเย่หยวนคงเป็นเรื่องยากล้ำ!

เว้นเสียแต่ว่าจะเตรียมการมาอย่างดีอย่างที่หลงเสี่ยวทำ ปิดช่องทางไว้สิ้น

ไม่เช่นนั้นแล้วมันย่อมจะไม่มีทางจับตัวเขาคนนี้ไว้ได้!

แต่หลี่เยว่นั้นจะเอาเวลาที่ไหนไปเตรียมการใดๆ?

ความสิ้นหลังจึงเริ่มคุกคามเข้าสู่ใจจิตของหลี่เยว่ทันที

หากไม่อาจฆ่าเย่หยวนได้แล้ว สุดท้ายเขาก็คงถูกเย่หยวนฆ่าลง!

ตุบ!

หลี่เยว่คุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนทันทีที่คิดได้เช่นนั้น

“พ-พี่เย่ ข้า… ข้าหลี่เยว่มีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักเขาใหญ่ตรงหน้า! ว-ไว้ชีวิตข้าด้วย!”

…………………………

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท