เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ตอนที่ 7 ใช้กฎประจำตระกูลจัดการ!

ตอนที่ 7 ใช้กฎประจำตระกูลจัดการ!

 ซวยแล้ว! 

เย่เฉินเพิ่งรู้ตัวว่าคำสั่งซื้อนี้จะต้องเป็นแผนของคนตระกูลหวัง พวกเขาจงใจล่อตนเองออกมา

หม่าเสินเดินตรงไปหาเย่เฉินแล้วตะคอก

 ถอดเสื้อผ้าและหมวกที่นายใส่อยู่คืนฉันมา! 

ใบหน้าเย่เฉินงุนงง  หมายความว่ายังไง? 

และตอนนี้หวังซ่าวเจี๋ยที่ใบหน้าบวมช้ำก็เดินมา

 หมายความว่าไง? รู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? เขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทนาย! เป็นตัวแทนเมืองอวิ๋นโจว คุณหม่าเสิน! 

หม่าเสินแค่นเสียง  ถ้านายไม่เชื่อ ฉันจะให้ผู้จัดการช่ายที่จ้างนายโทรหานายเลย 

แล้วผู้จัดการช่ายก็โทรหาเย่เฉินอย่างรวดเร็ว

 เย่เฉิน นายไปล่วงเกินอะไรคุณหม่าเข้า เขาไล่นายออกแล้วเนี่ย! 

เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น คิดไม่ถึงว่างานส่งอาหารเดลิเวอรี่ของตนเองต้องจบลงแบบนี้

พูดตามจริงเขาชอบส่งอาหารเดลิเวอรี่มาก เพราะสามารถพบเจอผู้คนมากมายและถือเป็นการฝึกฝนอารมณ์และนิสัยต่างๆ

เดิมทีเขาอยากจะจบอาชีพส่งอาหารของตนเองลงอย่างสมบูรณ์แบบ แต่กลับถูกคนสารเลวหม่าเสินทำลายมัน!

หม่าเสินตอกหน้าเย่เฉินอีกครั้ง  ยังไม่รีบถอดชุดยูนิฟอร์มอีกเหรอ! นายถูกฉันไล่ออกแล้ว! 

เสื้อผ้าและหมวกรวมไปถึงรถมอเตอร์ไซค์ถือเป็นสมบัติของบริษัทเดลิเวอรี่ถวนถวน เย่เฉินถูกไล่ออกนั่นแปลว่าไม่มีสิทธิ์ใช้อีกต่อไป

 ได้ 

ร่องรอยโหดเหี้ยมฉายบนใบหน้าเย่เฉิน แล้วเขาก็ถอดยูนิฟอร์มเดลิเวอรี่สีเหลืองออกมาต่อหน้าทุกคน

 ฮ่าๆ เขาเหมือนหมาเลย!  หวังซ่าวเจี๋ยหัวเราะจนตัวโยน

หวังจื้อเฉียงเองก็หงุดหงิดเช่นกัน  สวะเอ๊ย! เมื่อกี้ออกจะบ้าดีเดือดไม่ใช่หรือไง? แถมยังกล้าทุบตีลูกชายฉันอีก! ตอนนี้ลองเลือดร้อนแบบเมื่อกี้สิ! 

ตอนนี้เย่เฉินเป็นลูกน้องของหม่าเสินจึงจำเป็นต้องเชื่อฟังคำสั่งเขา

พอถอดยูนิฟอร์ม เย่เฉินก็โยนเสื้อลงบนมอเตอร์ไซค์แล้วกล่าว

 เถ้าแก่หม่า ได้ยินมาว่าสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนของบริษัทเดลิเวอรี่ถวนถวนกำลังจะสิ้นสุดไม่ใช่เหรอ? 

หม่าเสินชะงักไป  เกี่ยวอะไรกับนาย? 

เย่เฉินกล่าวพลางหัวเราะ  ไม่ต้องไปคุยเรื่องต่อสัญญาที่เมืองหลวงหรอก คุณจะไม่ได้เป็นตัวแทนอีกแล้ว 

เย่เฉินพอจะจำผู้บริหารของบริษัทเดลิเวอรี่ถวนถวนได้ลางๆ หลายปีมานี้อีกฝ่ายอยากจะไปมาหาสู่กับพวกเขาแต่ถูกปู่ของเย่เฉินปฏิเสธไม่ให้พบ

ขอแค่เย่เฉินพูดเท่านั้น หม่าเสินคนนี้ก็จะหายตัวไปจากอวิ๋นโจว!

หม่าเสินที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะเป็นตัวแทนเพื่อหาเงินจึงโกรธอย่างมาก

 แกเป็นใครกัน! แค่แกพูดว่าฉันเป็นไม่ได้แล้วฉันจะเป็นไม่ได้เหรอ? รู้ไหมว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขนาดไหนกับผู้บริหารของถวนถวน? ตอนนั้นไม่มีใครสนใจสายงานเดลิเวอรี่ด้วยซ้ำ ฉันเป็นคนให้เงินแล้วช่วยเขาไว้! อีกอย่างครั้งนี้ฉันจะให้เงินเขาห้าแสนหยวน! 

เย่เฉินหัวเราะเสียงเย็น  ต่อให้จ่ายห้าล้านหยวนก็ไม่ได้เป็นตัวแทนหรอก ไม่เชื่อจะลองดูก็ได้ 

หม่าเสิน  แก… 

แล้วจู่ๆ คุณนายหวังก็เปิดปากพูด

 เย่เฉิน แกมันเดรัจฉาน เลิกคุยโวได้แล้ว! แกเป็นคนมีชู้ก่อน ทำผิดต่อเจียเหยา แล้วแกก็ซ้อมหลานชายฉัน วันนี้ฉันจะลงโทษแกด้วยกฎประจำตระกูลหวังต่อหน้าแขกทุกคนนี่แหละ! แกกล้าเข้ามาไหมล่ะ! 

เย่เฉินก้าวเท้าเข้าไปในโรงแรมแล้วกวาดตามอง

นอกจากคนตระกูลหวังที่โวยวายและวางมาดแล้วก็ยังมีแขกจำนวนมากที่มาร่วมงานเลี้ยงด้วย

เย่เฉินรู้ดีว่าแขกพวกนี้ล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตาในอวิ๋นโจว!

ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ผู้มีอิทธิพล นักธุรกิจหรือจะเป็นศิลปินต่างก็มีความสามารถที่คนธรรมดาคาดไม่ถึง!

ทว่าต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับคนพวกนี้เย่เฉินก็ไม่หวาดกลัว!

กะอีแค่เมืองเล็กๆ อย่างอวิ๋นโจวก็เท่านั้น!

คนจริงต่อให้ตกที่นั่งลำบากก็ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด!

เย่เฉินสาวเท้าเดินตามคนตระกูลหวังเข้าไปยังล็อบบี้โรงแรมอย่างแน่วแน่

เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณนายหวังถึงได้เหมาทั้งโรงแรมเอาไว้ ในล็อบบี้นั้นนอกจากพนักงานแล้วก็ไม่มีคนนอก

ขนาดที่ว่าพอเย่เฉินก้าวเท้าเข้าโรงแรมพนักงานก็หลบไป

คุณนายหวังนั่งอยู่บนเก้าอี้กลางล็อบบี้ ถึงเจ้าตัวจะสูงเพียง 160 เซนติเมตรแต่กลับดูน่าเกรงขามอย่างบอกไม่ถูก!

 เดียรัจฉาน! ยังไม่คุกเข่าอีก! 

เย่เฉินมองไปรอบแล้วกล่าว  ทำไมผมต้องคุกเข่าด้วยล่ะ? 

คุณนายหวังกล่าว  ก็เมื่อสามปีก่อนตอนแกแต่งเข้าบ้านเรา เคยรับปากเองนี่ว่า หากแกทำเรื่องที่ทำให้ตระกูลหวังเสียหายจะยอมปฏิบัติตามกฎประจำตระกูลเรา ฉันขอถามแกว่าคำสัญญาของแกตอนนั้นยังเชื่อถือได้ไหม? 

เย่เฉินยืนตัวตรง  คำพูดของผมย่อมต้องเชื่อถือได้อยู่แล้ว! 

 ดี งั้นไปเอาไม้วินัยมังกรของตระกูลหวังเรามาที! 

คุณนายหวังสั่ง แล้วหวังจื้อเฉียงก็รีบส่งไม้วินัยมังกรที่เขาเตรียมเอาไว้นานแล้วออกมาทันที

ไม้วินัยมังกรด้ามนี้เป็นของที่สืบทอดต่อกันมาในตระกูลหวัง ทำมาจากทองใหญ่กว่าไม้บรรทัดทั่วไปมาก

ตอนแรกใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อวัดคำนวณ ต่อมาถึงได้กลายมาเป็นไม้วินัยของตระกูล

ถ้าถูกไม้นี้ตีน่าจะต้องเจ็บไปอย่างน้อยสามวัน

คุณนายหวังกำไม้วินัยมังกรไว้ในมือแล้วกล่าว  แกยอมรับเองก็ดี เด็กๆ ตีเขายี่สิบที! 

 ครับ! 

หวังจื้อเฉียงอยากจะระบายอารมณ์แทนลูกชายนานแล้วจึงเสนอตัวเป็นคนแรก

ทว่าหวังจื้อหย่วนกลับแย่งไม้วินัยมาเสียเอง

 คุณแม่ครับ เป็นเพราะผมดูแลลูกเขยไม่ดี ให้ผมเป็นคนสั่งสอนเขาเถอะครับ! 

หวังจื้อหย่วนถือไม้วินัยมังกรแต่ก็ถูกซูหลานแย่งมาอีกครั้ง

 ปกติฉันเป็นคนตีเขา ให้ฉันเองดีกว่าค่ะ! 

หลายๆ คนต่างก็แย่งกันจะตีเย่เฉิน

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เย่เฉินเหลือเชื่อที่สุดก็คือภรรยาของเขาหวังเจียเหยาก็เอ่ยปากเช่นกัน

 เขาเป็นสามีของหนู ให้หนูตีเขาเถอะค่ะ! 

มือขาวนวลเนียนราวหยกชั้นดีที่ตลอดสามปีมานี้เขาไม่เคยแม้แต่จะได้แตะของหวังเจียเหยาเอื้อมไปหยิบไม้วินัยมังกร

 

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

Status: Ongoing

หลังจากถูกครอบครัวของภรรยาโขกสับมาตลอดสามปีของการแต่งงาน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะเอาคืน!

เย่เฉินชายหนุ่มที่เป็นลูกหลานตระกูลมหาเศรษฐีที่ลึกลับระดับโลก

คุณปู่ของเขามักจะส่งเขาไปทำภารกิจต่างๆ โดยครั้งนี้ก็เช่นกัน

ปู่ส่งเขาไปแต่งงานกับหวังเจียเหยา สาวสวยเบอร์หนึ่งของเมืองอวิ๋นโจว

โดยปิดบังฐานะที่แท้จริงของเขาเอาไว้ไม่ให้สาวเจ้าได้รู้

เขาจึงต้องตกอยู่ในสภาพของเขยที่แต่งเข้า โดนคนในบ้านผู้หญิงดูถูก

มิหนำซ้ำในวันที่เขากำลังจะไปสารภาพความจริง ก็ดันไปเห็นภรรยาที่รักกับชายชู้

แถมยังชักชวนคนมากมายให้ตัดทางทำมาหากินของเขา

ด้วยเหตุนั้น เย่เฉินจึงเริ่มลงมือล้างแค้นพวกเขาทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท