พอเห็นท่าทางน่าสงสาร น้ำตาคลอเบ้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อของหวังเจียเหยาก็ทำให้ความรู้สึกต่างๆ ประเดประดังเข้ามาในหัวเย่เฉิน
สามปีมานี้เย่เฉินทะนุถนอมหล่อนราวเจ้าหญิง ปรนนิบัติอีกฝ่ายราวราชินี ปกป้องดูแลราวเจ้าหล่อนเป็นไข่มุกที่แสนล้ำค่าไม่ให้แปดเปื้อนมลทินใดๆ หวังเจียเหยาไหนเลยจะเคยเจอเรื่องแบบนี้?
หากเป็นเย่เฉินคนเก่า ถ้ามีคนกล้าตบหวังเจียเหยา เขาต้องไม่ปล่อยคนผู้นั้นไปแน่
แต่เย่เฉินรู้ว่าที่ฉินหงเหยียนตบอีกฝ่ายก็เพื่อระบายโทสะแทนเขา
อีกทั้งหวังเจียเหยาเป็นคนรนหาที่เอง!
มือขวาของเย่เฉินกดลงบนบ่าของฉินหงเหยียนแล้วกล่าวว่า ช่างเถอะ
จากนั้นก็บอกกับหวังเจียเหยา คุณไปเถอะ ผมไม่ใช่ผู้ชายของคุณแล้ว!
น้ำตาของหวังเจียเหยาหยุดไหลทันทีหล่อนไม่เคยแสดงด้านที่อ่อนแอต่อหน้าเย่เฉินมาก่อน
หมาที่ตระกูลหวังเราเลี้ยงมาสามปี ถึงฉันจะไม่เลี้ยงมันแล้วแต่จะยกให้คนอื่นไปเรื่อยไม่ได้! เย่เฉิน ฉันขอสั่งให้นายออกจากบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเดี๋ยวนี้ ห้ามเป็นบอดี้การ์ดให้ฉินหงเหยียนอีก! ฉินหงเหยียนให้เงินนายปีละสองแสนใช่ไหม? ฉันให้นายห้าแสนเลย!
ฉินหงเหยียนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเจียเหยา ฮ่าๆ คิดจะใช้เงินห้าแสนซื้อตัวคุณ…
อ่ะแฮ่ม
ฉินหงเหยียนกำลังจะหลุดปากเรียกคุณเย่ตามความเคยชิน เย่เฉินจึงรีบกระแอมเพื่อขัดอีกฝ่าย
หวังเจียเหยาในตอนนี้กำลังเดือดปุดๆ เพิ่งโดนคนในบ้านด่า แล้วยังมาโดนฉินหงเหยียนตบอีก หากรู้เรื่องสถานะที่แท้จริงของเย่เฉินอีก เกรงว่าคงจะรับเรื่องราวทั้งหมดติดต่อกันไม่ไหว
ฉินหงเหยียนปรายตามองเย่เฉิน จากนั้นจึงเอ่ยต่อ ฮ่าๆ คิดจะใช้เงินห้าแสนซื้อตัวเย่เฉิน คุณนี่ใสซื่อเกินไปแล้ว? ต่อให้เติมศูนย์ไปด้านหลังอีกตัวก็ไม่พอ!
อะไรนะ?
ใบหน้าหวังเจียเหยาเหลือเชื่อ หรือว่ารายได้รายปีจากการเป็นบอดี้การ์ดของเย่เฉินไม่ใช่สองแสน? แต่เป็นห้าล้านเหรอ?
ต่อให้ฉินหงเหยียนจะมีเงินเท่าไหร่ก็คงไม่ถึงขั้นว่าจะใช้เงินห้าล้านจ้างบอดี้การ์ดหรอกมั้ง
หวังเจียเหยารู้ว่าตนเองมีเงินน้อยกว่าฉินหงเหยียนจึงกล่าว เย่เฉิน นายจะต้องลาออกจากบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเดี๋ยวนี้! ฉันบอกนายไว้เลยนะ หวังซ่าวเจี๋ยเจอหลักฐานที่ชี้ว่านายเป็นคนเอานาฬิกาไปขายแล้ว นายโดนคดีแน่! อย่างน้อยเราก็เคยเป็นสามีภรรยากัน ฉันไม่อยากให้นายไปติดคุกในช่วงอายุที่กำลังเป็นช่วงสำคัญ! หากนายเชื่อฟังฉัน เลิกกับฉินหงเหยียนแล้วกลับไปตระกูลหวังยอมเป็นบอดี้การ์ดให้ฉัน ฉันจะบอกให้หวังซ่าวเจี๋ยปล่อยนายไป!
เย่เฉินกล่าวอย่างไม่แยแส ขอบคุณในความหวังดีของคุณนะ แต่ผมคงไปเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณไม่ได้หรอก ผมไม่สามารถดูแลความปลอดภัยของคุณไปพร้อมๆ กับดูคุณไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่นได้! ส่วนถ้าหวังซ่าวเจี๋ยมีหลักฐานล่ะก็อยากจะฟ้องผมยังไงก็เชิญ
พอพูดจบเย่เฉินก็เข้าไปยังที่นั่งคนขับของรถพอร์ชแล้วขับออกไปพร้อมกับฉินหงเหยียน
เย่เฉิน นายห้ามไปนะ!
พอเห็นเย่เฉินไปโดยไม่สนใจหล่อน หวังเจียเหยาก็โกรธจนกระทืบเท้าเร่าๆ
ผีเน่ากับโลงผุ ฉินหงเหยียนใช้เงินห้าล้านจ้างเขา เย่เฉินไม่มีทางเป็นแค่บอดี้การ์ดเฉยๆ เท่านั้นแน่ หล่อนต้องให้เขาเป็นคู่รักลับๆ ไปด้วยแน่เลย! ดีนี่ฉินหงเหยียน มีแฟนเป็นผู้บริหารอย่างคุณเย่แต่ยังมีหน้าไปหาผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแล้วมีหน้ามาว่าฉันหน้าไม่อาย เธอต่างหากที่หน้าไม่อาย!
เย่เฉินเองก็สารเลว รู้ทั้งรู้ว่าฉินหงเหยียนมีคนรักอยู่แล้ว ยังยอมเป็นชายชู้ของหล่อน ในเมื่อทนเห็นฉินหงเหยียนมีชายอื่นได้ ทำไมถึงทนให้ฉันมีผู้ชายคนอื่นไม่ได้! น่าโมโหจริงๆ สองมาตรฐานนี่นา! ฉันด้อยกว่าฉินหงเหยียนตรงไหน!
……
ถนนเลขที่ 7 เมืองอวิ๋นโจว
ที่นี่เป็นย่านที่พักอาศัยของคนจนและอันธพาล
‘พี่กวา’ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอวิ๋นโจว เขาอาศัยอยู่ที่นี่มานาน
ตอนนี้หวังซ่าวเจี๋ยมาถึงถนนเลขที่ 7 ตามคำแนะนำทำให้เขาได้เจอ ‘พี่กวา’ ในตำนาน
พี่กวาสวัสดีครับ หวังซ่าวเจี๋ยทักทายเมื่อเห็นชายหนุ่มรูปร่างกำยำ รอยสักเต็มตัวในผมทรงเดรดล็อค
ซีกวาที่กำลังกินหอยนางรมและดื่มเบียร์มองหวังซ่าวเจี๋ย คุณชายหวังนี่เอง แขกผู้มีเกียรติมาเยือน เสียมารยาทแล้ว
ดูเผินๆ เหมือนจะเกรงใจ แต่ซีกวาก็ยังคงดื่มกินเหมือนเดิมแถมยังไม่ได้ชายตาแลหวังซ่าวเจี๋ยมากมายนัก
หวังซ่าวเจี๋ยเองก็ไม่คิดเล็กคิดน้อย
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าว ที่ผมมาที่นี่ก็เพราะอยากทำการซื้อขายกับพี่กวา ผมมีนาฬิการิชาร์ด มิลล์ ราคาห้าล้าน ผมอยากจะขายให้พี่กวาถูกๆ ที่สี่ล้านห้า แต่พี่ห้ามบอกใครว่าผมเป็นคนขาย ให้บอกว่าคนชื่อเย่เฉินมาขายให้พี่
ซีกวามองบาดแผลบนใบหน้าหวังซ่าวเจี๋ยก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม แผลบนหน้าคุณ คงเป็นฝีมือคนชื่อเย่เฉินล่ะสิ?
หวังซ่าวเจี๋ยพยักหน้าอย่างเก้อเขิน พี่กวาเดาได้ถูกแล้วครับ เขาเป็นเขยที่แต่งเข้าบ้านอารองของผม ที่บ้านไม่อยากจะโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะเห็นแก่หน้าของที่บ้านแต่ผมทนไม่ได้! ผมจะต้องส่งเขาเข้าคุกให้ได้!
ซีกวาดื่มเบียร์แล้วกล่าว ทำไมต้องทำให้วุ่นวายแบบนี้ ผมส่งคนไปช่วยคุณสั่งสอนเขาไม่ดีหรือ?
หวังซ่าวเจี๋ยถอนหายใจ พี่กวาอาจจะยังไม่รู้ หมอนั่นฝึกวิชาป้องกันตัว นักเลงที่พ่อผมส่งไปก็โดนเขาเล่นงานเอาเสียหมอบเลย!
เอ๊ะ? ซีกวาเกิดสนใจขึ้นมาทันที
เขยที่แต่งเข้าคนหนึ่งมีความสามารถในการเตะต่อยได้ขนาดนี้เลย?
ซีกวาครุ่นคิดแล้วส่ายหน้า ผมคงช่วยคุณไม่ได้ ท่านหลิวเคยบอกเอาไว้ว่า อย่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องในบ้านคนอื่น เกิดช่วยเสร็จแล้วกลับไปดีกันขึ้นมา เราคนทำนี่แหละจะกลายเป็นคนผิดเพียงคนเดียว
หลังจากหวังซ่าวเจี๋ยโดนอีกฝ่ายปฏิเสธก็ร้อนรน ไม่มีทางครับ! เย่เฉินคนนี้หย่ากับญาติของผมแล้ว! แล้วอีกอย่างท่านหลิวเป็นใครกัน ทำไมต้องฟังเขาด้วย?
เหลวไหล! ท่านหลิวเป็นนายใหญ่ของพี่กวาของเรา!
จู่ๆ ลูกน้องข้างตัวซีกวาก็ตะโกนใส่หวังซ่าวเจี๋ย
ซีกวาสะบัดมือแล้วยิ้มให้หวังซ่าวเจี๋ย ท่านหลิวคือคนที่ดูแลสั่งสอนผม ถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีผมในวันนี้ ดังนั้นผมถือว่าคำพูดของเขาเป็นประกาศิต! คุณไปขอให้คนอื่นช่วยเถอะ
หวังซ่าวเจี๋ยไม่ยอมเลิกรา เขารู้ว่าซีกวาเป็นคนโลภแถมช่วงนี้ทางการกำลังเข้มงวด ธุรกิจสีดำพวกนั้นของเขาจึงไม่ใคร่จะราบรื่นนักจะต้องขาดแคลนเงินมากแน่
ดังนั้นหวังซ่าวเจี๋ยจึงกล่าวว่า สี่ล้านแล้วกันผมขายให้พี่สี่ล้าน!
ซีกวาส่ายศีรษะ ผมบอกแล้วไง ท่านหลิวดีกับผมดุจพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ทุกคำที่เขาพูดผมต้องเชื่อฟัง!
หวังซ่าวเจี๋ยกัดฟันกรอด สามล้าน! ผมขายให้พี่สามล้าน พี่จะได้กำไรสองล้านเลยนะ!
ซีกวายิ้ม ท่านหลิวเคยบอกเอาไว้ ในโลกของนักเลงอย่างเรา อย่าได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเงิน! ไม่ว่าฟ้าดินจะกว้างใหญ่ขนาดไหนแต่ก็ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าเงิน! คุณชายหวังครับ ผมจะรับทำงานนี้ให้คุณ!