ถึงจะบอกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อทำให้หวังเจียเหยาเกิดหวั่นไหวขึ้นมาน้อยๆ แต่หล่อนก็ไม่แสดงออกให้เขาเห็น
หวังเจียเหยาผลักซ่งหงเย่เบาๆ “พูดจาเหลวไหลอะไรฉันไม่ใช่เธอนะที่แต่งงานแล้วยังเลี้ยงเด็กๆ เอาไว้ ฉันไม่ทรยศสามีของฉันหรอกนะ”
ในสายตาหวังเจียเหยา ตอนนี้เย่เฉินเป็นคู่ครองที่สมบูรณ์แบบที่สุดและเติมเต็มความฝันที่หล่อนมีเกี่ยวกับคู่ชีวิต
ซ่งหงเย่กล่าวต่อ “รู้หรอกว่าพวกเธอรักกัน ก็แค่เล่นๆ เอง เธอนี่มันจริงๆ เลย จะบอกอะไรให้นะหลิ่วอวี่เจ๋อคนนี้บ้านมีเงินตั้งแสนล้าน ไม่ได้น้อยไปกว่าสามีของเธอเลยนะ!”
“อะไรนะ?”
หวังเจียเหยาตกใจจนพูดไม่ออก ทำไมเมื่อก่อนผู้ชายรวยหมื่นล้านยังไม่เคยเจอ ตอนนี้พอแต่งงานแล้วแค่เจอใครคนหนึ่งก็เป็นเศรษฐีที่มีเงินแสนล้านไปเสียได้?
ซ่งหงเย่โดนหลิ่วอวี่เจ๋อข่มขู่ จึงจำเป็นต้องชมเขาต่อ “เจียเหยาเรื่องของเธอกับฟางเชา ไม่แน่ว่าวันคีคืนดีเกิดเรื่องแดงขึ้นมาล่ะ บวกกับท่าทีที่เธอมีกับเขาในตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาอีก
เมื่อสามปีก่อนที่เธอทำอย่างนั้นกับเขา ไม่แน่ว่าวันไหนเกิดเขาไม่อยากได้เธอขึ้นมา ฉันคิดว่าเธอหาตัวสำรองเอาไว้ซักคนก็ดีนะ หลิ่วอวี่เจ๋อก็ดูหลงเธอดีออก เป็นตัวเลือกที่ดีใช้ได้เลย เธอลองคิดๆดูแล้วกัน”
พูดจบซ่งหงเย่ก็จากไป
“คุณหวังครับ ตอนนี้คุณพอมีเวลาไหมครับ? ผมอยากจะเล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบและแผนในอนาคตที่ผมวางไว้สำหรับวิลล่าพวกนี้น่ะครับ”
หลิ่วอวี่เจ๋อเสแสร้งวางมาดเป็นคนตั้งใจทำงานอย่างยิ่ง
“ได้ค่ะ” หวังเจียเหยาลูบผมยาวสลวยของตนเองแล้วรับคำอีกฝ่ายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
……
สามวันต่อมา
ฝนตกโปรยปรายในเวลาสามทุ่ม
เย่เฉินยังอยู่ที่ห้องทำงาน เขาร้ว่าช่วงนี้หวังเจียเหยามักจะคอยตรวจงานอยู่ที่อีผิ่นเจียเหยา เพราะตอนี้ภรรยากำลังท้อง เขาจึงเป็นห่วงเป็นใยหล่อนมากกว่าปกติจึงกดโทรหาอีกฝ่าย
“ที่รักคุณยังอยู่ที่อีผิ่นเจียเหยาใช่ไหม? วันนี้เหมือนคุณไม่ได้ขับรถไป ผมไปรับคุณกลับบ้านดีไหม?” เย่เฉินถาม
หวังเจียเหยาที่อยู่ในสายตอบ “ไม่ต้องหรอกค่ะที่รัก นายทำงานของนายเถอะ ฉันเรียกแท็กซี่แล้ว ตอนนี้อยู่ที่บ้านแล้ว!”
“อ้อ ก็ได้ เดี๋ยวผมรีบกลับบ้าน ถ้าคุณเหนื่อยก็นอนก่อนเถอะ”
“ค่ะ รักนะคะ”
พอกดวางสายแล้ว หวังเจียเหยาก็ใช้มือแตะกระจกรถ ขณะชมภาพสายฝนเม็ดเล็กที่โปรยปรายด้านนอกกระจกรถอย่างอิ่มเอมใจ
ในตอนนี้หล่อนกำลังนั่งอยู่ในที่นั่งด้านข้างคนขับของรถหรูมูลค่าห้าสิบล้านของหลิ่วอวี่เจ๋อ
หลิ่วอวี่เจ๋อเพิ่งขับรถมาส่งหล่อนที่วิลล่าเขตเหมยกุยหยวน
รถไม่ได้ขับเข้าไปด้านในแต่กลับจอดที่ถนนฝั่งตรงข้าม
“ขอบคุณนะอวี่เจ๋อที่มาส่ง” หวังเจียเหยากล่าวพร้อมส่งยิ้มน้อยๆ
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ได้ส่งนางฟ้าอย่างคุณกลับบ้านเป็นความฝันที่คนธรรมดาอย่างผมจะหาจากไหน ผมควรจะขอบคุณคุณหวังต่างหาก”
หลิ่วอวี่เจ๋อปากหวานอย่างยิ่ง เขามักจะเยินยออีกฝ่าย หลายวันมานี้ที่ทำงานด้วยกันส่งผลให้หล่อนชอบเขามากกว่าเดิม
หวังเจียเหยาใช้มือตีเขาเบาๆ “นายนี่เอาใจผู้หญิงเก่งจริงๆ ไม่รู้ว่านายหลอกผู้หญิงไปกี่คนแล้ว”
หลิ่วอวี่เจ๋อทำหน้าใสซื่อ “ไม่จริงเลยนะครับ! ชีวิตนี้ผมเคยชมแค่คุณคนเดียว! ผู้หญิงคนอื่นแค่มองผมยังไม่มองเลย”
“ชิ คนโง่น่ะสิถึงจะเชื่อนาย นายหล่อขนาดนี้แล้วก็ยังมีเงินตั้งเยอะ ผู้หญิงที่ตามตื๊อนายไม่รู้ว่ามีกี่คน”
หวังเจียเหยามองเสี้ยวหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มอย่างอดไม่ได้ก่อนจะกล่าว “ดึกมากแล้ว เดี๋ยวสามีฉันก็จะกลับมาแล้วเดี๋ยวถ้าเขาเห็นเข้าคงดูไม่ดี ฉันไปล่ะเจอกันที่บริษัทพรุ่งนี้นะ”
ในตอนที่หวังเจียเหยากำลังเปิดประตูจะลงรถนั้นเอง ใครจะรู้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อก็คว้ามือซ้ายของหญิงสาวเอาไว้
“คุณหวัง…”
หวังเจียเหยาทำอะไรไม่ถูก “นี่นายทำอะไรน่ะ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อวางแผนการต่างๆ นานาเพียรพยายามเข้าใกล้หวังเจียเหยามาถึงสามวัน
“คุณหวังตั้งแต่ที่เจอคุณเมื่อสามวันก่อน ผมก็ตกหลุมรักคุณแล้ว คุณเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็น ผมชอบคุณครับ!”
เมื่อโดนอีกฝ่ายสารภาพรักทำให้หวังเจียเหยาทำอะไรไม่ถูก
แต่สัมผัสที่หกของผู้หญิงก็ถือว่าค่อนข้างแม่นยำทีเดียว หล่อนพอจะมองออกนานแล้วว่าหลิ่วอวี่เจ๋อคิดอะไรกับตนเอง
หวังเจียเหยาปล่อยมือเขาแล้วกล่าว “อวี่เจ๋อฉันมีสามีแล้วนะ อีกอย่างก็มีลูกแล้วด้วย นายเก่งขนาดนี้ทำไมต้องมาชอบฉันด้วย? ผู้หญิงที่นายเลือกได้ยังมีอีกเยอะนะ”
หลิ่วอวี่เจ๋อคว้ามือหญิงสาวอีกครั้งแล้วกล่าวด้วยใบหน้าลึกซึ้งเปี่ยมอารมณ์ “ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนบนโลกใบนี้ก็ไม่ได้ถึงหนึ่งในพันของคุณหรอกครับ!”
หวังเจียเหยาสับสนอย่างมาก แต่ความสัมพันธ์แค่สามวันไหนเลยจะสู้ความสัมพันธ์สามปีได้
อีกอย่างหล่อนยังไม่ได้รู้จักชายตรงหน้ามากนัก ย่อมไม่มีทางรับปากเขา
หวังเจียเหยากล่าวว่า “ฉันยังไม่รู้เรื่องของครอบครัวนายเลย”
หวังเจียเหยาเองอยากจะอาศัยโอกาสนี้ทำความเข้าใจว่าที่บ้านเขาทำอะไรกันแน่ ทำไมเขาถึงได้รวยแบบนี้
และในตอนนี้เองหลิ่วอวี่เจ๋อก็แบไต๋ออกมา “บ้านผมทำพวกขนส่งครับก็ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสเป็นบริษัทของที่บ้านผมเอง”
หวังเจียเหยาตกใจทันที “ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสเหรอ? ท่านประธานหลิ่วหลิ่วหย่วนหางคือปู่ของนาย? นายคือญาติผู้น้องของฟางเชาเหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อผงกศีรษะ
หวังเจียเหยาประหลาดใจอย่างมาก ชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสเป็นบริษัทขนส่งที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ ถ้าหลิ่วอวี่เจ๋อเป็นหลานของหลิ่วหย่วนหางจริงๆ อย่างนั้นแล้วเรื่องที่เขามีทรัพย์สินหลักแสนล้านก็ไม่ต้องสงสัย!
แต่ว่าตอนนี้หวังเจียเหยากลับกังวลใจเล็กน้อย เพราะเย่เฉินกับฟางเชาเคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อน ดังนั้นฟางเชาจึงไปขอกำลังเสริมที่เทียนไห่
หวังเจียเหยาคลายมือของหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วถามเขา “นายมาที่นี่ทำไม? คงจะไม่ได้มาหาเรื่องสามีฉันใช่ไหม?”
หลิ่วอวี่เจ๋อทำเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว เขาถามอย่างสงสัยว่า “หาเรื่องสามีคุณทำไม? ทำไมผมต้องหาเรื่องเขาด้วย? อ้อ จริงสิคุณรู้จักฟางเชาด้วยเหรอ? ที่จริงถึงแม้ว่าฟางเชาจะเป็นญาติผมแต่ว่าพวกเราไม่ไปมาหาสู่กับคนบ้านนั้น ผมไม่เจอเขามาก็หลายปีแล้ว”
หวังเจียเหยาเคย ‘สมรสปลอมๆ’ กับฟางเชา ดังนั้นจึงพอจะเคยได้ยินฟางเชาพูดมาว่าว่าตระกูลฟางไปเทียนไห่แต่คนตระกูลหลิ่วไม่แม้แต่จะมาพบพวกเขา
พอหลิ่วอวี่เจ๋อบอกว่าตนเองไม่เคยเจอฟางเชามาก่อนจึงแนบเนียนและสมเหตุสมผล
หวังเจียเหยาจึงแกล้งถามหยั่งเชิงต่อ “ฟางเชาไม่เคยไปหาพวกนายที่เทียนไห่เลยเหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อตอบว่า “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน หลายปีมานี้ผมอยู่เมืองนอก เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วันเองก็โดนหงเย่ลากมาให้ช่วยงานคุณที่อวิ๋นโจวแล้ว จนตอนนี้ยังไม่ได้กลับเทียนไห่เลย ทำไมเหรอ? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?”
หวังเจียเหยาโบกมือ “ไม่มีอะไรๆ”
ในเมื่อหลิ่วอวี่เจ๋อไม่รู้เรื่องของเย่เฉินกับหลิ่วหรูซือ อย่างนั้นแล้วหล่อนก็ไม่บอกเขาดีกว่า
เย่เฉินเคยอธิบายกับหล่อนว่าระหว่างเขากับหลิ่วหรูซือในคืนนั้นไม่ได้มีอะไรกันแม้แต่น้อย เขาแค่ให้หล่อนร้องเพลงให้เขาฟังทั้งคืนก็แค่นั้น
หวังเจียเหยารู้ว่าสามีตนเองเป็นคนแบบไหน หล่อนจึงเชื่อเขา
หวังเจียเหยาก็ถามอีก “อวี่เจ๋อนายกับคุณอาสนิทกันไหม?”
หลิ่วอวี่เจ๋อตอบ “หลิ่วหรูซือเหรอ? หล่อนไม่ใช่อาผม ตระกูลหลิ่วเราตัดขาดกับหล่อนไปนานแล้ว!”
หวังเจียเหยาคลายความกังวลลงไปไม่น้อย ในเมื่อตระกูลหลิ่วตัดขาดกับหลิ่วหรูซือแล้วก็แปลว่าไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะต้องแก้แค้นเย่เฉินเพราะเรื่องของหลิ่วหรูซือ
หลิ่วอวี่เจ๋อคว้ามือหวังเจียเหยามากอบกุมแล้วถามซ้ำ “พี่นางฟ้าคุณจงใจเปลี่ยนเรื่องใช่ไหม? เมื่อครู่ผมเพิ่งสารภาพรักกับคุณไปนะ คุณคิดอะไรกับผมบ้างหรือเปล่า?”
หวังเจียเหยาเขินอายไม่รู้จะพูดอะไร
ทว่าครั้งนี้หล่อนกลับไม่สะบัดมือของอีกฝ่ายที่กุมมือหล่อนอยู่
แต่กลับโอนอ่อนยอมให้เขาสอดประสานนิ้วแนบชิดกับนิ้วขวาของตนราวคนรักกัน!