เมื่อวานหลิ่วอวี่เจ๋อจงใจทำกาแฟหกใส่ซ่งหงเย่ที่สตาบัค เพื่อใกล้ชิดหล่อน
ตั้งแต่ได้ยินเนื้อหาในปากกาอัดเสียงของฟางเชา หลิ่วอวี่เจ๋อก็อยากกินหวังเจียเหยาจนทนไม่ไหว เขาสาบานกับตัวเองว่าจะต้องครอบครองหวังเจียเหยาให้ได้
ดังนั้นฟางเชาจึงวางแผนให้เขาใกล้ชิดหญิงสาว โดยอาศัยซ่งหงเย่เพื่อนสนิทของหล่อนเป็นสะพาน!
เมื่อคืนวานหลิ่วอวี่เจ๋อนอนกับซ่งหงเย่ไปก่อนแล้ว
แถมยังเอาเรื่องหน้าที่การงานของสามีมาขู่ตนเอง เพื่อให้หล่อนช่วยเขาจีบหวังเจียเหยา!
ซ่งหงเย่เองไม่ได้อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างหวังเจียเหยาและเย่เฉิน แต่เพื่อไม่ให้สามีของตนเองต้องลำบาก หล่อนจึงไม่มีทางเลือก
“อวี่เจ๋อ คนผู้นี้ก็คือผู้บริหารโปรเจกต์อีผิ่นเจียเหยา”
ซ่งหงเย่กล่าวแนะนำ
หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นหวังเจียเหยาตกใจจนตัวค้างแข็ง เขามองหญิงสาวด้วยท่าทีหลงใหลแล้วกล่าวชม
“สวรรค์ นี่เป็นคนจริงๆ เหรอครับเนี่ย? น่าจะเป็นนางฟ้าเสียมากกว่าละมั้ง! โลกนี้มีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ได้ยังไงครับเนี่ย!”
เมื่อหลิ่วอวี่เจ๋อเห็นหวังเจียเหยาก็รู้สึกว่าใบหน้าของอีกฝ่ายงดงามสะดุดตาจริงๆ ที่เขาจงใจพูดแบบนี้ก็เพื่อปะเหลาะให้หวังเจียเหยาดีใจ
หวังเจียเหยาถูกชมว่าสวยเหมือนนางฟ้าก็เขินอายไปน้อยๆ แต่ได้ยินมาว่าเขาเป็นสถาปนิก หวังเจียเหยาจึงรีบร้อนกล่าวด้วยความเกรงใจ
“คุณหลิ่วคะ คุณก็เกรงใจเกินไปแล้ว ฉันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ เอง”
หวังเจียเหยาตาไว แค่มองปราดเดียวก็มองออกว่ารถคันนี้ของหลิ่วอวี่เจ๋อมูลค่าไม่น้อยจึงกล่าวถาม
“คุณหลิ่วรถคันนี้ของคุณใช่ไหม? น่าจะแพงมากเลยล่ะสิ? ไม่งั้นอย่าจอดไว้แถวนี้เลย แถวนี้ยังก่อสร้างกันอยู่เลย ถ้ามีอะไรไปโดนใส่เข้าเดี๋ยวลำบาก”
หลิ่วอวี่เจ๋อตบบริเวณหน้ารถที่สวยงามของแอสตันมาร์ตินแล้วกล่าวพร้อมระบายยิ้ม “ไม่เป็นอะไรโดนชนแล้วพังก็ไม่เป็นอะไรหรอก ผมมีรถแบบนี้อีกเยอะแยะ”
ซ่งหงเย่กลัวว่าหวังเจียเหยาจะไม่รู้ราคาแน่ชัดของรถคันนี้ อีกทั้งจำนวนที่แน่ชัดนี้ก็จะให้หลิ่วอวี่เจ๋อบอกด้วยตัวเองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะดูอวดรวยจนเกินไป
ดังนั้นซ่งหงเย่จึงกล่าวว่า “เจียเหยาเธอรู้รุ่นรถหรือยัง? แอสตัมาร์ติน one77 ทั้งโลกมีแค่ 77 คันนะ แพงกว่ารถมายบัคของสามีเธอก็ไม่เท่าไหร่หรอก ราคาน่าจะซักห้าสิบล้านได้ล่ะมั้ง!”
“อะไรนะ? ห้าสิบล้าน? แพงกว่ารถของสามีฉันอีกเหรอ?”
หวังเจียเหยาตกใจจนพูดไม่ออก หล่อนคิดมาตลอดว่ารถมายบัคคันนั้นของสามีหล่อนจะเป็นรถที่แพงที่สุดในบรรดารถหรูแล้ว คิดไม่ถึงว่ารถของหลิ่วอวี่เจ๋อคันนี้จะแพงกว่ามายบัคของเย่เฉินตั้งยี่สิบล้าน!
“ใช้เงินห้าสิบล้านซื้อรถคันหนึ่ง…นี่เขาเป็นใครกันนะ?”
ตอนที่หวังเจียเหยามองหลิ่วอวี่เจ๋ออีกครั้ง ก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้น่ามองขึ้น และหล่อเหลาขึ้นด้วย
หวังเจียเหยาจึงกล่าวถาม “คุณหลิ่วเป็นสถาปนิกเหรอคะ? อายุน้อยจังเลยไม่ค่อยเหมือนสถาปนิกเลยนะคะ”
หลิ่วอวี่เจ๋อหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากในรถ แล้วส่งให้หวังเจียเหยาแล้วกล่าว “คุณหวังเรียกอวี่เจ๋อก็พอแล้วครับ นี่คือแบบร่างที่ผมออกแบบให้อีผิ่นเจียเหยาของพวกคุณ คุณหวังลองดูนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง”
หวังเจียเหยาคลี่กระดาษออกดูแล้วกล่าวชม “อืม ฉันชอบดีไซน์นี้มากค่ะสวยกว่าของสถาปนิกต่างชาติคนก่อนมากเลย!”
หลิ่วอวี่เจ๋อย่อมไม่ได้ออกแบบเอง เขาจ้างสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมาออกแบบให้
แต่หลิวอวี่เจ๋อเองก็เรียนสถาปนิกมา เขาย่อมพอเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับสายงาน
ซ่งหงเย่กล่าวว่า “หลิ่วอวี่เจ๋อเองเรียนกับสถาปนิกที่โด่งดังมาตั้งแต่เด็ก ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังหาสถาปนิกอยู่ คนที่ฉันหาให้เธอเป็นยังไงบ้าง?”
หวังเจียเหยาพออกพอใจกับภาพร่างที่หลิ่วอวี่เจ๋อออกแบบมาก หล่อนมองรถเขาอีกครั้ง “ฉันกลัวจ่ายค่าจ้างให้เขาไม่ไหวน่ะสิ”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวพร้อมยิ้ม “ขอแค่คุณหวังชื่นชอบการออกแบบของผม ส่วนในเรื่องของค่าจ้างคุณเสนอมาได้เลย ได้รับใช้นางฟ้าถือเป็นเกียรติของผม!”
หลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่คนรูปหล่อร่ำรวยทั่วๆ ไป แต่กลับเรียกหวังเจียเหยาว่านางฟ้าไม่ขาดปากทำให้หล่อนดีใจอย่างมาก
หวังเจียเหยาก็ไม่ลังเลอีก อย่างไรเสียการได้เจอสถาปนิกที่ออกแบบได้ถูกใจ ก็ไม่ง่ายจึงยื่นมือออกมาให้เขา “อย่างนั้นก็ยินดีต้อนรับคุณเข้าสู่ทีมของฉันนะคะ!”
หลิ่วอวี่เจ๋อกุมมือกับหวังเจียเหยาแต่กลับอ้อยอิ่งไม่ยอมปล่อยมืออีกฝ่าย
หวังเจียเหยาเองเก้อเขินอย่างมาก ซ่งหงเย่กระแอมน้อยๆ หลิ่วอวี่เจ๋อถึงจะยอมปล่อยมือหวังเจียเหยา
“งั้นฉันไม่รบกวนพวกเธอแล้วนะ ทำงานกันเถอะ เจียเหยาเธอต้องดูแลน้องชายฉันคนนี้ให้ดีๆ นะ”
ซ่งหงเย่พูดแล้วก็ขอตัว
“นี่ รอก่อน!”
หวังเจียเหยาสาวเท้าขึ้นไปด้านหน้าแล้วลลากหล่อนไปอีกฝั่ง จากนั้นก็กล่าวถามเสียงเบา “เขาเป็นใครน่ะ? เด็กใหม่เธอเหรอ? ไปหามาจากไหน? หล่อรวยเกินไปแล้วล่ะมั้ง!”
ซ่งหงเย่กล่าว “ใช่ก็แย่ ฉันน่ะอยากนอนกับเขาแต่เขาไม่ชอบฉัน ต้องเป็นนางฟ้าแบบเธอนี่ เขาจึงจะอยากได้น่ะ! เจียเหยา ยังไงตอนนี้เธอก็ท้องลูกเย่เฉินแล้ว ไม่สู้ลองพิจารณาหลิ่วอวี่เจ๋อล่ะ”
หวังเจียเหยามองชายหนุ่มตัวสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาที่เอาแต่เรียกหล่อนว่านางฟ้าคนนั้น ในใจก็สั่นไหว คิดไม่ถึงว่าตนเองจะเกิดหวั่นไหวขึ้นมา!