และแล้วเวลาหนึ่งสัปดาห์ก็ผ่านไป
คืนหนึ่งหลังจากที่หลิ่วอวี่เจ๋อเพิ่งจะส่งหวังเจียเหยากลับบ้านแล้วขับรถกลับโรงแรมอันเป็นที่พักของตนเอง ก็มีสายโทรเข้ามาจากฟางเชา
“ฮัลโหลไอ้น้องกับ ‘อดีตภรรยา’ ฉันไปถึงแล้วล่ะ?” ฟางเชากล่าวพร้อมหัวเราะ
ฟางเชาในตอนนี้ไม่ได้อยู่อวิ๋นโจว แต่ยังอยู่ที่เทียนไห่
อิทธิพลของเย่เฉินนั้นหยั่งรากลึกในอวิ๋นโจวนั้น เขากลัวว่าทันทีที่กลับไปแล้วหากไปเจอซีกวากับหลิวเจิ้งคุนเข้าจะโดนซ้อมเอา
และก่อนที่หลิ่วอวี่เจ๋อจะเอาชนะเย่เฉินได้นั้น ฟางเชาจะไม่ยอมกลับอวิ๋นโจว
หลิ่วอวี่เจ๋อถอนหายใจแล้วกล่าว “แม่งอย่าให้พูดเลย รู้จักกันเกือบจะครึ่งเดือนแล้วยังไม่มีอะไรเลย! ตอนนี้หวังเจียเหยาแค่ให้ฉันไปส่งหล่อนกลับบ้าน คิดว่าคงเห็นแก่รถรุ่นลิติเต็ดราคาห้าสิบล้านคันนั้นของฉัน ยังไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวด้วยซ้ำ ทำได้แค่จับมือในรถ อ้อ มีคราวก่อนที่ใจอ่อนยอมให้ฉันกอดครั้งหนึ่ง”
ฟางเชาระเบิดเสียงหัวเราะ “คุณชายสองแห่งตระกูลหลิ่วที่โด่งดังของเมืองเทียนไห่ ตามจีบผู้หญิงมาครึ่งเดือน คิดไม่ถึงว่ากระทั่งจูบก็ยังไม่เคยเหรอเนี่ย? ไอ้น้อง ขนาดพี่ที่มาจากบ้านนอกยังเคยนอนกับหวังเจียเหยาเลย! นายมันอ่อนกว่าพี่เยอะรู้ไหม?!”
ในวินาทีนี้ฟางเชารู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก
หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเสียอย่างมาก เขาจะยอมให้ฟางเชาเหนือกว่าเขาได้อย่างไร?
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวว่า “ไสหัวไปเลย! นายโอ้อวดอะไรของนายน่ะ? ตอนนายจีบหวังเจียเหยาสามีของหล่อนมีสภาพแบบไหน แล้วตอนฉันจีบหล่อนสามีหล่อนเป็นใคร? ตอนของนายน่ะสามีหล่อนเป็นจิ้งจอกที่คลุมขนแกะเขายังส่งอาหารเดลิเวอรี่อยู่เลย! ตอนนี้เย่เฉินเป็นถึงท่านประธานบริษัทเลยนะ! ไม่ใช่ฉันดูถูกนายนะฟางเชา แต่ถ้านายตามจีบหล่อนตอนนี้ ด้วยความเย่อหยิ่งถือตัวของหวังเจียเหยาบวกกับความรู้สึกที่หล่อนมีต่อเย่เฉินแล้ว อย่าว่าแต่จับมือหล่อนเลย กระทั่งมองหล่อนยังอาจจะไม่มองนายด้วยซ้ำ!”
ฟางเชาตอบว่า “ฉันเชื่อที่นายพูดนะ หวังเจียเหยาคนนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนซ่งหงเย่นะ”
ก่อนนี้ที่หลิ้วอวี่เจ๋อจงใจหาเรื่องตีสนิทกับซ่งหงเย่ที่สตาบัคก็เป็นความคิดของฟางเชา
ฟางเชากล่าวว่า “หวังเจียเหยานั้นเป็นคนที่มีขอบเขต ถ้าเทียบกับซ่งหงเย่แล้ว หล่อนก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่ดี ทว่าผู้หญิงคนนี้หน้าบางเกินไป อีกอย่างก็เห็นแก่เงินมากด้วย ถ้านายสามารถทำให้เย่เฉินล้มละลายกลายเป็นยาจกได้ ฉันขอรับรองว่านายจะได้ครอบครองหวังเจียเหยาจะง่ายราวพลิกฝ่ามือ!”
หลิ่วอวี่เจ๋อครุ่นคิด
หลายวันมานี้จากการพูดคุยและทำความรู้จักกับหวังเจียเหยา หลิ่วอวี่เจ๋อเองก็เริ่มจะชอบหญิงสาวเข้าแล้วจริงๆ
ชายหนุ่มร่ำรวยแบบเขากระทั่งดาราผู้หญิงมีแฟนคลับนับล้านเขายังเคยได้มาแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ครอบครองหญิงสาว เขาจะทนได้ยังไง!
คิดอยู่ครู่หนึ่งหลิ่วอวี่เจ๋อก็กล่าวว่า “ก็ดี ฉันจะประกาศศึกกับเย่เฉินอย่างเป็นทางการ! ฉันจะทำให้บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปล้มละลาย!”
ฟางเชาตื้นตันอย่างยิ่ง วันนี้คือวันที่เขารอคอย!
……
สามวันต่อมาชื่อของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปก็ขึ้นหราในเว็บไซต์การเงินต่างๆ!
กระทั่งช่องโทรทัศน์ต่างๆ จำนวนมากต่างก็รายงานเรื่องของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป!
ช่องเศรษฐกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “วันนี้ BONITA RESEARH ได้ทำรายงานจำนวน 43 หน้าในหัวข้อเรื่องการปั่นหุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปในตลาดหุ้นฮ่องกง! ในรายงานบอกว่าบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปรายงานกำไรเท็จแปดร้อยล้าน อีกทั้งผู้บริหารยังทำการคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะประธานผู้บริหารอย่างเย่เฉินที่อายุก็ยังน้อยและไม่มีความสามารถในการบริหารเลยด้วยซ้ำ แถมยังใช้เงินตามอำเภอใจ หุ้นของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปไม่มีมูลค่าอะไรเลย! รายงานบอกว่าวันนี้หุ้นร่วงหนักลงไปถึง 23% ซึ่งถือได้ว่าร่วงลงเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมา ตอนนี้บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปโดนระงับการซื้อขายจนกว่าผู้บริหารจะส่งรายงาน
ดิฉันได้ติดต่อรองผู้บริหารบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปหวังเจียเหยาและฉินหงเหยียน ทั้งสองคนแจ้งว่าเนื้อหาในรายงานไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในบริษัท ตอนนี้ผู้บริหารกำลังรีบจัดการประชุม
บริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปสร้างขึ้นในปี 2003 ธุรกิจหลักคือการบริหารสินทรัพย์ ลงทุนและพัฒนา การค้าระหว่างประเทศรวมไปถึงพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ…”
……
การประชุมภายในของผู้บริหารบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ป
เย่เฉิน ฉินหงเหยียนรวมไปถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอยู่กันพร้อมหน้า ส่วนหวังเจียเหยากำลังตาลีตาเหลือกออกจากอีผิ่นเจียเหยามาที่บริษัท
ฉินหงเหยียนรับสาย “คุณย่เจอแล้วค่ะ รายงาน 43 หน้านี้เป็นฝีมือของหลิ่วอวี่เจ๋อหลานชายของหลิ่วหย่วนหางผู้บริหารของชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสค่ะ”
“คนตระกูลหลิ่วจากเทียนไห่เหรอ”
“ฉันก็ว่าทำไมถึงได้โดน BONITA RESEARH เล่นงานอย่างไม่มีสาเหตุแบบนี้หรือว่าตั้งใจจะล้างแค้นคุณเย่?”
“หรือเป็นเพราะเรื่องของคุณเย่กับหลิ่วหรูซือ?”
เหล่าผู้ถือหุ้นเริ่มซุบซิบคุยกัน
เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดด้วยท่าทีเฉยเมย “ที่แท้ก็คนตระกูลหลิ่วนี่เอง ดูแล้วฟางเชาน่าจะไปขอกำลังเสริมที่เมืองเทียนไห่ ถือว่าได้ผลอยู่เหมือนกัน”
เย่เฉินไม่ได้แยแสที่คนตระกูลหลิ่วเล่นงานเขาสักนิด!
ตอนแรกที่เย่เฉินตั้งใจจะเล่นงานตระกูลฟาง ฉินหงเหยียนเคยเตือนเย่เฉินว่ามารดาของฟางเชาเป็นคนจากตระกูลใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนไห่
แต่เย่เฉินนั้นไม่แยแสพวกเขาแม้แต่น้อย!
ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นพวกเขาในสายตาเหมือนเดิม!
ตระกูลหลิ่วแล้วจะทำไม?
เป็นตระกูลร่ำรวยที่ติดอันดับแล้วจะทำไม?
ร่ำรวยเป็นแสนล้านแล้วจะทำไม
พวกเขาไม่ได้ล่วงรู้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของตระกูลเย่ด้วยซ้ำไป!
ฉากหน้าตระกูลเย่มีทรัพย์สินแสนล้าน แต่ความจริงแล้วมีเท่าไหร่นั้น กระทั่งเย่เฉินที่เป็นหลานชายก็ยังไม่รู้แน่ชัด!
ตระกูลหลิ่วที่มีทรัพย์สินแสนล้านก็ยังเป็นคนละระดับกับตระกูลเย่ของเขา!
เย่เฉินเคาะโต๊ะประชุมเป็นสัญญาณบอกให้ทุกคนเงียบแล้วกล่าวว่า “ทุกท่านไม่ต้องตกใจ เรื่องนี้เกิดจากเรื่องส่วนตัวของผม ผมเย่เฉินจะเป็นคนแก้ไขเอง ผู้ถือหุ้นทุกท่านโปรดวางใจ ผมขอรับรองว่าทุกคนจะไม่ต้องสูญเสียเงินแม้แต่แดงเดียวเพราะเรื่องนี้”
ทุกคนรู้ดีว่าที่เย่เฉินมาเป็นประธานผู้บริหารที่นี่ได้ เขาย่อมต้องมีคนหนุนหลังจึงพร้อมใจกันเยินยอสรรเสริญเขา
“คุณเย่พูดถูก ก็แค่ทายาทรุ่นที่สามของตระกูลหลิ่วเท่านั้นเองไม่รู้จักประมาณตัวเอง แต่อยากจะคุกคามคุณเย่ หลิ่วหย่วนหางเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร พวกเราควรจะเชื่อมั่นในตัวคุณเย่!”
“ต่อให้หลิ่วหย่วนหางออกหน้าเอง พวกเราก็เชื่อมั่นว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเย่ของพวกเรา!”
“ใช่แล้วๆ!”
เย่เฉินมองฉินหงเหยียนแล้วกำชับ “หงเหยียนรีบเตรียมรายงานชี้แจงแล้วส่งให้สื่อต่างๆ”
“ค่ะ!”
เย่เฉินเองก็กดโทรหาคุณหม่า “คุณหม่า ถึงแม้ว่ายังเหลืออีกหนึ่งเดือนกว่าถึงช่วง 11 พฤศจิกายน แต่ผมอยากจะขอเซ็นสัญญาความร่วมมือบางอย่างกับคุณก่อน ผมรู้ว่าคุณหม่าเกษียณแล้ว มีหลายเรื่องที่คุณไม่ได้จัดการด้วยตัวเอง แต่คุณสบายใจได้ ผมขอรับรองว่าผมจะทำให้ผู้ถือหุ้นทุกคนในบริษัทคุณพอใจในราคาแน่นอน ”
คุณหม่าที่อยู่ในสายหัวเราะร่วน “คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าตระกูลเย่ของคุณใช้เงินเหมือนกระดาษ แต่ผมจะไม่รู้ได้ยังไง? อย่างนั้นก็ต้องขอบคุณความใจกว้างของคุณเย่แล้ว ผมขอรับปากแทนทางบอร์ดแล้วกัน อีกครึ่งชั่วโมงคุณติดต่อพวกเขาไปได้เลย!”
“ขอบคุณครับ”
จากนั้นเย่เฉินก็โทรศัพท์อีกหลายสาย เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากคนใหญ่คนโตเหล่านี้บวกกับเงินของตระกูลเย่ที่จะทุ่มลงไป พรุ่งนี้หุ้นจะต้องขึ้นแน่!
ไม่นานหลังจากประชุมกันเสร็จ หวังเจียเหยาก็รีบร้อนมาที่ห้องทำงานของเย่เฉินแล้วถาม “ที่รักเกิดอะไรขึ้นคะ? ได้ยินมาว่าบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปโดนสื่อเล่นงานเหรอ? เจอหรือยังคะว่าฝีมือใคร”
เย่เฉินตอบ “หลิ่วอวี่เจ๋อ จากตระกูลหลิ่วที่เทียนไห่น่ะ”
หวังเจียเหยาตัวสั่นเทิ้มตัวสั่นเทิ้มทันที