เนื้อหาของคลิปเสียงในอีเมลล์ยังคงวนเวียนในหัวเขา
ยิ่งอยากลืมก็เหมือนยิ่งจำรายละเอียดได้ดีขึ้น
เดิมทีเย่เฉินเองคิดว่าโชคดีที่เป็นเพียงคลิปเสียงไม่ใช่ภาพเคลื่อนไหว
แต่บางครั้งคำพูดและเสียงยังชวนให้หงุดหงิดมากกว่าเห็นรูปภาพเสียอีก!
เพราะคนเราสามารถจินตนาการได้ไกลขึ้นจากเสียงและคำพูด!
เพราะคลิปภาพนำเสนอได้เท่าภาพที่เราเห็น แต่เราสามารถจินตนาการภาพในหัวได้เป็นล้านอย่าง!
“ฟางเชาเดียรัจฉาน!”
เย่เฉินตบอ่างล้างหน้าสุดแรง เขาต้องล้างแค้นเขา จะต้องล้างแค้นให้ได้!
หวังเจียเหยา ฟางเชาและอาจรวมซ่งหงเย่เข้าไปด้วย!
เย่เฉินไม่มีทางปล่อยคนที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นทุกคน !
และในทันใดนั้นเองก็มีคำถามวาบขึ้นมาในหัวเย่เฉิน “ทำไมช่วงนี้หวังเจียเหยาถึงได้ไปทำงานเช้าแบบนี้ แถมยังกลับบ้านดึกดื่นด้วย?”
หวังเจียเหยาท้องแล้ว ตามหลักตอนนี้หล่อนควรจะให้ความสำคัญกับสุขภาพ พักผ่อนให้มากๆ ถึงจะถูก
เดิมทีเย่เฉินคิดว่าหวังเจียเหยาเป็นห่วงโปรเจกต์ ดังนั้นถึงได้ไปอีผิ่นเจียเหยาทุกวันเพื่อจับตาดูพวกเขา
แต่ตอนนี้เย่เฉินรู้สึกแล้วว่าเรื่องไม่น่าจะมีแค่นั้น!
“หรือว่าฟางเชากลับมาแล้ว?”
เย่เฉินเริ่มสงสัยว่า ทุกวันนี้ที่หวังเจียเหยาออกบ้านแต่เช้ากลับบ้านดึกดื่นเพราะหล่อนไปพบหน้าฟางเชาหรือไม่!
เขาถึงขั้นสงสัยว่าเด็กในท้องหวังเจียเหยาตอนนี้ใช่ลูกของเขาหรือเปล่า!
ตอนนี้เย่เฉินไม่สามารถสงบจิตใจได้เลย แต่ว่าเพื่อพิสูจน์ความจริง เขาจำเป็นต้องแสดงละครให้แนบเนียนที่สุด
ลำดับแรกเย่เฉินแสร้งขับรถไปบริษัท แต่พอไปได้กลางทางเขาก็โทรหาซีกวาบอกให้อีกฝ่ายสลับรถกับตนเองระหว่างทาง
จากนั้นเย่เฉินก็ขับรถ Buick Excelle ซึ่งไม่สะดุดตาผ่านไปทางวิลล่าเขตเหมยกุยหยวน
ไม่นานนักเย่เฉินก็เห็นว่าหวังเจียเหยาเดินออกมาจากวิลล่า
“แปลกแฮะ ทำไมหวังเจียเหยาไม่ขับรถไปทำงาน?”
ในโรงรถของเย่เฉินมีรถหรูอยู่ก็มาก หวังเจียเหยาจะขับคันไหนก็ได้
ถ้าหล่อนไม่อยากขับรถเองก็เรียกคนขับรถไปส่งก็ได้
แต่ว่าหวังเจียเหยากลับใช้มือถือเรียกแท็กซี่มารับเสียอย่างนั้น
แน่นอนว่าแท็กซี่ที่หล่อนเรียกมารับไม่ใช่รถธรรมดา แต่เป็นรถหรูยี่ห้อจาร์กัวร์
เย่เฉินในตอนนี้ตัวแข็งมือเท้าชา เมื่อเห็นรถรถจากัวร์ เขาถึงขนาดรู้สึกว่าคนขับรถจาร์กัวร์คันนั้นกับหวังเจียเหยามีอะไรในกอไผ่กัน!
ทว่าหวังเจียเหยานั่งด้านหลัง อีกทั้งตอนขึ้นรถยังมีการตรวจสอบเล็กน้อย ดูไปแล้วเหมือนว่าพวกเขาไม่รู้จักกัน
叶辰悄无声息地驾驶着别克车,尾随在王佳珧所乘坐的捷豹车后面。
เย่เฉินขับรถตามหลังรถจากัวร์ที่หวังเจียเหยานั่งอยู่อย่างเงียบเชียบ
ระหว่างจอดรถรอสัญญาณไฟจราจร แต่เพราะไม่ได้ขับรถเกียร์กระปุกมานานแล้ว ตอนที่ออกตัวรถเกือบดับอยู่หลายครั้งจนเกือบจะตามไม่ทัน
โชคดีที่เย่เฉินรู้ว่ารถคันนี้จะมุ่งหน้าไปอีผิ่นเจียเหยาเลยไม่พลัดหลงกัน
เมื่อถึงอีผิ่นเจียเหยารถจาร์กัวร์คันนั้นก็ขับออกไป
“ดูไปแล้วหวังเจียเหยาน่าจะเรียกรถแท็กซี่จริงๆ แต่ว่าทำไมหล่อนถึงต้องเรียกรถผ่านแอพด้วยล่ะ? ทั้งๆ ที่ให้คนขับรถไปส่งก็ได้ ”
ด้วยศักยภาพของเย่เฉินในอวิ๋นโจว จะให้เขาจ้างคนขับรถให้หวังเจียเหยาร้อยคนก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แถมยังปลอดภัยกว่าด้วย
หลังจากมาถึงอีผิ่นเจียเหยาแล้ว เย่เฉินก็พบว่าหวังเจียเหยาเหมือนจะกำลังหาใครสักคน เมื่อหาไม่เจอแล้วหล่อนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน
แต่เหมือนจะติดต่อไม่ได้
“เขากำลังโทรหาฟางเชาหรือเปล่านะ? ดีนี่ ที่โรงแรมเจียหัวตอนนั้นยังไม่หนำใจกันล่ะสิ? ถ่านไฟเก่าตอนนี้กลับมาคุกรุ่นแล้วล่ะสิ!”
เย่เฉินเห็นท่าทางหัวเสียเมื่อติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้ ท่าทางที่อยากเจอคนรักเก่าจนทนไม่ไหวของหญิงสาว เขาโกรธจนอยากจะขับรถชนหล่อนไปเลย!
แต่กำลังจะเหยียบคันเร่ง ไฟโทสะก็ดับมอดลง!
แม่ง! เกียร์กระปุกบ้า”
บางทีอาจจะเป็นเจตนาฟ้า!
เย่เฉินโกรธจัดเขากดโทรหาหวังซ่าวเจี๋ยทันที
เหมือนว่าหวังซ่าวเจี๋ยจะยังไม่ตื่น เขาถามด้วยเสียงงัวเงีย “พี่เฉินมีอะไรเหรอครับ?”
เย่เฉินตอบ “มีเรื่องจะถามหน่อย ตอบมาตามตรงแล้วห้ามบอกใครด้วยว่าฉันถาม! ถ้าเกิดปากสว่างละก็รู้ใช่ไหมว่าผลจะเป็นยังไง”
ตอนนี้เย่เฉินต้องการจะแสดงละคร ละครฉากใหญ่ที่จะทำให้หวังเจียเหยาขอหย่ากับเขา
ดังนั้นเขาจะให้หวังเจียเหยารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าตนเองกำลังตามสืบเรื่องของหล่อนอยู่ลับๆ ส่วนหวังซ่าวเจี๋ยนั้นเคยโดนเย่เฉินซ้อมเกือบตายมาแล้ว ดังนั้นความกลัวที่อีกฝ่ายถือเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือที่สุด
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าวว่า “พี่เฉิน แผลที่พี่ตีผมเมื่อคราวก่อนยังไม่หายดีเลย พี่คิดว่าผมอยากตายเหรอครับถึงจะทรยศพี่”
เย่เฉินเอ่ยปากถาม “ฟางเชากลับอวิ๋นโจวแล้วหรือเปล่า? เขาเคยนัดเจอกับหวังเจียเหยาที่อีผิ่นเจียเหยานี่ไหม? ”
หวังซ่าวเจี๋ยตอบอย่างรวดเร็ว “พี่เฉินผมไม่รู้เลยครับ ตั้งแต่พี่กลับไปคืนดีกับน้องเจียเหยา แล้วหล่อนกลายเป็นคนดูแลโปรเจกต์อีผิ่นเจียเหยา ผมก็ดนเตะออกมา พวกเขาไม่อนุญาตให้ผมไปที่นั่นเลย พี่เฉินพี่สงสัยว่าน้องเจียเหยาจะกลับไปคืนดีกับฟางเชาใช่ไหมล่ะครับ? ไม่น่ามั้งครับ? ตอนนี้ที่บ้านฟางเชาก็ล้มละลายไปแล้วหวังเจียเหยาจะไปพบเขาทำไม?”
คำพูดนี้ของหวังซ่าวเจี๋ยไปสะกิดใจเย่เฉินเข้า
สามีภรรยารู้จักกันดีเป็นเหมือนคนๆ เดียวกัน เย่เฉินรู้ว่าหวังเจียเหยารักในชื่อเสียงเงินทอง ไม่มีทางจะเหลือบแลคนจนแน่
ตอนนี้ฟางเชาหมดสภาพไปแล้ว ต่อให้หวังเจียเหยาเคยมีอดีตลึกซึ้งกับเขาแต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางจะไปข้องแวะกับอีกฝ่ายอีกแน่
“หรือว่าจะไม่ใช่ฟางเชา?”
ถ้าไม่ใช่ฟางเชาก็แปลว่านอกจากฟางเชาแล้วยังมีผู้ชายคนอื่นอีก!
นี่ยิ่งทำให้เขาเกินจะทน!
ถ้าบอกว่าหวังเจียเหยานอกใจเขา ไปคบกับฟางเชา เพราะตอนนั้นเย่เฉินเป็นแค่คนจนก็พอเข้าใจได้
แต่ตอนนี้เขาเป็นถึงประธานผู้บริหารแล้วหวังเจียเหยายังไปหาผู้ชายคนอื่นอีก!
“หึ หวังเจียเหยายังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองไม่เหมือนซ่งหงเย่ พวกคุณสองคนต่างกันตรงไหน! คุณยังแย่กว่าหล่อนอีก! อย่างน้อยหล่อนยังรู้จักรอให้สามีไปทำงานก่อนค่อยออกไปหาชายชู้! ส่วนคุณน่ะกลับไปหาชายชู้ใต้จมูกผม แถมในโปรเจกต์ที่ผมลงทุนให้คุณด้วย!”
ความโกรธในใจเย่เฉินพุ่งปะทุรุนแรงกว่าเดิม!
ทันใดนั้นเองหวังซ่าวเจี๋ยก็กล่าวถาม “อย่างนั้นพี่เฉินผมว่าไม่น่าจะใช่ฟางเชา จะใช่สถาปนิกที่น้องเจียเหยาจ้างมาใหม่หรือเปล่าครับ? ผมได้ยินหยวนหยวนเล่าว่าเมื่อสองวันก่อนไปบังเอิญเจอรถแอสตันมาร์ตินรุ่นลิมิเต็ด หล่อนขับตามหลังเพราะอยากได้วีแชทเขา ใครจะรู้ว่าตามไปตามมาก็มาโผล่ที่อีผิ่นเจียเหยาซะอย่างนั้น ถามไปถามมาถึงได้รู้ ว่าเจ้าของรถเป็นสถาปนิกที่เพิ่งมาใหม่”
เย่เฉินกล่าวว่า “จำทะเบียนรถได้ไหม?”
หวังซ่าวเจี๋ยกล่าว “เดี๋ยวผมต้องถามหยวนหยวนก่อน”
เย่เฉินกำชับ “อืม นายไปถามน้องนายหน่อยแล้วค่อยมาบอกฉัน”
วางสายแล้วไม่นานจากนั้นเย่เฉินก็ได้รับข้อมูลของทะเบียนรถคันนั้น
เย่เฉินส่งเลขทะเบียนรถที่ได้มาให้พ่อบ้านฟาง แล้วบอกให้อีกฝ่ายไปหาข้อมูลเจ้าของป้ายทะเทียนรถคันนั้น
จากนั้นพ่อบ้านฟางก็ส่งชื่อคนกลับมา ‘หลิ่วอวี่เจ๋อ’
ในวินาทีนี้เย่เฉินก็เข้าใจทุกอย่าง
ฟางเชาไปเทียนไห่เพื่อขอความช่วยเหลือจากตระกูลหลิ่ว หลิ่วอวี่เจ๋อไม่เพียงแต่โจมตีเขาในโลกธุรกิจ แต่ในชีวิตจริงเขากำลังพยายามสานสัมพันธ์กับภรรยาเขาด้วย!
คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ทันได้ระวังในจุดนี้!
โชคดีที่หลิ่วอวี่เจ๋อก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชาย ถ้าเขาเป็นพวกนักเลงหัวไม้ ป่านนี้หวังเจียเหยาคงโดนเขาปู้ยี่ปู้ยำไปนานแล้ว!
“ฟางเชา! หลิ่วอวี่เจ๋อ! คนที่เคยแตะต้องภรรยาของฉันต้องตายให้หมด!”