ร่างกายหวังหยวนหยวนเย้ายวนโดดเด่นมีผู้ติดตามในโซเชียลหลักแสนคน
ตอนนี้หล่อนสวมใส่ชุดกี่เพ้าสีอ่อนทำให้คนหลงลืมนิสัยที่เย่อหยิ่งของหล่อน ทำให้หล่อนมีภาพลักษณ์เป็นผู้หญิงที่มีดูเรียบร้อยอ่อนหวาน
หวังหยวนหยวนแต่งหน้าประณีต ทาลิปสติกสีแดงสดซึ่งเป็นสีแดงเบอร์เดียวกับสีเล็บของหล่อน
“พี่เขยคะ”
หวังหยวนหยวนเรียกเย่เฉินเสียงอ่อนหวาน ในแววตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและอ่อนหวาน
เย่เฉินรู้ว่าแม่หนูน้อยหวังหยวนหยวนคิดอะไรกับตนเอง ปกติแล้วเขาจึงไม่ค่อยอยากจะข้องแวะกับหล่อน
เพราะพี่ชายของหล่อนมักจะส่งภาพส่วนตัวมาให้ ทำให้ตอนนี้เขาไม่สามารถมองหญิงสาวตรงๆ ได้
ทว่าวันนี้จู่ๆ หวังหยวนหยวนก็มาโผล่ที่บริษัทแล้วหาตนเอง เย่เฉินรู้สึกว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับหวังเจียเหยา!
“อ้อ มาแล้วเหรอ เข้ามาสิ”
เย่เฉินบอกให้หวังหยวนหยวนเข้ามาในห้องทำงานของเขา แล้วกำชับกับโจวหรงหรงอีกครั้ง “จำไว้นะห้ามให้ใครเข้ามารบกวน”
“ค่ะ ไม่กล้าอยู่แล้วค่ะ”
โจวหรงหรงรีบร้อนรับปากด้วยความหวาดกลัว
จากนั้นเย่เฉินก็ปิดประตูห้องทำงานจนสนิท ส่วนหน้าต่างนั้นก็ถูกผ้าม่านบังเอาไว้ ด้านนอกมองไม่เห็นและไม่ได้ยินว่าด้านในเกิดอะไรขึ้น
หวังหยวนหยวนชิงเดินเข้าไปด้านในห้องทำงานก่อน ตอนเย่เฉินปิดประตูแล้วหันมาเห็นแผ่นหลังของหวังหยวนหยวน จิตใจเขาก็สับสน
จำเป็นต้องพูดว่าแผ่นหลังของหญิงสาวสวยพิฆาตใจจริงๆ ถ้าดูแค่ด้านหลังไม่ใช่ด้านหน้า หล่อนก็โดดเด่นกว่าหวังเจียเหยา!
จะต้องรู้ว่าหวังเจียเหยาไม่ได้มีแค่ใบหน้าที่ดงามแต่หุ่นของหล่อนยังสวยสุดยอดอีกด้วย
แต่หวังหยวนหยวนถึงจะอายุยังน้อย กลับหุ่นของหญิงสาวกลับสะพรั่งเกินอายุตัวเอง
ยากจะจินตนาการว่าถ้าหล่อนอายุ 26-27 ปีหรือ 30 กว่าปีจะมีชายหนุ่มกี่คนต้องศิโรราบใต้ฝ่าเท้าหญิงสาว!
“หยวนหยวนมีอะไร?” เย่เฉินเสสายตาก่อนจะกล่าวถาม
หวังหยวนหยวนหันมาตอบ “พี่เขย พี่เริ่มสงสัยว่าพี่เจียเหยาแอบมีคนอื่นใช่ไหมคะ?”
ความโกรธแล่นขึ้นเป็นริ้วบนใบหน้าเย่เฉิน เรื่องหน้าอายแบบนี้เขาไม่บอกคนอื่นง่ายๆ หรอก!
เย่เฉินข่มความโกรธเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว เขากล่าวถามหวังหยวนหยวน “หวังซ่าวเจี๋ยบอกเธอใช่ไหมล่ะ? ไอ่คนสารเลวคนนี้นี่ ฉันว่าเขาคันเนื้ออยากโดนซ้อมล่ะสิ!”
ในตอนนี้เกรงว่าเห็นจะมีแต่หวังซ่าวที่รู้เรื่องนี้ เย่เฉินไพล่คิดไปว่าหมอนี่จะช่วยตนเองปกปิดความลับไปเสียได้!
หวังหยวนหยวนรีบร้อนกล่าว “ไม่ใช่ค่ะ พี่อย่าเพิ่งโกรธสิคะ เขาไม่ได้บอกอะไรเลยนะคะ เพียงแต่ถามหนูแค่คำเดียว ส่วนที่เหลือหนูเดาได้เอง ”
เย่เฉินรู้สึกว่าหวังซ่าวเจี๋ยไม่เหมือนคนที่โกหกเป็น แต่เขาก็ยังสงสัยในคำพูดของหวังหยวนหยวนอยู่ดี
“หวังซ่าวเจี๋ยแค่ถามส่งๆ แล้วเธอก็ทายออกเลยเหรอว่าพี่สงสัยว่าพี่สาวเธอแอบไปมีคนอื่นเหรอ? หยวนหยวนเรารู้จักกันก็ตั้งสามปี สติปัญญาเธออยู่ประมาณไหนพี่รู้ดีน่า”
ความหมายที่เย่เฉินต้องการจะสื่อก็คือสมองเจ้าหล่อนไม่ได้โตเหมือนไฟหน้าเลยสักนิด ไม่มีทางจะฉลาดแบบที่เจ้าตัวพยายามจะบอก
หวังหยวนหยวน “พี่เขยคะ ฉันเดาได้เองจริงๆ นะคะ พี่ชายเขาไม่ได้พูดอะไรเลย ฉันถามเขาเขายังด่าฉันอยู่เลยบอกว่าถามอะไรมากมาย”
“หรอ?” เย่เฉินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ไหนลองบอกมาหน่อยว่าทำไมเธอถึงสงสัยพี่สาวเธอล่ะ?”
หวังหยวนหยวนแค่นเสียง “ผู้หญิงแบบหวังเจียเหยาน่ะ ฉันรู้ตั้งนานแล้วว่าหล่อนทำเรื่องผิดต่อพี่!”
“เธอว่าอะไรนะ?”
เย่เฉินประหลาดใจอย่างมาก หวังหยวนหยวนรู้ก่อนเขาอีกเหรอเนี่ย?
หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ฉันขับรถพาเพื่อนไปดูหนัง ระหว่างทางขับรถสวนกับแอสตันมาร์ตินรุ่นลิมิเต็ด ฉันกับเพื่อนก็เลยอยากจะรู้จักเขาอยากจะรู้จักเขา เลยขับรถตามไปเพื่อจะได้ขอวีแชทเขา”
“ใครจะไปรู้ว่าพอรถคันนั้นขับไปถึงอีผิ่นเจียเหยา! ต่อมาก็ได้ยินว่าผู้ชายคนนั้นก็คือสถาปนิกคนใหม่ที่พี่เจียเหยาจ้างมา ฉันเคยเห็นคนขับรถคันนั้น น่าจะอายุพอๆ กับฉันคิดว่าน่าจะยังไม่จบมหาลัยเลยด้วยซ้ำไป จะเป็นสถาปนิกได้ยังไง? หลอกใครกัน? ดังนั้นพออีกวัน ฉันเลยแอบตามพี่เจียเหยาไป พี่ลองทายสิคะว่าฉันเห็นอะไร?”
เย่เฉินกำหมัดแน่นแล้วถาม “เธอไปเห็นอะไรเข้า!”
หวังหยวนหยวนกล่าว “พี่รู้ว่าในอีผิ่นเจียเหยามีป่าต้นไม้เปลี่ยนสีใช่ไหมล่ะ? พี่เจียเหยาเขามีบ้านที่เคลื่อนย้ายได้ที่นั้นห้องหนึ่ง ฉันเห็นผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นพอเข้าไปนป่าแล้วก็เริ่มอุ้มพี่เจียเหยา แล้วอุ้มหล่อนจากในป่าไปที่บ้านแล้วไม่ออกมาเลยเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง!”
“เธอโกหก!”
เย่เฉินไม่อยากจะยอมรับความจริง ด้วยอารมณ์โมโห เขายื่นมือขวาออกไปบีบคอที่ขาวนวลเนียนของหวังหยวนหยวน!
“แค่กๆ…”
เย่เฉินเป็นคนแรงเยอะ เมื่อได้ยินข่าวนี้ทำให้เขาควบคุมแรงตนเองไม่ได้ จนหวังหยวนหยวนรู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังจะขาดหายใจอย่างรวดเร็ว
“ฉัน… ฉันไม่ได้โกหก…ฉันมีหลักฐาน”
หวังหยวนหยวนชูมือถือในมือให้เขาดู
เย่เฉินปล่อยมือทันที
หวังหยวนหยวนสูดลมหายใจเข้าปอดไม่หยุด ทรวงอกหล่อนกระเพื่อมอย่างรุนแรง ดอกบัวบนชุดกี่เพ้าก็เคลื่อนไหวยวบยาบตามไปด้วย แล้วเหมือนจะขยายใหญ่และเล็กตามไป
หลังจากพักไปครู่หนึ่ง หวังหยวนหยวนเปิดมือถือแล้วส่งรูปที่ถ่ายไว้ให้เย่เฉินดู
เย่เฉินรับโทรศัพท์มาดู ถึงภาพจะไม่ชัดเจนมาก แต่ก็พอจะมองออกว่าเป็นภาพของหวังเจียเหยา
หวังเจียเหยาในรูปสวมกระโปรงสั้นเจ้าหล่อนอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มอายุยังน้อย และใบหน้าหล่อนยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสียด้วย
มือถือของหวังหยวนหยวนคือหัวเหว่ย P30 ดังนั้นจึงสามารถถ่ายภาพจากที่ไกลๆ ได้
ทว่าหลังจากที่เย่เฉินเห็นภาพแล้ว เขาคว้าโทรศัพท์หัวเหว่ยของหวังหยวนหยวนปาลงพื้นด้วยความโมโห
เพล้ง!
โทรศัพท์โดนโยนลงพื้นจนแหลกละเอียด!
“ทำไม? หวังเจียเหยาทำไมถึงทำแบบนี้! ถ้าเป็นก่อนนี้หล่อนรังเกียจที่ฉันยากจน ถึงได้ไปคบหากับฟางเชาก็พอเข้าใจได้! หล่อนสวยขนาดนั้นอยากมีชีวิตที่ดีก็ไม่มีอะไรผิด! แต่ว่าตอนนี้หล่อนเป็นภรรยาของประธานบริษัท แถมตัวเองก็ได้เป็นรองประธานบริษัทด้วย แถมยังเป็นคนดูแลโปรเจกต์อีผิ่นเจียเหยา ทำไมหล่อนต้องทำแบบนี้อีก?”
เย่เฉินรู้สึกว่าใจตนเองแหลกละเอียด มือทั้งสองข้างวางบนโต๊ะทำงานอย่างไร้เรี่ยวแรง
หวังหยวนหยวนรู้ว่านี่คือโอกาสที่ดีมากของตนเองกำมือเย่เฉินเอาไว้แล้วกล่าว “พี่เย่เฉินคะ พี่เจียเหยาทำผิดกับพี่เกินไปแล้ว มีสามีแบบพี่แล้วยังไม่รู้จักพอแถมยังไปอ่อยผู้ชายคนอื่นที่ข้างนอก ไม่สู้พี่หย่ากับหล่อนแล้วแต่งกับฉันดีไหมคะ?”
“ฮึ แต่งกับเธออ่ะเหรอ?”
เย่เฉินมองหวังหยวนหยวนด้วยแววตาดูถูก
คนตระกูลหวังเป็นพวกเห็นแก่สิ่งของนอกกาย หวังหยวนหยวนเก็เป็นแค่หวังเจียเหยาแบบก็อปปี้เท่านั้น แถมใจยังเด็ดกว่าหวังเจียเหยาด้วย!
หวังหยวนหยวนกล่าวว่า “นั่นสิ เดิมทีเราสองคนควรจะแต่งงานกัน ถ้าไม่ใช่เพราะคุณพ่อเลอะเลือน ปฏิเสธการจัดแจงของคุณปู่ พวกเราสองคนก็คงเป็นสามีภรรยากันไปแล้ว! พี่เย่เฉินฉันชอบพี่จริงๆ นะคะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าพี่ฉันก็ชอบพี่แล้วค่ะ ฉันแอบรักพี่มาสามปีแล้ว พี่ให้โอกาสฉันสักครั้งดีไหม?”
เย่เฉินมองหวังหยวนหยวนที่งดงามราวดอกไม้แรกแย้ม เมื่อนึกถึงภาพของหล่อนที่หวังซ่าวเจี๋ยเคยส่งมาให้แล้วพลันคิดถึงการทรยศของหวังเจียเหยา
ไม่สนใจอย่างอื่นอีก แล้วพุ่งเข้าไปจูบหวังหยวนหยวน!