เย่หยวนหยุดเท้าลงพร้อมด้วยรอยยิ้มใดๆ ที่จางหายสิ้น
ที่ด้านข้างนั้นเมื่อเทพสวรรค์เปียวหยูได้เห็น เขาก็ได้แต่ต้องถอนหายใจ รู้แล้วว่าเรื่องราววันนี้มันคงไม่อาจกู้คืน
ก่อนที่จะมานี้เขาก็อุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยอย่าได้พูดถึงเรื่องราวใดๆ ในอดีตและกล่าวขอโทษออกมาอย่างจริงใจ
เช่นนั้นแล้วบางทีมันอาจจะยังแก้ไขเรื่องราวได้
แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยกลับไม่คิดสนใจใช้ตำแหน่งสูงล้ำของตนกล่าวทวงถามบุญคุณ
ด้วยนิสัยของเย่หยวน มีหรือที่เขาจะจบเรื่องลงง่ายๆ เช่นนี้?
แน่นอนว่าเย่หยวนก็หัวเราะลั่นขึ้นมาทันที “นักยุทธนามเจียงฮุ่ย เจ้ากล่าวเช่นนี้ไม่อายบ้างหรือ? เจ้าลองถามใจตัวเองดูก่อนเถอะว่าหลายร้อยปีมานี้หอมหาสมบัติเติบโตขึ้นได้เพราะใคร? มันเป็นข้าหรือที่ได้รับประโยชน์จากหอมหาสมบัติ? หรือมันเป็นหอมหาสมบัติของพวกเจ้าที่ได้รับประโยชน์จากข้า จากเย่หยวนผู้นี้!”
หลายร้อยปีมานี้หอมหาสมบัติได้รับผลประโยชน์มหาศาลก้าวล้ำขึ้นมาเป็นสุดยอดค่ายกำลัง
ผลประโยชน์ที่พวกเขาทั้งหลายได้นั้นมันมากกว่ากำไรที่ได้ในช่วงหลายหมื่นปีก่อนๆ นี้รวมกันเสียด้วยซ้ำ
ด้วยกำไรที่มากล้นปานนั้นแน่นอนว่าทางหอมหาสมบัติย่อมจะให้กำเนิดยอดฝีมือขึ้นมามากมาย
และผลประโยชน์กำไรทั้งหลายนี้มันล้วนเกิดขึ้นได้เพราะสูตรโอสถของเย่หยวน!
หากนับตั้งแต่ที่เย่หยวนขึ้นมหาพิภพถงเทียนมานี้เหล่ากำไรที่ได้จากสูตรโอสถที่เขามอบให้หอมหาสมบัติไปมันคงมากพอจะสร้างวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้สบายๆ!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจบงานชุมนุมโอสถเมฆานั้น ชื่อเสียงและอำนาจของหอมหาสมบัติมันก็เหนือล้นพุ่งทะยาน
สิ่งที่เย่หยวนคืนให้หอมหาสมบัตินั้นมันมากกว่าสิ่งใดที่เขาได้
ตัวเย่หยวนนี้เชื่อในการตอบแทนบุญคุณสหายสิบเท่า
เย่หยวนนั้นเดินทางไปจากเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ได้อย่างสบายใจก็เพราะว่าเขาคิดว่าหอมหาสมบัติจะปกป้องเมืองไว้ให้
แม้ว่าตัวเขาจะปฏิบัติกับหอมหาสมบัติดั่งสหาย แต่สุดท้ายหอมหาสมบัตินั้นก็คิดกับเขาแค่คู่ค้า
เวลาที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ต้องการมากที่สุด ทางหอมหาสมบัติกลับถอยหนีหายไป
พวกเขาเลิกที่จะสนใจใด!
เช่นนี้มันจะต่างอะไรกับการเหยียบซ้ำเมื่อคนล้ม?
แม้ว่าตัวหอมหาสมบัติเองจะไม่ได้ส่งกำลังเข้ามาร่วมโจมตีด้วยแต่แน่นอนว่าพวกเขาก็ย่อมจะรู้เห็นถึงเรื่องราว!
เย่หยวนนั้นเข้าใจดีว่าหอมหาสมบัติมีกำลังมากปานใด การจะรับมือแรงกดดันจากพันธมิตรแดนใต้นั้นมันย่อมมิใช่ปัญหาใหญ่โต
อย่างน้อยๆ การจะปกป้องตัวเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็ยังเป็นไปได้แน่
แต่พวกเขาทั้งหลายกลับถอนตัวออกไป!
พวกเขานั้นคิดว่าเมื่อเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ขาดตัวเขาไปแล้วมันก็ไร้ค่าใด เตรียมตัดเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ทิ้งทันที
เป็นตอนนั้นเองที่เย่หยวนได้เข้าใจว่าที่แท้แล้วหอมหาสมบัติมันก็เป็นได้แค่กลุ่มพ่อค้าที่คิดทุกสิ่งอย่างด้วยกำไร แย่งชิงหากำไรกันไม่มีว่างเว้น!
เป็นพ่อค้าที่รู้จักแค่แสวงหากำไร!
แต่เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมิใช่
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยต้องหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเพราะคำของเย่หยวนมันไม่ผิด!
แท้จริงแล้วตัวเขาเองก็ได้ประโยชน์จากมันไม่น้อย
แต่ศักดิ์ศรีของจักรพรรดิเทพสวรรค์มันค้ำคอจนทำให้เขาไม่อาจก้มหัวลงได้
แค่พูดจาสุภาพด้วยมันก็คือที่สุดที่เขาจะทำได้แล้ว
แต่ท่าทางของเย่หยวนนี้มันทำให้เขายิ่งไม่พอใจ
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยหรี่ตาลงร้องบอก “เย่หยวน จักรพรรดิผู้นี้มาพูดคุยด้วยท่าทางมีมารยาทเต็มที่ แต่เจ้ากลับคิดข่มขู่ผู้คนจนเกินขอบเขต! เจ้าอย่าได้ลืมว่าสูตรโอสถทั้งหลายนั้นมันยังอยู่ในมือของหอมหาสมบัติเรา! หากเราเอามันออกมาเผยแพร่แล้ว เจ้าจะได้รู้ซึ้ง!”
เย่หยวนหันไปมองที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยราวกับเป็นแค่เด็กน้อยโง่เขลา “ทำตามที่เจ้าคิดว่าดีเถอะ!”
พูดจบเขาก็หันหน้าไปหาเปียวหยู “พี่เปียวหยู เวลานี้จีโมผู้นั้นมาข้าจึงได้รับสมุนไพรวิญญาณระดับเจ็ดมาอีกไม่น้อย สองวันนี้ข้าได้หลอมโอสถวิญญาณเสด็จสวรรค์อุบัติขึ้นมาหลายเม็ด น่าจะช่วยท่านบ่มเพาะไปได้อีกนาน แต่เรื่องของพี่เจาหยวนนั้น ข้าล่ะปวดหัวไม่น้อยเลย”
เย่หยวนได้แต่ต้องยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้
เพราะว่าเขานั้นลำบากใจกับเรื่องนี้จริงๆ!
เรื่องในครานี้คนที่เย่หยวนติดค้างมากที่สุดก็คงเป็นเทพสวรรค์เปียวหยูและเทพสวรรค์เจาหยวน
เรื่องของเทพสวรรค์เปียวหยูนั้นยังพอทำเนาเพราะเขายังมีช่องให้พัฒนาตัวอีกมากอาณาจักรเทพสวรรค์
แต่ตัวเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นเขาได้ก้าวขึ้นไปอยู่บนสุดของอาณาจักรเทพสวรรค์แล้ว!
แล้วตัวเย่หยวนจะเอาปัญญาที่ไหนไปหาสมุนไพรวิญญาณสำหรับหลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกชุดเล่า?
ที่ด้านข้างตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยยิ่งทำหน้าไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะโอสถทั้งหลายนี้มันคือโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณา!
ในเวลานี้หากเอาโอสถที่เย่หยวนหลอมไปวางขายภายนอกแล้วมันคงมีค่าอย่างไม่อาจนับ
หากมันเป็นโอสถวิญญาณเสด็จสวรรค์อุบัติขั้นเทวะวิญญาณมรณาแล้ว หลายๆ คนคงยอมที่จะเอาโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดมาแลกกับมันเสียด้วยซ้ำ
แต่เย่หยวนกลับยกมันให้แก่เทพสวรรค์เปียวหยูราวกับมันไร้ค่าใด!
และเมื่อคิดบอกจะให้ มันก็มิใช่แค่เม็ดหรือสองเม็ดด้วย!
เหล่าโอสถทั้งหลายนี้มันคงมากพอจะส่งให้เทพสวรรค์เปียวหยูก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นสุดได้
“เด็กน้อย เจ้าจะถือดีจนเกินไปแล้ว! แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าความโอหังนี้มันต้องจ่ายด้วยสิ่งใด!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยร้องบอกอย่างไม่พอใจ
แต่เย่หยวนนั้นกลับทำหูทวนลมไม่คิดสนใจกล่าวกับเทพสวรรค์เปียวหยูต่อ “อ่า จริงด้วย พี่ข้า นี่คือความรู้เต๋าโอสถที่ข้าเก็บเกี่ยวมาในช่วงหลายปีนี้ ท่านลองเอาไปดูเถอะ มาพัฒนาไปด้วยกัน”
เปียวหยูต้องหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน
เทียบกับโอสถใดแล้ว เจ้าแผ่นหยกบันทึกความรู้นี้มันย่อมมีค่ามากกว่าอย่างไม่อาจเทียบ!
“เย่หยวน เจ้าคิดจะแตกหักกันจริงๆ ใช่หรือไม่? คนที่คิดเป็นศัตรูกับหอมหาสมบัติข้าไม่เคยจะได้พบจุดจบดีๆ หรอก!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยร้องลั่น
เย่หยวนกล่าวขึ้น “พี่เปียวหยู วันพรุ่งนี้เราไปหาพี่เจาหยวนกันเถอะ ไปดื่มกันเสียหน่อย!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
เขานั้นไม่มีหน้าจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป
หลังจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยพุ่งตัวบินจากไปเทพสวรรค์เปียวหยูก็ต้องถอนหายใจยาว “จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือน้องข้า? หรือว่าเจ้า… จะไม่กลัวหอมหาสมบัติเผยแพร่สูตรโอสถ?”
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับมา “สูตรโอสถ? ฮ่าๆ ใช้สูตรโอสถที่ข้าคิดมาข่มขู่ข้าเช่นนี้ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้านั่นมันมีสมองบ้างหรือไม่! หากจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปายังพอมีสติอยู่บ้าง เขาก็คงจะหยุดมันลงเอง! พวกเขาต้องเริ่มดูแลพี่อย่างดี! หากมีพี่อยู่ด้วยแล้ววันหน้าเราก็ยังจะทำการค้ากันได้ แต่หากพวกมันถึงขั้นลงโทษใดๆ พี่ด้วยแล้ว หึๆ ข้าว่ามันก็คงถึงกาลอวสานธุรกิจของหอมหาสมบัติในแดนใต้นี้!”
เทพสวรรค์เปียวหยูได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา เป็นตอนนี้เองที่เขาได้รู้ว่าไพ่ตายของเย่หยวนมันมิใช่สูตรโอสถจากสมัยก่อนนั้นแล้ว
หรือบางทีตั้งแต่ต้น สูตรโอสถนี้มันอาจจะไม่ได้มีค่าใดมากมายแต่แรก!
ใช่แล้ว ใช้สูตรโอสถของเย่หยวนมาข่มขู่เย่หยวน มันเรื่องตลกหรืออย่างไรกัน?
…
“อาจารย์ เจ้าเด็กเวรคนนั้นมันโอหังเหลือล้น ไม่คิดสนใจหอมหาสมบัติเราแม้แต่น้อย! ข้าว่าเราควรจะเปิดเผยแพร่สูตรโอสถนั้นและร่วมมือกับอีกสองฝ่ายที่เหลือจัดการเจ้าเด็กคนนี้ลงเสีย! วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์เองก็มีแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวอยู่คนเดียวเองมิใช่หรือ? คนเช่นนั้นก็จะกล้าเป็นศัตรูกับคนทั้งแดนใต้หรือ?”
เมื่อกลับมาถึงวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปา จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยก็รีบเดินเข้ามารายงานด้วยสีหน้าขุ่นเคือง
เขานั้นคือศิษย์คนแรกของจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาและยังติดตามจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปามาแสนนานทำให้มีตำแหน่งสูงล้ำในหอมหาสมบัตินี้
เพียงแค่ว่าตอนที่เขาบ่นออกมานั้น เขาไม่ได้ดูเลยว่าใบหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปามันเป็นอย่างไร
หลังพูดจบทางจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาก็กล่าวขึ้นมาอย่างเย็นเยือก “เจียงฮุ่ย เจ้าลืมสมองไว้ที่บ้านหรือ? จักรพรรดิผู้นี้สั่งให้เจ้าไปเป็นตัวแทนของหอมหาสมบัติกราบขอโทษเขาผู้นั้น แต่เจ้ากลับไปวางท่าเหนือหัวเย่หยวนกลับมาแทน? นี่สมองเจ้าเพี้ยนไปแล้ว?! จักรพรรดิเทพสวรรค์เก่งกาจมากหรือ? หากมิใช่เพราะว่าสมุนไพรวิญญาณที่ใช้หลอมโอสถเก้าลับจักรพรรดิเทพสวรรค์มันเป็นของหายากแล้วเจ้าคิดหรือไม่ว่าเทพสวรรค์เจาหยวนคนนั้นคงกลายเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์คนที่สองของเมืองอินทรีสวรรค์ไปแล้ว! และในวันหน้ามันก็จะมีคนที่สาม คนที่สี่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจียงฮุ่ยนั้นถูกด่าจนหน้าสั่น เขาไม่เคยจะเห็นอาจารย์ของเขาโกรธเคืองไม่พอใจเช่นนี้มาก่อน
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“เจ้าคิดว่าสูตรโอสถทั้งหลายนี้มันเหนือล้ำมากหรือ? เจ้าคิดจะเอาของที่ตัวเขาทำมาขู่ตัวเจ้าของหรือ? คิดสิ! คิด! หัวเจ้าไปโดนลาดีดมาหรือ?” ยิ่งจักรพรรดิเทพสวรรค์วันเปาด่าไป เสียงของเขาก็ยิ่งดังลั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของเขานั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความโกรธเคืองและความผิดหวังอย่างที่สุด
…………………………