คุณนายหวังเองก็เป็นคนรักหน้ารักตาตนเองอย่างมาก
ตอนนี้ตระกูลหวังเป็นตระกูลลำดับต้นๆ ของเมืองอวิ๋นโจวแล้ว ชื่อเสียงโด่งดัง ทุกการกระทำของพวกเขาย่อมมีคนจับจ้องเป็นจำนวนมาก
ถ้าหากว่าเย่เฉินเพิ่งเกิดเรื่องแล้วตระกูลหวังทอดทิ้งเขา อย่างนั้นก็จะต้องเกิดเสียงนินทามากมาย
นี่จะส่งผลเสียต่อหน้าตาของตระกูลหวังในโลกธุรกิจแน่นอน
หวังเจียเหยาขับรถออดี้ของหล่อนกลับวิลล่าเขตซินเฉิง ส่วนเย่เฉินเองก็ยังดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำทุกวัน แสดงท่าทางเศร้าเสียใจให้ภรรยาเห็น
เขาเองก็เคยถามหวังเจียเหยาถึงสถานการณ์วันนี้ แต่ภรรยาของตนเองไม่มีทางจะพูดเรื่องจริง
หล่อนบอกว่าเจอหลิ่วอวี่เจ๋อไม่กี่นาทีแล้วก็โดนไล่ตะเพิดออกจากห้องผู้ป่วย
ฮ่าๆ สาวงามคนนี้เป็นคนที่หลิ่วอวี่เจ๋อเฝ้าใฝ่ฝันถวิลหา เขาจะทำใจไล่หล่อนออกจากห้องได้อย่างไร?
เวลาทั้งคืนผ่านไปโดยไม่มีการพูดจา
หวังเจียเหยายิ่งทำตัวหนักกว่าเดิม คิดไม่ถึงว่าหล่อนจะกล้าใส่เสื้อคอกว้างออกนอกบ้าน
แต่หล่อนกลับขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปพบหลิ่วอวี่เจ๋ออีกครั้ง!
“นายท่าน ภรรยาของท่านมาพบหลิ่วอวี่เจ๋อที่ห้องอีกแล้ว พวกเขาเอาผ้าม่านลงเหมือนเมื่อวานเลย”
หลิวเจิ้งคุนรายงานกับเย่เฉิน
“แม่ง!”
หลังจากวางสายเย่เฉินก็ปาแก้วเหล้าลงพื้นสุดแรงด้วยโทสะ!
เขาไม่เคยดื่มเหล้าในตอนกลางวัน ต่อให้เขาจะโดนขับออกจากตระกูลจริงก็คงไม่เลือกจะดื่มเหล้าตอนกลางคืนแล้วตื่นมาดื่มต่อในตอนกลางวัน
แต่หวังเจียเหยาทำร้ายเขารุนแรงอย่างมาก เป็นคร้ัังแรกในชีวิตของเขาที่ดื่มเหล้าเมามายตอนกลางวัน
“ช่างแม่มันเถอะ ทนไม่ไหวแล้ว!”
ในฐานะที่เป็นผู้ชาย เขารู้ดีแก่ใจว่าภรรยาของตัวเองไปลอบนัดพบชายอื่น เขาจะทนอยู่บ้านอย่างสงบสุขได้ยังไง!
เย่เฉินรีบไปสวมรองเท้าที่ประตู เขาจะออกไปที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง จากนั้นก็ใช้เท้ายันห้องพักผู้ป่วย VIP เขาต้องการจะถามหวังเจียเหยาว่าทำไมถึงต้องโกหก ทำไมถึงต้องทำแบบนี้!
ตนเองทำอะไรผิดต่อเจ้าหล่อนนักหนา!
ถึงจะทำแบบนี้แล้วแผนที่เย่เฉินวางไว้จะล่ม แต่ตอนนี้เขาข่มอารมณ์เอาไว้ไม่ไหวแล้ว!
ก๊อกๆ
ในตอนที่เย่เฉินกำลังเตรียมตัวจะออกจากบ้านนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น
เย่เฉินอยู่หน้าประตูพอดี เขาจึงเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือหวังหยวนหยวนในชุดกระโปรงสีดำ
เหมือนว่าหล่อนทำผมทรงใหม่ ย้อมสีผม ผมยาวสลวยนั้นดูพองมีวอลลุ่มอย่างมาก
“นี่”
หวังหยวนหยวนทักทายเย่เฉินอย่างขี้เล่นแล้วตัวเองก็เดินเข้ามาในบ้าน
เย่เฉินสงสัย “หยวนหยวน? มาได้ยังไง?”
หลังจากที่หวังหยวนหยวนเดินเข้าห้องมาแล้ว หล่อนปิดประตูด้วยตนเอง และถอดรองเท้าส้นสูงสีดำทิ้ง จากนั้นก็เขย่งเท้า แล้วใช้สองมือโอบรอบคอเย่เฉินอย่างอุกอาจ
“คิดถึงก็เลยมาหาไงคะ”
เย่เฉินรีบร้อนแกะมือขาวนวลเนียนสองข้างของหวังหยวนหยวน “อย่าพูดไปเรื่อย”
หวังหยวนหยวนกล่าวพลางหัวเราะ “รู้ว่าช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน กลัวพี่จะเบื่อดังนั้นก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อน อย่างไรเสียอยู่มหาวิทยาลัยก็ไม่มีความหมายอะไร พี่ไม่รู้หรอกค่ะว่าเพื่อนนักเรียนของหนูน่าเบื่อจะตาย ชอบส่งข้อความมาสารภาพรักตอนเรียนหนังสือ แถมก็ชอบส่งจดหมายให้ฉัน เชยจริงๆ”
เย่เฉินดูหวังหยวนหยวนที่แต่งตัวเรียบร้อยอ่อนหวาน ยิ้มละไม หล่อนไม่เหมือนนักศึกษาแม้แต่น้อย
ไม่ใช่เพราะหล่อนดูแก่ หญิงสาวดูไปแล้วค่อนข้างอ่อนวัยด้วยซ้ำ
แต่ว่าเสื้อผ้า วงสังคมของหล่อน ไม่ใช่นักศึกษาหญิงทั่วไปจะเปรียบเทียบได้
อย่างเช่นเสื้อผ้าที่เจ้าหล่อนสวมใส่ในตอนนี้ หากเดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยล่ะก็ ผู้ชายทั้งมหาวิทยาลัยจะต้องมองหล่อนจาเป็นมันแน่นอน
ที่ทั้งเปิดหลัง เปิดแขน กระโปรงสั้นอย่างมาก รองเท้าส้นสูง ซึ่งเป็นชุดที่นักศึกษาหญิงไม่มีทางกล้าใส่แน่ๆ
และแน่นอนว่าผู้หญิงในวัยทำงานก็อาจจะไม่กล้าใส่ด้วยซ้ำไป จะต้องหุ่นที่ดีเท่านั้น
วันนี้หวังหยวนหยวนดูแล้วดีอกดีใจอย่างมาก หล่อนกล่าวกับเย่เฉิน
“จะบอกข่าวดีกับพี่น่ะค่ะ คุณย่ายอมให้พี่กับพี่เจียเหยาหย่ากันแล้ว! แต่คุณย่าบอกว่าพี่เพิ่งโดนขับออกจากตระกูล จะหย่ากันทันทีทันใดคงจะไม่ค่อยดีนัก บอกว่าให้พี่เจียเหยารอไปก่อนอีกหนึ่งเดือน”
สีหน้าเย่เฉินหนักใจ เขาถอนหายใจแล้วกล่าว “หนึ่งเดือน? ผมคงรอไม่ได้นานขนาดนั้น”
หวังหยวนหยวนเพิ่งจะพบว่าเย่เฉินดื่มเหล้า อีกทั้งเขาดูแล้วไม่ค่อยสบายใจนัก
เมื่อหันหน้ามองก็พบว่าในห้องรับแขกมีแก้วเหล้าที่แตกละเอียดอยู่
ทำเอาหล่อนตกใจ รีบร้อนใส่รองแท้าแตะ ไม่กล้าปล่อยให้เท้าเปล่าเปลือย หวาดกลัวว่าเท้าขาวนวลเนียนของหล่อนจะมีเลือดออกมา
หวังหยวนหยวนกล่าว “พี่เย่เฉิน พี่เองก็รู้ใช่ไหมคะว่าพี่เจียเหยาไปพบหลิ่วอวี่เจ๋อ?”
เย่เฉินประหลาดใจ “อ้าวรู้ด้วยเหรอ?”
หวังหยวนหยวนผงกศีรษะ “ฉันให้พี่ชายฉันไปเช่าห้องที่ตึกฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลแถวๆ ห้องที่หลิ่วอวี่เจ๋อเข้าพัก เพื่อคอยจับตาดูพวกเขา เมื่อกี้พี่ชายโทรมาแล้วค่ะ พี่ลองทายสิคะว่ายังไง? พี่เจียเหยาเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยแล้วล็อคประตูด้านใน จากนั้นก็จูบกับหลิ่วอวี่เจ๋อทันทีที่พบหน้ากัน! จากนั้นก็ปิดผ้าม่าน ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว!”
“พอได้แล้ว! เลิกพูดได้แล้ว!”
เย่เฉินต่อยกำแพง แววตาโหดเหี้ยมจนจะฆ่าคนได้อยู่รอมร่อ!
นิ่งไปครู่หนึ่ง เย่เฉินยิ้มเย็น “หนึ่งเดือนเหรอ? ให้ผมรออยู่ที่บ้านหนึ่งเดือนเชียวเหรอ? จะให้ทนดูหวังเจียเหยาไปลอบนัดพับกับผู้ชายคนอื่นทุกวันเหรอ?! ผมทำไม่ได้หรอก!”
หวังหยวนหยวนกล่าว “พี่เย่เฉิน ถ้าพี่อยากหย่ากับหวังเจียเหยา ฉันมีวิธีนะคะ”
“วิธีอะไร?” เย่เฉินรีบรวบรวมสติ
เย่เฉินในตอนนี้รู้สึกว่าถูกผู้หญิงแพศยาอย่างหวังเจียเหยาทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาแค่อยากจะหลุดพ้นจากผู้หญิงคนนี้เร็วๆ
หวังหยวนหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้หวังเจียเหยาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะหย่ากับพี่ เพียงแต่ว่าไม่กล้าจะพูดก็เท่านั้น พี่หาเหตุผลมาก็ได้?”
“เหตุผลอะไร?” เย่เฉินถามอีกครั้ง
เดิมทีเย่เฉินมักจะเยาะเย้ยสติปัญญาของหวังหยวนหยวน แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าแม่หนูคนนี้ฉลาดกว่าตนเองอย่างมาก
หวังหยวนหยวนชี้ไปที่เย่เฉิน จากนั้นก็ชี้มาที่ตนเอง
“พวกเรา?” เย่เฉินสงสัย
หวังหยวนหยวนผงศีรษะ “แค่พวกเรา พี่ลองคิดดูนะ ถ้าสมมติว่าพี่เจียเหยากลับมาถึงบ้านแล้วเห็นพวกเรานอนด้วยกันจะมีปฏิกิริยายังไง? แน่นอนว่าจะต้องโกรธจนขอหย่ากับพี่แน่!”
แต่งงานกันมาสามปี เย่เฉินพอจะรู้จักนิสัยใจคอของหวังเจียเหยา หล่อนกวดขันจับตาดูเขาอย่างยิ่ง หล่อนไม่ยอมให้ตนเองมีเพื่อนต่างเพศเลยด้วยซ้ำไป
แค่ฉินหงเหยียนคนเดียวก็ทำให้หวังเจียเหยาเกิดความหึงหวงจำนวนนับไม่ถ้วนเลย
ถ้าเห็นหวังหยวนหยวนนอนกับเย่เฉินแล้ว หวังเจียเหยาต้องโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงแน่
แต่ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดี แต่เย่เฉินไม่อยากจะมีข้อเกี่ยวข้องอะไรกับหวังหยวนหยวน
เขาไม่กล้าจะไปแตะต้องผู้หญิงบ้านนี้จริงๆ
กว่าจะสลัดหวังเจียเหยาทิ้งได้ ถ้าหากว่าลากหวังหยวนหยวนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ซวยแย่
คนฉลาดย่อมไม่พาตัวเองไปหนีเสือปะจระเข้
แล้วอีกอย่างตอนนี้เย่เฉินยังไม่ได้หย่า นี่เป็นปัญหาทางศีลธรรม
“เป็นยังไงบ้างล่ะ พี่เย่เฉิน พี่ก็รู้ว่าฉันชอบพี่มาตลอด อีกอย่างอายุฉันก็ไม่น้อยแล้วนะคะ…”
สติปัญญาของหวังหยวนหยวนยิ่งฉลาดขึ้นมาทุกที
เย่เฉินรู้ว่าหวังหยวนหยวนเป็นคนดังของมหาวิทยาลัย แค่โบกมือส่งๆ ก็มีผู้ชายแห่เข้ามาหาหล่อนเป็นขโยง
ยิ่งไปกว่านั้นเป็นคนรักที่ชายหนุ่มจำนวนนับไม่ถ้วนเฝ้าฝันหา!
เย่เฉินลังเลใจอยู่นาน เขามองหวังหยวนหยวนแล้วค่อยๆ เปิดปากเอ่ยช้าๆ