และในวินาทีนี้เองฉินหงเหยียนก็ไม่อาจปิดบังได้อีกต่อไป
“ขอโทษด้วยนะคะเย่เฉิน ฉันไม่ควรปิดบังคุณ เพียงแต่ว่าฉันไม่อยากให้คุณต้องมาเป็นกังวลแทนฉัน ดังนั้นก็เลยไม่ได้บอกคุณ เมื่อวานฉันไปที่บริษัทของเหวินเหชี่ยนเชี่ยน แล้วหล่อนก็คืนเงินห้าล้านหยวนที่ฉันเข้าหุ้นไป บอกว่าให้ฉันทำงานด้วยไม่ได้จริงๆ”
เย่เฉินไม่โทษฉินหงเหยียน ฉินหงเหยียนเล่าอดีตที่ผ่านมาของตนเอง เล่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นของตนเอง
“ฝีมือหลิ่วอวี่เจ๋อหรือเปล่า?” เย่เฉินถาม
ฉินหงเหยียนพยักหน้า “หลิ่วอวี่เจ๋ออยากจะเหยียบฉันให้ตาย เขาไม่อยากให้ฉันอยู่ในเทียนไห่อีก เมื่อวานฉันไปสัมภาษณ์มาหลายสิบบริษัท เดินเยอะจนเท้าเลือดออก ใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีแล้ว แต่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีบริษัทไหนกล้าตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลหลิ่วเลยไม่มีบริษัทไหนกล้ารับฉัน ฉันมันไร้ประโยชน์จริงๆ…”
ฉินหงเหยียนพูดไปเรื่อยๆ แล้วน้ำตาก็ไหลลงมา
ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งและเย่อหยิ่งเหลือเกิน แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าหล่อนให้ความสำคัญกับความสามารถมากกว่าใบหน้าที่งดงามเสียอีก!
แต่ในวินาทีนี้หล่อนกลับยอมรับว่าตนเองเป็นคนไร้ประโยชน์!
“หงเหยียน!”
เย่เฉินรวบหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด
ในวินาทีนี้เย่เฉินเสียใจยิ่งกว่าฉินเหยียนเสียอีก!
เขาไม่ได้รู้เลยว่าเมื่อวานหญิงสาวต้องเจอเรื่องที่ย่ำแย่มาทั้งวัน!
ในฐานะที่เป็นแฟนหนุ่มกับปล่อยให้แฟนของตนเองต้องมาตกระกำลำบากเพราะเรื่องของตนเอง!
เย่เฉินเกรี้ยวกราดอย่างยิ่ง พอนึกถึงเรื่องสารพัดที่หลิ่วอวี่เจ๋อทำกับฉินหงเหยียน ก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้อีก!
“เย่เฉิน คุณจะไปไหน”
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็สะบัดฉินหงเหยียนทิ้งไป แล้วเดินออกไปด้านนอก
“ผมจะไปคิดบัญชีกับหลิ่วอวี่เจ๋อ!”
ตอนเย่เฉินอยู่อวิ๋นโจวถือว่าเขามีเมตตามากแล้ว ที่ไม่ได้เอาคืนหลิ่วอวี่เจ๋อให้สาสมซึ่งถือว่ายังเบากว่าที่ฟางเชาโดน
แต่หมอนี่คิดไม่ถึงว่าจะไม่รู้อะไร แต่ยังกล้าล่วงเกินผู้หญิงของเขา!
เย่เฉินเดินไปห้องหอของหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อที่อยู่ข้างบ้านด้วยไฟโทสะที่เดือดปุดๆ
เพราะตอนนี้มีแขกมาก ดังนั้นประตูจึงเปิดกว้างจึงสามารถเดินเข้าไปด้านในได้ตลอด
เย่เฉินเดินเข้าห้องรับแขก หลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยายืนบนบันได กำลังเดินขึ้นไปด้านบน
“หลิ่วอวี่เจ๋อ! โผล่หัวมา!”
เย่เฉินคำรามเสียงกร้าว ทำให้วิลล่าชั้นหนึ่งที่กำลังเสียงดังครึกครื้น เงียบลงอย่างรวดเร็ว!
ทุกคนมองมาที่เย่เฉินด้วยแววตาประหลาดใจ และเกลียดแค้น
เหวินเชี่ยนเชี่ยนที่ยืนอยู่บริเวณประตูเห็นทุกอย่าง แล้วแอบเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
เดินออกมาด้านนอก แล้วหันไปเห็นฉินหงเหยียนที่กระทั่งหน้าก็ไม่ได้ล้าง และยังสวมรองเท้าแตะกำลังรีบร้อนเดินตรงมา
แน่นอนว่าหล่อนกังวลว่าเย่เฉินจะเกิดเรื่อง
เหวินเชี่ยนเชี่ยนดึงฉินหงเหยียน “สวรรค์ หงเหยียน ทำไมเธอใส่ชุดนอนเดินมาล่ะ ทางนั้นมีคุณชายร่ำรวยอยู่เยอะแยะเลย เธอใส่ชุดแบบนี้มาบ้านคนอื่น มันได้เหรอ? ไปเลยไป รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย”
“แต่เย่เฉินเขา…” ฉินหงเหยียนเป็นห่วงเย่เฉิน
เหวินเชี่ยนเชี่ยนลากฉินหงเหยียน “เรื่องของเย่เฉินให้ตัวเขาจัดการเอง เธออย่าเข้ามายุ่งเลย”
เหวินเชี่ยนเชี่ยนฝืนลากฉินหงเหยียนไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ภายในวิลลล่าของหลิ่วอวี่เจ๋อ
หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นเย่เฉิน ทันใดนั้นเองในแววตาสองข้างฉายแววโหดเหี้ยม หวังเจียเหยาเองก็ตื่นตกใจ
นี่เย่เฉินกำลังสร้างจะความวุ่นวายในงานแต่งงานของหวังเจียเหยาอีกครั้งเหรอเนี่ย?
คราวก่อนหวังเจียเหยาและฟางเชาแต่งงานกัน เย่เฉินที่อยู่ในงานแต่งงาน ก็แย่งซีนทุกคน แล้วทำให้พวกเขาต้องเดือดร้อน
หรือว่าครั้งนี้ถึงคราวซวยของหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วเหรอ?
แต่ใครจะรู้ ในตอนนี้จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มที่ร่างกายกำยำหล่อเหลาก้าวเข้ามายืนแทนหลิ่วอวี่เจ๋อ
คนผู้นี้ก็คือพี่ชายของหลิ่วอวี่เจ๋อ หลิ่วเฟิง
หลิ่วเฟิงพุ่งไปหาเย่เฉิน ดีดตัวขึ้นแล้วประเคนเท้าให้เขา!
“แม่งเอ้ย! พี่เฟิงเท่จริงๆ เลย!”
“พี่เฟิงเป็นถึงทหารรบพิเศษ!”
หลิ่วเฟิงไม่เหมือนหลิ่วอวี่เจ๋อ ฝั่งน้องชายเป็นแค่คุณชายเจ้าสำราญ หน้าตาหล่อเหลา ร่างกายบอบบาง
ส่วนหลิ่วเฟิงไม่ได้หล่อเหลาขนาดนั้น แต่แรงเยอะอีกทั้งยังเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกฝ่าย
โครม โครม โครม!
หลิ่วเฟิงเตะหวดใส่เย่เฉิน เย่เฉินเองก็ประหลาดใจน้อยๆ เพราะว่าเขาใส่รองเท้าแตะ จึงเตะอีกฝ่ายไม่ค่อยถนัด ทำได้เพียงใช้มือปัดเท่านั้น
หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่อาจจะรับลูกเตะคนอื่นได้สบายๆ แบบนี้ ทว่าเย่เฉินกลับปัดป้องการโจมตีของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย
เย่เฉินหันมองหลิ่วเฟิงแล้วกล่าว “นายคงจะฝึกซ้อมมาหลายปีเลยใช่ไหมล่ะ แต่ว่านายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ไม่อยากตายก็อย่ายื่นมือเข้ามายุ่ง!”
หลิ่วเฟิงแค่นเสียงเย็น “นายคงจะเป็นเย่เฉินล่ะสิ? หลิ่วอวี่เจ๋อคือน้องชายของฉัน ฉันจะปล่อยให้นายวางท่าใหญ่โตที่นี่ได้ยังไง!”
ก่อนหน้านี้หลิ่วอวี่เจ๋อโดนเย่เฉินหักนิ้ว แถมยังโดนคนวางยาทำให้เขาไม่สามารถมีลูกได้
หลิ่วเฟิงที่เป็นพี่ชายจึงโกรธมาก เขาอยากจะกำจัดเย่เฉินตั้งนานแล้ว!
และในเวลานี้เพื่อนๆ พวกนี้ต่างก็กำลังสงสัยว่าเย่เฉินคนนี้มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่!
“จะมาแย่งตัวเจ้าสาวหรือเปล่านะ?”
“น่าจะเป็นแฟนเก่าของเจ้าสาวก็ได้นะ!”
“แฟนเก่าอะไรกัน ฉันได้ยินเพื่อนบอกมาว่าหวังเจียเหยาคนนี้เคยแต่งงานแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นสามีเก่าด้วยซ้ำ!”
“จริงหรือเปล่า? อวี่เจ๋อแต่งงานกับผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้วเหรอ?”
พวกแขกเหรื่อต่างก็ยืนซุบซิบนินทาด้วยกัน
หลิ่วอวี่เจ๋อพุ่งตัวลงไปด้านล่าวด้วยโทสะ ชี้ไปที่เย่เฉินแล้วกล่าว “เย่เฉิน! แกบุกรุกบ้านฉัน แกหมายความยังไงกันแน่! จะหาเรื่องกันใช่ไหม!”
เย่เฉินพุ่งพรวดไปหาหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วตะคอกอีกฝ่าย “คุณหาเรื่องแฟนผม ก็น่าจะรู้นี่ว่าผมจะมาคิดบัญชีกับคุณ!”
หวังเจียเหยาเห็นเหตุการณ์เข้าก็รีบหอบชุดเจ้าสาววิ่งลงมาจากตึก มาหยุดตรงหน้าเย่เฉิน “นายตามฉันมา”
หวังเจียเหยาลากเย่เฉินออกไปจากวิลล่าของตนเอง หล่อนไม่อยากให้ทั้งสองคนทะเลาะกันต่อหน้าธารกำนัล
ยังไงเสียเรื่องที่หวังเจียเหยาและเย่เฉินเป็นสามีภรรยากันนั้น หล่อนและสามีใหม่อย่างหลิ่วอวี่เจ๋อก็ไม่ได้อยากให้เพื่อนสนิทมิตรสหายได้รู้
หวังเจียเหยาลากเย่เฉิน ส่วนตัวเย่เฉินเองก็เดิมตามหญิงสาวไปอย่างเสียไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าจะปฏิเสธผู้หญิงคนนี้อย่างไรจริงๆ
เย่เฉินเคยเห็นหวังเจียเหยาสวมชุดเจ้าสาวมาสองครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ใส่เพื่อเขา!
เมื่อเดินออกมาที่สวนแล้วเขาก็ยืนอยู่บสนามหญ้า หวังเจียเหยาก็ถามเย่เฉิน “เย่เฉินนายหมายความว่ายังไง!ตอนฉันแต่งงานกับฟางเชานายก็มาก่อความวุ่นวาย หาเรื่องในงานแต่งงานของฉันทตอนนี้ฉันแต่งงานกับหลิ่วอวี่เจ๋อนายก็ยังทำแบบนี้อีก! นายยังติดใจอยู่เหรอ? ทำไมทนเห็นฉันมีความสุขไม่ได้เลยเหรอ? จะต้องทำให้ฉันเสียหน้าให้ได้เลยหรือไง ต้องให้ฉันไม่มีความสุขใช่ไหมนายถึงจะมีความสุขน่ะ?”
เย่เฉินไม่รู้จะพูดยังไงดี “หวังเจียเหยาผมไม่ได้มีเจตนามาก่อความวุ่นวายในงานแต่งงานของคุณ แล้วก็ไม่เคยอยากจะทำลายความสุขของคุณด้วย วันนี้ที่ผมมาเป็นเพราะหลิ่วอวี่เจ๋อจริงๆ เมื่อวานฉินหงเหียนสัมภาษณ์งานไปสิบกว่าบริษัท แต่หลิ่วอวี่เจ๋อก็ขัดวางไปทุกบริษัทเลย เขาไม่ต้องการฉินหงเหยียนมีที่ยืนให้เทียนไห่! ผมต้องไปถามเขาให้ชัดเจน!”
หวังเจียเหยาแค่นเสียงแต่วงหน้าของหญิงสาวนั้นงดงามอย่างที่เคย
“
“แล้วยังมีหน้ามาพูดว่าไม่ได้ตั้งใจมาสร้างความวุ่นวาย? เรื่องเกิดเมื่อวานแล้วจะมาโวยวายทำไมวันนี้?”
“ผมเพิ่งรู้…” เย่เฉินอธิบาย
หวังเจียเหยายื่นเรียวขาวนวลเนียน “เอาเถอะ ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันเข้าใจแล้ว เพราะนายยังรักฉันอยู่ เห็นฉันไปแต่งงานกับคนอื่น นายเลยทนไม่ไหวใช่ไหมล่ะ? ฮึ อ้ำๆ อึ้งๆ หาข้ออ้างเยอะแยะมากมายมาขนาดนี้ ฉันยอมให้นายร้องไห้คร่ำครวญคุยกับฉันว่านายยังรักฉัน นายลืมฉันไม่ได้ คุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาสอีกสักครั้ง!”