เย่อัยฉีเห็นพี่ชายของตนเองอย่างเย่เฉิน ก็อารมณ์ดีสุดยอด แต่หล่อนจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเขาต่อหน้าฉินหงเหยียน
แต่ว่าไม่ได้เจอหน้ากันนานขนาดนี้ จะให้มองผ่านเขาไปเลยได้ยังไง? ดังนั้นทันทีที่มีโอกาสจึงรีบพูดถึงพี่ชายตัวเอง
ฉินหงเหยียนรีบร้อนแนะนำ “อ้อ เขาเป็นแฟนของฉันค่ะ ชื่อเย่เฉิน อายุน้อยมากใช่ไหมล่ะคะ? ฮ่าๆ”
เย่อัยฉีกลับส่ายหน้า “ว่าอายุน้อยก็ใช่นะคะ แต่ว่าหน้าตางั้นๆ ดูไม่คู่ควรกับคุณฉินของเราเลย”
“ยัยเด็กจอมซนอัยฉี…”
เย่เฉินกับเย่อัยฉีเป็นลูกคนละแม่ เพราะอายุต่างกันไม่มาก ตอนเด็กๆ มักจะเล่นด้วยกัน เรียนหนังสือด้วยกัน พวกเขาจึงสนิทสนมกันอย่างมาก
เพียงแต่ในระยะสามปีมานี้ เย่เฉินไม่ค่อยติดต่อกับหล่อนนัก แต่กลับคุยกับน้องสาวคนที่เจ็ดบ้างนานๆ ครั้ง
คิดไม่ถึงว่าทันทีที่พวกเขาเพิ่งจะเจอหน้ากัน เย่อัยฉีก็เริ่มเหน็บแนมพี่ชายทันที
เย่เฉินตอบน้องสาวอย่างไม่เกรงใจ “คุณก็หน้าตางั้นๆ!”
ก็ในเมื่อมีพ่อคนเดียวกัน ถ้าฉันหน้าตาไม่ดี เธอก็อย่าหวังเลย
ฉินหงเหยียนคิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่พวกเขาเจอหน้ากันก็จะเปิดฉากด่ากัน ตกใจจนหน้าซีดเผือดหลังจากนั้นลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ใจเย็น! ใจเย็น! พวกคุณอย่าทะเลาะกันเลยค่ะ คุณอัย คุณติเตียนหน้าตาของแฟนฉันตรงไปตรงมาแบบนี้คงจะไม่ค่อยเหมาะสมมั้งคะ?”
ฉินหงเหยียนรู้สึกว่าเด็กสาวที่เกิดในปี 95 คนนี้ไม่รู้ความเลยจริงๆ ต่อให้รู้สึกว่าอีกฝ่ายหน้าตาน่าเกลียดก็ช่างแต่ก็ไม่สามารถพูดใส่หน้าเขาได้สิ
ยิ่งไปกว่านั้นเย่เฉิยเองก็ไม่ได้หน้าตาน่าเกลียดด้วยซ้ำไป
เย่อัยฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูคุณเครียดเข้าสิคะ ฉันล้อเล่น เพราะรู้ว่าแฟนคุณน่ะหล่อมาก ก็เลยตั้งใจแซวเฉยๆ ขอโทษนะคะพี่ชายสุดหล่อ”
เย่อัยฉีเป็นฝ่ายขอโทษเย่เฉินก่อน
ฉินหงเหยียนเองก็ดีใจมากตบไหล่เย่เฉิน “คุณอัยขอโทษคุณแล้ว”
“ชิ!”
เย่เฉินสะบัดหน้าหนีด้วยอารมณ์
ฉินหงเหยียนมองไม่ออกว่านี่เป็นเพียงการแสดงของสองพี่น้อง นั่นอาจเป็นเพราะคนรอบตัวหล่อนที่อยากจะหาเรื่องเย่เฉินนั้นมีมากเกินไปจริงๆ จนส่งผลให้ตอนนี้หล่อนหวาดระแวงไปหมด
ฉินหงเหยียนเดินอ้อมไปอีกฝั่ง “คุณอัยโทรมาหาฉันดึกขนาดนี้ มีเรื่องอะไรจะสั่งเหรอคะ?”
อัยฉีพยักหน้า “นี่คุณอยู่โตเกียวใช่ไหมคะ?”
ฉินหงเหยียนพยักหน้า “ค่ะ ฉันกับแฟนแวะมาดูงานโอลิมปิกกันน่ะค่ะ อีกสักพักค่อยกลับไปทำงานได้ไหมคะ?”
อัยฉีกล่าว “ได้ค่ะ ฉันมีงานจะมอบหมายที่จะให้คุณทำที่ญี่ปุ่นพอดี”
“คุณอัยพูดมาได้เลยค่ะ”
“บริษัทของเราต้องการจะรับสมัครพนักงานส่งของกลุ่มใหม่พอดี อยากได้คนจากญี่ปุ่นน่ะค่ะ”
“คะ?”
ฉินหงเหยียนงุนงง ทำไมต้องไปรับสมัครคนจากญี่ปุ่นด้วย?
ใครๆ ก็รู้ว่าแรงงานในประเทศนี้ราคาถูกที่สุด ส่วนค่าแรงในต่างประเทศนั้นสูงมากทีเดียว
อีกทั้งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว คนอายุ 70 ปียังคงสามารถขับรถบัสหาเงินได้เดือนละหลายหมื่นหยวนอยู่ดี
โดยปกติแล้วมีแต่คนในชาติหล่อนมาทำงานที่ญี่ปุ่น ไม่เคยมีคนชาตินี้ไปทำงานที่ประเทศของหล่อน
ยุคปี 90 เงินเดือนของคนทั่วไปในประเทศนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยสองร้อยหยวน แต่ในตอนนี้เงินเดือนของคนที่นี่เฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งหมื่นเลยทีเดียว!
เป็นเงินหยวนด้วยไม่ใช่เงินเยน!
ตอนนั้นคนที่แอบมาทำงานล้างจานที่ญี่ปุ่นก็ร่ำรวยกันหมดแล้ว ทำงานไปสองปีกลับมาบ้านก็สามารถซื้อห้องชุดสองห้องในเมืองหลวงได้แล้ว รอจนราคาขึ้นสิบยี่สิบล้านค่อยขาย
ไม่จำเป็นต้องมีการศึกษา ไม่จำเป็นต้องใช้สมอง ล้างจานสักสองปี หาเงินได้สิบกว่าล้าน ก็มีเงินกินมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต
ถึงจะเป็นสองปีมานี้ก็ยังคงมีคนแอบมาทำงานที่ญี่ปุ่น ถ้าหากว่านั่งเรือมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น ตอนที่ลงเรือตอนแวะจุดท่องเที่ยวจะมีคนหายตัวไปอย่างน้อยๆ สองคน ส่วนที่ห้องของคนนำเที่ยวก็จะมีโน้ตเพิ่มขึ้นมาอย่างประหลาด…
ถึงแม้ว่าฉินหงเหยียนจะไม่เคยทำงานขนส่ง แต่หล่อนก็รู้ดีแก่ใจการรับสมัครพนักงานนั้นต้นทุนค่อนข้างสูง!
ถึงแม้ว่าจะมีข้อสงสัยในเรื่องนี้ แต่ฉินหงเหยียนยังไม่ได้โต้กลับทันทีแล้วย้อนถาม “คุณอัยอยากได้คนแบบไหนคะ?”
ปลายสายตอบ “ผู้หญิงโสด หน้าตายังไงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องได้ภาษาจีน แต่จะต้องชอบประเทศเรา ชอบผู้ชายจีน อีกทั้งยังยอมแต่งงานย้ายถิ่นฐานมาได้ รับสมัครมาสักพันคน ”
เงื่อนไขนี้ย่อมเป็นเย่เฉินเป็นคนกำหนด
หลังจากที่เขาปะทะสงครามน้ำลายกับสวี่ฉู่หมิงแล้วก็เอาความคิดของตนเองไปบอกน้องสาวคนที่สี่
หลังจากที่ผู้เป็นน้องสาวได้ยินความคิดบ้าๆ ของพี่ชายแล้วก็ตอบเขาว่า “พี่นี่ใจใหญ่จริงๆ”
เย่เฉินทำไปเพื่อผู้ชายทั่วๆ ไปในประเทศที่หัวใจสายเพราะไม่สามารถแต่งงานได้!
แต่ที่เขาทำแบบนี้นั้น เหตุผลสำคัญเลยก็คือทำไปเพื่อทำลายความมั่นใจผิดๆ ของพวกผู้หญิงสวยๆ แบบหวังเจียเหยา
คนเรามักตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ ผู้หญิงต่างชาติก็มีเสน่ห์ที่ต่างกันออกไป สามารถให้ผู้ชายในประเทศได้เลือกสรร
เช่นนั้นบางทีแล้วพวกเขาก็จะได้ไม่ต้องเจียมตัวเป็นคนต่ำต้อย เป็นตัวสำรองอีกต่อไป พวกผู้หญิงสวยๆ อย่างหวังเจียเหยาจะได้ไม่เหยียบย่ำความรักอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้!
ฉินหงเหยียนได้ยินแล้วก็ปวดหัว “คุณอัย รับสมัครผู้หญิงพันคนไปทำงานขนส่งที่จีน เกรงว่าต้นทุนคงจะสูงมากอยู่นะคะ ทำไมคุณถึงต้องทำแบบนี้ล่ะคะ?!”
เย่อัยฉีกล่าว “หนึ่งก็เพื่อช่วงบรรเทาแรงกดดันของประเทศ สองก็เพื่อใช้วิธีการแบบนี้ต่อสู้กับชุนเฟิงเอ็กซ์เพรส เรื่องเงินคุณไม่ต้องเป็นห่วง คุณแค่พยายามกดงบให้ต่ำที่สุดก็พอ”
ฉินหงเหยียนครุ่นคิด นี่คือภารกิจแรกที่บริษัทมอบหมายให้หล่อนทำ แต่เรื่องที่เย่อัยฉีให้ทำนี้เห็นได้ชัดว่าคงจะมีสาเหตุที่ที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่กว่าที่เห็น หญิงสาวจึงรับคำ
หลังจากวางสายแล้ว หญิงสาวก็หันมาหาแฟนหนุ่ม “ที่รัก ต้องรบกวนคุณไปรับสมัครคนที่นี่กับฉันแล้วล่ะค่ะ ต้องรับสมัครคนตั้งพันคน แล้วยังต้องพยายามคุมงบด้วย ไม่รู้เลยว่าจะต้องใช้เวลารับสมัครนานเท่าไหร่กว่าคนจะครบหนึ่งพันคน”
เย่เฉินหัวเราะร่วน “ไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียพวกเรามีเวลาเยอะแยะถมเถไป เราก็ดูการแข่งขันโอลิมปิกไปพร้อมๆ กับรับสมัครคนไปด้วย”
หลายวันต่อมา เย่เฉิยและฉินหงเหยียนก็ไปที่เมืองอื่น หนึ่งคือเพื่อไปท่องเที่ยว สองคือจะได้รับสมัครพนักงานได้สะดวกๆ
เวลาห้าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว และงานโอลิมปิกก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
งานเปิดโอลิมปิกของที่นี่สวยงามน่าดู แต่ว่าพอเปรียบกับงานเปิดโอลิมปิกเมื่อปี 08 ยังต่างกันมาก
วันนี้หวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อมาที่โตเกียว แต่ว่าเย่เฉินไม่ได้เจอกับพวกเขา
สองวันต่อมา ในการแข่งขันบาสเก็ตบอลชายแมทช์แรก เป็นแข่งขันระหว่างนักกีฬาจากอเมริกาและกรีซ
ทีมบาสเก็ตบอลชายขออเมริการครั้งนี้กลายเป็นทีมอเวนเจอร์ เพราะสมาชิกในทีมชาติประกอบไปด้วย LeBron James, Kevin Durant, Stephen Curry, Kawhi Leonard, Paul George, Kyrie Irving, Russell Westbrook, Lillard…
ทั้งหมดล้วนแต่เป็นดาวเด่นของโลกในตอนนี้!
การแข่งขันบาสเก็ตบอลชายของอเมริกาถือเป็นการแข่งขันสำคัญที่ต้องดูในกาแรข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้
ที่นั่งในสนามไม่มีที่ว่าง!
เย่เฉินและฉินหงเหยียนปรากฏสนามแข่งขัน พวกเขาที่นั่ง VIP แถวแรก
แต่คิดไม่ถึงว่าโลกจะกลม หลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยาก็ซื้อที่นั่งแถวแรก อีกทั้งยังนั่งติดกับพวกเขาสองคนอีกด้วย!
“อ้าว อาสะใภ้ บังเอิญจังครับ!”
คิดไม่ถึงว่าหลิ่วอวี่เจ๋อเห็นฉินหงเหยียนจะเรียกหญิงสาวว่า ‘อาสะใภ้’ ในทันที!