หลังจากที่เจี่ยวชางตายลงไปนั้นเย่หยวนก็ยิ่งรู้สึกสงบในจิตใจมากขึ้นกว่าเก่า ความคิดที่มีลื่นไหลทำให้ส่งผลต่อฝีมือ สามารถใช้ออกมาได้มีประสิทธิภาพกว่าเก่ามาก
เวลานี้เขาจึงมีระดับปราณเทวะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์ห้าดาวได้
แต่ด้วยกำลังของกายเนื้อเย่หยวนนี้การจะปะทะกับเทพสวรรค์เจ็ดดาวมันก็คงทำได้ไม่ยากเย็น
และเวลานี้เขายังไม่ได้จะใช้วรยุทธใดๆ ออกมาเสียด้วยซ้ำ
“ฉือจือ เจ้าจะยังชักช้าใดอยู่อีก? แค่เด็กมนุษย์คนเดียวเจ้ากลับปล่อยให้มันอยู่รอดมาจนถึงเวลานี้หรือ?”
“ฮ่าๆๆ ข้าก็บอกพวกเจ้าไปแล้วว่าหมอนี่มันมีดีแค่กล้าม ไม่มีประโยชน์จริงๆ ใด!”
“ก็ไม่ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว อย่างน้อยก็เอามันเป็นตัวล่อได้!”
ในเวลานั้นเองมันก็ปรากฏเงาร่างอีกสามร่างขึ้นมาล้อมเย่หยวนไว้ทั่วทิศ
และผีทั้งสามนี้เองก็มีพลังถึงระดับเทพสวรรค์ขั้นปลายเช่นกัน!
เทพสวรรค์ฉือจือนั้นต้องตวาดกลับออกมา “พวกเจ้าทั้งสามเองก็เลิกซ้ำเติมผู้คนเถอะ! เจ้าเด็กคนนี้มันมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด พลังกายของมันนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าแม้แต่น้อย! ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นจอมเทพค่ายกลเจ็ดดาว อย่าได้ประมาทมันเชียว!”
คนทั้งสามนั้นต่างเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ หันไปจ้องมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง
ผีเทพสวรรค์ทั้งสามนั้นคือก่วยฉี ซีเฉินและชุนหยุน
พวกเขาทั้งสามนี้เองก็เป็นยอดคนในตำแหน่งเดียวกับฉือจือ พวกเขาเป็นเทพสวรรค์ขั้นปลายระดับขุนพลภายใต้จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิง
เทพสวรรค์ชุนหยุนหัวเราะขึ้นมา “กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด! ฮ่าๆ ดูท่าเฒ่าฉือจะได้เจอศัตรูตัวร้ายเข้าแล้ว! แต่ว่าจะกายทองคำสัมบูรณ์ใดๆ มันก็ย่อมไม่อาจป้องกันผีเต๋าร้อยยันต์ของข้าไว้ได้!”
เย่หยวนหันไปมองเหล่าเทพสวรรค์ทั้งสี่พร้อมกล่าวออกมา “ดูท่าพวกเจ้าจะไม่ยอมจำนนง่ายๆ หากไม่ได้เจ็บตัวสินะ!”
หากเป็นก่อนหน้านี้เย่หยวนย่อมจะทำการอย่างระมัดระวัง วางแผนซับซ้อนคิดช่วยเหลือผีเทพสวรรค์ขวังต้าว
แต่ในเวลานี้เขามีกำลังมากพอที่จะไม่ต้องทำการหลบๆ ซ่อนๆ ใดอีก เวลานี้เขาสามารถเดินเข้าฐานศัตรูได้จากประตูหน้าอย่างไม่ต้องกังวล
มิติผีไร้แดนนี้เองก็เป็นที่ไร้กฎเกณฑ์ใดๆ ไม่ว่าจะวางแผนอย่างไรมันก็คงยากในที่แห่งนี้
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่คิดสนใจใดๆ เดินเข้ามาถามเอาตัวคนกลับไปตรงๆ
แน่นอนว่าเพื่อเป็นการไว้หน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์ ตัวเขาย่อมจะไม่ถึงขั้นลงมือฆ่าสังหารเหล่าเทพสวรรค์
ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เขาจะเอาตัวรอดไปได้ แต่ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นคงได้ตายลงแน่
“หึๆ อวดอ้างไร้สารนะ! เทพสวรรค์ผู้นี้คงต้องขอค่าชดใช้มันเป็นเลือดแล้ว! พี่น้องเรา โจมตีมันเถอะ!”
เทพสวรรค์ซีเฉินร้องหัวเราะพร้อมวาดฝ่ามือขึ้นมากลางอากาศ
“ผีเต๋าร้อยยันต์ หมื่นผีกลืนจิต!”
พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดเสียงโหยหวนร่ำร้องขึ้นมาราวกับว่าจะฉีกทำลายหูของผู้ที่ได้ยินได้ฟังมัน
พร้อมๆ กันนั้นเงาร่างของผีนับหมื่นๆ ก็ได้พุ่งทะยานเข้ามาหาตัวเย่หยวน
“ผีเต๋าร้อยยันต์ หัตถ์ผีสมุทรไพศาล!”
เทพสวรรค์ชุนหยุนร้องบอกพร้อมซัดฝ่ามือลงมาจากด้านบนกดดันท้องฟ้าลงใส่หัวเย่หยวน
“ผีเต๋าร้อยยันต์ เงาผีอนันต์!”
เทพสวรรค์ก่วยฉีร้องบอกพร้อมด้วยเงาสีดำพุ่งทะยานขึ้นมาจากพื้นดินพุ่งเข้ารัดกายเย่หยวน
วิชาผียันต์ทั้งสามที่ใช้ออกมานี้มันต่างล้วนเป็นวิชาระดับเทพสวรรค์พลังพอจะเอาชนะได้ทุกผู้คน
หนึ่งนั้นเป็นการโจมตีจิตใจ หนึ่งนั้นเป็นกายโจมตีร่างกาย ส่วนอีกหนึ่งนั้นเป็นการพันธนาการ พร้อมๆ กับการใช้ตัวฉือจือปิดทางไว้ทำให้การโจมตีนี้มันไม่มีช่องว่างให้หลบหรือตอบโต้!
“ฮ่าๆๆ ตายเสียเจ้าเด็กน้อย!” เทพสวรรค์ซีเฉินร้องบอก
เงาผีทั้งหลายนั้นมันปกคลุมรอบทิศมืดฟ้ามัวดิน แต่ฝ่ายเย่หยวนกลับแค่พูดกล่าวคำพูดเดียวออกมา!
“หยุด!”
อากาศรอบๆ กายเขานั้นหลุดลงทันที!
สีหน้าและดวงตาที่แฝงเปี่ยมไปด้วยความสะใจของเทพสวรรค์ทั้งสี่จางหายไปในพริบตาและแทนที่ด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาทั้งหลายไม่อาจขยับร่างกายได้!
นี่มันคือพลังเต๋าสวรรค์ที่จะหยุดทุกอย่างลง!
ที่สำคัญไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นวิชาใดๆ มันก็ต่างล้วนหยุดลงสิ้นด้วย
“ดาบสลักกลวงแท้!”
เย่หยวนชักดาบออกมาฟันในพริบตากวาดดาบลงถึงสี่ครั้ง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
สี่เงาร่างปลิวลอยออกไปในสี่ทิศ!
เหล่าผีเทพสวรรค์ที่ไร้ร่างทั้งสามนั้นถูกตัดจนร่างกายขาดออกจากกัน แต่ไม่นานนักร่างกายของพวกเขามันก็ขยับเข้ามาผสานตัวต่อเข้าหากันอีกครั้ง
ส่วนตัวฉือจือที่มีร่างกายนั้น บนหน้าอกของเขามีแผลใหญ่เปิดให้เห็นอย่างชัดเจน
จัดการสี่เทพสวรรค์ลงด้วยดาบเดียว!
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งสี่ต่างต้องหันมามองหน้าเย่หยวนด้วยตกตะลึง สายตาเปี่ยมล้นไปด้วยความตกใจ
“คำบัญชาเต๋าสวรรค์ ควบคุมมิติ! นี่มัน… นี่มัน…” ซีเฉินได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
เย่หยวนนั้นค่อยๆ เก็บดาบลงและกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ครั้งนี้ข้าแค่เตือน หากยังไม่หยุดมือกันอีกครั้งข้าพวกเจ้าคงไม่อาจฟื้นตัวได้แน่!”
ดาบเดียวนี้เย่หยวนออมมือไว้มาก
ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่พวกเขาจะยังเหลือรอดกันได้?
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตอนที่เย่หยวนอยู่ในถ้ำนิลเพลิงนั้นเขาก็ได้ฆ่าสังหารมารนรกเทพสวรรค์ไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ด้วยตัวเอง!
เวลานี้ยิ่งเขาบรรลุขึ้นอาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นกลางมาได้ มีหรือที่คนทั้งหลายนี้ที่ยังไม่ถึงระดับเทพสวรรค์แปดดาวจะมีค่าใด?
เวลานี้ใบหน้าของเทพสวรรค์ทั้งสี่นั้นแสดงความขมขื่นออกมาอย่างชัดเจน เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่!
แต่จู่ๆ เย่หยวนก็เงยหน้าขึ้นไปมองสูงบนฟ้า “ดูมาป่านนี้แล้วจะยังไม่ออกมาอีกหรือ? จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิง!”
นั่นทำให้เกิดเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากห้วงมิติพร้อมมองดูเย่หยวนด้วยความตกตะลึง
ผู้มาถึงนี้มีคลื่นพลังเหนือล้ำลึกลับ เพราะเขาเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์!
ตัวตนระดับนี้มันจะเป็นใครไปได้นอกจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิง?
เย่หยวนนั้นบุกทะลวงเข้ามาตรงๆ เช่นนี้มันย่อมจะทำให้เกิดความวุ่นวายมาก ด้วยพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์มีหรือที่เขาจะสัมผัสไม่ได้?
เพียงแค่ว่าเขานั้นปล่อยให้เหล่าเทพสวรรค์จัดการเทพสวรรค์อย่างเย่หยวน สุดท้ายไม่นึกไม่ฝันว่าลูกน้องเทพสวรรค์ทั้งสี่ของเขาจะถูกเย่หยวนจัดการลงด้วยดาบเดียว
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้เขาแทบลืมหายใจ
เย่หยวนนั้นควบคุมมิติเวลาได้ ทำให้ทุกสิ่งอย่างหยุดลง!
แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่ได้อยู่ร่วมการต่อสู้ด้วย แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังของคำบัญชาเต๋าสวรรค์ที่สุดแสนรุนแรง ต่อให้เป็นตัวเขามันก็ไม่แน่ว่าจะหลุดพ้นจากการพันธนาการนั้นได้!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงมองดูเย่หยวนด้วยความหนักใจพร้อมสายตาที่กังวลไม่น้อย
“เจ้าหนุ่ม จักรพรรดิผู้นี้ไม่เคยจำได้เลยว่าไปลบหลู่เจ้าไว้ที่ใด เหตุใดจึงต้องมาก่อเรื่องในคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกข้าจนถึงขั้นนี้?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงถามออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจเพื่อกลบความหวาดกลัวในส่วนลึก
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจและตอบกลับมา “ข้านั้นแค่มาพาผีเทพสวรรค์ขวังต้าวไป แต่มันกลับไม่มีใครจะยอมฟังดีๆ”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงเทพต้องกระอักเลือดออกมาเมื่อได้ยิน ‘เจ้าบุกเข้ามาทำร้ายผู้คนตั้งแต่หน้าประตู ใครจะไปคุยดีๆ กับเจ้ากัน?’
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงกล่าวออกมา “หากข้าปล่อยให้เจ้าเอาคนออกไปง่ายๆ เช่นนั้นจักรพรรดิผู้นี้จะยังมีหน้าไปพบใครได้?”
เย่หยวนหยุดคิดพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “ได้ ข้าจะไว้หน้าเจ้าให้!”
พูดจบเย่หยวนก็ยกมือขึ้นคารวะต่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงและกล่าว “จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงโปรดมีเมตตาปล่อยตัวเทพสวรรค์ขวังต้าวออกมาด้วยเถอะ!”
กล่าวว่าโปรด แต่น้ำเสียงของเย่หยวนนั้นมันแข็งทื่อไร้อารมณ์ใดๆ
หากเจ้ายอม เจ้าก็จงเอาออกมา
แต่แม้เจ้าไม่ยอม เจ้าก็ต้องให้มา!
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในเวลานี้ต่างได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง เจ้าเด็กมนุษย์คนนี้มันจะไร้เหตุผลและโอหังจนเกินไปแล้ว!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงได้แต่ต้องตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เจ้าคิดว่าจักรพรรดิผู้นี้จะไม่กล้าลงมือต่อเจ้า?”
เย่หยวนตอบกลับไป “หากข้าคิดไป เจ้าก็หยุดข้าไว้ไม่ได้ หากข้าอยากสังหาร เจ้าก็หยุดข้าลงไม่ได้! ไม่เชื่อหรือ? ลองดูได้!”
พูดจบเย่หยวนก็กล่าวซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง “จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงโปรดมีเมตตาปล่อยตัวเทพสวรรค์ขวังต้าวออกมาด้วยเถอะ!”
เวลาชะงักพร้อมด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติ แน่นอนว่าด้วยระดับของจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวแล้วเย่หยวนย่อมจะหลุดรอดหนีไปได้ไม่ยาก
แต่หากคิดอยากป้องกันการลอบสังหารของเย่หยวนนั้นมันคงยากเกินมือ เว้นเสียแต่จะไม่ให้เทพสวรรค์ทั้งหลายออกจากคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกไปไหน!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยหลิงได้แต่ต้องกัดฟันแน่นคิดอยากสังหารเจ้าเด็กคนนี้ให้ตายคามือ
แต่เขาก็ไม่กล้าจะลองจริงๆ!
ตัวตนของเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นมันเล็กน้อยไร้ความสำคัญใดๆ
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในระดับขุนพลนี้มันมิใช่สิ่งที่จะเอามาแลกชีวิตเทพสวรรค์ขวังต้าวได้เลย
หากพวกเขาทั้งสี่นี้ตายลงแล้ว เขาคงได้กลายเป็นแม่ทัพเดียวดายไร้ทหารมิใช่หรือ?
ต่อให้จะเป็นตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์แต่การจะสร้างลูกน้องระดับเทพสวรรค์มันก็มิใช่เรื่องง่าย
เทพสวรรค์ทั้งหลายต่างมีศักดิ์ศรีเป็นยอดคนปกครองดินแดน มีหรือที่จะก้มหัวลงรับใช้ใครง่ายๆ?
…………………………