ตอนที่ 265 วินาทีที่หวังเจียเหยาเสียใจที่สุด!
หวังเจียเหยาเพิ่งคลอดลูกร่างกายยังไม่กลับคืนสู่สภาพเดิมเต็มที่
แต่ตอนนี้หล่อนกลับวิ่งสับเหมือนนักกีฬาวิ่งสี่คูณร้อย ราวเสียสติ พุ่งถลามายังสถานที่ก่อสร้างทันที
“อย่ารื้อป้ายบนประตูของฉัน!”
สถานที่อย่างอีผิ่นเจียเหยาเคยเป็นเหมือนทุกอย่างสำหรับหล่อน!
ที่นี่เป็นพระราชวังของราชินีอย่างหล่อน เป็นเหมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เติมเต็มความทะเยอทะเยานของหล่อน!
หล่อนไม่มีทางอนุญาตให้คนอื่นทำลายสถานที่แห่งนี้!
คนบนรถเครนได้ยินเสียงหญิงสาวก็ชะงักไปแล้วหันมองเย่เฉิน
ทว่าเย่เฉินกลับสั่งอย่างไร้เยื่อใย “ห้ามหยุด! ฉันสั่งให้รื้อ!”
เมื่อเขาได้ยินคำสั่งของเย่เฉินก็ไม่ใยดีเสียงตะโกนของหวังเจียเหยา ตัดารควบคุมรถเครนทันที แล้วรื้อตัวอักษร ‘เหยา’ อันเป็นอักษรตัวสุดท้ายในป้ายออก
โครม!
แล้วตัว ‘เหยา’ ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็หักเป็นสองท่อน
เมื่อเห็นสถานที่ซึ่งตั้งตามชื่อตนเองโดนรื้อทิ้ง หวังเจียเหยาก็สติแตก ทรุดลงไปกรีดร้องบนพื้น!
“ไม่นะ! อีผิ่นเจียเหยาของฉัน พระราชวังของฉัน! ไม่!”
น้ำตาหวังเจียเหยาไหลราวสายน้ำ หวังเจียเหยาตลอดสามปีที่เขารู้จักหญิงสาวมา ไม่เคยเห็นหล่อนร้องไห้หนักแบบนี้มาก่อน!
ต่อให้ก่อนหน้านี้หวังเจียเหยาเคยคุกเข่าอ้อนวอนเขา แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้อย่างเศร้าโศกขนาดนี้
เป็นไปตามที่คิดผู้หญิงคนนี้รักอีผิ่นเจียเหยาของตนเองมากกว่ารักเขา!
เย่เฉินยืนมองหวังเจียเหยาที่ร้องไห้แต่ไม่รู้สึกสงสารแต่อย่างใด!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ หวังเจียเหยาเป็นคนรนหาที่เอง!
เย่เฉินไม่สงสารหล่อนแม้แต่น้อย หลังจากรื้อตัวอักษร ‘อีผิ่นเจียเหยา’ แล้วก็กำชับกับคนงาน “เริ่มสร้างเป็นสุสานได้เลย!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หวังเจียเหยาก็หันมองเย่เฉินอย่างตื่นตระหนก รีบร้อนวิ่งมาหาเขาทันที
“เย่เฉิน นายพูดว่าอะไรนะ? นายจะทำที่นี่เป็นสุสานเหรอ?”
เย่เฉินตอบ “ถูกต้อง ผมซื้อที่นี่แล้ว ที่นี่จะไม่มีบ้านหรูแบบโปรเจ็กต์อีผิ่นเจียเหยาแล้วแต่จะกลายเป็นสุสานแทน!”
“ไม่นะ! ไม่! ไม่!” หวังเจียเหยาโอดครวญ เหมือนเสียสติ “เย่เฉิน นายจะทำแบบนี้ไม่ได้! นายลืมไปแล้วเหรอ? ที่นี่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักของพวกเรานะ! ชื่ออีผิ่นเจียเหยานายก็เป็นคนตั้งชื่อนะ! ที่ตั้งนายก็เป็นคนเลือก! ทำไมนายถึงเปลี่ยนสถานที่แห่งความรักของเราสองคนเป็นสุสานได้ล่ะ?”
เย่เฉินได้ยินคำพูดพวกนี้ของหวังเจียเหยา ก็อดรู้สึกยอกแสลงในใจไม่ได้
ทันใดนั้นเองเขาก็นึกถึงคลิปวีดีโอในงานแต่งงานของหวังเจียเหยาและหลิ่วอวี่เจ๋อที่หวังซ่าวเจี๋ยส่งมาให้เขา
ในคลิปวีดีโอนั้นหวังเจียเหยาพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า อีผิ่นเจียเหยาเป็นรังรักของหล่อนกับหลิ่วอวี่เจ๋อ!
เย่เฉินกล่าวเสียงเย็น “ที่นี่เป็นรังรักของคุณกับหลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่หรอ? พวกคุณคนหนึ่งคืออีผิ่น ส่วนอีกคนคือเจียเหยาไม่ใช่เหรอ?”
หวังเจียเหยาตะลึงไปในทันที!
อีผิ่นคือหลิ่วอวี่เจ๋อ เจียเหยาก็คือหล่อนเอง ประโยคนี้หล่อนเป็นคนพูดเองในงานแต่งงานของหล่อนกับหลิ่วอวี่เจ๋อ!
คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินจะรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน!
หวังเจียเหยารีบคุกเข่าลงขอโทษเขา “เย่เฉินฉันผิดไปแล้ว อีผิ่นคือนายไม่ใช่หลิ่วอวี่เจ๋อ ที่นี่คือรังรักของพวกเรา เป็นสถานที่ของพวกเรา ไม่เกี่ยวกับคนอื่นเลย”
เย่เฉินแค่นเสียงหวังเจียเหยานี่กลับคำเก่งจริงๆ
เย่เฉินกล่าว “หวังเจียเหยาเป็นเพราะที่นี่คือรังรักของพวกเรา เป็นหลักฐานที่ว่าผมเคยรักคุณ ดังนั้นวันนี้ผมถึงอยากจะทำลายมันแล้วเปลี่ยนมันให้เป็นสุสาน เพราะความรักที่ผมมีให้คุณมันถูกฝังไปหมดแล้ว มันตายไปหมดแล้ว”
“ไม่…” หวังเจียเหยาคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เฉินแล้วกอดขาเขาเอาไว้ “ไม่ นายยังรักฉัน นายจะต้องยังรักฉัน ฉันเป็นผู้หญิงที่นายรักที่สุด นายไม่มีทางทำกับฉันแบบนี้”
“เย่เฉินนายเองก็รู้นี่นาว่าอีผิ่นเจียเหยาเป็นทุกอย่างของฉัน ฉันให้ความสำคัญกับที่นี่เหมือนลูกตัวเอง ขอล่ะนายอย่าใจร้ายเลยนะ อย่าทำร้ายลูกของฉันเลยนะได้ไหม?”
หวังเจียเหยาไม่พูดถึงลูกอาจจะพอช่วยได้หน่อย ทันทีที่พูดถึงลูกก็ยิ่งทำให้เย่เฉินหัวเสีย!
เย่เฉินตะโกนใส่คนงาน “รีบไปทำงานเลย! ก่อนฟ้าจะมืดฉันอยากเห็นสุสานหลุมแรก!”
หวังเจียเหยาได้ยินเย่เฉินกล่าวแบบนี้ ก็กอดขาเขาแน่นกว่าเดิม
เย่เฉินเกลียดชังที่หวังเจียเหยาเกาะเขาแบบนี้ แต่ว่าเขาไม่อยากจะออกแรงเตะหล่อน อย่างไรเสียหล่อนก็เพิ่งคลอดลูก หนำซ้ำร่างกายยังไม่กลับมาเป็นปกติ
ถึงจะเกลียดเข้ากระดูกดำ แต่เขาก็ไม่ถึงกับรังแกผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูก
ดังนั้นเย่เฉินจึงกำชับหลิวเจิ้งคุน “รีบลากหล่อนออกไป!”
“ครับ!”
หลิวเจิ้งคุนรีบเดินอ้อมไปด้านหลังหล่อน แล้วออกแรงลากหล่อน
หลิวเจิ้งคุนแรงเยอะออกแรงลากหวังเจียเหยาทันที
ทว่าหวังเจียเหยากลับตะโกนเสียงดัง “กรี๊ด!”
หวังเจียเหยามองหลิวเจิ้งคุนอย่างโกรธเกรี้ยว “คิดไม่ถึงว่าแกจะแต๊ะอั๋งฉัน! ไอ้หมารับใช้ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าแตะอํ่งเมียเก่าเจ้านายต่อหน้าเขา! แกกล้าดียังไงทำกับฉันแบบนี้! ลูกชายฉันเป็นลูกชายแท้ๆ ของเจ้านายแก อนาคตเขาจะต้องรับช่วงดูแลตระกูลเย่ แต่แกกลับกล้าเสียมารยาทกับฉันแบบนี้!”
หลิวเจิ้งคุนได้ยินคำพูดพวกนี้ของหวังเจียเหยาก็ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด รีบร้อนอธิบายกับเย่เฉิน
“คุณชายผมเปล่านะครับ! ตอนที่ผมลากหล่อนใช้แรงนิดเดียว แต่อาจจะทำหล่อนเจ็บ แต่ผมสาบานว่าผมไม่ได้ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋งหล่อน!”
เย่เฉินมองหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “ในความรู้สึกผมคุณไม่ได้เป็นหวังเจียเหยาที่ใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้นอีกต่อไปแล้ว
อาคุนอย่าไปสนใจหล่อน จับหล่อนโยนใส่รถเลย อย่าปล่อยให้หล่อนอยู่กวนใจฉัน”
“ครับคุณชาย!”
เมื่อได้รับอนุญาตจากเย่เฉิน หลิวเจิ้งคุนเองก็ไม่พูดจาเหลวไหลอีก แล้วลากหวังเจียเหยาเข้าใส่รถ Audi
“รีบเปิดประตูรถไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพ่อจับโยนขึ้นหลังคารถเลย!”
หลิวเจิ้งคุนตะโกน
หวังเจียเหยาโดนหลิวเจิ้งคุนแบกแต่หล่อนทุบหลังของหลิวเจิ้งคุนไม่หยุด แต่สำหรับหลิวเจิ้งคุนแล้วแรงน้อยนิดของหล่อนก็เป็นเพียงแค่รอยขีดข่วนเท่านั้น
“เพราะอะไร! เพราะอะไรนายจึงได้ใจร้ายกับฉันแบบนี้!” หวังเจียเหยาน้ำตาไหลอาบน้ำ
หลิวเจิ้งคุนหามหวังเจียเหยาไปพูดไปด้วย “เพราะอะไรน่ะเหรอ? หวังเจียเหยาเพราะอะไรยังไม่รู้อีกเหรอ? คุณหลอกลวงคุณเย่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คุณเย่ไม่ซ้อมคุณก็ถือว่าปราณีคุณแล้ว!”
“ฉันหลอกอะไรเย่เฉิน!” หวังเจียเหยายังโกหกอยู่
หลิวเจิ้งคุนกล่าว “เลิกเสแสร้งทีเถอะ อย่าคิดว่าพวกเรามาที่อวิ๋นโจวแค่เพราะจะมารื้ออีผิ่นเจียเหยาของคุณหรือไง? พวกเราไปที่บ้านของรักครั้งแรกคุณมา รักครั้งแรกของคุณชื่อหวงหมิงเจ๋อใช่ไหมล่ะ? ผมเห็นภรรยาของเขาอยู่ดีมีสุข ทำไมคุณถึงบอกว่าหล่อนรถชนตายไปแล้วล่ะ?”
หวังเจียเหยาถึงได้รู้สาเหตุที่แท้จริงเดี๋ยวนี้เอง “เย่เฉิน…เขารู้แล้วหรอ?”
มิน่าเย่เฉินถึงได้หัวเสียขนาดนี้ จนดึงดันพยายามจะรื้ออีผิ่นเจียเหยาของหล่อน แถมยังพยายามจะเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้เป็นสุสาน
ที่แท้เย่เฉินก็รู้แล้วว่าคำอธิบายก่อนหน้านี้ของหล่อนเป็นเรื่องโกหก
หวังเจียเหยาเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเองก็ทุบหลังของสามีสุดแรง “แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! รีบปล่อยฉันลง!”
หลิวเจิ้งคุนสบถ “คุณอยู่เฉยๆ! คุณชายของผมตอนนี้ไม่มีทางจะสนใจผู้หญิงสกปรกแบบคุณหรอกนะ! ถ้ายังไม่อยู่เฉยๆ ระวังผมจะไม่เกรงใจคุณล่ะ!”
ทว่าหวังเจียเหยายังคงตบตีเขาไม่หยุด แถมยังตะโกนใส่เย่เฉินที่อยู่ไกลๆ “เย่เฉินนายอยากรู้ความจริงมากใช่ไหม? ได้ ฉันจะบอกความจริงนายเดี๋ยวนี้!”