ตอนที่ 309 ฉินหงเหยียน: ระหว่างเรามันจบแล้ว!
เสียงคุ้นเคยของสตรีลอยออกมา
แต่ว่าเสียงนี้ไม่ใช่เสียงของฉินหงเหยียนแต่เป็นฉินเสี่ยวตั่วน้องสาวของหล่อน!
เย่เฉินที่เดิมกำลังดื่มด่ำกับความรู้สึกของการกอดหญิงอันเป็นที่รักหลังจากไม่ได้พบกันมานาน
แต่หลังจากได้ยินเสียงของฉินเสี่ยวตั่วแล้วก็รีบคลายอ้อมกอดลงอย่างรวดเร็ว ราวโดนของร้อน แล้ววถอยกรูดออกมา
โชคดีที่ในห้องไม่ได้เปิดไฟ จึงไม่เห็นความเก้อเขินในตอนนี้บนใบหน้าของเย่เฉิน
“เสี่ยว…เสี่ยว…เสี่ยวตั่ว?”
เย่เฉินเกิดติดอ่างขึ้นมา เมื่อครู่เกือบไปแล้วจริงๆ ถ้าหญิงสาวอุทาออกมาช้าไปเสียหน่อย เย่เฉินคงจะหอมหล่อนไปแล้ว
ถ้าฉินหงเหยียนมาเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็คงจะอธิบายยากกว่าเดิม
เย่เฉินรีบร้อนเปิดไฟ เมื่อเห็นว่าเป็นฉินเสี่ยวตั่วก็กล่าวถาม “เสี่ยวตั่ว ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่? ที่นี่มันห้องพี่สาวคุณไม่ใช่เหรอ?”
เย่เฉินเกิดคลางแคลงใจขึ้นมาว่าว่านเจิ้งหาวกำลังหลอกลวงตนเองหรือไม่
คิดไม่ถึงว่าฉินเสี่ยวตั่วจะหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบตามองเย่เฉินแล้วกล่าวอย่างเก้อเขินขึ้นมาแทน
“ก็เป็นห้องพี่สาวฉันนี่แหละ ฉันขึ้นมาเอาของ ตอนที่เพิ่งถึงห้องหล่อน จู่ๆ หล่อนก็สั่งให้ปิดไฟ ไฟมืดตึ๊ดตื๋อฉันมองไม่เห็นอะไร ไม่กล้าเดินไปเรื่อย ก็เลยมายืนอยู่ที่นี่”
เย่เฉินกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”
หลังจากฉินเสี่ยวตั่วเห็นเย่เฉินแล้ว ทันใดนั้นเองก็หัเราะคิกคัก “เย่เฉิน นายนี่เก่งดีจริงๆ ติดไม่ถึงเลยว่าจะปีนหน้าต่างเพื่อแอบมาพบพี่ฉัน ฉันล่ะชอบละครบทนี้ของนายนะ!”
เย่เฉินส่ายหน้าแล้วถาม “พี่สาวคุณอยู่ไหน?”
ฉินเสี่ยวตั่วชี้ไปด้านนอก “อยู่ในห้องรับแขกชั้นหนึ่ง รีบไปขอให้พี่สาวฉันให้อภัยเถอะนะ ฉันจะรอข่าวดีของนาย เฮ้อ จะต้องเอาหมอนมาเพิ่มให้นายอีกใบหรือเปล่า? อีกเดี๋ยวถ้าพี่สาวฉันให้อภัยนาย ทั้งสองคนไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งนานขนาดนี้อดทนมานานขนาดนี้แล้วคงต้องนอนด้วยแน่เลย ฮ่าๆ ”
ฉินเสี่ยวตั่วแอบอมยิ้ม แม่หนูคนนี้ชอบกระเซ้าเย้าแหย่เย่เฉินเสมอ
เย่เฉินปรายตามองเตียงของฉินหงเหยียนพลางกล่าว “ไม่ต้องเอามาหรอกนะ อีกเดี๋ยวพอผมกับพี่สาวคุณคืนดีกันแล้ว พวกเราก็จะย้ายออกทันที ที่นี่เป็นบ้านของสวี่ฉู่หมิง ผมไม่อยากให้พวกคุณอยู่ที่นี่ จริงสิ เสี่ยวตั่ว ผมซื้อวิลล่าที่นี่หลายหลัง ผมกับหงเหยียนหลังหนึ่ง คุณหลังหนึ่ง”
พอได้ยินมาถึงตรงนี้แล้วฉินเสี่ยวตั่วก็ชะงักไป “นายพูดอะไรนะ? นายซื้อวิลล่าที่นี่ให้ฉันหลังหนึ่งเลยเหรอ?”
เย่เฉินยิ้มพลางผงกศีรษะรับ
“กรี๊ด!”
ฉินเสี่ยวตั่วมีท่าทีดีใจ แล้วโผเข้ากอดเย่เฉิน ถึงขนาดหอมแก้มอีกฝ่าย “ขอบคุณนะคะพี่เขย! พี่เขยจงเจริญ!”
เย่เฉินเก้อเขินอย่างมาก ถึงขนาดรีบเช็ดตำแหน่งบริเวณที่ฉินเสี่ยวตั่วจุมพิตหล่อน “ถ้าพี่สาวคุณเห็นเข้า เกรงว่าต่อให้ผมอธิบายทั้งคืนหล่อนก็คงไม่สนใจผม ”
ฉินเสี่ยวตั่วเองก็เป็นคนใจกว้างอย่างมาก “ฮ่าๆ ไม่เป็นอะไร ฉันล้างเครื่องสำอางแล้ว ไม่มีลิปสติก ลงไปเถอะ ไม่ต้องกลัว สู้ๆ!”
เย่เฉินเองก็สำรวจตัวเองผ่านทางกระจก เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีร่องรอยอะไร จึงเดินออกไปนอกห้อง
ด้านนอกห้องยังมืดสนิท เย่เฉินถึงเปิดไฟฉายของมือถือแล้วค่อยๆ เดินลงไปด้านล่าง จากนั้นก็กล่าวเสียงแผ่วในวิลล่าที่ว่างเปล่า “หงเหยียนผมมาแล้ว”
ตอนที่เย่เฉินมาถึงห้องรับแขกชั้นหนึ่ง ฉินหงเหยียนที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ก็หยิบรีโมทมาเปิดไฟในห้องรับแขก
เมื่อไฟสว่างขึ้น เย่เฉินก็เห็นฉินหงเหยียนอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบกันมาเนิ่นนาน หล่อนดูผอมลงกว่าตอนที่ทั้งสองคนเจอกันเมื่อคราวก่อน แต่ยัวคงดูมีมาดนางพญาเหมือนอย่างเคย
ฉินหงเหยียนเองก็แหงนหน้ามองเย่เฉิน แต่ว่าแค่ปรายตามองเท่านั้น แววตาของหญิงสาวเสหลบเขาไปอย่างรวดเร็วจากนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “ที่นี่เป็นบ้านของสวี่ฉู่หมิง คุณบุกเข้ามามันผิดกฎหมายนะ”
คิดไม่ถึงว่าเมื่อพบหน้ากันอีกครั้ง ประโยคแรกที่ฉินหงเหยียนกล่าวกับเขาจะเป็นการตำหนิพฤติกรรมของเขา
เย่เฉินรู้ว่าฉินหงเหยียนโกรธตนเองแน่ เขารีบร้อนวิ่งไปจับมือสองข้าของฉินหงเหยียนแล้วกล่าว
“ขอโทษด้วย หงเหยียน ในช่วงก่อนผมไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณ เป็นความผิดของผมเอง คุณอย่าโกรธผมเลยได้ไหม?”
แต่ฉินหงเหยียนกลับสะบัดมือเขาทิ้งอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวเสียงเย็นชา “คุณเย่ คุณช่วยระวังมารยาทหน่อย! ตอนนี้…เป็นคู่หมั้นของสวี่ฉู่หมิง”
เย่เฉินก้มหน้าลง ทันใดนั้นเองพลันเหลือบเห็นแหวนที่นิ้วนางในตอนนี้ของฉินหงเหยียน
วินาทีที่เห็นแหวนบนนิ้ว ใจของเย่เฉินก็สลายทันที!
“แหวนวงนี้…ไม่ใช่วงที่ผมซื้อให้คุณนี่ สวี่ฉู่หมิงให้มาเหรอ? คุณตอบตกลงแต่งงานกับเขาแล้วเหรอ?”
คิดไม่ถึงว่าฉินหงเหยียนจะตกปากรับคำยอมแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิง!
การแต่งงานของหล่อนกับสวี่ฉู่หมิงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ หล่อนตั้งใจ หล่อนต้องการจะแต่งกับเขาจริงๆ!
ฉินหงเหยียนไม่กล้าสบตามองเย่เฉินตรงๆ หล่อนเสสายตาไปที่อื่น “ใช่สิ ฉันกำลังจะแต่งงานกับเขา”
ในใจของเย่เฉินเย็นยะเยียบ ทำไมเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันนี้วันที่หยิงที่เขารักลึกซึ้ง จะสวมแหวนของชายคนอื่นบนนิ้วนางของตนเอง!
เย่เฉินขอโทษฉินหงเหยียนอีกครั้ง “หงเหยียน คุณทำแบบนี้เพราะเรื่องลูกหรือเปล่า? ผมรับรองกับคุณได้เลยไม่ว่าจะลูกของหวังเจียเหยา หรือลูกของซูมู่ชิง้วนแต่จะไม่สามารถสืบทอดมรดกตระกูลเย่ได้ มีแค่ลูกของเราสองคนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์รับมรดกของผม แบบนี้พอหรือยัง?”
ฉินหงเหยียนกล่าวเสียงเย็นชา “ฉันจะไม่มีลูกกับคุณ”
เย่เฉินสงสัยว่าฉินหงเหยียนสืบได้ว่าหล่อนมีลูกไม่ได้ถึงได้เป็นแบบนี้
อย่างไรเสียฉินหงเหยียนก็อายุ 3 กว่าปีแล้ว ที่ผ่านมาโดนสวี่ฉู่หมิงเลี้ยงมาตั้ง 3 ปี
สามปีมานี้จะใช่สวี่ฉู่หมิงซ้อมหล่อนจนมีลูกไม่ได้หรือเปล่า เย่เฉินเองก็ไม่รู้
ฉินหงเหยียนสงบสติอารมณ์ จนในที่สุดก็แหงนหน้ามองเย่เฉินพลางกล่าว “เดิมทีฉันเองก็อยากจะนัดเจอคุณเพื่อคุยกับคุณให้ชัดเจน ในเมื่อคุุณมาแล้วงั้นฉันขอพูดกับคุณต่อหน้าให้รู้เรื่องก็แล้วกัน เย่เฉิน ระหว่างเรามันจบแล้ว เราเลิกกันแล้ว ระหว่างเราไม่มีอะไรต่อไปอีก ฉันกับคุณมันคนละโลกกัน คุณเป็นลูกคนรวย ฉันมันแค่เด็กำพร้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ อีกอย่างคุณอายุยังน้อย ฉันแก่กว่า อีกทั้งเคยมีผู้ชายเลี้ยงมาก่อน ไม่ได้เป็นผู้หญิงบริสุทธิ์
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้คุณก็มีลูกกับผู้หญิงตั้งสองคน อีกทั้งแม่ของเด็กๆ ล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งอายุน้อยแถมยังมีพื้นเพครอบครัวที่ดีอีก คุณไปอยู่กับแม่ของเด็กเถอะนะ อย่างน้อยๆ เด็กจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์”
เย่เฉินได้ยินฉินหงเหยียนพูดเรื่องพวกนี้หัวเสียทันที “หงเหยียน คุณพูดเหลวไหลอะไร! คุณจะให้ผมเลิกกับคุณไปหาหวังเจียเหยาเหรอ? ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายผมมาตั้งหลายครั้งไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้เสียหน่อย!
ส่วนเรื่องซูมู่ชิง… หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดีเยี่ยมจริงๆ แต่ว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับหล่อนแม้แต่น้อย ผู้หญิงทุกคนในโลกใบนี้ไม่มีใครสู้คุณได้เลย! หงเหยียนผมไม่ได้สนใจอดีตของคุณเลย คุณอย่าสนใจเรื่องอดีตเลยได้ไหม!”