ในวินาทีนี้จิตใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นตระหนกอย่างไร้สาเหตุ
เขานั้นมองดูที่รอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของเย่หยวน แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดมันกลับดูเหมือนรอยยิ้มแห่งยมทูต
“ไม่ดีแล้ว! มันมีกับดัก!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นหยุดการพุ่งตัวลงพร้อมถอยหลังออกในทันที
แต่มีหรือที่มันจะทัน?
“ค่ายกล ทำงาน!” เย่หยวนร้อง
พร้อมๆ กันในเวลานั้นเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ถูกสาดเข้าใส่ด้วยของเหลวบางอย่าง
“อ่าก! น้ำลายตัวเขมือบวิญญาณ! นี่มันน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณ!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมสูงแฝงด้วยความกลัวและเจ็บปวด
“อ่า!”
“อาก!”
“อั่ก!”
…
เสียงโหยหวนดังขึ้นมาตามๆ กันทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายร่วงตกลงสู่พื้นไปพร้อมๆ กัน ได้แต่ร้องด้วยความเจ็บปวด
เวลานี้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งที่ขยับตัวเร็วที่สุดก็ได้พุ่งตัวนำร่างออกมาจากค่ายกลได้สำเร็จ
แต่เขานั้นคือคนที่อยู่หน้าสุดตอนที่ค่ายกลทำงาน แน่นอนว่าน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณที่อยู่บนตัวเขาก็ย่อมจะมากกว่าคนอื่นๆ
แม้ว่าค่ายกลของเย่หยวนมันจะหนักแน่นแข็งแกร่งแต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้
แต่เป้าหมายของค่ายกลนี้มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อกักขัง สิ่งที่เย่หยวนต้องการก็คือการสาดน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณใส่คนทั้งหลายเท่านั้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์จ้าวหวนนั้นช้าที่สุดในกลุ่ม เวลานี้น้ำลายของตัวเขมือบวิญญาณมันจึงเคลือบกายเขาไปตั้งแต่หัวจรดเท้า
ทำให้ร่างกายของเขานั้นเริ่มค่อยๆ โปร่งแสงขึ้นเรื่อยๆ
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ เองก็ถูกน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณไปไม่น้อยเช่นกัน!
ในเวลานี้มันจึงเกิดเสียงร้องโหยหวนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
ด้วยการลงมือของเย่หยวนเวลานี้เหล่าค้างคาวปีกเลือดจึงลดจำนวนลงไปมากและทำให้เหล่าผีเทพสวรรค์ทั้งหลายเริ่มฝ่าวงล้อมออกมาได้
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นมีสภาพเช่นนั้น พวกเขาแต่ละคนก็ได้แต่ต้องหันไปมองหน้าเย่หยวนอย่างตกตะลึง
นอกจากเจ้าหมอนี่มันจะไม่ตายแล้ว มันยังฆ่าสังหารและทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์กลายมามีสภาพเช่นนั้น
นี่มัน… ยังเรียกว่าคนได้อยู่หรือ?
“ให้ตายสิ! น้ำลายตัวเขมือบวิญญาณมันรุนแรงปานนี้ได้อย่างไรกัน? จักรพรรดิผู้นี้… จักรพรรดิผู้นี้รู้สึกราวกับว่าร่างกายจะจางหายไปทั้งๆ อย่างนี้!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งหรี่ตาลงมองร่างกายเปียกๆ ของตนอย่างมึนงง
เย่หยวนค่อยๆ ยกมือขึ้นเก็บบัวดอกโลหิตไปเรื่อยๆ ก่อนจะตอบขึ้นมาเมื่อได้ยิน “ข้านั้นได้หลอมน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณมาก่อนแล้ว พลังของมันนั้น… คงมากกว่าตัวน้ำลายธรรมดาสักร้อยเท่าได้!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งต้องหรี่ตาลงแคบมองดูเย่หยวนอย่างหวาดกลัว
เดิมทีน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณนั้นมันก็เป็นพิษร้ายแก่กายวิญญาณอยู่แล้ว เวลานี้เมื่อมันรุนแรงกว่าเก่าไปร้อยเท่ามันก็ย่อมจะไม่อาจต้านทานได้อีก!
ความรุนแรงของมันนี้ถึงตายได้ง่ายๆ!
ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นค่อยๆ ปล่อยลายพระเจ้าออกมาห่อหุ้มร่างกายของตนไว้
แต่สุดท้ายมันก็ทำได้แค่ชะลอการกัดกินบนร่างเท่านั้น!
ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนนั้นร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์จ้าวหวนมันก็ค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็หายไปกับอากาศอย่างไร้ร่องรอย
เหล่าผีเทพสวรรค์ทั้งหลายสั่นสะท้านไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ มองดูภาพตรงหน้าอย่างหวาดกลัว
ภาพตรงหน้านี้มันน่าสยดสยองเกินไปสำหรับพวกเขา
“จักร… จักรพรรดิเทพสวรรค์ตายลงง่ายๆ เช่นนี้เลย?” ผีเทพสวรรค์ไม่คิดอยากเชื่อสายตา
ตัวตนของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นเก่งกาจเหนือล้ำ เป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง
ในความคิดของพวกเขาทั้งหลายนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์ไม่มีวันตายลงได้
แต่เวลานี้มันกลับมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ตายลงต่อหน้าต่อตาพวกเขาง่ายๆ เช่นนี้!
นั่นยิ่งทำให้ดวงตาของคนทั้งหลายหันไปมองเย่หยวนอย่างตกตะลึง
เจ้ามนุษย์คนนี้มันน่ากลัวจนเกินไป!
ไม่นานนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อีกคนหนึ่งก็ได้จางหายไปกับอากาศ ตายลงอีกคน!
เย่หยวนยืนมองดูภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าท่าทางเรียบเฉย
เวลานี้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างปล่อยลายพระเจ้าออกมาคิดต้านทานพลังของน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณไว้
เพราะไม่ว่าจะอยากไรพวกเขาก็เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์ หากห่อหุ้มร่างไว้ด้วยลายพระเจ้าแล้วพลังชีวิตมันย่อมจะเพิ่มพูนขึ้นมาก
จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยู จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางและพวกทั้งหลายนั้นไม่ได้โดนน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณไปมากมายทำให้ยังคงพอทนทานรับไว้ได้
ส่วนตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นมีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าคนทั้งหลาย จึงต้านทานการกัดกินได้ดีกว่าคนอื่นๆ
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นร่างกายของพวกเขามันก็ค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ เช่นกัน
ไม่นานจักรพรรดิเทพสวรรค์คนที่สามก็จางหาย ตายลง!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยู จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางและพวกทั้งหลายได้แต่พยายามต้านทานมันด้วยพลังที่มีทั้งหมด
แต่เวลานี้ร่างกายของพวกเขาต่างก็จางโปรงแสงขึ้นมาก น้ำลายตัวเขมือบวิญญาณนั้นมันทำความเสียหายแก่ร่างกายนั้นมากจนเกินกว่าที่จะฟื้นฟูได้ด้วยเวลาสั้นๆ
เหล่าผีเทพสวรรค์ทั้งหลายได้แต่ยืนสูดหายใจอย่างหวาดกลัว!
พริบตาเดียวจากเจ็ดจักรพรรดิเทพสวรรค์ สามก็ได้ตายลง ส่วนที่เหลือก็ล้วนบาดเจ็บสาหัสยังไม่หลุดพ้นจากพิษนี้ใดๆ
เจ้ามนุษย์คนนี้มันน่ากลัวจนเกินไป!
แต่เมื่อได้เห็นเช่นนี้ผีเทพสวรรค์หลายๆ ตนก็แอบอมยิ้มขึ้นมา
เพราะตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาก็ถูกเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้จับตัวมาเป็นเหยื่อล่อศัตรู
เวลานี้เมื่อคนทั้งหลายนั้นถูกกดหัวแทบจมดิน มันก็ย่อมจะทำให้พวกเขาทั้งหลายสะใจไม่น้อย
ร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นจางลงเรื่อยๆ จนแทบไม่อาจทนรับไหวอีกต่อไป
ส่วนตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางนั้นเขามีใบหน้าเหยเกอย่างถึงที่สุด
ฟุบ!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางไม่คิดลังเลอีกต่อไป รีบพุ่งตัวไปยังทางออกถ้ำทันที
เย่หยวนจึงได้แต่หัวเราะขึ้นมา ก้าวเท้าออกไปดักหน้าไว้ทั้งๆ ที่ออกตัวทีหลัง หยุดการหนีของจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชาง
“ทำไมเล่า? อุตส่าห์ได้เจอหน้ากันอีก จะไปกล่าวทักทายกันเสียหน่อยหรือ?” เย่หยวนยิ้มเย้ย
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางนั้นมีพลังเหลือเพียงไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์ เขานั้นไม่อาจจะต้านทานพลังของเย่หยวนได้อย่างแน่นอน
“เจ้า… เจ้าต้องการอะไรกันแน่?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเกรงๆ
“ข้าอยากได้อะไร? หึๆ เจ้าจำไม่ได้หรือว่าตนทำอะไรไว้? เจ้าบอกว่าคำขู่ของข้ามันไร้สาระมิใช่หรือ? เจ้าบอกว่าการที่เทพสวรรค์ข่มขู่จักรพรรดิเทพสวรรค์มันเป็นการไม่ประเมินตัวเอง? เวลานี้เล่า? จักรพรรดิเทพสวรรค์มันเก่งมากหรือ?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเย้ยเยาะ
จักรพรรดิเทพสวรรค์มันเก่งกาจมากหรือ?
ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางนั้นโอหังไม่สนชีวิตผู้คนปานใด แค่ไม่พอใจนิดหน่อยก็คิดฆ่าสังหารอย่างไม่เจรจาต่อรอง
ในสายตาของเขาแล้วเย่หยวนหรือจะเป็นเทพสวรรค์ใดๆ มันก็ล้วนเป็นแค่มดปลวก
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับมายืนกล่าวคำพูดนี้อย่างหนักแน่นตรงหน้าเขา!
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ ยังพอทน แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางผู้นี้มันคิดอยากเอาชีวิตเขาตั้งแต่เห็นหน้ากัน
จากนั้นยังได้ยุยงให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งสร้างความลำบากให้เย่หยวนครั้งแล้วครั้งเล่า
ความแค้นที่ก่อขึ้นมาแล้ว เย่หยวนย่อมจะไม่มีทางปล่อยไปได้
“เย่หยวน เรื่องราวก่อนหน้านี้มันเป็นความผิดของจักรพรรดิผู้นี้สิ้น! ข้าขอโทษเจ้า! ข้า… ข้าขอร้องเถอะ ปล่อยข้าไปเถอะ!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางก้มหัวลงกล่าวต่อหน้าเย่หยวน
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “หากขอโทษแล้วมันหายคนเราก็คงไม่ต้องบ่มเพาะกันแล้วมิใช่หรือ? การเป็นผู้แข็งแกร่งนั้นก็เพื่อจะได้ทำให้ทุกคนยอมก้มหัวให้มิใช่หรือ?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางเปลี่ยนสีหน้าไปก่อนจะร้องบอก “เย่หยวน เจ้าคิดอยากแลกชีวิตกับข้าจริงๆ?”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะขึ้นมา “แลกชีวิต? แค่คนอย่างเจ้านี้?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางหรี่ตาลงกัดฟันแน่นพร้อมปล่อบลายพระเจ้าบินว่อนออกมาจากร่างกาย
นี่มันคือคลื่นเต๋าสวรรค์ที่กดดันฟ้าดินได้
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ได้ปรากฏขวานดำด้ามหนึ่งขึ้นในมือเขา!
สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางร้องลั่นขึ้น “สิงโตที่หิวโหยมันก็ยังตัวใหญ่กว่าหมา! เย่หยวน เจ้าบังคับข้าเอง!”
“นั่นมันขวานผ่าสวรรค์เลือนแค้น สมบัติประจำตัวของจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชาง!”
“ไม่ว่าจะอย่างไรจักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์! ต่อให้จะบาดเจ็บปานใดมันก็มิใช่คนที่จะถูกเทพสวรรค์ฆ่าลงได้!”
“เย่หยวนจะทำอย่างไร? หรือว่าจะยอมตายง่ายๆ ไปเช่นนี้?”
…
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหันมามองดูด้วยความสนใจ ตกตะลึงกับคลื่นพลังจากร่างของจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชาง
ต่อให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางจะบาดเจ็บสาหัสปานใด ตัวตนของจักรพรรดิเทพสวรรค์มันก็มิใช่สิ่งที่จะลบหลู่ได้
แค่พลังของสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์และลายพระเจ้านั้นมันก็มากพอจะจัดการสังหารเทพสวรรค์ขั้นสุดลงได้!
เย่หยวนนั้นยืนมองอย่างนิ่งเฉย เขาจ้องมองดูการเคลื่อนไหวของจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางอย่างที่ไม่มีทีท่าจะขยับเคลื่อนตัวใดๆ
แต่ก่อนที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางจะทันได้สับขวานลงมาด้วยพลังทั้งหมดที่มีนั้น
เย่หยวนก็ได้กล่าวคำพูดออกมา
“หยุด!”
พร้อมๆ กันนั้นเย่หยวนก็ขยับกายพุ่งเข้ามาจนถึงตรงหน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางและสาดน้ำลายตัวเขมือบวิญญาณเข้าใส่
………………………