ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 25 วีระบุรุษของสาวๆ

ตอนที่ 25 วีระบุรุษของสาวๆ

ตอนที่ 25 วีรบุรุษของสาวๆ

เมื่อหวังหู่จำเย่เชียนได้ในที่สุด เย่เชียนจึงยิ้มแล้วพูดออกมาอย่างสบาย ๆ ว่า

 นี่… นายแค่เรียกฉันว่าพี่สองเหมือนแต่ก่อนก็พอแล้ว ไม่ต้องมาลูกพ่งลูกพี่อะไรกันหรอก 

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ทั้งสองยังเป็นเด็ก หวังหู่และเย่เชียนอาศัยอยู่ในเมืองเดียวกัน ชีวิตของพวกเขาทั้งสองคนมีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งคู่เจอปัญหาเหมือน ๆ กันและออกจากโรงเรียนเหมือนกัน หลังจากนั้นหวังหู่ก็ไปติดตามหัวหน้าแก๊งของแก๊งหนึ่งในเมือง ซึ่งหัวโจกคนนั้นไม่เพียงแค่ทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่เขายังชอบทำร้ายร่างกายหวังหู่อยู่เป็นประจำอีกด้วย

ครั้งหนึ่ง หวังหู่ขโมยเงินมาให้หัวหน้าแก๊งไม่ได้ เขาจึงซ้อมหวังหู่จนเลือดตกยางออกปางตาย ส่วนเย่เชียนเมื่อรู้เรื่องนี้เข้า เขาก็ตำหนิหวังหู่อย่างดุเดือดทั้ง ๆ ที่เป็นห่วงและเห็นใจแต่ก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือ

 ฉันบอกนายไปตั้งกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปตามไอ้นั่น นายก็ไม่ยอมเชื่อฉัน! แล้วดูนายตอนนี้สิ! เห็นมั้ยว่ามันเป็นยังไง ? ฮึ่ม! มันน่านัก เดี๋ยวฉันจะตามไปแก้แค้นให้นายเอง! 

เมื่อก่อนหวังหู่เป็นแค่เด็กอ่อนแออีกทั้งยังขี้ขลาดมาก เมื่อเขาได้ยินเย่เชียนพูดออกมาเช่นนั้น เขาก็รีบห้ามทัพทันที

 พี่สอง… อย่าเลย! เขามีคนติดตามตั้งเยอะ เราสู้เขาไม่ได้หรอกพี่ 

เย่เชียนยิ้มอย่างแน่วแน่ เขามั่นใจว่าสามารถหาทางเอาคืนได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาจึงพูดว่า

 นายคิดว่าลูกน้องของเขาอยู่กับเขาตลอดทั้งวันไหมล่ะ ? ไม่ต้องกังวลไปหรอก… สิ่งที่เขาติดค้างนายไว้ ฉันจะไปเอาคืนให้เอง! 

หลังจากนั้น เย่เชียนก็คอยตามคอยสอดส่องหัวหน้าแก๊งของหวังหู่เป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ เขามองหาโอกาสที่จะแก้แค้นอย่างสุขุมเยือกเย็นจนมาถึงคืนหนึ่ง หัวหน้าแก๊งของหวังหู่เดินออกมาจากบาร์หลังจากที่ดื่มเหล้าเสร็จ เย่เชียนที่ซุ่มรออยู่ก็พุ่งไปข้างหน้าทันทีและแทงเขาด้วยมีดแปดครั้งด้วยกันแต่หัวหน้าแก๊งคนนั้นก็โชคดีรอดชีวิตไปได้ ทว่าความโชคดีที่เขามีนั้นมันคงไม่มากพอ เพราะนับจากวันนั้น เขาก็ต้องใช้ชีวิตในฐานะคนพิการไปตลอดชีวิต

หลังจากเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา หวังหู่ก็คอยติดตามเย่เชียนไปทุกหนทุกแห่ง จนกระทั่งเย่เชียนไปช่วยหลี่ฮ่าว น้องสามของเขาจนเกิดเรื่องใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุทำให้เย่เชียนต้องหนีออกจากประเทศไป จากนั้นหวังหู่ก็ไม่ได้เจอเย่เชียนอีกเลย

……

ตัดภาพกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน…

เมื่อรำลึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ได้ หวังหู่ก็พูดออกมาด้วยเสียงสั่น ๆ ว่า

 พี่สอง…  หวังหู่กอดเย่เชียนไว้แน่น ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นยาวนานของพวกเขาทำให้หวังหู่น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปีติ

เย่เชียนยิ้มแล้วตบไหล่ของเขาเบา ๆ พร้อมพูดว่า

 ไอ้เสือ… ตอนนี้นายเติบโตเป็นพี่ใหญ่ของน้อง ๆ ของนายแล้ว นายยังจะร้องไห้อยู่อีกเหรอ ? นายไม่กลัวน้อง ๆ จะหัวเราะเยาะนายหรือยังไงกัน…? 

 โธ่! พี่สอง… ถ้าพวกเขาอยากจะหัวเราะก็ปล่อยให้พวกเขาหัวเราะไปเถอะ ตอนนี้ผมไม่สนใจหรอก!  หวังหู่ยังคงกอดเย่เชียนไม่ปล่อย

อู่หยางเทียนหมิงได้แต่จ้องมองทั้งคู่อย่างไร้ความรู้สึก เขาไม่เคยคิดเลยว่าเย่เชียนจะรู้จักกับหวังหู่ และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาทั้งสองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจนน่าเหลือเชื่อ

เดิมทีอู่หยางเทียนหมิงนั้นต้องการใช้หวังหู่เพื่อจัดการเรื่องนี้กับเย่เชียน แต่ทว่าตอนนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร กลายเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี เพราะความจริงที่ทั้งสองคนนี้สนิทชิดเชื้อกันมันก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงอำนาจของเขาได้ อู่หยางเทียนหมิงรู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เขาแอบสงสัยอยู่ในใจอย่างลับ ๆ ว่าเย่เชียนมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับหัวหน้ามาเฟียของย่านนี้ ไม่พอแค่นั้น ทักษะการต่อสู้ของเขาก็ล้ำเลิศมากเช่นกัน

‘เขาเป็นแค่ยามรักษาความปลอดภัยจริง ๆ งั้นเหรอ ?’

เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทดสอบเย่เชียนอีกครั้ง…

หลินโรโร่วรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเมื่อเห็นหวังหู่ที่กำลังรู้สึกดีใจและปลื้มปริ่มอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพราะเขาได้กลับมาพบกับเย่เชียนอย่างไม่คาดคิด ในโลกแห่งความเป็นจริงมันช่างหาได้ยากเย็นนักกับการมีความสนิทสนมกันฉันท์พี่น้องเช่นเขาทั้งสองคนนี้…

 พี่สอง… พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ทำไมพี่ไม่มาหาผมล่ะครับ  หวังหู่ถามและยอมปล่อยตัวเย่เชียนในที่สุด

 ฉันเพิ่งจะกลับมาเมื่อสองสามวันก่อนนี่เอง ยังไม่มีเวลาได้ไปเจอใครเลย…  เย่เชียนตอบ

 เอาเถอะพี่! ถึงอย่างไรเรื่องนั้นมันไม่สำคัญแล้วล่ะ แต่พี่ต้องอยู่ก่อนนะ อย่าเพิ่งหนีกลับล่ะ เอ้า! พี่น้องพ้องเรา… เราจะไม่กลับบ้านจนกว่าเราจะเมา!  หวังหูตะโกนอย่างร่าเริง

เย่เชียนหันหน้าไปมองหลินโรโร่วและเตรียมที่จะปฏิเสธหวังหู่ แต่หลินโรโร่วกลับยิ้มหวานและชิงพูดออกมาก่อนว่า  ดีเลย… งั้นให้ฉันร่วมด้วยคนได้ไหมคะ ? 

หวังหู่จ้องหลินโรโร่วอย่างงุนงง หลังจากนั้นก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า  แน่นอน… ถ้าพี่สองตกลงก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ถ้าเขาเมากลับบ้าน… เขาจะต้องคุกเข่าขอโทษคุณนะ 

หลินโรโร่วยิ้มพร้อมพูดว่า  จะบ้าเหรอคะ… ฉันจะให้เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันล่ะ! 

หลินโรโร่วมีความสุขมาก ในขณะที่อู่หยางเทียนหมิงที่อยู่ไม่ไกลกลับดูโกรธแค้นอย่างที่สุด

หวังหู่หันหน้ามองอู่หยางเทียนหมิงและพูดว่า  นายน้อยอู่หยาง… ผมไม่สนใจว่าใครถูกหรือผิดในเรื่องของวันนี้หรอกนะ เย่เชียนคือพี่สองของผม… แน่นอนว่าปัญหาของเขาก็คือปัญหาของผมเช่นกัน เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาคนพวกนี้ให้ก็แล้วกัน… ถ้านายน้อยอู่หยางรู้สึกไม่สบายใจก็มาพบผมในคราวหน้า เดี๋ยวเราค่อยมาเคลียร์เรื่องนี้กันทีหลัง! 

 หวังหู่!! นายคิดว่านายสามารถรับมือกับคนอย่างฉันได้งั้นเหรอ ?  อู่หยางเทียนหมิงเย้ยหยัน

 นายน้อยอู่หยาง… คุณอย่าล้ำเส้นกันเกินไปจะดีกว่า คุณกำลังทำให้สุนัขอยากจะกระโดดข้ามกำแพงนะครับ ถ้าคุณต้องการจะทำให้สถานการณ์นี้มันบานปลายจริง ๆ แล้วล่ะก็ ผมขอเตือนไว้ตรงนี้เลยว่าบนดินกับใต้ดินมันมีแค่เส้นบาง ๆ กั้นอยู่ แล้วก็รู้ไว้ซะว่าอันที่จริงผมไม่ได้กลัวคุณเลย! คุณน่ะ… ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะ เผื่อวันไหนคุณเดิน ๆ อยู่ตอนกลางคืน คุณอาจจะพบกับยมทูตก็ได้ 

หวังหู่ตอบอย่างไม่แยแส แต่ดูเหมือนว่าเสียงนี้มีความหมายเพื่อตักเตือนเสียมากกว่า เขาประกาศศักดาอย่างชัดเจนว่า ถ้าอู่หยางเทียนหมิงต้องการสร้างปัญหาแล้วล่ะก็ เขาควรระวังตัวไว้ในครั้งต่อไปเพราะเขาอาจจะถูกลอบฆ่าในค่ำคืนหนึ่งก็เป็นได้…

*สำนวน: สุนัขกระโดดข้ามกำแพง หมายถึง การยั่วยุที่ไม่สมควรเพราะอาจจะทำให้ใครบางคนพร้อมที่จะทุ่มแบบสุดกำลังโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อีกต่อไป

 ได้… เดี๋ยวก็รู้ว่าใครหมู่ใครจ่า! 

อู่หยางเทียนหมิงตะคอกอย่างเย็นชาในขณะที่เขายืนขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบเขาเพิ่งจะขยับตัว เขาไม่ได้เป็นคนหุนหันพลันแล่นแต่ออกจะขี้ขลาดตาขาวเสียมากกว่า สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้คือ มันได้ทำให้เขาเสียหน้าและเสียเกียรติอย่างยิ่ง ถ้าคนในเซี่ยงไฮ้ได้รู้ถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้แล้วล่ะก็ เขาจะรักษาหน้าและตำแหน่งของเขาในฐานะหนึ่งในสี่หนุ่มผู้เกรียงไกรของเซี่ยงไฮ้ได้อย่างไรกัน…

อู่หยางเทียนหมิงเดินไปทางเย่เชียน สีหน้าของอู่หยางเทียนหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเดินไปจนใกล้จะกระทบไหล่ของเย่เชียน เขาจงใจเอนตัวไปกระซิบข้าง ๆ หูของเย่เชียนเบา ๆ ว่า

 ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกนี้ที่ฉันหมายปองแล้วจะหนีรอดจากเงื้อมมือของฉันไปได้! ฉันจะทำให้แกต้องคุกเข่าขอร้อง เพราะฉันคนนี้จะแย่งแฟนของแกไป… จำคำฉันไว้ให้ดีล่ะ! หึ ๆ ๆ 

 เหอะ…! แกก็อย่าลืมทักทายแม่ของแกเมื่อกลับถึงบ้านละกัน… ไม่งั้นเมื่อถึงเวลา แกจะต้องอ้อนวอนให้ฉันพาแม่แกไปส่งให้ แต่แม่แกคงไม่พร้อมที่จะกลับไปนักหรอก เพราะแม่แกคงจะนอนเหนื่อยเหมือนปลาที่แห้งตายแล้วซึ่งมันคงไม่น่าดูสักเท่าไหร่…  เย่เชียนตอบด้วยใบหน้าแฝงยิ้มร้าย

สีหน้าของอู่หยางเทียนหมิงเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวทันทีราวกับว่ามีพายุเมฆหมอกปรากฏขึ้นในใจ

 เฮ้ย!  เขาตะคอกอย่างเดือดดาลทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ จากนั้นอู่หยางเทียนหมิงก็ออกจากบาร์ไป และเหล่าลูกน้องที่คอยตามเลียแข้งเลียขาก็ตามหลังเขาไปเช่นกัน

เมื่ออู่หยางเทียนหมิงและคนอื่น ๆ ออกไปกันจนหมดแล้ว หวังหู่ก็ดึงความสนใจของเย่เชียนโดยการชวนให้เขานั่งลง

 พี่สอง… พี่หายไปไหนมาตั้งหลายปี ? พี่คงไม่รู้สินะว่าผมคิดถึงพี่มากขนาดไหน! พี่จำได้ไหม ตอนที่เรายังเด็ก พี่ไปที่ไหนผมก็ตามพี่ไปทุกที่… ขนาดตอนที่พี่ไปแอบดูคุณนายหวางอาบน้ำ ผมคนนี้ก็คอยเฝ้าดูต้นทางให้พี่! ตอนนั้นผมคิดว่าพวกเราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดและมันจะยิ่งใหญ่มาก แต่เมื่อพี่กลับมาแล้ว พวกเราพี่น้องทั้งหลายนี้ก็สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกครั้ง… 

หวังหู่คนนี้พูดจาได้โผงผางโจ่งแจ้งมาก เขาไม่ได้นึกถึงสถานการณ์ตอนนี้เลยซึ่งมันทำให้เย่เชียนรู้สึกอึดอัดใจ เย่เชียนจึงรีบหัวเราะกลบเกลื่อน พร้อมอธิบายให้หลินโรโร่วฟังว่า  เอ่อ… โร่โร่ว… ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กตัวน้อย ๆ และซุกซนน่ะ ผมก็แค่อยากรู้อยากเห็นเฉย ๆ ก็เท่านั้น! 

 โธ่เอ๋ย… ฉันไม่ได้คิดอะไรมากหรอกหน่า  หลินโรโร่วตอบเสียงหวาน แต่แววตาและรอยยิ้มของเธอไม่ได้หวานเหมือนเสียง

หลินโรโร่วไม่ได้โกรธที่ตอนเด็กเขาเป็นเด็กซุกซนเลย แต่เรื่องที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเพศตรงข้ามนี่สิน่าคิด! อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นมันก็เกิดขึ้นในอดีตที่นมนานมาแล้ว

เมื่อหวังหู่ได้ยินการแลกเปลี่ยนการสนทนาเช่นนี้ เขาก็ตระหนักว่าเขาได้พูดสิ่งที่ผิดต่อเย่เชียนและหลินโรโร่วไปแล้ว เขาจึงหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความปากพล่อยของตนเอง จากนั้นก็พูดว่า

 พี่สองน่ะ… เขาเป็นเหมือนวีรบุรุษในหมู่ผู้หญิง เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนั้นอย่าไปใส่ใจมันเลยนะครับพี่สะใภ้ เรามาดื่มฉลองกันให้เมาไปเลยดีกว่าครับ! 

‘วีรบุรุษในหมู่ผู้หญิงงั้นเหรอ ?’ หลินโรโร่วไม่ค่อยชอบใจกับคำเยินยอนี้สักเท่าไหร่นัก แต่หวังหู่ก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจและพึงพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาเรียกเธอว่า ‘พี่สะใภ้’ มันเป็นคำที่รื่นหูและน่าฟังอย่างมากสำหรับเธอ

 

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Status: Ongoing

เขาคือที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้าง เขาคือผู้ที่สามารถสร้างหายะนะจนทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศปวดหัว! เขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเองและหลั่งเลือดเพื่อพวกพ้องและครอบครัวของเขา! เขาคือยอดนักรบจอมราชัน…

超级兵王

Author: 步千帆

Chinese edition copyright © ChineseAll Digital publishing Group Co.,Ltd

ALL RIGHTS RESERVED

เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย่ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…

————————————–

ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท