ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 24 พวกพ้องในวันวาน

ตอนที่ 24 พวกพ้องในวันวาน

ตอนที่ 24 พวกพ้องในวันวาน

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ อู่หยางเทียนหมิงก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งสิ้น…

มันไม่ใช่ว่าเขาต้องการที่จะลอกเลียนแบบพระเอกหนังต่อสู้ในภาพยนตร์ต่าง ๆ ที่มักจะเปิดตัวและลงมือก็ต่อเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ ๆ เท่านั้น และมันก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาเกรงกลัวหรืออะไรอีกนั่นแหละ แต่มันเป็นเพราะเขารู้สึกว่าไม่จำเป็นสำหรับเขาเลยที่จะต้องลงมือด้วยตัวเอง คนอย่างอู่หยางเทียนหมิงคิดว่าตัวเองมีลูกน้องตั้งมากมาย หากเขาลงมือเอง มันจะเป็นการลดศักดิ์ศรีของเขาให้ดูต่ำลง อีกทั้งพ่อของเขาก็เป็นถึงรองผู้อำนวยการของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ใหญ่พอจะทำให้คนยำเกรง

มันก็เหมือนกับคำพูดที่ว่า ‘สุนัขทุกตัวต้องเชื่อฟังเจ้านายโดยไม่ขัดขืนคำสั่ง’ นั่นแหละ ไม่ว่าจะอย่างไรก็คงไม่มีใครหน้าไหนหรือสุนัขตัวใดในเซี่ยงไฮ้ที่กล้าท้าทายเขากับพ่อหรอก!

อู่หยางเทียนหมิงได้แต่นั่งมองดูเฉย ๆ เขาไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้อะไรต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเลย และแม้กระทั่งตัวเย่เชียนเองก็ไม่ได้คิดจะลงไม้ลงมือกับเขา หลังจากที่เย่เชียนจัดการพวกลูกกระจ๊อกทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งลงบนโซฟาตัวเดิมแล้วคว้าแก้วไวน์บนโต๊ะมาดื่มอย่างช้า ๆ ท่าทีของเขาไม่รู้หนาวรู้ร้อนอะไรทั้งนั้น เขานั่งสบาย ๆ พลางมองดูเหล่าคนที่โอดครวญอยู่บนพื้นและพูดขึ้นว่า

 อยู่ดีไม่ว่าดีกันนะพวกแก… หาเรื่องใส่ตัวจริง ๆ…  

ทันใดนั้นเอง หลินโรโร่วและซูย่าหยิงก็วิ่งเข้ามา เธอถามอย่างเป็นกังวล

 เย่เชียน… คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? 

เย่เชียนยิ้มจาง ๆ เขารู้สึกดีอย่างมากเมื่อเห็นว่าหญิงสาวน่ารักอย่างหลินโรโร่วห่วงใยเขาขนาดนั้น

 โรโร่ว… ผมจะบอกความลับอะไรให้เอาไหม ? ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเด็กจนเติบโตมาได้ขนาดนี้… ผมน่ะไม่เคยพ่ายแพ้การต่อสู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว… 

แต่ถึงเย่เชียนจะพูดมาอย่างนั้น หลินโรโร่วก็ยังคงจ้องมองเขาอย่างจริงจัง สายตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลในแบบของคนรัก

จ้าวเซี่ยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ดูน่าเวทนาเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าร่วมกับคนอื่น ๆ โดยเพียงแค่นั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอยู่ที่โต๊ะ แต่เขาก็โชคร้ายโดนลูกหลงเข้าโดยบังเอิญ เพราะขณะที่เกิดการปะทะกัน เย่เชียนเตะคนคนหนึ่งลอยข้ามโต๊ะมาใส่เขาอย่างจังทำให้เขากระเด็นตกโซฟาลงไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรง และเป็นสาเหตุให้กระดูกหลาย ๆ ส่วนในร่างกายหัก จนกระทั่งตอนนี้ เขาก็ยังคงร้องโอดโอยอย่างน่าสังเวชอยู่ที่พื้น

ซูย่าหยิงรีบวิ่งไปหาจ้าวเซี่ยและประคองเขาขึ้นมานั่ง จากนั้นเธอก็ตวัดสายตาไม่พอใจไปที่เย่เชียน แต่ทว่าเธอกลับพบกับสายตาที่คมเข้มราวกับดาบของเย่เชียนตอบกลับมา ซึ่งมันทำให้เธอตัวสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ เธอจึงหันไปหาหลินโรโร่วแทนแล้วพูดขึ้นด้วยความโกรธแค้นว่า

 โรโร่ว… แฟนที่เธอพามาเป็นคนประเภทไหนกันแน่เนี่ย ? เธอไม่รู้หรือยังไงว่าเขาเป็นอันธพาล! 

 อันธพาลงั้นเหรอ ? เหอะ! ถ้าคนอย่างเย่เชียนเป็นอันธพาล งั้นฉันก็ชอบคนอันธพาลนั่นแหละ เพราะอย่างน้อย ๆ เขาก็แข็งแกร่งกว่าแฟนของเธอที่ทำได้แค่คอยตามเลียแข้งเลียขาคนอื่น!  หลินโรโร่วตอกกลับอย่างดุเดือด เธอเบื่อที่จะทนเต็มที

 นี่เธอ! พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงห๊ะ ?!  ซูย่าหยิงตกใจและไปต่อไม่ถูก เพราะเธอไม่คิดเลยว่าหลินโรโร่วจะกล้าตอบเธอกลับมาเช่นนี้

หลินโรโร่วหยุดตัวเองไม่อยู่อีกต่อไป ด้วยความไม่พอใจที่เธอเก็บมาตั้งแต่อยู่ที่ร้านอาหาร เธอจึงพูดแทงใจดำซ้ำเติมซูย่าหยิงไปว่า

 ซูย่าหยิง… เธออย่าคิดนะว่าตัวเองได้เข้าไปทำงานราชการแล้วจะสูงส่งค้ำฟ้าแล้วกลายร่างเป็นนกฟีนิกซ์ เพราะถึงยังไงลูกเจี๊ยบก็เป็นลูกเจี๊ยบอยู่วันยังค่ำ มันจะไม่กลายร่างเป็นนกฟีนิกซ์อย่างที่เธอหวังเอาไว้หรอก ความฝันของเธอน่ะมันดีนะ แต่โทษทีจ้ะที่ความเป็นจริงมันโหดร้าย ฉันรู้นะว่าเธอฝันอยากเป็นนกฟีนิกซ์ แต่น่าเสียดายที่เธอต้องตื่นขึ้นมาบนโลกแห่งความเป็นจริงแล้วพบว่าตัวเองเป็นได้แค่ไก่แกล้มเบียร์ก็เท่านั้น! 

เย่เชียนถึงกับตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหลินโรโร่วจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ เขาได้แต่จ้องมองเธออย่างปลาบปลื้มจนเมื่อตั้งสติได้ เขาก็ยกนิ้วให้เธอและชื่นชมเธอจากใจจริงว่า  คุณนี่… ยอดเยี่ยมจริง ๆ 

หลินโรโร่วยิ้มกว้าง เพราะในที่สุดเธอก็ได้พูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของเธอมานานออกไปเสียที จากนั้นเธอก็โน้มตัวเองเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของเย่เชียนอย่างสุขใจ

……

 เฮ้ย!… ใครมันกล้ามาสร้างความวุ่นวายในที่ของข้าวะ อยากตายกันนักรึไง ?! 

หวังหู่ ผู้ที่ตะโกนโหวกเหวกก่อนหน้านี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้มีอิทธิพลระดับประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอมีชื่อเสียงในย่านนี้อยู่พอตัว แทบจะไม่มีใครหน้าไหนเลยที่จะกล้าเข้ามาสร้างปัญหาในผับของเขา

โดยมากแล้วหวังหู่มีหน้าที่จัดหาสาวสวยให้กับนายน้อยอู่หยาง เพราะเขารู้ถึงอิทธิพลของอู่หยางเทียนหมิงเป็นอย่างดีถึงแม้ว่ามันจะมีบางสิ่งที่ผิดศีลธรรมอยู่บ้างก็ตาม แต่เมื่อทำธุรกิจแล้วมันก็เป็นเรื่องของเงินล้วน ๆ ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปหาอู่หยางเทียนหมิงเพื่อแสดงความเคารพ

แน่นอนว่าหวังหู่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอกับปัญหาอะไร แต่เมื่อเขาไปถึง เขาก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่ากลุ่มคนมากมายที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดนั้น ถูกสยบด้วยฝีมือของชายผู้นั้นเพียงคนเดียว

หวังหู่ได้แต่จ้องมองอย่างว่างเปล่าเมื่อเห็นว่าเหล่าคนที่นอนอยู่บนพื้นทั้งหมดเป็นคนของอู่หยางเทียนหมิง เขารู้สึกเสียวแทนชายที่กล้าหาเรื่องอู่หยางเทียนหมิงจริง ๆ เพราะเขารู้ดีว่าในเซี่ยงไฮ้แทบจะไม่มีใครกล้าท้าทายกับคนของอู่หยางเทียนหมิงเลย ถ้าหากนายน้อยอู่หยางต้องประสบปัญหาใด ๆ ในพื้นที่ของตนแล้วล่ะก็ หวังหู่ก็กังวลเล็กน้อยว่าตัวเขาจะมีส่วนทำให้นายน้อยอู่หยางไม่พอใจ และนั่นมันก็จะทำให้ชื่อเสียงของเขาตกต่ำลงอีกด้วย

แต่เมื่อหวังหู่เห็นว่านายน้อยอู่หยางยังคงนั่งอยู่อย่างสงบ ในใจของเขาจึงรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 นายน้อยอู่หยางครับ…  หวังหู่เริ่ม เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไปมากกว่านี้

อู่หยางเทียนหมิงเพียงแค่พยักหน้าเป็นการตอบรับเบา ๆ สีหน้าเขายังคงเรียบเฉยและไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากของเขา หวังหู่จึงเหลือบไปมองเย่เชียนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโมโห

 นี่มันโหดร้ายมากนะคุณ! ไม่ทราบว่ามันเป็นผลงานของคุณใช่ไหม ? บาร์แห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของผม เพราะฉะนั้นคุณอย่ามาล้ำเส้น! 

‘พ่อหนุ่มที่อยู่ท่ามกลางพวกจอมปลอมนี่ก็ดูไม่น่าจะเลวร้ายเท่าไหร่’ เย่เชียนคิดในใจ เขามองหน้าหวังหู่ก่อนจะพูดขึ้น

 คนพวกนี้ใช้อิทธิพลของตัวเองเพื่อกดขี่คนอื่น หากผมไม่สอนบทเรียนให้แก่พวกเขา… ผมเกรงว่าพวกเขาจะทำตัวแบบนี้ตลอดไป! 

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียน การแสดงออกของอู่หยางเทียนหมิงก็เปลี่ยนไปเป็นหวาดกลัวทันทีแต่เขาก็ยังคงไม่ปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

หวังหู่ตกตะลึงอย่างมาก เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าลูกวัวตัวนี้จะไม่มีความเกรงกลัวต่อเสือ และเขาบังเกิดความสงสัยว่าชายคนนี้คงจะมีผู้หนุนหลังที่มีอิทธิพลล้นฟ้า เขาจึงไม่เกรงกลัวนายน้อยอู่หยางเช่นนี้ หวังหู่รู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเข้าเสียแล้ว เพราะเขาไม่แน่ใจในสถานะของทั้งสองฝ่ายจึงไม่รู้ว่าวิธีไหนคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะให้ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ขุ่นเคืองต่อตัวเขา เขาได้แต่เงียบและสิ้นหวัง จากนั้นก็หันไปหาอู่หยางเทียนหมิงเพื่อขอความช่วยเหลือเป็นนัย ๆ

เมื่ออู่หยางเทียนหมิงเห็นว่าหวังหู่ไม่ทำอะไรเลย ได้แต่ยืนนิ่ง ๆ เขาจึงพูดอย่างไม่แยแสว่า

 หวังหู่… ที่นี่คือที่ของนาย นายทำตามที่เห็นสมควรเถอะ! 

มันเป็นคำพูดที่ดูธรรมดา ๆ ทว่าความหมายที่อยู่เบื้องหลังของมันก็ชัดเจนแจ่มแจ้ง อู่หยางเทียนหมิงพูดให้เหตุผลในเชิงกดดันกับหวังหู่เพื่อให้หวังหู่ทำในสิ่งที่ตนต้องการ

หวังหู่สาปแช่งอู่หยางเทียนหมิงอยู่ในใจ เพราะอันที่จริงแล้วทุก ๆ คนที่อยู่ที่นี่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ด้วยกันทั้งหมด แต่หลังจากที่อู่หยางเทียนหมิงเสียหน้าก็กลับอยากจะหนีปัญหานี้ไปด้วยการใช้ให้เขา หวังหู่ผู้นี้ช่วยแก้ไขปัญหาให้แทน

แน่นอนว่าหวังหู่ไม่ได้พูดคำเหล่านี้ออกมา เขาได้แต่คิดในใจแล้วมองไปที่เย่เชียนอีกครั้งและพูดว่า

 พี่ชาย… เราควรแก้ไขมันยังไงดี ? อย่างน้อย ๆ คุณก็ควรให้คำอธิบายแก่ผมหน่อย ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นการยากที่ผมจะเคลียร์เรื่องนี้… 

เย่เชียนยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดอย่างเป็นกันเองว่า

 ไอ้เสือเอ๋ย… ตอนนี้นายกลายเป็นคุณยายแก่ ๆ ขี้บ่นไปแล้วเหรอ ? ไม่ได้เจอกันมาตั้งนาน เดี๋ยวนี้เป็นใหญ่เป็นโตแล้วเหรอไง ? 

หวังหู่มองเย่เชียนด้วยความตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเย่เชียนจะพูดประโยคอะไรเช่นนี้ จากคำพูดพวกนั้นเขาฟังดูคุ้นเคยอย่างมากและเหมือนว่าเขาเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่งเมื่อนานมาแล้ว เขาพยายามเค้นความทรงจำอย่างหนักและถี่ถ้วนแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกสักที เขาจึงตัดสินใจถามไปตามตรง

 หืม… คุณคือใครกัน ? 

 อะไร ๆ ๆ ?! แค่นี้จำกันไม่ได้แล้วเหรอ ? ตอนที่นายถูกรุมทำร้าย… ใครกันล่ะที่เป็นคนช่วยนายเอาไว้ หืม ?  เย่เชียนตอบกลับพร้อมรอยยิ้มที่เป็นกันเองอีกครั้ง

คำพูดนั้นมันช่างกวนใจหวังหู่เสียจริง ๆ เขาพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองคิดออกว่าชายที่อยู่ตรงหน้านี้เคยช่วยเขาไว้ตั้งแต่ตอนไหน ‘ไอ้เสืองั้นเหรอ ?’ ใครกันนะที่เรียกเขาเช่นนี้ เขาคิดพลางเพ่งสายตาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเย่เชียนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ครู่หนึ่งเขาก็รู้สึกเหมือนเดจาวู ทันใดนั้นเอง ร่างของชายคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ในที่สุดเขาก็จำได้จึงหลุดปากตะโกนออกมาอย่างดังว่า

 ละ… ละ… ลูกพี่ คุณคือลูกพี่ ?! 

 

ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Status: Ongoing

เขาคือที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้าง เขาคือผู้ที่สามารถสร้างหายะนะจนทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศปวดหัว! เขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเองและหลั่งเลือดเพื่อพวกพ้องและครอบครัวของเขา! เขาคือยอดนักรบจอมราชัน…

超级兵王

Author: 步千帆

Chinese edition copyright © ChineseAll Digital publishing Group Co.,Ltd

ALL RIGHTS RESERVED

เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย่ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…

————————————–

ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท