ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 144 เลือกที่จะสู้

ตอนที่ 144 เลือกที่จะสู้
“โทษที… เพื่อนผมรออยู่ เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะ” เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นเมื่อเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นม่อหลงและคนอื่น ๆ นั่งรออยู่ไม่ไกล
“ทำไมนายมาช้าจัง ไอ้ฉันก็นึกว่านายจะไม่มาซะแล้วเนี่ย เพราะถ้านายไม่มา… ใครจะจ่ายค่าของพวกนี้ล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ” หวันชุนหัวพูดพลางหัวเราะขณะที่เย่เชียนกำลังจะนั่ง
“พอดีผมมีธุระนิดหน่อยน่ะเลยมาช้า” เย่เชียนพูด “คืนนี้ใครอยากกินอะไรก็สั่งได้เลย… ตามสบาย”
ขณะเดียวกันนั้นเองจ้าวไถ่จู้ที่เอาแต่ยัดผลไม้เข้าปากอย่างไม่หยุดยั้งก็ตะโกนด้วยความมูมมามว่า “น้อง ๆ ! ขอผลไม้รวมเพิ่มอีกสองจานนะ!”
“ฉันรู้ว่าฉันก็กินได้ไม่กลัวท้องแตกตายเหมือนกัน!” หวันชุนหัวมองจ้าวไถ่จู้ที่กินไม่หยุด “อ่อใช่… ไหนนายบอกว่าคืนนี้มีคนอยากเจอนายไง แล้วไหนล่ะ อะไรยังไง ?” หวันชุนหัวถามด้วยความประหลาดใจ
เย่เชียนยักไหล่และพูดว่า “เอ่อ… พี่ ๆ คือ… เรื่องนั้น… ผมลืมเอาเงินมา… ที่จริงผมแค่คิดว่าพวกเราจะมากินข้าวด้วยกันเฉย ๆ ไม่ได้คิดอย่างอื่นไว้หรอก”
ได้ฟังดังนั้นหวันชุนหัวก็มองเย่เชียนด้วยท่าทางตกตะลึง ส่วนจ้าวไถ่จู้ก็หยุดกินทันที เขาจ้องมองเย่เชียนอย่างว่างเปล่า ทว่าแค่เสี้ยววินาทีเดียวเขาก็หันไปยัดอาหารใส่ปากของเขาต่อ
“เย่เชียน… นายไม่ได้ให้พวกเรามาที่นี่เพื่อกินแล้วชักดาบใช่มั้ย ? มีอะไรเกิดขึ้นก็บอกมาเถอะ” หวันชุนหัวถามอย่างสงสัย
“คือ… บาร์นี่เป็นอาณาเขตที่อยู่ในการดูแลของน้องชายของผม หวังหู่น่ะ… แต่เมื่อคืนนี้มันถูกยึดไปโดยพวกมาเฟียแก๊งชิงและน้องผมก็ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ตอนนี้เลยนอนพกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนู่น คืนนี้ผมก็เลยมาหาซือตู้ลิเหรินดูหน่อยว่าเขาจะมีสามหัวหกแขนหรือว่ายังไง ถึงขนาดกล้ามาแตะต้องน้องชายของเย่เชียนคนนี้” เย่เชียนตอบเรียบ ๆ แต่จิตสังหารและเจตนาฆ่านั้นเอ่อล้นออกมาจากร่างของเขาอย่างชัดเจน
ม่อหลงเองก็รู้สึกได้ถึงความโกรธแค้นของเขา เขารู้ว่าเย่เชียนเป็นคนประเภทที่จะปกป้องพวกพ้องของเขาเสมอ ถึงแม้ว่าคนพวกนั้นจะทำผิดก็ตาม เพราะถ้าคนของเขาเป็นฝ่ายผิด คนนอกก็ไม่สมควรที่จะเข้ามายุ่ง ม่อหลงจำได้ว่าครั้งหนึ่งตอนที่น้องเล็กชิงเฟิงไปดื่มเหล้าที่บาร์ในประเทศรัสเซีย เขาบังเอิญไปบาดหมางกับทหารรับจ้างในท้องถิ่นคนหนึ่งเข้า และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังจากที่เย่เชียนรู้เรื่อง เขาไม่ได้ถามถึงสาเหตุแต่อย่างใด แต่กลับโทรไปหาคนของเขี้ยวหมาป่าโดยตรงพร้อมทั้งสั่งให้พวกเขาถอนกำลังกลับมายังสำนักงานใหญ่ เมื่อพวกเขากลับมาถึง เย่เชียนจึงเรียกชิงเฟิงออกมาทำโทษตามกฏระเบียบของกลุ่มเขี้ยวหมาป่า
“เย่เชียน… นี่นายกินยาแล้วลืมเขย่าขวดหรือยังไง ? นายไม่รู้เหรอว่าแก๊งชิงเป็นมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้เลยนะ แล้วเราจะไปสู้กับพวกเขายังไงไหว” หวันชุนหัวถามด้วยความประหลาดใจ
เย่เชียนหัวเราะ จากนั้นก็พูดว่า “ฮ่า ๆ ๆ ผมไม่สนใจว่าแก๊งชิงหรือเครือชิงกรุ๊ปจะยิ่งใหญ่หรือทรงอำนาจขนาดไหนหรอก ตราบใดที่คนพวกนั้นกล้ามาทำร้ายน้องชายของผม ต่อให้เป็นราชาแห่งนรกผมก็จะทำให้เขาต้องสำนึกผิดให้ได้! พี่หวันรู้มั้ยว่าทำไมกลุ่มเขี้ยวหมาป่าถึงมาอยู่จุดสูงสุดของโลกแห่งทหารรับจ้างจนกลายเป็นราชาแห่งโลกของทหารรับจ้างได้ ? มันก็เพราะความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเราพี่น้องนี่แหละ ดั่งคำกล่าวที่ว่า ‘ผู้ที่ไม่เกรงกลัวความตายจะสยบได้แม้แต่จักรพรรดิ’ พวกเราจะไม่ยอมรับกับความพ่ายแพ้หรอกนะพี่ ถ้าเราไม่ล้างแค้นให้น้องชายของเราเพียงเพราะศัตรูนั้นแข็งแกร่งเกินไปล่ะก็ เขี้ยวหมาป่าก็คงจะหายไปจากโลกนี้ตั้งนานแล้ว พี่หวัน! ที่จริงความแข็งแกร่งของพี่มันไม่เพียงพอที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มเขี้ยวหมาป่าหรอก แต่พี่รู้ไหมว่าทำไมผมถึงบอกพี่เกี่ยวกับทุกอย่างและเชิญพี่มาเข้าร่วมด้วย ? ก็เพราะว่าผมเห็นความทะเยอทะยานในตัวพี่หวันน่ะสิ… ผมเห็นจิตวิญญาณที่ไม่ยอมพ่ายแพ้! นั่นคือสิ่งที่สมาชิกของกลุ่มเขี้ยวหมาป่าทุกคนต้องมี!”
หวันชุนหัวยิ้มอย่างโง่เขลาและพูดว่า “ทำไมนายถึงต้องจริงจังขนาดนี้ด้วย… ฉันก็แค่พูดไปเรื่อยเท่านั้น ขอเพียงแค่น้องเย่สั่งมา หวันชุนหัวคนนี้ก็จะทำ แม้ว่าจะต้องลงไปในนรกก็ตาม… ให้ตายเถอะพวก! มันก็แค่แก๊งชิงเท่านั้นจะไปมีอะไร๊… เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะจัดการกับพวกมันเอง”
เย่เชียนยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็พูดว่า “ดี! แต่ตอนนี้เราเลิกคุยเรื่องนี้กันก่อนเถอะ มาดื่มกันดีกว่ามา… วันนี้เรามาเพื่อสร้างความหายนะให้กับที่นี่” ขณะที่เขาพูดแบบนี้รอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่เชียน
อยู่ ๆ จ้าวไถ่จู้ที่ยังคงไม่หยุดยัดอาหารเข้าปากก็พึมพำว่า “เฮ้ย…! รอก่อนสิ ฉันยังกินไม่เสร็จเลย!”
เย่เชียนค่อนข้างจะชอบใจกับบุคลิกของจ้าวไถ่จู้เป็นอันมาก เพราะเขาเป็นคนไม่พูดเยอะ ถึงแม้ว่าจะเอาแต่กินอย่างเดียวก็ตามที แต่เขาก็ยังคงให้ความสนใจกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว บางทีมันอาจจะเป็นอย่างที่ม่อหลงพูดก็ได้ว่าจ้าวไถ่จู้นั้นมีสัญชาตญาณนักล่าตามธรรมชาติ เขาเป็นคนที่มีศักยภาพมากพอที่จะฝึกเป็นพลซุ่มยิงได้
หวันชุนหัวอดไม่ได้ที่จะมองจ้าวไถ่จู้อย่างงุนงง จากนั้นก็หันไปหาเย่เชียนและหัวเราะอย่างโง่เขลา จากนั้นเขาก็พูดว่า “ฮ่า ๆ ๆ เห็นฉันอย่างงี้ ฉันสู้เก่งมากนะเว้ย… ไม่เชื่อก็คอยดู!”
หลังจากพูดจบ หวันชุนหัวก็คว้าขวดไวน์บนโต๊ะมาทุบกับโต๊ะเบา ๆ จากนั้นก็ตะโกนว่า “น้อง ๆ !”
หลังจากที่ได้ยินเสียงตะโกนของหวันชุนหัวแล้ว พนักงานเสิร์ฟของบาร์ก็เข้ามาถามด้วยความเคารพว่า “สวัสดีครับ… ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการสิ่งใดหรือครับ ?”
หวันชุนหัวคว้าขวดไวน์จากโต๊ะและตะโกนว่า “ไอ้บ้าเอ้ย… นี่มันบาร์อะไรวะเนี่ย! พวกแกเอาไวน์ปลอมมาหลอกลูกค้าแบบนี้ได้ยังไง คิดว่าเราโง่เรอะ ?!”
พนักงานเสิร์ฟของบาร์ถึงกับผงะไปชั่วครู่ เขารู้ว่าหวันชุนหัวเพียงต้องการที่จะยั่วยุเขา ด้วยความที่เขาทำงานอยู่ในสถานที่แบบนี้มานานแล้วจึงเคยเห็นเหตุการณ์เหล่านี้มามากมาย แต่ถึงยังไงลูกค้าก็ยังคงเป็นลูกค้าอยู่วันยังค่ำ เขาไม่ได้อยากให้เกิดการโต้เถียงและขัดแย้งใด ๆ ดังนั้นเขาจึงยังคงต้องให้ความเคารพกับลูกค้าอยู่ “คุณลูกค้าครับ… ผมคิดว่าคุณอาจจะกำลังเข้าใจอะไรผิดนะครับ ผลิตภัณฑ์ในบาร์ของเราทุกอย่างถูกนำเข้ามาจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง ทั้งหมดนี้เป็นของแท้ไม่มีของปลอมอย่างแน่นอนครับคุณลูกค้า” พนักงานเสิร์ฟของบาร์ชี้แจงอย่างสุภาพ
“แท้เหรอ ? ของแท้เป็นแบบนี้เนี่ยนะ ? มันไม่มีกลิ่นหอมเลยสักนิด นายคิดว่าพวกเราโง่ขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ ?” หวันชุนหัวพูดอย่างเกรี้ยวกราด
ขณะที่พนักงานเสิร์ฟกำลังเตรียมที่จะตอบกลับ จ้าวไถ่จู้ก็กินแตงโมชิ้นสุดท้ายเสร็จพอดี ทันใดนั้นจ้าวไถ่จู้ก็หยิบจานขึ้นมาแล้วฟาดไปที่พนักงานเสิร์ฟทันที จานใบนั้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วตกลงไปที่พื้น ขณะเดียวกันเลือดสีแดงสดก็ไหลลงมาจากหัวของพนักงานเสิร์ฟ
“เลิกพูดพล่ามแล้วไปพาผู้จัดการมาซะ!” จ้าวไถ่จู้พูดอย่างเย็นชา
ฉากนี้ทำให้เย่เชียน ม่อหลงและหวันชุนหัวต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
จ้าวไถ่จู้มองหน้าหวันชุนหัวแล้วก็พูดว่า “เถียงกันไปกันมาทั้งวัน แล้วเมื่อไหร่มันจะจบ ?”
หวันชุนหัวพูดไม่ออก เขาจึงยกนิ้วโป้งให้จ้าวไถ่จู้และพูดว่า “นายนี่มันเจ๋งมาก… ไอ้บ้าเอ้ย!”
ซือตู้ลิเหรินที่อยู่ด้านหลังของบาร์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาพูดกับคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาว่า “คนพวกนั้นเป็นใครน่ะ ? นายเคยเห็นพวกมันมาก่อนมั้ย ?”
ชายคนนั้นมองไปยังเย่เชียนและคนอื่น ๆ จากนั้นก็พูดว่า “ผมไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อนเลย… พวกนั้นน่าจะไม่ใช่คนแถวนี้หรอก”
ซือตู้ลิเหรินพยักหน้าและพูดว่า “งั้นนายออกไปจัดการทีสิ… แต่อย่าลืมล่ะว่าการทูตต้องมาก่อนความรุนแรงเสมอ เรามีกฎของเราเข้าใจมั้ย ? นายไปบอกพวกเขาว่าที่นี่คือเขตของชิงแก๊ง และถ้าหากพวกเขายังทำตัวโง่เขลากันอยู่ล่ะก็… จัดการซะ! แต่ไม่ต้องเยอะมากนะ แค่สอนบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาแค่นั้นพอ”
“ได้ครับ!” ชายคนนั้นตอบรับเสียงเข้มก่อนที่จะเรียกคนอีกสองสามคนให้ไปกับเขาด้วย
เมื่อพวกเขาไปถึงที่โต๊ะของพวกเย่เชียน ชายคนนั้นก็ส่งสายตาไปที่พนักงานเสิร์ฟโดยบอกเป็นนัยว่าให้เขาออกไปจากนั่น จากนั้นก็กวาดสายตาไปที่เย่เชียนและคนอื่น ๆ ทีละคน
“คุณลูกค้า… พนักงานเสิร์ฟต้อนรับพวกคุณไม่ดีงั้นเหรอ ?”
ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Status: Ongoing

เขาคือที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้าง เขาคือผู้ที่สามารถสร้างหายะนะจนทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศปวดหัว! เขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเองและหลั่งเลือดเพื่อพวกพ้องและครอบครัวของเขา! เขาคือยอดนักรบจอมราชัน…

超级兵王

Author: 步千帆

Chinese edition copyright © ChineseAll Digital publishing Group Co.,Ltd

ALL RIGHTS RESERVED

เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย่ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…

————————————–

ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท