ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 209 อดีตอันแสนหวานและเจ็บปวด

ตอนที่ 209 อดีตอันแสนหวานและเจ็บปวด
โจวรุหลานยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “เธอชื่อเย่เชียนอย่างงั้นใช่มั้ย ? ฉันต้องขอโทษด้วยที่การมาเที่ยวเมืองหนานจิงในครั้งนี้ของเราสองแม่ลูกต้องมาทำให้เธอต้องลำบากไปด้วย”
คำพูดของโจวรุหลานนั้นได้ปลุกสติของเย่เชียนจากการคิดอะไรไปต่าง ๆ นานาของเขาทันที จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มออกมาอย่างสุภาพชและพูดอย่างเร่งรีบว่า “ไม่เป็นไรครับคุณป้า เรื่องแค่นี้เอง สบายมากครับ! คุณป้าอย่าได้มาเกรงใจอะไรผมเลย หยาเอ๋อร์น่ะเป็นเพื่อนของผม ถ้าคุณป้าต้องการอะไรล่ะก็ บอกผมได้เลยนะครับผมยินดีเสมอ”
“โอ้หนุ่มน้อย… เธอนี่ปากหวานจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่หยาเอ๋อร์ของเราพูดถึงเธอตลอดทั้งวัน ฮิ ๆ ๆ ” โจวรุหลานพูดและหัวเราะอย่างคลุมเครือ
ได้ยินดังนั้นเย่เชียนก็ทำตัวไม่ถูก เขาอดไม่ได้ที่จะแอบเหลือบมองไปทางจ้าวหยาและเห็นแก้มของเธอเริ่มแดงระเรื่อขึ้น
เมื่อจ้าวหยาเห็นเย่เชียนมองมาทางตัวเอง เธอจึงรีบพูดขึ้นอย่างร้อนรนว่า “แม่! นี่แม่กำลังพูดถึงอะไรอยู่น่ะ ? หนูจะไปพูดถึงคนขี้โกงคนนี้ทำไมกันล่ะ ?”
โจวรุหลานได้แต่หัวเราะเบา ๆ และไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม จากนั้นเธอก็หันมองไปที่จ้าวหยาและพูดว่า “หยาเอ๋อร์… เดี๋ยวลูกเข้าไปในห้องนอนก่อนนะ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับเย่เชียนเขาสักหน่อยน่ะ”
จ้าวหยาประหลาดใจ เธอไม่เข้าใจว่าแม่ของเธอกับเย่เชียนที่เพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนจะมีเรื่องอะไรให้ต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว แต่เมื่อจ้าวหยาฉุกคิดอยู่สักพักหนึ่ง เธอก็นึกขึ้นได้ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอเองงั้นสินะ แม่ของเธอจึงไม่อยากให้เธออยู่ตรงนี้ด้วย เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว เธอก็เดินเข้าไปในห้องนอนอย่างเชื่อฟัง
เย่เชียนเองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะเงียบเพื่อดูเชิงไว้ก่อน อันที่จริงเย่เชียนนั้นต้องการหาโอกาสที่จะถามโจวรุหลานอยู่เหมือนกันว่าเธอนั้นรู้จักกับเฉินฟู่เฉิงหรือไม่ ทว่าตอนนี้โจวรุหลานกลับเป็นคนที่เริ่มการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งมันก็จะดูไม่ดีนักถ้าหากเย่เชียนจะบุ่มบ่ามถามในทันที
“นั่งลงก่อนสิ… ทำตัวตามสบาย ๆ ได้เลย ฉันไม่เหมือนกับพ่อของหยาเอ๋อร์หรอก” โจวรุหลานพูดพร้อมรอยยิ้ม
เย่เชียนจึงยิ้มตอบเธออย่างเคอะเขินและนั่งลงตรงข้ามกับโจวรุหลาน เมื่อเทียบโจวรุหลานกับซูเหม่ยแม่ของหลินโรโร่วแล้ว โจวรุหลานนั้นมีความเป็นมิตรและใจดีมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย มันจึงทำให้เย่เชียนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
หลังจากที่เงียบกันไปสักพัก จู่ ๆ โจวรุหลานก็ถามขึ้นมาว่า “อัฐิของเขาอยู่ที่ไหนเหรอ ?”
เย่เชียนถึงกับผงะ ในที่สุดเขาก็แน่ใจแล้วว่าผู้หญิงที่เฉินฟู่เฉิงบอกก็คือโจวรุหลานคนนี้นี่เอง ข่าวการเสียชีวิตของเฉินฟู่เฉิงถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในเมืองหนานจิงแห่งนี้ มันจึงไม่เป็นการยากเลยที่โจวรุหลานจะรู้ข่าวนี้กับเขาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในมุมมองของเย่เชียน เขาคิดว่าโจวรุหลานยังคงให้ความสนใจและยังคงมีบางสิ่งบางอย่างที่ยึดติดอยู่กับเฉินฟู่เฉิงอยู่ลึก ๆ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วตอนนี้เธอคงจะไม่มาปรากฎตัวต่อหน้าเขาในเมืองหนานจิงนี่และถามเขาเกี่ยวกับอัฐิของเฉินฟู่เฉิง
“อัฐิของเขาถูกนำกลับไปที่บ้านเกิดของเขาครับ แต่ที่เมืองหนานจิงนี่ก็ยังมีหลุมศพของเขาที่สร้างโดยคนที่ครั้งหนึ่งท่านประธานโปรดปรานเขามากอยู่ด้วย” เย่เชียนตอบ
“อุตส่าห์ดิ้นรนมาทั้งชีวิต ในที่สุดเขาก็ได้กลับไปสู่รากเหง้าเดิมของตัวเอง ทุกอย่างมันจบลงด้วยดีแล้วสินะ…” ร่องรอยแห่งความโศกเศร้าปรากฏอยู่ในดวงตาของโจวรุหลาน
“ก่อนที่เขาจะเสีย ท่านประธานเฉินเขาบอกให้ผมไปตามหาคุณ เขาฝากผมขอโทษคุณแทนเขาด้วยนะครับ เขาบอกกับผมว่าทั้งชีวิตของเขานั้น เขาไม่เคยต้องรู้สึกผิดกับใครเลย มีแค่คุณเท่านั้นที่เขารู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดกับคุณมาก” เย่เชียนพูด
“ฉันรู้จักนิสัยของเขาดี… และฉันก็ไม่เคยโทษเขาเลย” โจวรุหลานพูด “เธออยากฟังเรื่องราวของฉันกับเขามั้ยล่ะ ?”
“ครับ” เย่เชียนพยักหน้าตอบ ที่จริงแล้วเย่เชียนนั้นก็รู้สึกสงสัยเกี่ยวกับอดีตระหว่างเฉินฟู่เฉิงและผู้หญิงที่เขาต้องตามหาอยู่เช่นกัน
“สมัยก่อนเขากับฉันน่ะเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน… เขาเป็นคนที่เงียบมากไม่ค่อยพูดค่อยจาสักเท่าไหร่หรอก ถ้าจะให้เปรียบเทียบล่ะก็นะ เขาก็คงจะเป็นเหมือนกับต้นกระบองเพชรล่ะมั้ง เพราะร่างกายของเขามันเต็มไปด้วยขวากหนามเต็มไปหมด แต่ทว่าจิตใจของเขานั้นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน เขาเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ชนบท ที่ที่ทุกคนไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ต้องทำงานหนักด้วยกันทั้งนั้น ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักกับเขามา เขาน่ะไม่ได้กลัวความยากลำบากหรือความยากจนเลย เขากลัวแค่ว่าตัวเองอาจจะแบกรับความหวังอันหนักอึ้งของคนในหมู่บ้านไม่ได้
ส่วนฉันน่ะนะเป็นคนหนานจิงมาตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ ครอบครัวของฉันมีฐานะร่ำรวยมาก พูดตามตรงผู้ชายมากมายเลยแหละที่พยายามมาขายขนมจีบให้ฉัน ทั้งคนรวย คนทำงานข้าราชการ หรือแม้กระทั่งพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งหลาย แต่หัวใจของฉันมันกลับรู้สึกชอบแค่เขาเท่านั้น มันอาจจะเป็นเพราะน้ำใจและอุปนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ของเขาที่ดึงดูดใจของฉันไปได้ ฉันยังจำได้ดีเลยว่า เขาเคยถามฉันอยู่ครั้งหนึ่งว่าทำไมฉันถึงเลือกเขา ทั้ง ๆ ที่เขานั้นไม่ใช่คนที่เหมาะสมกับฉัน ฉันก็บอกเหตุผลของฉันไปตามตรงว่าคนอื่นน่ะดี แต่เขาใจดีกับฉันมากที่สุด หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกเลย แต่ฉันก็รู้นะว่าเขาเองก็รู้จักฉันดีพอเช่นกัน เขาต้องรู้สิว่าทำไมฉันถึงเลือกเขา
หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ฉันก็ย้ายออกจากบ้านไปอาศัยอยู่กับเขาในบ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่งที่เขาเช่าอยู่… ซึ่งตอนนั้นเงินเดือนของเขาก็น้อยมาก ทำให้บางครั้งฉันก็ต้องใช้เงินของตัวเองมาช่วยเขา เพราะฉันเชื่อว่าวันนึงเขาจะประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เขาเลือกทำ และกลายเป็นมังกรตัวใหญ่ที่ผงาดขึ้นมาพ้นน้ำ ถึงฉันจะเชื่ออย่างนั้น แต่สำหรับคนเป็นพ่อแม่ รวมทั้งเหล่าบรรดาญาติ ๆ ของฉัน มันกลับเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาต้องเสียหน้า โชคยังดีที่พวกเขาไม่ได้คัดค้านเรื่องของฉันกับเขา แต่ฉันก็ดูออกว่าพวกเขาก็ไม่ได้เห็นด้วยสักเท่าไหร่ เมื่อเวลาผ่านไปฉันมานึกย้อนดูจึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่พวกเขารู้สึกในตอนนั้น มันทำให้ฉันคิดว่าตัวเองนั้นไม่ใช่ลูกสาวที่กตัญญูเลย
และเพื่อที่ฉันจะได้อยู่กับเขาตลอดไป ฉันจึงได้ตัดสินใจที่จะมีลูกกับเขา ฉันได้แต่คิดโง่ ๆ ว่าการมีลูกจะช่วยเปลี่ยนความคิดของใครหลาย ๆ คนได้ รวมไปถึงพ่อแม่ของฉันเอง พวกเขาจะต้องรักและเอ็นดูหลานตัวน้อย ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งอย่างน้อยการมีลูกก็จะช่วยให้ฉันยังสามารถอยู่เป็นคู่คิดให้กับเขาต่อไปได้ หลังจากนั้นฉันก็ลาออกจากงานเพื่อมาคอยดูแลเด็ก ๆ ที่บ้าน ทุกเย็นฉันจะเฝ้ารอให้เขากลับมาที่บ้านและคอยตักซุปร้อน ๆ เพื่อเสิร์ฟให้กับเขา เรื่องราวในตอนนั้นน่ะ ถึงมันจะฟังดูขม แต่จริง ๆ แล้วมันก็หวานมากเช่นกัน
พอกลับมาคิดถึงช่วงเวลาในตอนนั้นแล้ว ฉันว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นาน คืนหนึ่ง… เขากลับมาบอกกับฉันว่าเขาลาออก! นั่นเป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกัน มันเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกสะเทือนใจกับผู้ชายคนนี้ เพราะเขาเลือกที่จะยอมทิ้งงานอันยิ่งใหญ่ของเพื่อที่จะกลับไปยังบ้านเกิด เอาจริง ๆ ก็มีแต่ฉันนี่แหละที่บ้าไปคนเดียว เพราะเขาน่ะเอาแต่นั่งอยู่เงียบ ๆ และสูบบุหรี่ที่ข้างประตูทั้งคืน ฉันรู้นะว่าเขาคงกดดันตัวเองมากเกินไป และคนส่วนใหญ่ก็คงทนไม่ไหวกับการที่ต้องสู้อย่างหนักอยู่แบบนั้น วันรุ่งขึ้นฉันก็เลยคุยกับเขาอย่างสงบสติอารมณ์ และอยากให้เขาลองพยายามหางานทำในเมืองอีกครั้งจะได้ไม่ต้องกลับไปที่บ้านเกิดในชนบท มันไม่ใช่ว่าฉันจะดูถูกคนในชนบทหรืออะไรหรอกนะ แต่เขาจะไปทำอะไรได้ล่ะถ้ากลับไปอยู่บ้านเกิดแล้ว ? ถึงความกดดันในเมืองใหญ่มันจะมีอยู่มากก็จริง แต่ในเวลาเดียวกันมันก็มีโอกาสซ่อนอยู่มากมายเช่นกัน แต่ต่อให้ฉันพูดไปมากแค่ไหน เขาก็ยังคงไม่เห็นด้วยกับฉัน เพราะเขาน่ะเป็นคนดื้อรั้นและไม่เคยเปลี่ยนใจหากว่าเขานั้นตัดสินใจกับเรื่องอะไรไปแล้ว
สามวันต่อมา… ฉันถามเขาว่าเขาจะไปนานแค่ไหน เพราะต่อให้นานแค่ไหนฉันก็จะรอ แต่เขากลับบอกฉันว่าเขาจะกลับมาหาฉันเมื่อเขาร่ำรวยและยิ่งใหญ่แล้ว ตอนนั้นเองที่ฉันรู้สึกเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด! ฉันเลยตบหน้าเขาอย่างแรงและดุด่าสาปแช่งเขาว่าเขาเห็นโจวรุหลานคนนี้เป็นคนที่เห็นแก่เงินอย่างงั้นเหรอ ? ครอบครัวของเราจะจบสิ้นลงแค่เพราะเรื่องเงินกับความยิ่งใหญ่เนี่ยนะ ? แต่เขาก็เอาแต่ก้มหน้าอยู่เงียบ ๆ และไม่พูดอะไรเลย
ลึก ๆ แล้วฉันเองก็รู้ว่าคนอย่างเขาจะต้องเลือกเส้นทางนี้อย่างแน่นอน เขาแค่ไม่ต้องการให้ฉันและลูก ๆ ต้องทนทุกข์อยู่กับเขาก็เท่านั้น เพราะเขาน่ะเป็นคนที่คอยคิดถึงแต่คนอื่นอยู่เสมอและไม่เคยใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเลยสักครั้ง สุดท้ายฉันก็ทิ้งเขาไปเพราะฉันไม่อยากให้เขาต้องมีภาระ เขาจะได้ไปเติมเต็มความฝันของเขาได้อย่างอิสระ แต่ใครจะรู้ว่านั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดและมันก็ทำให้เราทั้งคู่ต้องเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนั้นไปตลอดชีวิต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันยังคอยเฝ้าดูความเป็นไปในชีวิตของเขามาตลอด และฉันก็ดีใจที่ได้เห็นความสำเร็จของเขาสักที ที่จริง… เขาก็รู้นะว่าฉันอยู่ที่ไหน แต่เขากลับไม่เคยมาหาฉันเลย ซึ่งฉันก็รู้ดีว่าเขานั้นคงคิดว่าฉันคงมีความสุขกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันแล้ว และในเมื่อฉันมีความสุขแล้ว บางทีมันอาจจะถึงวาระของทุกอย่างแล้วก็เป็นได้ ซึ่งมันก็จริงเพราะทั้งเขาและฉันต่างก็หมดทุกข์หมดกรรมที่เลวร้ายและยากลำบากของชีวิตได้แล้ว
ยอดนักรบจอมราชัน

ยอดนักรบจอมราชัน

Status: Ongoing

เขาคือที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้าง เขาคือผู้ที่สามารถสร้างหายะนะจนทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศปวดหัว! เขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเองและหลั่งเลือดเพื่อพวกพ้องและครอบครัวของเขา! เขาคือยอดนักรบจอมราชัน…

超级兵王

Author: 步千帆

Chinese edition copyright © ChineseAll Digital publishing Group Co.,Ltd

ALL RIGHTS RESERVED

เขาคือผู้ปกครองที่อยู่เหนือเหล่าทหารรับจ้างและหน่วยรบพิเศษ เขาคือผู้น่าเกรงขามที่สามารถทำให้ผู้นำประเทศแต่ละประเทศถึงกับสั่นคลอน! เพื่อพวกพ้องของเขาแล้วเขาพร้อมที่จะเสียสละตัวเอง เพื่อครอบครัวของเขา..เขาก็ไม่ลังเลที่จะหลั่งเลือด! เขานั้นดุจดั่งมังกรที่ทยานขึ้นเหนือสรวงสวรรค์.. พลังของเขานั้นทำให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ไม่ว่าสถานการณ์จะเสียเปรียบและย่ำแย่เพียงใดก็ไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นสายลมหรือผืนน้ำก็ตาม…

————————————–

ชายหนุ่มผู้เป็นดั่งจุดสูงสุดของเหล่าทหารรับจ้าง..ผู้ที่หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อจะใช้ชีวิตที่แสนธรรมดา..แต่โชคชะตากลับนำพามาเจอแต่เรื่องวุ่นวาย..ชายที่มีนามว่า ‘เย่เชียน’ ถูกขนานนามว่า ‘ราชันหมาป่า’ แต่กลับต้องมาปลอมตัวใช้ชีวิตเป็นเด็กมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะปกป้องหญิงสาวจากองกรค์นักฆ่านานาชาติ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท