ฉายาหมาป่าเขี้ยวพิษนั้นไม่ได้มาง่ายๆ และมันก็ไม่ได้มาแบบธรรมดาๆ เลย เพราะหลิวเทียนเฉินนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสารเคมีและยาพิษต่างๆ เพราะฉะนั้นเขาก็สามารถสังเคราะห์และผสมยาพิษต่างๆ ได้มากมาย ซึ่งพื้นเพและต้นกำเนิดของหลิวเทียนเฉินนั้นเย่เชียนก็ไม่ค่อยรู้มากนักเขารู้เพียงแค่ว่าหลิวเทียนเฉินนั้นเกิดมาในตระกูลแพทย์แผนจีนและนักวิทยาศาสตร์ขององค์วิจัยต่างๆ
ตระกูลหลิวนั้นมีสมบัติประจำตระกูลก็คือเข็มทองทั้งเก้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนดูดีแต่ทว่าจริงๆ แล้วมันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการฝังเข็มเข็มทองซึ่งมีเก้าเข็มและมีขนาดและความยาวแตกต่างกัน สำหรับการแพทย์แผนตะวันตกแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่มีประโยชน์อย่างแน่นอนแต่สำหรับการแพทย์แผนจีนแล้วชุดเครื่องมือฝังเข็มที่ดีกับหมอที่ดีก็มักจะให้ผลวิเศษได้เสมอ เข็มทองทั้งเก้านั้นแต่เดิมทีเป็นสมบัติของหลิวเจียซูและเมื่อย้อนกลับไปในยุคคังซีในเวลานั้นมีการกล่าวขานกันว่าบรรพบุรุษของหลิวเจียซูก็เป็นหมอในราชวงศ์ชิงและเนื่องจากเขาสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บขององค์จักรพรรดิคังซีได้พระองค์จึงให้รางวัลพิเศษเป็นเครื่องฝังเข็มทองคำแท้แก่เขา ซึ่งเข็มทองทั้งเก้านี้ได้รับการบ่มยาอยู่ตลอดทั้งปีและสรรพคุณของยาก็ซึมอยู่ในเข็มทองคำทั้งเก้าแต่ทว่าผลลัพธ์มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเครื่องมือฝังเข็มธรรมดาๆ ทั่วไปมากนัก และถึงแม้ว่ามันจะไม่ขลังเหมือนที่รู้กันในโทรทัศน์และภาพยนตร์ต่างๆ ก็ตาม แต่การฝังเข็มนั้นก็สามารถรักษาและฟื้นฟูได้ และเข็มทองเหล่านั้นมันก็มีสรรพคุณบางอย่างที่เครื่องมือฝังเข็มธรรมดาๆ ไม่มีเช่นกัน
ทว่าก็เป็นเพราะชุดเข็มทองคำทั้งเกานี้ที่ทำให้ตระกูลหลิวประสบกับหายนะอันยิ่งใหญ่เพราะมีหมอจีนวัยชราที่มีฐานะและมีชื่อเสียงในสังคมอย่างล้นหลามที่โปรดปรานเข็มทองคำทั้งเก้านี้จึงขอให้ตระกูลหลิวขายให้แก่ตัวเอง ทว่าอย่างไรก็ตามเข็มทองทั้งเก้านั้นก็เป็นมรดกตกทอดของตระกูลและแน่นอนว่าพ่อของหลิวเทียนเฉินก็ปฏิเสธที่จะขายมันโดยธรรมชาติ ซึ่งหลังจากนั้นหมอชราชาวจีนคนนั้นก็วางแผนชั่วร้ายและพยายามล้อมกรอบพ่อของหลิวเทียนเฉินเพราะเมื่อเขาไปรักษาคนไข้รายหนึ่งจู่ๆ คนไข้คนนั้นก็เสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้น ซึ่งพ่อของหลิวเทียนเฉินก็ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและถูกตัดสินจำคุก 20 ปี และแล้วด้วยความแก่ชราจังทำให้พ่อของหลิวเทียนเฉินทนไม่ได้จึงจำใจต้องฆ่าตัวตายในคุกแห่งนั้น
หมอชราชาวจีนคนนั้นก็ไม่ยอมปล่อยให้ตระกูลของหลิวเทียนเฉินมีการดำรงอยู่อีกต่อไป ซึ่งเนื่องจากความสัมพันธ์บางอย่างของหมอชราชาวจีนกับแก๊งมาเฟียเขาจึงให้แก๊งมาเฟียเหล่านั้นมาฆ่าล้างตระกูล และแล้วตระกูลของหลิวเทียนเฉินก็ถูกไฟคลอกตายทั้งตระกูลซึ่งเข็มทองทั้งเก้านั้นก็ถูกฝังอยู่ในเปลวเพลิงยกเว้นหลิวเทียนเฉินแต่เพียงผู้เดียว
ในตอนนี้หลิวเทียนเฉินไม่ได้ยึดคติประจำตระกูลของหลิวอีกต่อไปแล้วในเรื่องของการรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยและการช่วยโลกอีกต่อไป และนิสัยกับจิตใต้สำนึกของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากซึ่งในตอนนั้นเมื่อเขาอายุเพียงสิบห้าปีเขาได้หวนกลับคืนสู่บ้านเกิดและวางยาพิษที่บ้านของหมอชราชาวจีนคนนั้นและทำให้คนในตระกูลทั้งตระกูลของหมอชราชาวจีนคนนั้นไม่สามารถใช้ชีวิตแบบเดิมกันได้อีกซึ่งเหมือนกับตกนรกทั้งเป็นและทำได้เพียงแค่โหยหาความตายแต่ทว่าก็ไม่สามารถที่จะตายได้เลย หลังจากนั้นหลิวเทียนเฉินก็หนีไปต่างประเทศและเข้าร่วมกับเขี้ยวหมาป่าในที่สุด
ไม่มีใครในเขี้ยวหมาป่าที่สงสัยในความสามารถของหลิวเทียนเฉินในการรักษาโรคและฟื้นฟูความเจ็บไข้ได้ป่วยเลย เขี้ยวหมาป่านั้นมักจะเข้าไปปฏิบัติภารกิจในป่าลึกดึกดำบรรพ์ที่มีหนองน้ำและบางทีก็ทะเลทรายที่แห้งแล้งซึ่งมันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับความเจ็บไข้ได้ป่วยหรือโรคภัยต่างๆ รวมไปถึงสารพิษต่างๆ อีกด้วย ซึ่งในสายตาของหลิวเทียนเฉินนั้นสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่เคยท้าทายเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะเมื่อพบเจอกับสถานการณ์ต่างๆ แล้วเขาก็ใช้เวลาเพียงไม่นานนักเขาก็สามารถสร้างและผสมยาต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในทำนองเดียวกันก็ไม่มีใครเลยที่สงสัยในความสามารถของหลิวเทียนเฉินในการใช้พิษและสารเคมีซึ่งมันไม่ได้ด้อยไปกว่าความสามารถในการช่วยชีวิตผู้คนเลย เพราะว่ากันว่าการฆ่านั้นเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นและถึงแม้ว่ามันจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่มันก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันเพราะยาพิษและสารเคมีที่หลิวเทียนเฉินใช้นั้นบางครั้งก็ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลและองค์กรต่างๆ เพื่อทำการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญแต่ทว่าพวกเขาไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่ามันมีส่วนผสมใดอยู่บ้างที่สร้างยาชนิดนั้นๆ ออกมา แต่ทว่ามันสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งอาจพูดได้ว่าถ้าหากหลิวเทียนเฉินกลับเข้าวงการแพทย์อีกครั้งแล้วล่ะก็ความก้าวหน้าทางการแพทย์ของจีนนั้นจะล้ำยุคและสมบูรณ์แบบมากขึ้นอย่างถึงที่สุด
ณ ตอนนี้ ทหารหลายพันคนของกองทัพที่อยู่ภายใต้หลัวโจวนั้นกำลังถูกฝังทั้งเป็นอยู่ภายใต้หมอกพิษของหลิวเทียนเฉิน โดยไม่มีแม้แต่ร่องรอยของการปะทะใดๆ ซึ่งทหารเหล่านั้นไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ได้เลย นั่นก็เพราะว่ายาพิษและสารเคมีนั้นมีความเข้มข้นรุนแรงอย่างมากและผู้ใดที่ได้สัมผัสกับมันแล้วล่ะก็เลือดก็จะออกจากปาก,หู,จมูก,ตาของพวกเขาในทันทีและภาพเหตุการณ์เหล่านั้นก็ดูโหดร้ายอย่างมาก แต่ทว่าใบหน้าของหลิวเทียนเฉินนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดซึ่งสายตาที่ดูเย็นยะเยือกเลือดเย็นของเขานั้นสามารถทำให้ผู้คนหนาวลึกลงไปถึงกระดูกได้เลย
อีกห้าวันหลังจากนี้หลิวเทียนเฉินก็จะกลับมายังคฤหาสน์ ส่วนหลัวโจวก็ดูเหมือนจะรู้สึกหดหู่ใจอย่างมากภายใต้การโจมตีทางจิตใจและจิตวิทยาในทางที่ผิดของชิงเฟิงด้วยการฉายวิดีโอโป๊ซ้ำไปซ้ำมา แต่นี่มันก็เป็นเพียงแค่ขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าชิงเฟิงไปหาผู้หญิงเหล่านั้นมาจากไหนและให้พวกเธอเต้นระบำเปลื้องผ้าต่อหน้าของหลัวโจวซึ่งแต่เดิมทีอารมณ์ของหลัวโจวก็พลุ่งพล่านอย่างมากอยู่แล้วและในตอนนี้ความต้องการทางเพศของเขานั้นก็สูงอย่างมาก เพราะถึงยังไงแล้วหลัวโจวก็เป็นผู้ชายเช่นกันและหลัวโจวเองก็หดหู่ใจอย่างมากและกลัวว่าเขาจะต้านทานการล่อลวงนี้ได้อีกหรือไม่ เขาทำได้เพียงแค่อดทนความทรมานจากอารมณ์ความใคร่ที่เขาสั่งสมเอาไว้เพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลัวโจวนั้นถูกสรรเสริญว่าเป็นเจ้าเหนือหัวของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเสมอมา และเขาก็เกิดมาเพื่อเป็นชายชาติทหารและความมุ่งมั่นและความอดทนของเขาก็สูงกว่าคนอื่นๆ มาก แต่ทว่าเย่เชียนก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่าชิงเฟิงจะใช้กลอุบายอันแยบยลเหล่านี้เพื่อทำลายเจตจำนงและจิตใต้สำนึกของหลัวโจวและพยายามทำให้หลัวโจวสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ว่าจ้างของเหตุการณ์ครั้งล่าสุดอย่างหมดจดและตรงไปตรงมา ถึงยังไงหลิวเทียนเฉินก็ยังมาไม่ถึงและชิงเฟิงก็ยังต้องการที่จะทรมานหลัวโจวเล่นต่อไปเย่เชียนจึงไม่ได้ห้ามอะไร
หลังจากนั้นไม่นานเย่เชียนก็พาหลิวเทียนเฉินที่เพิ่งเดินทางกลับมาถึงและชิงเฟิงและเฟิงหลานเข้าไปในห้องลับ ส่วนหวังเต๋อเซินไม่ได้มาด้วยโดยบอกว่าเขาไม่อยากมาเฝ้าดูวิธีดังกล่าว ซึ่งเย่เชียนก็รู้ดีว่าหวังเต๋อเซินกำลังรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อยเพราะหลัวโจวก็ถูกหวังเต๋อเซินหักหลังมาเพราะถึงยังไงแล้วทั้งหมดทั้งมวลก็ล้วนมีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาก่อน
ทั้งหมดนี่เป็นอย่างที่เย่เชียนเคยพูดเอาไว้ว่ามันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความภักดีหรือการหักหลังเพราะเหตุผลของการภักดีก็เป็นเพียงผลประโยชน์และการหักหลังก็เพื่อผลประโยชน์เช่นกัน ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ลูกหลานและทายาทมากมายก็พร้อมใจที่จะขายทรัพย์สมบัติของตระกูลที่พ่อแม่และบรรพบุรุษของพวกเขาสืบทอดกันมาเพื่อเงินและกำไรอย่างง่ายดายและไม่ต้องพูดถึงหลัวโจวเลยเพราะหลัวโจวนั้นไม่ได้มีมิตรภาพอันลึกซึ้งใดๆ กับหวังเต๋อเซินเลย
แน่นอนว่าเย่เชียนกับหวังเต๋อเซินก็เช่นกัน นั่นก็เพราะว่าความสัมพันธ์ของเขากับหวังเต๋อเซินนั้นไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมายและไม่ได้สนิทสนมกันดั่งพี่น้องในครอบครัวถึงขนาดนั้น ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรที่สามารถรับประกันได้ว่าวันหนึ่งในอนาคตนั้นหวังเต๋อเซินจะหักหลังเพื่อผลประโยชน์เมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็จะไม่เสียใจใดๆ เพราะหวังเต๋อเซินไม่ใช่พี่น้องที่ดีที่สุดของเขา การทำธุรกิจและความสัมพันธ์ที่ดีทางผลประโยชน์ต่างๆ มันจะลึกซึ้งกินใจได้อย่างไร?
ความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชียนและหวังเต๋อเซินนั้นไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันมากนักและมันก็เป็นเพียงแค่การร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาทั้งสองเอง เพราะเย่เชียนก็ต้องการที่จะขยายกองกำลังในประเทศเมียนมาร์และหวังเต๋อเซินก็เฝ้าหวังเอาไว้ว่าเขาจะได้เข้าไปประชุมในอาคารรัฐสภาได้อย่างโอ่อ่าและสง่าผ่าเผยแทนที่จะถูกปราบปรามจากรัฐบาลไปอย่างไร้ประโยชน์
อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วยุคสมัยนี้มันมีความจริงใจมากสักแค่ไหนกัน? เพราะความสัมพันธ์ส่วนใหญ่นั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ใช่คนโง่เพราะเขารู้ดีว่าถ้าหากว่าเขายิ่งยกย่องและเยินยอหวังเต๋อเซินมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งมีอำนาจในการต่อรองกับหวังเต๋อเซินมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องเตรียมมือทั้งสองข้างเอาไว้เพราะไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ถ้าหากว่าเขาสามารถคุมหวังเต๋อเซินเอาไว้ได้ล่ะก็สิ่งต่างๆ ก็จะดีขึ้น
เมื่อมองไปที่หลัวโจวที่ดูหดหู่และหิวโหยตรงหน้าเขาเย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ผู้การหลัว..คุณจะยอมพูดออกมาตอนนี้หรือเปล่า? ..ตอนนี้ผมยังยืนยันคำเดิม..ถ้าหากคุณพูดออกมาผมจะรีบปล่อยให้คุณตายอย่างไม่ทรมาน..จะได้ไม่ต้องมาทรมานแบบนี้อีกต่อไป”
หลัวโจวก็หัวเราะอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “ถ้าแกมีกลเม็ดเด็ดๆ อีกก็ใช้มันสักทีเถอะ..วิธีการเด็กๆ แบบนี้มันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!”
เย่เชียนยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า “ผมไม่อยากใช้วิธีการนั้นเพื่อบังคับให้คุณพูดออกมาเลย..เพราะงั้นผมจะให้เวลาและโอกาสเพื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกสักหน่อยก็แล้วกัน..คุณรู้มัยว่านี่คือใคร?” เย่เชียนพูดพร้อมชี้ไปที่หลิวเทียนเฉินข้างๆ เขาแล้วพูดว่า “นี่คือหลิวเทียนเฉินที่รู้จักกันในฉายาหมาป่าเขี้ยวพิษแห่งเขี้ยวหมาป่าของเรา..คุณน่าจะคุ้นเคยกับฉายานี้ดีใช่มั้ย?”
แน่นอนว่าหลัวโจวก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะฉายาหมาป่าเขี้ยวพิษนั้นเป็นที่โด่งดังในโลกของทหารรับจ้างมากกว่าราชาหมาป่าเลยด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่าฉายานี้ถูกร่ำลือกันเพราะความโหดร้ายและความเลือดเย็นป่าเถื่อนของหมาป่าเขี้ยวพิษและที่สำคัญที่สุดก็คือเป้าหมายของหมาป่าเขี้ยวพิษนั้นทุกคนล้วนอยากจะตายเพราะความทรมานอันแสนเจ็บปวดแต่ก็ไม่มีใครสามารถที่จะตายได้เลยและนี่ก็คือความน่ากลัวของหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉิน
เหล่าทหารนั้นบางครั้งก็ไม่เกรงกลัวระเบิดและกระสุนและเลือดที่สาดกระเซ็นและไหลนองอยู่ในสนามรบเพราะสิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดก็คือการที่พวกเขาตายไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะว่าหลิวเทียนเฉินสามารถทำสิ่งนี้ได้ซึ่งสามารถทำให้เหล่าศัตรูไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองตายอย่างไรและตายเพราะอะไรและตายตอนไหนซึ่งมันเหลือเอาไว้แต่ความว่างเปล่าเพียงเท่านั้น
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มขึ้นมาแล้สพูดว่า “ถ้าคุณรู้จักเขาคุณก็ควรจะชัดเจนได้แล้วว่าเขามีวิธีที่จะทำให้คุณพูดความจริงและวิธีการของเขาก็จะทำให้คุณตายทั้งเป็นและทำได้เพียงโหยหาความตายเพียงเท่านั้น..หลังจากนั้นคุณก็จะกลายเป็นคนบ้าเหมือนหมาข้างถนน..แล้วคุณคิดว่ามันจะเป็นยังไงต่อล่ะ?”
“เย่เชียน! ..แกมันโหดเหี้ยมเกินไป!” หลัวโจวตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
“ขอบคุณที่ชม!” เย่เชียนพูด “ในเมื่อคุณเลือกที่จะท้าทายเขี้ยวหมาป่าของผมแล้วคุณก็ควรจะรู้ว่าผลลัพธ์ที่ตามมามันจะเป็นยังไง! ..คุณไม่สามารถเลือกทางรอดได้..แต่คุณสามารถเลือกทางตายได้!”
“หึ่ม..ถ้าพวกแกมีวิธีอะไรอีกก็รีบใช้มันสักทีเถอะ..ถ้าหลัวโจวคนนี้ขมวดแม้แต่คิ้วล่ะก็แสดงว่าฉันไม่ใช่ชายชาติทหาร!” หลัวโจวพูดอย่างหนักแน่น
“ปากแข็งดีนี่! ..ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าแกจะทนไปได้อีกนานสักแค่ไหน” หลิวเทียนเฉินฉีกยิ้มอย่างเย้ยหยันและหยิบเข็มฉีดยาออกมาพร้อมกับขวดของเหลวที่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันคืออะไรจากนั้นก็พูดว่า “นี่คือยาของ CIA จากประเทศสหรัฐอเมริกา..เป็นยาที่มักจะใช้เพื่อจัดการกับพวกเจ้าหน้าที่และสายลับระดับสูงต่าง..ซึ่งสรรพคุณของมันนั้นสามารถทำลายเจตจำนงและจิตใต้สำนึกของคนคนนั้นได้อย่างสมบูรณ์และสามารถพูดความจริงออกมาได้ด้วยการฉีดมันเข้าไปในร่างกายเพียงแค่ไม่กี่หยด..แต่ว่าฉันก็ได้ปรับแต่งมันไปนิดหน่อยและสรรพคุณของมันก็มากกว่าเดิมเล็กน้อยน่ะ..เพราะงั้นใครก็ตามที่ถูกฉีดยานี้เข้าไปก็จะกลายเป็นคนบ้า..ผู้การหลัวน่าจะชอบนะ”
หลัวโจวนั้นสั่นไปหมดทั้งตัวเพราะเขาก็เคยได้ยินเรื่องราวของยาชนิดนี้มาเช่นกันซึ่งมันถูกใช้โดยองค์กร CIA ของประเทศสหรัฐอมเริกาเพื่อจัดการกับศัตรูและผู้ที่หักหลังโดยการใช้ยานี้ฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อเค้นข้อมูลต่างๆ ซึ่งครั้งหนึ่งเย่เชียนก็เคยถูกพวก CIA ฉีดยานี้ใส่เช่นกันแต่ทว่ามันก็น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ จากปากของเย่เชียนเลยและเมื่อพวก CIA กำลังจะเพิ่มปริมาณของยาขณะนั้นเหล่าเขี้ยวหมาป่าก็ได้บุกเข้าไปทำการช่วยเหลือเย่เชียนเอาไว้ได้ทัน
เมื่อเห็นหลิวเทียนเฉินเดินเข้ามาหาเขาทีละก้าวๆ นั้นหลัวโจวก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านเพราะเขานั้นไม่ได้กลัวความตายแต่เขาไม่สามารถอับอายขายหน้าและเสื่อมเสียเกียรติได้ เพราะหลัวโจวนั้นเป็นคนเช่นนี้เพราะถ้าหากฆ่าเขาด้วยมีดหรือปืนเขาก็จะหวั่นเกรงใดๆ แต่ถ้าหากทำให้เขาอับอายและกลายเป็นบ้าจนเสื่อมเสียเกียรติแล้วล่ะก็มันจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายอย่างแน่นอน
“ผู้การหลัว..เคยถูกมดกัดหัวใจหรือเปล่า? ..เคยรู้สึกเหมือนมีอะไรมากัดกินหัวใจบ้างหรือเปล่า? ..แตก็ไม่เป็นไรช่างเถอะ..เพราะหลังจากที่คุณตอบคำถามมาทั้งหมดแล้วคุณก็จะรู้ได้ว่าการถูกมดกัดที่หัวใจมันทรมานยังไง..นี่คือสรรพคุณพิเศษของสิ่งประดิษฐ์ของฉันน่ะ..หวังว่าคุณจะชอบมันนะ” หลิวเทียนเฉินพูดอย่างไม่ไยดีและไม่แยแสใดๆ ยาพิษของหมาป่าเขี้ยวพิษนั้นไม่เพียงแค่ทำลายระบบประสาทเพียงเท่านั้นแต่มันยังทำลายหัวใจของมนุษย์ไปทีละน้อยอีกด้วย เช่นเดียวกับคำพูดของหลิวเทียนเฉินที่แม้จะเป็นเพียงแค่คำพูดเล็กๆ น้อยๆ แต่ทว่าเขานั้นไม่ใช่สุภาพบุรุษและไม่ใช่ชายหนุ่มในอุดมคติของสาวๆ เลย
.
.
.
.
.
.
.