ปฏิญญาค่าแค้น – ตอนที่ 47 ใช้วิธีการกระตุ้นเพื่อให้เห็นผล (2)

ตอนที่ 47 ใช้วิธีการกระตุ้นเพื่อให้เห็นผล (2)

 ฮูหยิน…ฮูหยิน…  ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาด้วยฝีก้าวอันรวดเร็วภายใต้สีหน้าตื่นตระหนก

แม่ฉินกล่าวทั้งน้ำตา  นายท่านเจ้าคะ นักตุ้มตุ๋นที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าผู้นี้ทำให้ฮูหยินโกรธจนกะอักเลือดออกมาเจ้าค่ะ 

ท่านเจ้าเมืองมองดูฮูหยินกะอักเลือดออกมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดและมีสีหน้าซีดเหลือง ขณะนั้นเองความโกรธอันแรงกล้าก็ปะทุขึ้น เขาหันกลับไปมองหลินหลันแล้วกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว  นังคนโกหกตัวดี ใครก็ได้เข้ามาจับตัวนางเอาไว้ หากภรรยาของข้าเป็นอะไรไป ข้าจะจับเจ้าฉีกออกเป็นชิ้นๆ เสีย 

หลินหลันยิ้มออกมาอย่างใจเย็น  ท่านเจ้าเมือง ท่านอย่ามัวเสแสร้งอยู่เลย หากฮูหยินตายไปแล้วมิใช่ว่าจะสมความปรารถนาของท่านหรอกหรือ เพราะถึงอย่างไรภรรยาของท่านผู้นี้ก็ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายได้ 

ท่านเจ้าเมืองรู้สึกโมโหจนแทบจะกะอักเลือดออกมา  โอหัง วันนี้หากเจ้าไม่ถูกเฆี่ยนตีให้ตาย เกรงว่าจะไม่อาจทำให้โทสะในใจข้ามลายหายไปได้ 

 ข้าไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้แล้ว เมื่อข้าตายไปเรื่องราวทั้งหมดก็จะจบลง…  ถูกหลินหลันทิ่มแทงด้วยคำพูดอันแสนเจ็บปวด ฮูหยินจึงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแห่งความเศร้าโศก ก่อนจะกะอักเลือดกองโตออกมาอีกครั้ง

ผู้เป็นสามีรีบร้อนเข้าไปปลอบปะโลมภรรยาของตน  ฮูหยิน อย่าได้ฟังนางพูดเพ้อเจอไร้สาระ อาการป่วยของเจ้าจะต้องหายดีได้เป็นแน่ ต่อให้ข้าต้องเชิญหมอผู้มีชื่อเสียงเรืองนามทั่วทั้งใต้ล่าก็จะต้องรักษาอาการป่วยของเจ้าให้หายดีให้ได้ 

เจียติง [1] เมื่อได้ยินเรื่องราวจึงรีบมาในทันทีและเตรียมจะลากตัวหลินหลันออกไป

หลินหลันรีบเอ่ยปากร้องขอ  เหล่าต้าเกอช่วยรออีกสักประเดี๋ยว ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว 

เจียติงตกอยู่ในอาการแปลกประหลาดใจ ไม่ใช่ว่านายท่านสั่งการให้นำตัวนางลากออกไปโบยหรอกหรือ

แม่ฉินรู้สึกจงเกลียดจงชังหลินหลันเป็นยิ่งนัก นางนำหลินหลันเข้ามาพร้อมกอบกุมความหวังอันริบรี่ไว้ในมือ แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นการนำหมาป่าเข้ามาถึงในห้องและจะพรากชีวิตนายหญิงของตนไป ในขณะนั้นเองนางจึงเอ่ยปากตะคอกขึ้น  พวกเจ้ายังมัวรออะไรกันอยู่อีก เหตุใดยังไม่รีบลงมือซะ 

บรรดาเจียติงทั้งหลายเข้าไปดึงตัวหลินหลันอีกครั้ง และในช่วงเวลาอันสำคัญนั้นเอง หลินหลันมองเห็นสีหน้าของฮูหยินซึ่งในที่สุดก็มีเลือดฝาดขึ้นมา จึงกล่าวขึ้นด้วยความดีใจ  ฮูหยิน ตอนนี้ท่านรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหม 

ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป ฮูหยินถึงกับตกตะลึง ยกมือขึ้นกุมตำแหน่งหัวใจของตนแล้วค่อยๆ จดจ่ออยู่กับความรู้สึกในร่างกาย แล้วจึงพบว่าความเจ็บปวดในทรวงอกนั้นบรรเทาลงไปมาก นางจ้องมองหลินหลันด้วยความงุนงงพลางพึมพำออกมาอย่างเหลือเชื่อ  รู้สึกสบายตัวขึ้นมาเยอะจริงๆ ด้วย 

ในเวลานี้เองผู้ที่อยู่ในห้องล้วนพากันตกตะลึงและเต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย ฮูหยินถูกนางทำให้โกรธจนเกือบตาย แล้วยังกระอักเลือดออกมาเสียมากมายขนาดนั้น แต่กลับรู้สึกสบายตัวขึ้นมาเยอะเลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่ละคนต่างก้มลงมองกองเลือดบนพื้นซึ่งก็เป็นความจริงเฉกเช่นหมอหญิงท่านนี้กล่าวเอาไว้ทั้งหมด เริ่มแรกเป็นสีดำม่วงและท้ายสุดถึงเป็นสีแดงสด ทันใดนั้นจึงเข้าใจได้ว่านี่คือกลวิธีอันแปลกประหลาดของท่านหมอหญิงผู้นี้ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการรักษาในแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลย

ท่านเจ้าเมืองที่เพิ่งดึงสติกลับคืนมา เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง  เช่นนั้น…ฮูหยินได้รับการรักษาแล้ว? 

หลินหลันเผยรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย  ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นกังวลแล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะเขียนใบรายการยาให้ฮูหยิน และขอเพียงแค่ฮูหยินสามารถปล่อยวางทำจิตใจให้สบาย ตลอดจนในระยะเวลาช่วงนี้หมั่นดูแลสุขภาพกายและใจ ก็จะสามารถหายขาดจากอาการป่วยได้เจ้าค่ะ 

ท่านเจ้าเมืองเผยสีหน้ามีความสุขออกมา แม้จะยังรู้สึกไม่ค่อยเชื่อถืออยู่บ้าง  เจ้าพูดจริงหรือ  ความโกรธโมโหเมื่อครู่ที่เขามีต่อหลินหลันเลือนหายไปจนหมดสิ้น

 ท่านเจ้าเมืองขอให้หลินหลันผู้นี้ได้พูดคุยกับฮูหยินตามลำพังสักสองสามประโยคได้หรือไม่เจ้าคะ  หลินหลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ผู้เป็นสามีมองไปที่ภรรยาของตน และนางก็พยักหน้าเล็กน้อย เขาจึงกล่าวขึ้น  ทั้งหมดออกกันไปก่อนเถอะ! 

เมื่อทุกคนต่างออกไปจากห้องกันหมดเรียบร้อยแล้ว หลินหลันจึงก้าวเข้าไปพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เพิ่งซื้อมาผืนใหม่ช่วยเช็ดคราบเลือดที่มุมปากให้แก่ฮูหยิน และกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน  ฮูหยิน ข้าคงต้องขอพูดตามตรงแม้ท่านไม่อยากได้ยิน ไม่ว่าเจ้าอี๋เหนียงจะให้กำเนิดบุตรชายหรือไม่ ทั้งหมดในบ้านหลังนี้ก็ล้วนอยู่ในการดูแลของฮูหยิน ขอเพียงแค่ฮูหยินสุขภาพร่างกายแข็งแรงเพื่อครองอยู่บนตำแหน่งนี้ตลอดกาล และทำให้นางเป็นฝ่ายที่ต้องได้รับความอัดอั้นตันใจนั้นแทนเสีย หากท่านยอมแพ้ นั่นไม่เท่ากับว่าเป็นไปตามความต้องการของผู้อื่นหรือ ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ท่านกำลังเผชิญ สมควรได้รับการชำระแค้นให้โดยเร็ว ในเมื่อฮูหยินคำนึกถึงบุตรสาวทั้งสองก็ควรยืนยัดลุงขึ้นต่อสู้และดำเนินชีวิตไปต่อไปอย่างมีความสุขให้ได้ 

ฮูหยินเมื่อได้ฟังคำพูดดังกล่าว ซึ่งเป็นเสมือนแรงผลักดันที่เฉียบคมชั้นเยี่ยม ทำให้นางเข้าใจและตระหนักได้ในทันที พลางเอื้อมมือเข้าไปกอบกุมมือของหลินหลันเอาไว้พร้อมด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้น  ไม่เคยมีผู้ใดเอ่ยพูดเช่นนี้กับข้ามาก่อนเลย ความรู้สึกและอารมณ์นี้อัดแน่นอยู่ในใจของข้ามาเนิ่นนาน บางครั้งก็คิดขึ้นมาว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วจริงๆ หัวใจของท่านพี่ถูกนังสุนัขจิ้งของร้ายตนนั้นครอบงำให้ลุ่มหลง และหากนางให้กำเนิดบุตรชายขึ้นมาอีก ข้า…ข้า… 

 ฮูหยินคิดมากเกินไปแล้ว เมื่อครู่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าท่านเจ้าเมืองเป็นห่วงฮูหยินอย่างมาก ขอเพียงแค่ฮูหยินต้องจัดการเรื่องในบ้านหลังนี้ให้เป็นระบบระเบียบ ทำให้สามีของท่านไม่ต้องกังวลใจ หัวใจของเขาก็จะเป็นของฮูหยินตลอดกาล ท่านเจ้าเมืองและฮูหยินเชื่อมกันไว้ด้วยสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา มีหรือที่อี๋เหนียงเพียงผู้เดียวจะสามารถทำลายได้ แม้นางจะได้รับความโปรดปราดเพียงใดแต่สุดท้ายก็เป็นแค่อี๋เหนียงเท่านั้น มีหรือที่จะสามารถขึ้นมาเทียบเท่าบรรมีของท่านได้  หลินหลันกล่าวปลอบประโลม

ฮูหยินปาดหยาดน้ำตาที่ไหลริน  แม่นาง วันนี้ช่างโชคดียิ่งนักที่ได้พบเจอเจ้า มิเช่นนั้น ข้าคงยังถูกแช่อยู่ในวังวนเช่นนี้จนกระทั่งตายจากไป 

หลินหลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม  เมื่อครู่ข้ายอมเสี่ยงอันตรายใหญ่หลวง จนเกือบถูกท่านเจ้าเมืองลากออกไปโบยเสียแล้ว เล่นเสียข้าหวาดกลัวจนเหงื่อตกไปทั้งตัว 

ฮูหยินแม้จะรู้สึกผิดอยู่ในใจ ทว่ากลับแสร้งทำเป็นโกรธออกมา  เมื่อครู่เจ้าก็ทำให้ข้าโกรธโมโหจนเกือบตายเช่นกัน 

ทั้งสองจ้องมองกันและหัวเราะออกมา

ฮูหยินกล่าว  ไม่ทราบว่าแม่นางเป็นใครมาจากไหนหรือ ฟังจากสำเนียงแล้วคงมิใช่ชาวซูโจว 

หลินหลันกล่าว  ข้าเป็นเพียงผู้ที่ผ่านแวะมาซูโจวเท่านั้น แล้วบังเอิญเห็นประกาศตามหาหมอเข้าให้ จึงลองมาเสี่ยงให้การรักษาดูเจ้าค่ะ อีกทั้งจำนวนเงินรางวัลที่ท่านเจ้าเมืองเสนอก็ช่างน่าดึงดูดเสียยิ่งนัก ตั้งห้าสิบเหลี่ยงทองแหนะเจ้าค่ะ! เห็นได้เลยว่าท่านเจ้าเมืองเป็นห่วงฮูหยินมากเพียงใด 

ฮูหยินรู้สึกขบขับในคำพูดคำจาของนาง  ไม่เช่นนั้นเจ้าก็อยู่ที่จวนนี้เลยเถอะ! ส่วนเรื่องเงินเจ้าสามารถบอกจำนวนที่ต้องการมาได้เลย 

หลินหลันกล่าวด้วยรอยยิ้ม  ข้าตามสามีมาเพื่อที่จะเข้าไปยังเมืองหลวง โดยขณะนี้เรือจอดพักอยู่ ณ ท่าเรือซูโจวเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้ฮูหยินปลอดภัยแล้ว ข้าก็จำเป็นต้องขอตัวลากลับก่อน อีกทั้งยังมีคนกำลังรอข้าอยู่อีกด้วยน่ะเจ้าค่ะ! 

ฮูหยินกล่าวอย่างผิดหวังเล็กน้อย  เป็นเช่นนี้นี่เอง! ช่างน่าเสียดายจริงๆ ข้ากลับรู้สึกกับเจ้าราวกับว่าเคยเป็นสหายเก่ากันมาก่อน! 

 หากมีวาสนาต่อกันก็ย่อมได้พบเจอกันอีกแน่นอนเจ้าค่ะ ฮูหยินรีบนอนลงพักผ่อนเถิด! ท่านเพิ่งจะอาเจียนออกมาเป็นเลือดมากมายเสียขนาดนั้น ซึ่งเป็นการทำให้สูญเสียพลังและเลือดไปมาก ยังจำเป็นต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีๆ นะเจ้าคะ  หลินหลันประครองนางเอนกายนอนลง แล้วจึงลุกขึ้นพร้อมกับกล่าวลา

เหวินซานและหยินหลิ่วหลังจากกินมือกลางวันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พากันไปรอเส้าฟูเหรินที่ลานกว้างสำหรับรองรับแขก ไม่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์อันเกือบเอาชีวิตไม่รอดของเส้าฟูเหรินเลยแม้แต่น้อย

หลินหลันหลังจากจดรายการยาให้แล้วจึงกล่าวอธิบายอย่างละเอียดอีกรอบ ขณะนี้เองที่แม่ฉินรู้สึกศรัทธาในความสามารถของหลินหลันเป็นอย่างยิ่ง และซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลริน พลางตอบรับในแต่ละคำพูดที่หลินหลันบอกกล่าว

ท่านเจ้าเมืองเมื่อรับรู้ว่าที่หลินหลันใช้วาจาคำพูดอย่างไม่สุภาพไร้ซึ่งการเกรงอกเกรงใจนั้นก็เพื่อเป็นการรักษาฮูหยิน จึงแน่นอนว่าไม่มีการเอาผิดอันใดต่อนางแล้วยังออกมาส่งหลินหลันด้วยตนเองอีกด้วย นอกจากนั้นยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่องค์รักษ์ให้การคุ้มกันและส่งหลินหลันกลับไปขึ้นเรือ ซึ่งแน่นอนว่านางยังได้รางวัลห้าสิบเหลี่ยงทองนั่นติดมือมาด้วย

เมื่อออกมาจากที่ทำการและพักอาศัยของท่านเจ้าเมือง จึงพากันขึ้นไปนั่งบนรถม้าที่ทางเจ้าเมืองได้สั่งการคนให้เตรียมพร้อมเอาไว้ ขณะนั้นเองหยินหลิ่วจึงเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ  เส้าฟูเหริน ท่านสามารถรักษาฮูหยินของท่านเจ้าเมืองให้หายดีแล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ 

หลินหลันส่ายศีรษะไปมาอย่างภาคภูมิใจพลางตบลงบนกล่องที่อยู่ด้านข้างและกล่าวด้วยรอยยิ้ม  ห้าสิบเหลี่ยงทองอยู่ในมือทั้งหมดแล้ว เจ้าคิดว่าไงล่ะ 

หยินหลิ่วจ้องมองนายหญิงด้วยความชื่นชม  เส้าฟูเหริน ท่านช่างยอดเยี่ยมเสียจริงเลยเจ้าค่ะ นับว่าเป็นท่านปรมจารย์หมอยังว่าได้! 

หลินหลันหัวเราะแฮะๆ อย่างแฝงเอาไว้ด้วยความซุกซน  ปรมาจารย์หมอคงมิอาจเทียบเท่า เพราะความสามารถที่แท้จริงมีเพียงน้อยนิดเท่านั้นแหละ ที่เหลือก็อาศัยความโชคดีทั้งนั้น 

ที่หลินหลันพูดนั้นเป็นความจริง ทว่าหยินหลิ่วคิดว่านายหญิงของตนกล่าวอย่างถ่อมตน นางจึงยิ่งรู้สึกเคารพและนับถือเส้าฟูเหรินมากยิ่งขึ้น ในใจก็รู้สึกว่าเส้าเหยียช่างสายตายอดเยี่ยมเสียจริง แม้ใครๆ จะพูดกันว่าเส้าฟูเหรินนั้นมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย ไม่คู่ควรกับเส้าเหยีย มีเพียงเส้าเหยียที่มองออกว่าเส้าฟูเหรินแท้จริงแล้วคือไข่มุกล้ำค่าท่ามกลางดงทุ่งหญ้า

…..

บนเรือ กุ้ยซ่าวนำจดหมายส่งให้แม่โจว  ข้าเองก็ไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้เหมาะสมหรือไม่ เพียงแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ จึงนำจดหมายนี้กลับมาก่อนโดยไม่ได้คำนึกถึงความถูกผิด 

แม่โจวเปิดซองจดหมายออกมาดู และสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง  โชคดีที่เจ้านำจดหมายกลับมาได้ จดหมายฉบับนี้หากไปถึงมือของต้าเส้าหน่ายหนาย [2] ก็คงเป็นเรื่องแย่แน่ 

กุ้ยซ่าวตระหนกตกใจ  ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวรึ 

แม่โจวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม  เสี่ยวเจี่ยะรองอยากให้ต้าเส้าหน่ายหนายช่วยแพร่กระจายข่าวลือเสียหายในเมืองหลวงเกี่ยวกับเส้าฟูเหริน เพื่อเป็นการขัดขวางมิให้เส้าฟูเหรินได้เข้าไปในบ้านตระกูลหลี่ 

 นี่…พวกเขาคิดอะไรเยี่ยงนี้ออกมาได้ด้วยรึ  กุ้ยซ่าวรู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย

 เจ้าอย่าพูดเลยว่าความคิดเยี่ยงนี้นับได้ว่าเลวร้ายมากพอแล้ว การที่จะให้เส้าฟูเหรินเข้าไปในบ้านตระกูลหลี่โดยราบรื่นนั้นไม่ใช่เรื่องงาย มิเช่นนั้น เหล่าฟูเหรินก็คงไม่ให้เจ้าตามข้าเข้าเมืองหลวงมาด้วยหรอก หากต้องถูกพวกนางคอยรบกวนด้วยเช่นนี้ นั่นก็เป็นความยากที่ยากขึ้นไปอีกเสียแล้ว  แม่โจวกล่าวด้วยความรู้สึกหวั่นใจ

 แล้วเช่นนั้นจะทำอย่างไรดีหรือ 

แม่โจวนิ่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วจึงกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น  พวกเราคอยดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ ไปก่อนแล้วกัน พวกนางคิดว่าจดหมายฉบับนี้เมื่อถูกส่งออกไปแล้ว ตามการคาดการณ์ก็ยังต้องรอเวลาไปอีกสักระยะ 

——

[1] เจียติง (家丁) ในสมัยก่อนคนรับใช้ที่ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของบ้านใหญ่หรือข้าราชการเพื่อทำหน้าที่ปกป้องตนเองและทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร

[2] ต้าเส้าหน่ายหนาย (大少奶奶) คำเรียก ภรรยาของพี่ชายคนโต

 

ปฏิญญาค่าแค้น

ปฏิญญาค่าแค้น

Status: Ongoing

คำโปรย

หลินหลัน ทะลุมิติมาเกิดใหม่ในคราบของหญิงสาวชาวบ้านที่แสนลำบากยากจน แต่โชคยังดีที่ความสามารถด้านการแพทย์และประสบการณ์รักษาผู้คนที่สั่งสมมาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดนั้นติดตัวมาด้วย อีกทั้งครอบครัวในชาติภพนี้ก็ดีกับนางมิใช่น้อย

กระนั้นเคราะห์ร้ายก็ยังคืบคลานเข้ามา เมื่อพี่ชายผู้เป็นที่พึ่งพาเดียวของนางนั้นใสซื่อจนไม่อาจตามทันเล่ห์กลของพี่สะใภ้ที่แสนโลภมาก สุดท้ายแล้วหลินหลันก็ถูกนางบีบบังคับให้ต้องออกเรือนแต่งงานไปเป็นนางบำเรอจนได้

ด้วยเหตุนี้นางจึงต้องดึงตัว หลี่ซิ่วฉาย ชายหนุ่มรูปงามผู้มีเบื้องหลังเป็นปริศนาในหมู่บ้านเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ทั้งสองได้ตกลงทำสัญญาขึ้นมาหนึ่งฉบับ เขาช่วยนางให้หลุดพ้นจากการคลุมถุงชน ส่วนนางจะช่วยเขาแก้แค้นและทวงทุกสิ่งอย่างที่ถูกพรากไปกับคืนมาภายในระยะเวลาสามปี ทว่าแผนการช่วยเหลือเขาให้บรรลุเป้าหมายนั้นกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิดนี่สิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน