เมื่อจัดการตัวเองเสร็จ เวลาทุ่มครึ่งพอดี พลันคิดถึงนิสัยของเจาเยี่ยเมื่อชาติก่อน ไม่ว่าจะไปเข้าร่วมรายการไหน มักจะไปถึงสถานที่เพื่อสำรวจก่อนครึ่งชั่วโมงเสมอ กู้หลานอันก้าวเท้าก้าวใหญ่ไปที่ประตู ยื่นมือทั้งสองออกไปเพื่อผลักประตู เขายิ้มและเดินออกไปอย่างสง่างาม
เมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา ด้านนอกประตูยังเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจของผู้คน แต่ในขณะที่เขาก้าวเดินออกมา ทุกคนก็เงียบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย จะเพราะทึ่ง หรือประหลาดใจ หรืออิจฉา หรือสายตารังเกียจที่จับจ้องมายังใบหน้าที่งดงามของกู้หลานอัน เขาไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิด หากเป็นชาติที่แล้ว ได้รับการปฏิบัติแบบนี้ ต้องมีความสุขอย่างแน่นอน แต่ในวันนี้ เขาเพียงรู้สึกน่าขัน สิ่งที่แลกมาด้วยหน้าตาเพียงอย่างเดียว มันจะยั่งยืนสักแค่ไหน จะมีราคาเท่าไหร่กันเชียว
หืม เขาคือใครน่ะ หน้าตาดีมากๆ ไม่รู้ใครถามคำถามนี้ออกมา ชั่วครู่เดียวก็ดึงดูดความสนใจ เต็มไปด้วยการสนทนามากมาย ผู้คนเดาชื่อไปมากมาย แต่ไม่มีใครคาดคิดเลยซักคนว่าคนคนนี้คือกู้หลานอัน เขาค่อยๆยกมุมปาก มันช่างน่าขันเสียจริง คลุกคลีอยู่กับพวกเขาถึง 8 เดือน แต่กลับไร้ตัวตน คนเดียวที่ใส่ใจเขากลับเป็นคนที่อิจฉาริษยาอยากเหยียบเขาให้จม
ก็มีแต่เจาเยี่ยนี่แหละที่ดีกับเขาที่สุด ตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน ไม่เพียงไม่รังเกียจ กลับทำดีกับเขามาโดยตลอด เขาถอนหายใจอยู่ภายในใจ กู้หลานอันรีบเร่งก้าวฝีเท้า เมื่อคิดว่าใกล้จะได้เจอเจาเยี่ยแล้ว ท่าทางก็เริ่มกลับมาอ่อนโยน
ตามไทม์ไลน์ของชาติที่แล้ว เขาเจอเจาเยี่ยครั้งแรกที่เวทีประกาศรางวัลการแข่งขัน แต่เค้าไม่สามารถรอให้ถึงเวลานั้นได้อีกต่อไป เขาอยากเจอเจาเยี่ยใจจะขาดแล้ว
ไม่มีความทรงจำคอยช่วยเหลือ กู้หลานอันทำได้เพียงเดาว่า เขาอยู่ไหนโดยพึ่งพาข่าวสารที่ได้รับฟังมา ถึงแม้เขากับเจาเยี่ยจะยังไม่รู้จักกันในช่วงเวลานี้เมื่อชาติที่แล้ว แต่เขารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงนี้ของเจาเยี่ย เพราะข่าวนั้นน่ากลัวและเป็นที่สนใจของคนทั่วไปมาก……แม่ของเจาเยี่ยฆ่าพ่อตายเลยได้เข้าคุกไป บวกกับเจาเยี่ยมีตำแหน่งเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิง เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ทำให้เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์และเป็นพาดหัวข่าวดัง เป็นข่าวที่สั่นสะเทือนไปทั้งวงการ
พรุ่งนี้ฉันจะเป็นราชาซุปเปอร์สตาร์ เป็นรายการแรกที่เจาเยี่ยเข้าร่วมหลังจากพักจากวงการบันเทิงไประยะหนึ่ง ความรู้สึกส่วนใหญ่ในตอนนี้ของเขาคงแย่มากๆ สถานที่ที่เขาจะอยู่ในตอนนี้ น่าจะเป็นริมหน้าต่างไร้ผู้คนที่เขามักจะไปอยู่เวลาอารมณ์ดำดิ่ง
เขาลองคิดถึงที่ที่เจาเยี่ยน่าจะไป กู้หลานอันลองเดินวนไปริมหน้าต่างที่ผู้คนน้อยๆ ในที่สุดก็เห็นเจาเยี่ยที่กำลังยืนเหม่ออยู่ริมหน้าต่างจากมุมหนึ่ง เขาไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกในขณะนี้ว่าเป็นอย่างไร ดีใจ, ตื่นเต้น, รู้สึกผิด, สับสน, หรือคิดถึง ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด ไม่สามารถสาธยายออกมาได้เลย
อยู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบเหมือนมีคนจ้องเขาอยู่ เจาเยี่ยหันมาด้วยสีหน้าเย็นชา จึงเห็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตางดงามคนหนึ่ง ยืนดูเขาจากที่ที่ไม่ไกลมากนัก ใบหน้าแสดงออกด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง เหมือนจะดีใจ แต่ก็ไม่น่าใช่ ดวงตากลมโตเบิกโพลง น้ำตาไหลรินอาบแก้มไม่หยุด
เจาเยี่ยขมวดคิ้ว คิดว่าชายคนนั้นคงหลบมาร้องไห้ที่นี่ จึงคิดจะเดินจากไป พลันได้ยินชายคนนั้นเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความห่วงหาอาลัย
เจาเยี่ย มองดูเจาเยี่ยหันกลับมาแบบเงียบๆ สายตาเริ่มสำรวจไปทั่วทั้งตัว กู้หลานอันทนไม่ไหวจึงเรียกออกไป เมื่อเห็นเขามองตัวเองอย่างงงงวย กู้หลานอันรีบสูดจมูก เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว จากนั้นสวมกอดเขาไว้อย่างแนบแน่น
ปล่อยนะ เจาเยี่ยถูกกอดจนตัวแข็งทื่อ เขาพูดทันทีด้วยความรังเกียจ เนื่องจากถูกพ่อแม่ทำร้ายตั้งแต่เด็ก เขาจึงเกลียดการที่คนอื่นมาเข้าใกล้ตัวเขามากๆตั้งแต่เด็กเช่นกัน หากต้องเข้าฉากเพื่อแสดงมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทว่าเวลาปกตินั้นเขาจะรับไม่ได้เลยหากมีใครมาแตะโดนตัวแม้แต่นิดเดียว