ยังไม่ถึงสองทุ่มเลย รีบทำไมครับ? กู้หลานอันท่าทางไม่รีบร้อน เขาหาวไปฟอดใหญ่ ยืดตัวบิดขี้เกียจ
สะใภ้ของลูกมาถึงแล้วลูกยังไม่รีบอีก! ไม่แปลกใจเลยทำไมจนถึงตอนนี้ยังเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน สมควรแล้ว อันนาหยิบเสื้อผ้าใกล้มือได้ชุดหนึ่งแล้วโยนใส่ตัวเขา หากเป็นไปได้เธอไม่เต็มใจจะยอมรับเลยว่าเขาเป็นลูกชาย ไม่มีความบ้าบิ่นเหมือนเธอตอนสาวๆที่จู่โจมผู้ชายเอาซะเลย
ถ้าเขามาแล้วจริงๆ ผมจะยังอยู่ในสภาพนี้เหรอครับ? กู้หลานอันยักไหล่ แม่ เขาไม่มา ข้อความที่ผมเชิญเขามางาน เขาไม่ตอบกลับมาเลย
ใช่หรือ? เมื่อกี้แม่ตาฝาดไปเหรอ แต่เมื่อกี้เหมือนแม่เห็นคนใส่ชุดลำลองปกติคนหนึ่งชัด…… อันนายังพูดไม่ทันจบ กู้หลานอันก็กระโดดลงจากม้านั่งวิ่งพรวดออกไป กำลังจะลงตึก แต่ได้ยินอันนาตะโกน ลูกยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะ! ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง รีบวิ่งพรวดขึ้นมาในห้องนอน พุ่งเข้าไปในห้องน้ำจัดการล้างหน้าอย่างพิถีพิถัน จัดแต่งผมทรงอย่างตั้งใจ แล้วเดินออกมาเลือกเสื้อผ้า
สะใภ้มาแล้วมันก็ต่างกันเลยใช่ไหม? คุณชายหมื่นปีที่ไม่ค่อยออกบ้านเริ่มแต่งตัวเป็นแล้วสินะ อันนาหยอกล้อ กู้หลานอันยกมุมปากของเขาเมื่อหยิบเสื้อเทียบกับตัวซ้ำไปซ้ำมา ก่อนถาม แม่ ตัวนี้เป็นยังไงบ้าง?
ดูดี ลูกชายแม่ดูดี ใส่อะไรก็ดูดี หลักๆ ก็คือยีนของแม่ดี อันนาพูดไม่หยุด
กู้หลานอันลูบหน้าผากอย่างระอา วกกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดแล้วเดินออกมา มองอันนาที่สายตาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มพอใจ เลิกคิ้ว เดินไปที่หน้ากระจกตู้เสื้อผ้าแล้วส่องมันซ้ำไปซ้ำมา รอแทบไม่ไหวที่จะออกไปข้างนอก แต่ยังไม่ทันเดินออกจากห้องเขาก็หยุดฝีเท้า
มีอะไรเหรอ? อันนาที่เดินตามหลังมาต้องหยุดทันทีและถามด้วยความงงงวย
เสื้อผ้าชุดนี้ไม่เหมาะ กู้หลานอันพูดยังไม่จบ ก็หันกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง
ไม่เหมาะยังไง? แม่ว่าก็ดูดีทีเดียว อันนาพูด
เจาเยี่ยไม่ชอบเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของครอบครัว ผมยังใส่ชุดที่ดูทางการขนาดนี้อีก กู้หลานอันพูดอธิบาย ผมไม่อยากทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ
อย่างนี้นี่เอง อันนาครุ่นคิด พูดไปแล้วเมื่อกี้ที่แม่เห็นเขา เขาใส่ชุดลำลองปกติที่เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วแทบจะไม่เข้ากันเลย!
อะไรคือไม่เข้ากัน เขาแต่งแบบนั้นแหละเหมาะสมแล้ว เดิมทีมันเป็นงานเลี้ยงของครอบครัว แต่พวกพ่อกลับทำให้มันดูทางการใหญ่โต เหมือนสถานที่ไว้เชื่อมความสัมพันธ์ต่างๆ กู้หลานอันที่ฟังเธอพูดถึงสะใภ้ของตัวเองแล้วรู้สึกไม่พอใจและโต้กลับทันที
ใช่ๆ ลูกพูดได้ถูกต้อง สะใภ้ของลูกถูกเสมอ อันนาเออออห่อหมก พร้อมกล่าวชม ลูกเนี่ยใช้ได้เลยนะ มีความซื่อสัตย์เหมือนสุนัขซึ่งเป็นคุณลักษณะของฝ่ายรับ
ใครบอกว่าผมต้องเป็นฝ่ายรับ? มีลักษณะความซื่อสัตย์แล้วเป็นฝ่ายรุกไม่ได้เหรอ? กู้หลานอันรวบหมวกของชุดลำลองสีแดงที่สวมอยู่ แล้วเดินออกไป
ลูกไม่มีลักษณะความเป็นรุกเลยนี่นา? แอนนาเดินตามมาและวางมือของเธอไว้บนหน้าอกเขา มองเขาจากด้านบน ส่ายหัวและพูดด้วยความมั่นใจว่า หน้าตาสวยงามขนาดนี้เป็นรับแน่นอน
ถ้าเอาตามที่แม่พูด งั้นเจาเยี่ยไม่งดงามกว่าหรือครับ? กู้หลานอันรู้สึกไม่เห็นด้วย
No No No! อันนาส่ายนิ้วไปมา มันไม่เหมือนกัน อย่างเจาเยี่ยเขาเรียกว่าหล่อ เขามีลักษณะความงดงามของผู้ชายที่ถูกสลักออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ของลูกคืองาม เป็นความงามที่มีเสน่ห์เย้ายวนน่าหลงใหล
แต่ กู้หลานอันอยากจะแก้ต่าง แต่เพราะเขาเดินจนถึงหน้าฝูงชนแล้ว สายตาทั้งหมดต่างก็จ้องมาที่เขา เขาจึงเงียบปากลง
เมื่อเห็นกู้หลานอันและอันนาปรากฏตัวขึ้นจากมุมบันได ทำให้เหล่าผู้ชายที่กำลังถกเรื่องธุรกิจกันอยู่ และบรรดาผู้หญิงที่กำลังหัวเราะกระซิบกระซาบถึงการแต่งตัวของเจาเยี่ยอยู่นั้น ต่างก็เงียบเสียงลงพร้อมกัน
อันนามีความสุขกับความรู้สึกนี้มาก เงยหน้ายิ้มหวาน ดูสูงส่งและสง่างามดั่งเจ้าหญิง คิดถึงเมื่อก่อน เธอเคยติดอันดับ สามผู้หญิงสวยที่สุดของโลก แม้ว่าตอนนี้จะอายุมากแล้ว แต่เสน่ห์ของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย แต่หารู้ไม่ว่า ความเงียบที่เกิดขึ้นนี้ล้วนเป็นเพราะกู้หลานอัน