กู้หลานอันตะลึงกับน้ำเสียงอันเย็นชาของเขา เมื่อไม่แน่ใจก็มองดูเจาเยี่ยอีกครั้ง ถึงปกติจะไม่ค่อยยิ้มให้แต่ก็ไม่เคยดุเขาแบบนี้ เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกลับชาติมาเกิดใหม่ และเพิ่งพบกับเจาเยี่ยครั้งแรก การกระทำแบบนี้ดูหุนหันพลันแล่นเกินไปจริงๆ จึงรีบปล่อยเขาจากอ้อมอก ลูบหน้าตัวเองด้วยความตื่นตระหนก รีบตั้งสติและกล่าวขอโทษ ซุปเปอร์สตาร์เจา ขออภัยจริงๆ ฉันชื่นชมนายมาตลอด เมื่อได้เจอ ก็เก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ ถึงได้ทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้
ไม่เป็นไร เมื่อได้เห็นท่าทีของกู้หลานอันที่เปลี่ยนไป เจาเยี่ยหรี่ตาลงและพูดขึ้นเบาๆ ใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ แต่จากการที่ตัวเขาได้รู้จักกับเจาเยี่ยครึ่งปี กู้หลานอันรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเขาชัดเจน เจาเยี่ยโกรธซะแล้ว หลานอันเกาหัวด้วยความสงสัย และไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองทำอะไรผิดไป เมื่อเห็นเจาเยี่ยกำลังเดินจากไป เพราะความร้อนรน จึงรีบคว้าตัวเขาไว้ อย่าเพิ่งไป ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย
ปล่อย เจาเยี่ยปัดมือเขาทิ้งอย่างไร้ความปราณี เพราะตั้งแต่เขาและเพื่อนรักหลินเซวียนเริ่มเข้าสู่วงการ เพื่อนเขารวมถึงการ์ดก็กันคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้เขาได้ในระยะประชิด น้อยคนนักที่จะได้เเตะต้องตัวเขา เเต่ในวันนี้ คนคนนี้ละเมิดเส้นที่เขาขีดไว้ครั้งเเล้วครั้งเล่า เขาอดไม่ได้จริงๆที่จะเเสดงท่าทีโกรธเเบบนั้น
กู้หลานอันที่โดนปัดจนตัวเซ มองดูเจาเยี่ยด้วยความประหลาดใจ คิ้วสวยขมวดมุ่น เพราะชาติที่เเล้วกู้หลานอันไม่ได้รู้จักเจาเยี่ยเร็วขนาดนี้ เขาคาดไม่ถึงว่าเจาเยี่ยในตอนนี้กับเจาเยี่ยในเวลาที่รู้จักมักจี่สนิทกันเเล้ว จะต่างกันขนาดนี้ เช่นการถูกเนื้อต้องตัว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจาเยี่ยจะเกลียดการถูกเนื้อต้องตัวขนาดนี้ หากในตอนนี้เขาถูกตัวเจาเยี่ยไม่ได้เลย เเล้วจะเข้าใกล้เจาเยี่ยได้อย่างไร กู้หลานอันอดไม่ได้ที่จะคิดไปไกล
ในขณะที่กู้หลานอันตกอยู่ในภวังค์ของห้วงความคิด เจาเยี่ยก็กลับเข้าสู่โหมดปกติ เขาค่อยๆปัดเสื้อที่โดนหลานอันดึงเมื่อครู่ ก่อนจะพูดด้วยความสุภาพอ่อนน้อมหากห่างเหินว่า ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่ชอบให้ใครมาโดนตัว ว่าเเต่นายมีเรื่องอะไรรึเปล่า?
สติของกู้หลานอันกลับมาเพราะคำพูดของเจาเยี่ย เเต่กลับต้องอึ้งไปอีกครั้งกับคำถามของเขา ที่รั้งไว้เมื่อกี้ เขาเผลอพลั้งปากเพราะไม่อยากให้เจาเยี่ยเดินจากไปเท่านั้นเอง ไฉนเลยตอนนี้เขาจะมีเรื่องอะไรให้พูดด้วยกัน จะบอกเขาไปว่าฉันกลับมาเกิดใหม่งั้นหรือ? มีเเต่จะทำให้เจาเยี่ยคิดว่าเขาเป็นบ้าน่ะสิ
เมื่อคิดไปถึงเรื่องเกิดใหม่ เเววตาของหลานอันก็เปล่งประกายเมื่อคิดถึงคำพูดสุดท้ายที่เขาเอ่ยออกมาก่อนจะกระโดดตึก หลานอันอ้าปากกว้าง ตะโกนมันออกมาเหมือนคนที่เก็บความในใจไว้เเล้วอยากพูดออกมาให้คนรักฟัง เจาเยี่ย ที่ฉันรั้งนายเอาไว้ ฉันอยากจะบอกนายว่า ฉันชอบนายตั้งเเต่เเรกพบ ถึงเเม้คำพูดเหล่านี้ ฟังดูในชาตินี้จะดูปลอมไปบ้าง ถึงอย่างนั้นเมื่อชาติที่เเล้ว ตั้งแต่ที่เขาได้เห็นออร่าของเจาเยี่ยที่เดินมาเเต่ไกล หลานอันก็ตกหลุมรักเจาเยี่ยตั้งเเต่เเรกพบจริงๆ เพียงเเต่ในชาตินั้น เขารู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า ไม่คู่ควรกับเจาเยี่ย ตลอดเวลาที่ผ่านไปนั้น เขาไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป ต้องไขว่คว้าไต่เต้าจนสถานะของตัวเองเท่าเทียมกับเจาเยี่ยถึงกล้าบอกความในใจ เเต่ไม่เคยคิดเลยว่าการรอแล้วรอเล่า สุดท้ายจนถึงวันที่เขาตายก็ยังไม่มีโอกาสได้พูดให้เจาเยี่ยได้รับรู้ ในตอนนี้ที่พูดคำนี้ได้เอื้อยเอ่ยออกไป ถึงเเม้จะไม่ได้เขินอายเหมือนในตอนเเรก เเต่ความรู้สึกประหม่าตื่นเต้นก็ยังคงมีอยู่ชัดเจน
เจาเยี่ยรู้สึกตะลึงในสิ่งที่เขาพูด นอกจากจะไม่ประทับใจในการกระทำของเขาเเต่เเรกเเล้ว การกระทำนี้ทำให้เรื่องยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก ในวงการบันเทิงนั้น การมาบอกว่าชอบกรรมการก่อนการประกวด เหตุผลที่คิดได้มีเพียงหนึ่งเดียวคือหลานอันต้องการให้เจาเยี่ยสนับสนุนตนเองนั่นเอง
ฉันไม่ชอบการติดสินบน เขาเอ่ยทิ้งท้ายคำพูดนี้ด้วยน้ำเสียงต่ำๆ เจาเยี่ยมองก็ไม่มองกู้หลานอัน มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าเเล้วเดินจากไปอย่างไม่ใยดี
หา? กู้หลานอันถูกคำพูดของเจาเยี่ยทำให้อึ้งไป จะร้องไห้หรือหัวเราะก็ล้วนกระทำไม่ออกทั้งนั้น เขาอุตส่าห์บอกรักไปตรงๆ เเต่กลับถูกเข้าใจผิดว่าต้องการเอาตัวเข้าเเลกเพื่อให้ได้อยู่ในวงการบันเทิง เเต่คิดๆเเล้วมันก็ใช่ การกระทำเมื่อครู่ของเขามันดูประหลาดจริงๆ เเต่มันมีเพียงเหตุผลนี้ที่จะอธิบายในสิ่งที่เขาทำได้นี่นา เมื่อคิดได้เเบบนี้ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก พออารมณ์ดีขึ้น มองตามเเผ่นหลังของเจาเยี่ยที่เดินจากไปแล้วยิ้มออกมา สูดหายใจเข้าลึกๆ ตะโกนเสียงดังว่า เจาเยี่ย ที่ฉันบอกนายว่า นายคือรักเเรกพบของฉัน ไม่ได้เป็นเพราะฉันจะหลอกใช้นายเพื่อไปถึงฝัน ฉันเเค่ต้องการจะบอกนายว่า ฉันชอบนายจริงๆ และฉันจะตามจีบนาย
สำหรับเจาเยี่ย คำว่าชอบนั้นทำให้เขารู้สึกเอียนเหลือเกิน มีผู้คนมากมายที่พูดว่าชอบกับให้เขา พ่อเเม่ เเฟนเพลง เเฟนคลับ ดารา นับไม่ถ้วน ทว่าไม่เคยมีใครให้ความจริงใจกับเขาเลย พวกเขาล้วนหวังผลประโยชน์ ชายหนุ่มส่ายหัวเบาๆ จากนั้นเจาเยี่ยก็เชิดหน้าขึ้น ก้าวเดินต่อไปอย่างไม่เเยเเส
คำว่าชอบคำนี้น่ะ เขาไม่มีวันศรัทธาในตัวมันหรอก