ฉัน…… กู้หลานอันอึกๆ อักๆ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เจาเยี่ยก็ยิงคำถามที่สองตามมาแล้ว ยังมีอีก นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมานั่งตรงมุมนี้?
ฉันเดาเอา กู้หลานอันลูบผมให้เรียบและพูดอย่างสงบ นายมีบุคลิกที่เยือกเย็น แน่นอนว่าต้องชอบสถานที่ที่สงบและเหล้าที่มีเรื่องราวความเป็นมา
จริงเหรอ? งั้นทำไมต้องจำเพาะเจาะจงเลือกเซินไห่ล่ะ? เหล้าที่มีเรื่องราวมีเป็นพันเป็นหมื่นเลยไม่ใช่เหรอ? เจาเยี่ยไล่ถามทีละขั้น ตลอดชีวิตนี้เขาเกลียดคนที่คอยตามสืบเรื่องราวของเขาที่สุด เขาจะคอยดูว่าหลานอันจะเล่นลิ้นอย่างไร
เพราะว่าฉันชอบขวดนี้ไง เลยอยากให้นายลองดื่มดู กู้หลานอันพูดโกหกโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลย แต่อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาพูดความจริง แม้ว่าเขาแทบจะไม่เคยแตะแอลกอฮอลล์ แต่การชอบในสิ่งที่คนที่เขารักชอบก็เป็นความจริง
นายก็ชอบเหรอ? จู่ๆ เจาเยี่ยก็หันหน้ามาทางกู้หลานอันแล้วหัวเราะ ดวงตาเป็นประกายสุดๆ จนทำให้กู้หลานอันนึกขึ้นได้อย่างฉับพลัน เหมือนเมื่อชาติที่แล้วเลย ตอนที่พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เวลานั้นแม้ว่าเจาเยี่ยจะไม่ค่อยชอบหัวเราะ แต่เวลาที่เขาเอาแต่ใจตัวเอง เจาเยี่ยก็จะพยายามโอ๋ให้เขาหัวเราะ
งั้นดื่มแก้วหนึ่งเป็นไง? คำพูดของเจาเยี่ยทำให้กู้หลานอันได้สติ เขาอยากปฏิเสธ แต่เห็นเจาเยี่ยรินเหล้าไปแล้ว
ทำไม ไม่เต็มใจเหรอ? เจาเยี่ยมองสีหน้าลำบากใจของเขา ใจนึกอยากแกล้งหยอกเขาขึ้นมาทันที ถือแก้วเหล้าเขย่าวนไปมาเล็กน้อย แล้วเลิกคิ้วถาม หรือว่าไม่ชอบ?
ไม่ใช่ กู้หลานอันรีบส่ายหัว อยากบอกเจาเยี่ยว่าตัวเองคออ่อนแก้วเดียวก็จอดแล้ว และเวลาตอนนี้ไม่เหมาะที่จะดื่มด้วย แต่ก็กลัวว่าถ้าปฏิเสธเจาเยี่ยตั้งแต่ครั้งแรกแบบนี้จะทำให้ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาไม่ดี เลยแข็งใจ เป็นไงเป็นกันแล้วรับแก้วมา กลั้นใจดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว เดิมทีเขาอยากจะบอกกับเจาเยี่ยว่ายอดเยี่ยม แต่เพราะความรีบร้อนเกินไป ผลคือทำให้เขาสำลักไม่หยุด
นี่เป็นวิธีดื่มของคนที่ชอบเหรอ? แน่ใจนะว่าไม่ได้รังเกียจมัน? เจาเยี่ยคว้าแก้วเหล้าของเขาวางลงด้วยสายตาเย็นชา ถามกู้หลานอันคนที่หน้าแดงก่ำจนถึงหัวว่า พูดมา ทำไมต้องตามสืบเรื่องฉันด้วย?
ทำไมน่ะเหรอ? การมองเห็นของกู้หลานอันเริ่มพร่ามัว เขาส่ายหัวไปมา ทุกอย่างเริ่มไม่ชัดเจน การรับรู้สับสนเลือนราง อีกสักพักคงเริ่มลืมเรื่องราวตั้งแต่เกิดของตัวเองแล้ว พอไม่ทันได้ระวังก็เผลอพูดความจริงออกไปว่า เพราะว่าฉันชอบนายยังไงล่ะ พูดจบก็เอื้อมมือออกไปสัมผัสกับใบหน้าของเจาเยี่ยอย่างกล้าหาญ แล้วก็พูดซ้ำว่า ก็เพราะฉันชอบนายน่ะสิเจาเยี่ย ชอบนายที่สุด
เจาเยี่ยผลักเขาหล่นลงพื้นโดยอัตโนมัติ ขมวดคิ้วมองไปยังร่างที่ดูปวดหัวมือจับหน้าผากอยู่บนพื้น หรือว่าเขาจะได้เจอคนที่คนเขาพูดกันว่าเป็นพวกแก้วเดียวจอดเข้าแล้ว?
เจาเยี่ย นายไม่รักฉันแล้วเหรอ ทำไมถึงได้ผลักไสฉันแบบนี้ กู้หลานอันลุกขึ้นจากพื้น กัดริมฝีปากล่างและมองไปที่เจาเยี่ย สูดจมูกฟุดฟิดอย่างน้อยใจ และทันใดนั้นเขาก็ไปนั่งอยู่บนร่างของเจาเยี่ย เอื้อมมือออกไปโอบรอบคอของเจาเยี่ยแล้วเอียงศีรษะถาม นายพูดสิ หรือว่านายมีชู้อยู่ข้างนอกใช่รึเปล่า? ใคร? สวยกว่าฉันรึเปล่า? รักนายเท่าฉันรึเปล่า?
โอ้โห ลูกชายอย่างงั้นแหละ ทำได้ดีมาก อันนาที่เฝ้าสังเกตอยู่อีกด้านหนึ่งอดที่จะส่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้นไม่ได้ ยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม กุมมือคุณหนูข้างกายไว้แน่น
หืม? คุณน้าพูดว่าอะไรนะคะ คุณหนูที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าจู่ๆ ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ เลยถามอย่างไม่แน่ใจ
ไม่ๆๆ น้าบอกว่าไวน์ Lafite ในปี 1987 นี่มันดีมากเลย อันนาหัวเราะกลบเกลื่อน รีบแก้คำพูด ในใจได้แต่พร่ำบอกว่าจะไม่แอบดูแล้ว ขืนแอบดูต่ออีกอาจจะไม่สามารถควบคุมการหายใจของตัวเองได้ แถมจะถูกหาว่าเป็นโรคจิตอีกด้วย แต่สายตาเจ้ากรรมมันควบคุมไม่อยู่ลอยไปทางโน้นอีกแล้ว
กู้หลานอัน นาย…… เจาเยี่ยโดนกู้หลานอันคนที่ไม่กลัวตายจู่โจมอย่างกะทันหัน ผงะไปชั่วขณะ โมโหจนพูดไม่ออก อยากจะผลักเขาออกไปอีกครั้ง แต่ตัวหลานอันเหมือนทากาวน้ำไว้ แกะให้ตายยังไงก็แกะไม่ออก
ปล่อยฉัน แกะไม่ออกจนเจาเยี่ยต้องยอมแพ้โดยสิ้นเชิง พูดกับเขาอย่างคนที่ยอมรับชะตากรรม