เพราะว่าในสัญญาของคุณระบุไว้ว่าตลอดระยะเวลาใน 5 ปีนี้ห้ามมีความรัก แต่ผมทำไม่ได้ ผมมีคนที่ผมชอบ ผมอยากจะไปอยู่กับเขาเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ 5 ปีสำหรับผมมันยาวนานเกินไป กู้หลานอันยิ้มหวาน ราวกับว่าการปฏิเสธในครั้งนี้เหมือนได้มากกว่าเสีย
เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่รัก เธอถึงกับยอมปล่อยโอกาสที่จะได้เป็นซุปเปอร์สตาร์เลยงั้นหรือ? เธอเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า คิดให้ดี คนที่เราชอบสามารถมีกี่คนก็ได้ แต่โอกาสน่ะมันมีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ เพราะคำอธิบายของเขาทำให้ฝู่ผิงถึงกับอารมณ์ขึ้น ตะเบ็งเสียงใส่เขาด้วยความโกรธ
คนที่ผมชอบจะมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น เมื่อเทียบกับเขาเเล้ว ตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์ไม่มีความหมายอะไรเลย กู้หลานอันตอบเขาไปด้วยความสุภาพแต่หนักแน่น และไม่ได้สนใจเขาอีก หันตัวกลับมาเก็บข้าวของของตัวเอง
เธอนี่มัน! ช่างโง่จริงๆ! ฝู่ผิงด่าไปหนึ่งคำแล้วก็ไม่รู้จะด่าว่าอะไรต่อ เขาโยนสัญญาลงพื้น แล้วจากไปอย่างโกรธเคือง
เขาถึงกับยอมทิ้งตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์เพื่อคนที่เขารัก คนๆนี้ ไม่รู้ต้องบอกว่าเขาโง่หรือซื่อสัตย์กับความรู้สึกกันดีนะ เสียงของผู้จัดการทำให้เจาเยี่ยกลับมาจากห้วงเเห่งความคิด เขาเก็บสายตาของตัวเองกลับมา และไม่มีความเห็นกับสิ่งที่ผู้จัดการพูด พลางย่างเท้าเบาๆก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ กู้หลานอันคนนี้ยิ่งดูก็ยิ่งมองไม่ออกเลยจริงๆว่าเป็นคนยังไง ตอนแรกคิดว่าเขาคงจะใช้ตนเองเพื่อไต่เต้าขึ้นตำแหน่ง ดังนั้นจึงมาสารภาพรักกับเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ตอนนี้เขากลับละทิ้งโอกาสในการก้าวให้สูงขึ้นไป หรือว่าเขาจะชอบตัวเองจริงๆ? เจาเยี่ยคิดมาถึงตรงนี้แล้วก็ต้องหยุดความคิดนี้ไว้ เพราะรู้สึกว่ามันน่าตลก จะเป็นไปได้อย่างไรกัน
เจาเยี่ย ประธานหลินเพิ่งโทรมาบอกว่าให้นายไปพักผ่อนที่ที่พักของเขา นายจะไปไหม? หรือว่าจะไปโรงแรม ในขณะที่เจาเยี่ยเดินไปพลางคิดไปพลาง ผู้จัดการก็ถามขึ้น
ไปโรงแรม เจาเยี่ยตอบเสร็จก็ค่อยๆหลุบตาลงเล็กน้อย เพิ่งตระหนักได้ว่าเมื่อครู่เขามัวแต่เหม่อลอยเพราะเรื่องของกู้หลานอัน จึงรู้สึกค่อนข้างรำคาญใจ แต่ไม่นานก็กลับสู่อารมณ์ปกติ กู้หลานอันได้ปฏิเสธสัญญาจากตี้อวีไปแล้ว ดังนั้นเรื่องที่เขาจะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงและได้ร่วมงานกันนั้นมีโอกาสน้อยมาก หลังจากนี้พวกเขาก็จะเป็นเพียงคนเเปลกหน้า (ดีเเล้วละ ตอนนี้ก็ไม่ได้สนิทอะไรกัน) ในเมื่อเป็นคนเเปลกหน้า เช่นนั้นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็ถือซะว่าเป็นเรื่องตลกขำขันแล้วกัน
หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วออกจากห้อง ก็เห็นรถของเจาเยี่ยขับออกไปพอดี กู้หลานอันโบกมือไปมาตามทางที่รถผ่านไป เขาโบกมือลาเจาเยี่ย โบกมือจนมองไม่เห็นตัวรถแล้ว เขาถึงเอามือลง เก็บสายตากลับอย่างอาลัยอาวรณ์ อีกเหตุผลที่เขาปฏิเสธการเซ็นสัญญาคือไม่อยากอยู่ในกรอบที่ถูกวางไว้ ซึ่งมันสอดคล้องกับที่เขาปฏิเสธการเข้าสู่วงการบันเทิง การได้ไปอยู่ใกล้ๆกับเจาเยี่ยคือทางที่ตรงที่สุดแล้ว เขาต้องหาทางออกอื่น เช่นนั้นทางออกอีกทางอยู่ไหนล่ะ แน่นอนต้องเป็นพ่อผู้ร่ำรวยของเขานั่นเอง
พอนึกถึงพ่อ กู้หลานอันพลันถอนหายใจ นับตั้งแต่ชาติที่แล้ว พวกเขาไม่ได้พบหน้ากัน 6 ปีแล้ว
เหิงอันกรุ๊ป
ไปสอบถามมารึยัง? เซ็นสัญญาไปกี่ปี กู้ฝูเซิ่งผู้ที่กำลังดูคลิปรายการการแข่งขันของกู้หลานอันใน พรุ่งนี้ฉันจะเป็นราชาซุปเปอร์สตาร์ ที่ตัดต่อแล้วย้อนหลังอยู่ ถามเลขาฯที่ผลักประตูเข้ามาด้วยความใจร้อนแต่น้ำเสียงเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์
สอบถามมาแล้ว คุณชายกู้ ไม่ได้เซ็นสัญญาครับ เลขาฯตอบพร้อมรอยยิ้ม
ไม่ได้เซ็น? ทำไมล่ะ? กู้ฝูเซิ่งไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจได้ในขณะที่เขารู้สึกอารมณ์ดี เพื่อที่จะได้ร้องเพลงและแสดงละคร กู้หลานอันไม่ลังเลเลยที่จะตัดขาดจากเขา แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ช่างน่าตกใจจริงๆ
ตามที่ฝู่ผิงคนที่รับผิดชอบเรื่องการเซ็นสัญญาของคุณชายกู้กล่าวว่าเป็นเพราะว่าในสัญญาระบุไว้ว่าตลอดระยะเวลาทั้งหมดห้าปีนั้นไม่สามารถมีความรักได้ แต่คุณชายกู้มีคนที่ชอบอยู่แล้ว จึงไม่อยากรอจะไปรักเขาหลังจากหมดสัญญาห้าปี เลขาฯตอบ
ไร้สาระ! เพราะเหตุผลเพียงแค่นี้เองหรือที่ทำให้เขาถึงกับละทิ้งความฝัน? คิดถึงตอนแรกที่พ่อทั้งข่มขู่หลอกล่อสารพัดก็ยังไม่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจได้ คำพูดที่ต่อท้ายนั้นกู้ฝูเซิ่งไม่ได้พูดออกมา แค่รู้สึกอารมณ์เสียอยู่ภายในใจ เจ้าตัวล่ะ?
ซื้อตั๋วเครื่องบินเก้าโมงเช้าวันนี้ครับ น่าจะกลับมาถึงแล้วนะครับ
ยังกล้ากลับมาอีกหรือ? คอยดูถ้าฉันไม่จัดการเขานะ กู้ฝูเซิ่งพูดด้วยความเกรี้ยวกราด พร้อมลุกขึ้นก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า ยกเลิกกำหนดการวันนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องด่วนหรือไม่ด่วน ให้ส่งเรื่องไปหาผู้บริหารหลานทั้งหมด เขารีบร้อนกลับบ้านอย่างกระวนกระวายใจ