ผมก็เหลวแหลกมาตั้งนานแล้ว มีแค่เจาเยี่ยที่เป็นทางรอดของผม กู้หลานอันยกมุมปากขึ้นเหมือนยิ้มเยาะ ในดวงตามีความรู้สึกเหนื่อยล้าแฝงอยู่โดยไม่รู้ตัว พูดกับอันนาด้วยความเหนื่อยหน่ายว่า แม่ ผมไม่อยากฟันธงหรอกนะว่าที่แม่พูดเป็นเรื่องจริงหรือหลอก ไม่อยากจะไปตัดสินชี้ขาด และไม่อยากคาดหวังว่าแม่จะช่วยผมตามจีบเขาให้ติด ผมแค่หวังว่าแม่จะไม่มาขัดขวางพวกเรา ไม่อย่างนั้น ผมจะหาหนทางอื่นในการเข้าหาเขา
แม่รู้แล้ว อันนาดวงตาเบิกโตด้วยความเสียใจ ที่เธอพูดไปไม่ใช่เพราะเธอหวังดีต่อเขาเหรอ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ก็ปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอเป็นผู้หญิงชั่วร้ายแล้ว
ขอบคุณครับแม่ สิ้นเสียงกู้หลานอัน ซู่หยางวางสายแล้วก็เดินเข้ามา หน้านิ่วคิ้วขมวดมองดูเขาเป็นเวลานานแล้วพูดว่า หลานอัน เธอคงต้องวางแผนเส้นทางการแสดงของเธอใหม่แล้วล่ะ เมื่อสักครู่ฉันถามแล้ว ละครเรื่องล่าสุดที่เจาเยี่ยรับเล่น << ความฝันที่ล่องลอย >> พระ-นางคู่นำ พระ-นางคู่รอง มีครบหมดแล้ว
งั้นนักแสดงสมทบชายคู่สามหรือนักแสดงสมทบชายคู่สี่ล่ะ ถ้ายังไม่ได้อีกบทตัวประกอบที่เดินผ่านฉากก็ได้นะ ขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขา บทอะไรผมก็แสดงได้หมด คำถามของกู้หลานอัน ทำให้ซู่หยางรู้สึกอึ้งเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่ากู้หลานอันคนที่มีออร่าเจิดจรัสขนาดนี้เข้ามาในวงการบันเทิง คงต้องอยากเป็นนักแสดงนำชายแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อสักครู่นั้น เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเพื่อที่จะได้แสดงละครเรื่องเดียวกับเจาเยี่ยแล้ว เขาจะเต็มใจเป็นเพียงตัวประกอบเดินผ่านฉากในละครโดยไม่คำนึงถึงสถานะของตัวเองเลย
ถึงแม้นักแสดงสมทบสองยังคัดเลือกไม่ได้ และถึงเรารีบไปที่นั่นตอนนี้ผลก็คงออกแล้วแน่นอน เหลือแค่ดูว่าไปให้ทันคัดเลือกบทสมทบที่สามนี้หรือเปล่า สิ้นคำของซู่หยาง กู้หลานอันก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ซู่หยางและอันนาเห็นแล้วก็อึ้งจนอ้าปากค้าง ยังไม่ทันได้สติ ก็เห็นเขาหันตัวกลับมา ยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วถามด้วยเสียงเรียบว่า << ความฝันที่ล่องลอย >> คัดเลือกนักแสดงสมทบกันที่ไหนครับ
อาคารระหว่างประเทศ 13 ชั้น 13 ระหว่างเขต A13 ซู่หยางพูดจบ ก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วพูดกับกู้หลานอันว่า เธอไปที่นั่นครั้งแรกอาจจะหาไม่เจอ เดี๋ยวฉันให้หวังเว่ย (ผู้ช่วยผู้จัดการในชีวิตประจำวันของกู้หลานอันในอนาคต) พาเธอไป
ไม่ต้องหรอก อันนาหยุดซู่หยางไว้ ลุกขึ้นพลางปัดชุดของเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า คุณขับรถพาเขาไปเถอะ พวกเราก็ไปร่วมวงด้วยดีกว่า ฉันล่ะอยากเห็นลูกชายของฉันว่าจะเป็นพวกที่เก่งแต่ปากจริงรึเปล่า
ตามที่ซู่หยางคาดการณ์ไว้ การคัดเลือกบทสมทบสองเสร็จสิ้นไปแล้ว การคัดเลือกบทสมทบสามกำลังจะเริ่มขึ้น
เนื่องจากความรีบเร่งในการออกมา บวกกับที่เพิ่งมอบหมายงานเสร็จ จึงทำให้ไม่มีผู้ช่วยผู้จัดการและบอดี้การ์ดอยู่ข้างกายเลย เพื่อความปลอดภัย อันนายังไม่ถึงที่นั่นซู่หยางก็รีบโทรศัพท์ให้ผู้กำกับจางเจียยี่ของละคร << ความฝันที่ล่องลอย >> ทักทายพูดคุยกับอันนา พอถึงปุ๊บก็เดินตรงเข้าไปที่ห้องออดิชั่นอย่างเปิดเผย แต่กู้หลานอันก็เข้าห้องออดิชั่นไปเป็นลำดับท้ายสุด มีเสียงซุบซิบเกิดขึ้นภายใต้ใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็นนั้นมากมาย เขาเดินไปเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เมื่ออันนาเข้าไปในห้องออดิชั่นเป็นช่วงเวลาพักพอดี จางเจียอี้ที่วันนี้เข้ามาด้วยชูมือทักทาย ชี้ไปที่ที่นั่งข้าง ๆ แล้วพูดว่า เจ้าแม่การแสดงอันนามาแล้วเหรอ เชิญนั่ง
อืม อันนายิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขา พลางหรี่สายตามองหาคนที่กำลังพิงกำแพง ลืมตาไว้เพียงครึ่งหนึ่งแต่ไม่ได้มองอะไรเลย เดินเข้าไปจับกระโปรงแล้วนั่งลง พร้อมกล่าวขอโทษ ต้องขอโทษด้วยที่มากะทันหันแบบนี้ รบกวนแย่เลย
ไม่เป็นไร คนที่จัดเตรียมที่นั่งไว้ให้คุณคือเจาเยี่ย ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย จางเจียอี้พูดพลางมองเจาเยี่ยผู้มีความอ่อนน้อมถ่อมตนมาตลอดอย่างชื่นชม แล้วหันสายตาไปทางอันนาแล้วถามอย่างสงสัยว่า เจ้าแม่การแสดงอันนาไม่ใช่ว่าถอนตัวออกจากวงการแล้วเหรอ ทำไมจู่ ๆ ก็อยากมาดูพวกเราออดิชั่นนักแสดงที่นี่ล่ะ เมื่อสักครู่ที่ซู่หยางโทรศัพท์มาบอกว่าคุณจะมาผมยังนึกว่าเขาพูดชื่อผิดซะอีก
ฉันออกจากวงการแล้ว แต่กำลังเตรียมตัวกลับคืนวงการเร็ว ๆ นี้ เลยต้องโผล่หน้าไปทุกที่โดยปริยาย ซึมซับความรู้สึกที่มีอยู่ตอนนี้เพื่อจะได้หวนคืนสู่วงการอย่างมีอานุภาพ อันนาพูดพร้อมแลบลิ้น
พอแล้วมั้ง คุณยังต้องซึมซับความรู้สึกตอนนี้อีกเหรอ อย่างมีอานุภาพ ขอเพียงแค่คุณประกาศการหวนคืนสู่วงการ รับรองขึ้นพาดหัวข่าวทุกวัน จะให้คนคุ้นตาก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว คิด ๆ ดูถึงแม้ช่วงเวลาหลายปีมานี้คุณจะไม่ได้อยู่ในวงการ ชื่อเสียงยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับดารารุ่นเล็กทั้งหลายเหล่านั้น ไม่เห็นจะต้องใช้วิธีการเล็ก ๆ แบบนี้เลย จางเจียยี่พูดแล้วส่งสายตาเหยียดหยามให้อันนา
นี่คุณกำลังชมฉันใช่ไหม หรือว่ากำลังชมฉัน หรือว่ากำลังชมฉัน ใบหน้าอันนาเต็มไปด้วยความภูมิใจヽ (*^^*) ノ หางแทบจะกระดกขึ้นฟ้า เอาเถอะ ไม่ล้อคุณเล่นแล้ว พูดความจริงกับคุณก็ได้ ฉันมาที่นี่กะทันหัน ก็เพราะว่าลูกชายของฉันมาเข้าร่วมการออดิชั่น ฉันเลยตามมาดูการแสดงของเขาน่ะ
ลูกชายของคุณ จางเจียยี่ครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วถามว่า ใช่กู้หลานอันคนที่กำลังทำให้โลกอินเทอร์เน็ตร้อนแรงอยู่ตอนนี้คนนั้นไหม
อืม
สภาพร่างกายดีมาก โตมางดงามและละเอียดอ่อนกว่าคุณเยอะเลย การแสดงบนเวทีทรงพลัง เพลงก็ร้องได้ดีเยี่ยม ไม่รู้ว่าการแสดงจะเป็นอย่างไรบ้างนี่สิ จางเจียยี่ชื่นชมจบก็เอียงคอถามอันนาว่า แล้วเขามาออดิชั่นบทอะไรล่ะครั้งนี้
บทสมทบอันดับสาม อันนาหน้ามุ่ยตอบแบบไม่พอใจ
บทสมทบอันดับสาม? จางเจียยี่เริ่มตื่นเต้น นั่งตัวตรงแล้วพูดว่า อันนาลูกชายคุณคนนี้ไม่เลวเลย อยู่ในช่วงกำลังฮอตสุด
ๆ แต่ยังคงเสี่ยงเลือกเส้นทางการแสดง หาคนที่อยากมารับบทที่ไม่โดดเด่นมากเพื่อจะขัดเกลาการแสดงของตัวเองและยังไม่ยอมใช้ทางลัดแบบนี้ยากจริง ๆ
เขาอยากจะขัดเกลาการแสดงของตัวเองที่ไหนกันล่ะ ที่เขาทำทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการทำเพื่อตามจีบคนรัก ในใจไม่ยอมรับ แต่ใบหน้าอันนาก็เต็มด้วยความภาคภูมิใจแล้วพูดว่า มันแน่อยู่แล้ว นั่นน่ะเป็นลูกชายของอันนาเชียวนะ
ใช่ ๆ กรรมพันธุ์ดี
อันนากับจางเจียยี่คุยกันอยู่สักพักการออดิชั่นก็เริ่มขึ้น เดิมทีคะแนนการคัดเลือกขึ้นอยู่กับคะแนนรวมที่มาจากจางเจียยี่ เจาเยี่ย ผู้ช่วยผู้กำกับหลี่ฟู่และคนเขียนบท ตอนนี้อันนามานั่งแทนที่ตำแหน่งที่เตรียมเอาไว้ให้เจาเยี่ยตอนแรก จึงเปลี่ยนเป็นอันนาให้คะแนนแทน
หลังจากดูการแสดงของผู้เข้าคัดเลือกอย่างจริงจังและให้คะแนนพวกเขาแล้ว อันนาแอบเหลือบไปมองที่ใบหน้าที่จริงจังของเจาเยี่ย ตอนแรกก็เพราะเขาที่เป็นคนสละที่นั่ง ทำให้เกิดความรู้สึกดี ๆ เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เดิมทีเขาไม่จำเป็นที่ต้องมาเข้าร่วมการคัดเลือกนักแสดงนี้ แต่เขาก็มาและยังดูการแสดงของทุกคนจนจบอย่างจริง ๆ จัง ๆ ด้วย เป็นคนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งเลยทีเดียว ถ้ากู้หลานอันสามารถตามจีบจนแต่งเข้าบ้านได้ นั่นคงเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่มากจริง ๆ คิดไปเรื่อย ๆ อันนาก็คิดไปไกล โดยลืมไปหมดเลยว่าเมื่อวานหลังจากที่รู้ว่าเจาเยี่ยไม่ชอบกู้หลานอันลูกชายตัวเองก็เพิ่งตัดสินใจจะทำให้พวกเขาเลิกกัน
กู้หลานอันเป็นคนสุดท้ายที่จะได้เข้าออดิชั่น หลังจากดูการแสดงของผู้เข้าร่วมการคัดเลือกมากมายจนทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงผู้ช่วยผู้กำกับตะโกนว่า คนต่อไป เบอร์ 77 กู้หลานอัน รวบรวมจิตใจ นั่งตัวตรง คนทั้งหมดในนั้นต่างก็รอ รอดูคุณชายผู้ร่ำรวยคนนี้จะเปล่งประกายหรือเสียหน้าเอง
กู้หลานอันหยิบสคริปต์ของตัวเองที่จะใช้แสดงได้ก่อนที่ผู้ช่วยผู้จัดการจะเรียก 2 นาที เขารีบกวาดตาดูอย่างคร่าว ๆ พอได้ยินเสียงผู้ช่วยผู้กำกับเรียกชื่อของตัวเอง เขาก้าวเท้าเข้าไปอย่างมั่นใจ แต่พอมองเห็นคนที่กำลังยืนตัวตรงอยู่แถวกำแพงมุมห้องกลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เจาเยี่ยนี่ ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวอยู่ตรงนี้แล้ว!