บทที่ 60 ทำลายแผนการตระกูลอู๋อีกรอบ
โอ้ แกโทรศัพท์อีกแล้วงั้นเหรอ?
เมื่ออู๋เส้าฮัวเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานโทรศัพท์อีกแล้ว เขาก็เริ่มหวั่นใจ แต่เขาก็ปกปิดมันด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ตอนนี้บริษัทชงซานถูกฉันซื้อเอาไว้แล้ว มันไม่มีทางที่แกจะแก้ไขอะไรได้อีกต่อไป แกเลิกฝันไปได้เลยว่าใครจะช่วยแกได้!
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานได้รับการยืนยันจากเฉิงกัวอันแล้วว่าปัญหานี้จะแก้ไขได้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงมองไปที่อู๋เส้าฮัวด้วยสายตาราวกับดูตัวตลก
แกคงมั่นใจมากเลยสินะ? ไม่เป็นไรพวกเรามาดูกันต่อไป สักครึ่งวันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น!
ฮ่าฮ่าฮ่า ให้รออีกแล้ว?
อู๋เส้าฮัวพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน แต่ในใจของตอนนี้ เริ่มไม่แน่ใจมากกว่าเดิมเพราะรอบที่แล้วมันก็แบบนี้
หรือว่ารอบนี้ประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเหมือนเดิมอีก? ว่าแต่ด้วยวิธีแบบไหนกัน? ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน! ตอนนี้เขาซื้อบริษัทชงซานมาแล้วนะโว้ย!
หึ! ฉันรู้ว่าแกไม่มีทางทำอะไรได้หรอก แกแค่แสร้งทำล่ะสิท่า? อย่างที่ฉันบอกตอนนี้บริษัทชงซานถูกขายให้ฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันมีลายเซ็นของหลี่จิงเทียนยืนยัน ดังนั้นไม่ว่าใครก็ช่วยแกไม่ได้แล้วตอนนี้
อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจคำพูดของฝั่งตรงข้าม เขาเดินไปหาเก้าอี้ เพื่อนั่งรออย่างสงบ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าเฉิงกัวอัน จะใช้วิธีไหน ในการแก้ปัญหา แต่ในเมื่อเฉิงกัวอันบอกว่าแก้ได้ เขาก็จะเชื่ออย่างนั้น
แต่แล้วเมื่อเวลาครึ่งวันผ่านไป มันก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น…
ในเวลาเดียวกัน หลี่ชงซานที่ได้สติแล้วก็ถูกหามลงมาจาก ห้องพร้อมกับหมอที่เดินตามลงมาด้วยเป็นพรวน เมื่อเขาลงมาเขาก็ยังเห็นว่าตอนนี้สมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลยังคงไม่ไปไหน ยังรอกันอยู่ที่ห้องโถงเหมือนเดิม
ฉันไม่คาดหวังเท่าไหร่ว่ารอบนี้ฮ่าวหรานจะช่วยบริษัทชงซานได้… รอบนี้มันหนักหนาเกินไปจริง ๆ
อืม ฉันเห็นด้วย การที่ไอ้โง่หลี่จิงเทียนดันไปเซ็นสัญญาขาย แบบนั้น มันยากจริง ๆ ที่จะกู้บริษัทชงซานกลับมาได้
เฮ้อ ดูเหมือนว่านับจากนี้ตระกูลหลี่ของเราคงได้เปลี่ยนผู้นำตระกูลแน่ ๆ เลย
บรรดาสมาชิกตระกูลต่างซุบซิบกัน ไม่มีใครเลยที่คาดหวังว่า อวี้ฮ่าวหรานจะแก้ปัญหานี้ได้
อย่างไรก็ตามครั้งนี้พวกเขาไม่ได้โทษที่อวี้ฮ่าวหรานไร้ความสามารถ แต่พวกเขาโทษหลี่จิงเทียนที่ทรยศพวกเขาได้เจ็บแสบจริงๆ ทางด้านของหลี่หรง เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็น น่าเกลียดทันที โดยเฉพาะคำพูดที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนผู้นำตระกูล
เธอรู้ได้ทันทีว่าหลังจากเรื่องนี้ หลี่อิงไห่จะต้องกระโดดออกมาโจมตีพ่อของเธออย่างแน่นอนในประเด็นที่ไร้ความสามารถไม่สามารถควบคุมลูกชายของตัวเองได้ จนทำให้ตระกูลเดือดร้อนและอ้างสิทธิ์ ขอขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพ่อของเธอในท้ายที่สุด
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานยังคงสงบนิ่งรอดูสถานการณ์ต่อไป ราวกับไม่ทุกข์ร้อนอะไร
จากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ของอู๋เส้าฮัวก็ดังขึ้น
อู๋เส้าฮัวสีหน้าเปลี่ยนทันทีเมื่อได้ยินโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้น ในช่วงเวลานี้
นี่มันจะเหมือนกับรอบที่แล้วมากเกินไปแล้ว! มันไม่จริงใช่ไหม!?
เขากลั้นใจบอกให้บอดี้การ์ดของเขารับสายโทรศัพท์ให้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ภาวนาให้มันไม่เป็นแบบที่เขาคิด จากนั้นเขาสั่งบอดี้การ์ด ถือโทรศัพท์เอาไว้ให้เขาคุยเพราะเขาถือไม่ได้เนื่องจากมือหัก!
นายน้อยแย่แล้ว!
ในทันทีที่อู๋เส้าฮัวได้ยินแบบนี้ เขาแทบจะหลั่งน้ำตา เวรเอ๊ย เอาแล้วไง!
มีอะไร! ทำไมแกถึงไม่พูดมาทีเดียววะไอ้เวร แกจะชะงักกลางคันแบบนี้ทำบ้าอะไร!
ด้วยความหงุดหงิดอยู่แล้ว อู๋เส้าฮัวจึงตวาดด่าคนของเขาไป อย่างรุนแรง พร้อมกับเหลือบมองไปที่อวี้ฮ่าวหรานตลอดเวลา
ข…ขอโทษด้วยครับนายน้อย…เอ่อ…คือตอนนี้บริษัทชิวเฮิง กำลังโจมตีบริษัทในเครือของเราอย่างหนัก บ่ายที่ผ่านมาพวกเรา เสียบริษัทลูกของเราไป 3 บริษัทให้กับบริษัทชิวเฮิงแล้วครับนายน้อย!
3 บริษัทไหน?
เอ่อ…มี…บริษัทชิงกังและ…
ระยำเอ๊ย!
ในทันทีที่อู๋เส้าฮัวได้ยินชื่อบริษัทชิงกัง เขาสบถออกมาทันที เพราะบริษัทนี้คือบริษัทที่เขาใช้ถือทรัพย์สินของบริษัทชงซานทั้งหมด!
อู๋เส้าฮัวหันไปจ้องเขม็งที่อวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาเคียดแค้น
ไอ้เวรนี่มันเอาอีกแล้ว!
บรรดาสมาชิกตระกูลหลี่เมื่อเห็นท่าทีของอู๋เส้าฮัวเช่นนี้ พวกเขาก็พอจะเดาออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น
พระเจ้า! อวี้ฮ่าวหรานทำสำเร็จอีกแล้วงั้นเหรอ?
มันเป็นไปได้ยังไง ไหนว่าสัญญาซื้อขายเซ็นไปแล้วไม่ใช่เหรอ?
เขาทำได้ยังไงกันมันเกิดอะไรขึ้น?
ในห้องโถงตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง ไม่มีใครคิดเลยว่า อวี้ฮ่าวหรานจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แบบนี้ให้สำเร็จได้จริง ๆ
อู๋เส้าฮัวแทบจะเข่าอ่อนเมื่อเห็นผลลัพธ์ออกมาแบบนี้
อวี้ฮ่าวหรานมันทำแบบนี้ได้ยังไง? มันใช้ให้บริษัทชิวเฮิง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทเวชภัณฑ์ซานฮ่วยอันของเฉิงกัวอันมาช่วยแบบนี้ได้ยังไง?
ก่อนหน้านี้เฉิงกัวอันไม่เคยเล่นงานอะไรตระกูลอู๋ของเขาเลย แต่ตอนนี้จู่ ๆ กลับมาเล่นงานตระกูลของเขาแถมยึดบริษัทของตระกูลเขาไปถึง 3 บริษัทในเวลาที่เหมาะเจาะแบบนี้ สาเหตุของเรื่องนี้มันมีแค่ อย่างเดียวแน่นอนซึ่งก็คือ… อวี้ฮ่าวหราน!
เห็นได้ชัดว่าอวี้ฮ่าวหรานมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับ เฉิงกัวอัน แน่นอนไม่งั้นการโทรเพียงแค่ครั้งเดียวมันคงไม่ทำให้เฉิงกัวอันทุ่ม สุดตัวขนาดนี้
แกอีกแล้ว!
อู๋เส้าฮัวอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดังลั่นใส่อวี้ฮ่าวหรานด้วยความเคียดแค้น
รอบที่แล้วก็พ่อเขา มารอบนี้ก็เป็นเขาอีกที่ล้มเหลว
มันเป็นเพราะไอ้คน ๆ นี้คนเดียว! มันเป็นเพราะไอ้อวี้ฮ่าวหราน คนเดียว!
การที่เห็นว่าชัยชนะของตัวถูกชิงไปต่อหน้าต่อตาทำให้อู๋เส้าฮัวโกรธจนคลั่ง
ด้วยความคลั่ง เขาลืมความกลัวทั้งหมดและวิ่งตรงดิ่งไปหา อวี้ฮ่าวหราน ถึงแม้ว่ามือของเขาจะหัก แต่เขาก็ยังมีปาก! เขาจะต้อง กัดคอไอ้สารเลวที่ขวางทางเขาอยู่ตลอดคนนี้ให้ได้!
พลั่ก!!
อวี้ฮ่าวหรานเตะส่งอู๋เส้าฮัวที่กำลังวิ่งเข้ามากระเด็นกลับไปที่เดิมด้วยสีหน้าขบขัน
จู่ ๆ ก็วิ่งมาหาเขาเหมือนหมาบ้างั้นเหรอ? ถ้างั้นก็โดนเตะสักหน่อยเป็นไง!
อวี้ฮ่าวหรานจงใจออมแรงเตะแค่ให้อู๋เส้าฮัวบาดเจ็บมากกว่าเดิมจนต้องนอนโรงพยาบาลเท่านั้นซึ่งมันก็ได้ผล จากการโดนเตะเมื่อครู่ กระดูกซี่โครงของอู๋เส้าฮัวหักไปหลายซี่ซึ่งมันเจ็บปวดจนเขาหมดสติไปในทันที
บรรดาบอดี้การ์ดของอู๋เส้าฮัวรีบมาพยุงเจ้านายของตัวเอง อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่กล้าเหลือบไปมองอวี้ฮ่าวหรานแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้ที่คฤหาสน์ตระกูลอู๋ พวกเขาเองได้เห็นแล้วว่า อวี้ฮ่าวหรานนั้นน่ากลัวแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความคิด ที่จะท้าทายเทพปีศาจผู้นี้แน่นอนต่อให้เจ้านายของพวกเขาจะสั่งก็ตาม!
จากนั้นบรรดาบอดี้การ์ดของอู๋เส้าฮัวก็รีบพาเจ้านายของตัวเองออกไปจากบ้านของตระกูลหลี่อย่างรวดเร็ว พวกเขาสับเท้าวิ่งหนีตายเหมือนกับกลัวว่าใครจะตามล่าพวกเขายังไงยังงั้น
หลังจากกลุ่มของอู๋เส้าฮัวจากไป… ห้องโถงของบ้านตระกูลหลี่ ก็เงียบสงบลงอีกครั้ง
ภาพที่พวกเขาเห็นคือภาพอู๋เส้าฮัวถูกหิ้วปีกออกไปอย่างน่าอนาถ…ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาตกตะลึง
เขยของตระกูลพวกเขาทำไมถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!
ทุกคนต่างรู้สึกเบิกบานในใจเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ถูกคลี่คลายได้อย่างสมบูรณ์ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่รู้รายละเอียด อะไรก็ตาม
อันที่จริงมีแม้กระทั่งบางคนที่เริ่มเทิดทูนในตัวอวี้ฮ่าวหราน จนอยากจะให้เขาขึ้นแท่นเป็นผู้นำตระกูลหลี่ด้วยซ้ำ
ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่ได้สนใจสายตาชื่นชม หรือเทิดทูนจากผู้คนของตระกูลหลี่แม้แต่น้อย
อวี้ฮ่าวหรานเหลือบดูนาฬิกาที่หน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง
เอ๊?
นี่มันใกล้จะถึงเวลาถวนถวนเลิกเรียนแล้วนี่นา!
เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานรีบวิ่งออกไปขึ้นรถของเขาทันที!