ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸] – บทที่ 254 เอาคืนอย่างสาสม

บทที่ 254 เอาคืนอย่างสาสม

บทที่ 254 เอาคืนอย่างสาสม

เช้าวันต่อมา

เวลาราว 8 โมง กัวหย่งซินนั่งอยู่เบาะหลังของรถพร้อมกับเลขาอาหลิง ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน

แน่นอนว่าเขากำลังนั่งรถไปที่บริษัทของตัวเอง

 อาหลิง คืนนี้เธออย่าลืมบอกให้คนของเราเอาพวกเศษวัสดุก่อสร้างไปทิ้งเอาไว้ที่หน้าทางเข้าบริษัทของอวี้ฮ่าวหรานอีกรอบ แต่รอบนี้เพิ่มเศษวัสดุเข้าไปอีกเท่าตัว! ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานไอ้เด็กนั่นจะต้องมาคุกเข่าอ้อนวอนฉันแน่นอน! 

เมื่อคิดถึงความสะใจในเรื่องเมื่อวาน กัวหย่งซินก็หัวเราะอย่างร่าเริง

 ได้ค่ะท่านประธาน ในเมื่ออวี้ฮ่าวหรานไม่ไว้หน้าเรา ถ้างั้นเราก็ต้องสั่งสอนให้หนัก ให้รู้ว่าเราไม่ใช่คนที่เขาจะปฏิเสธได้ง่าย ๆ! 

อาหลิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มสะใจเช่นกัน

 หืม? นั่นมันอะไรวะน่ะ!? 

อย่างไรก็ตาม เมื่อรถของกัวหย่งซินขับไปถึงหน้าทางเข้าบริษัทของตัวเอง เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่ากำแพงรั้วของบริษัทตัวเองถูกพังจนราบเป็นหน้ากลอง

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนที่รถของเขาขับผ่านประตูทางเข้าเข้าไป เขาก็ต้องประหลาดใจมากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าพนักงานของเขานับร้อยต่างยืนล้อมมุงดูตึกสำนักงานอย่างห่าง ๆ และแน่นขนัดด้วยสีหน้าสับสน แถมไม่มีใครมีท่าทีว่าจะเดินเข้าไปทำงานอีกต่างหาก

หลังจากรถหยุด กัวหย่งซินรีบลงจากรถในทันที และเดินมุ่งหน้าไปยังกลุ่มพนักงานและตะคอก

 พวกแกยืนทำบ้าอะไรกันอยู่ตรงนี้ ทำไมถึงไม่เข้าไปเตรียมตัวทำงาน? 

 เอ๊ะ? ท…ท่านประธาน! 

บรรดาพนักงานสะดุ้งโหยงทันทีเมื่อได้ยินเสียงด่าของเจ้านายตัวเอง แต่ถึงแม้ว่าจะโดนด่า พวกเขาก็ยังไม่ขยับไปไหน พวกเขาเอาแต่เหลือบมองสลับไปมาระหว่างกัวหย่งซินและตึกสำนักงาน

ในตอนแรก กัวหย่งซินไม่เข้าใจว่าทำไมพนักงานถึงแสดงสีหน้ากันแบบนั้น เพราะเขายังไม่เห็นผลงานหลักที่อวี้ฮ่าวหรานทำไว้เนื่องจากด้วยความหนาแน่นของจำนวนคนที่ล้อมรอบตึกสำนักงาน

แต่เมื่อเขาเดินแหวกวงล้อมของพนักงานเข้าไปดูจุดที่พนักงานกำลังมองดูอยู่บริเวณรอบตึกสำนักงาน ก็ถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงและแทบจะเป็นลม!

ขณะนี้ดินรอบตัวตึกสำนักงานทั้งหมดถูกขุดลึกหายไปถึงสามเมตรและกว้างถึงห้าเมตร! มันดูราวกับว่าตึกสำนักงานของเขาถูกใครที่ไหนก็ไม่รู้ขุดคูคลองล้อมรอบคล้ายกับจะทำให้กลายเป็นเหมือนป้อมปราการในสมัยอดีต!

แต่นี่มันคือยุคปัจจุบัน และตึกของเขาไม่ใช่ป้อมปราการ มันคือตึกสำนักงานที่ถูกสร้างให้คนเข้าไปทำงานก็เท่านั้น!

ที่เลวร้ายที่สุดคือผู้ที่ขุดจงใจขุดลึกกินเข้าไปถึงเสาโครงสร้างตึกที่ถูกฝังเอาไว้ใต้ดินจนเห็นเป็นต้น ๆ อย่างชัดเจน ซึ่งการทำแบบนี้มันย่อมทำให้โครงสร้างของตึกไม่มั่นคงเป็นอย่างมาก

สรุปแล้วคือพวกเขาไม่มีทางเข้าไปทำงานในตึกสำนักงานได้ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน!

 อ๊ากกก!!! ใครแม่งเป็นคนทำ! อ๊ากกก ฉันจะฆ่ามัน!!! ใครแม่งเป็นคนทำ!!! 

เมื่อได้สติ กัวหย่งซินก็ตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความโมโหและเคียดแค้นสุดขีด

แต่แล้วจู่ ๆ ภาพหน้าของอวี้ฮ่าวหรานก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขาอย่างฉับพลัน

ช่วงนี้เขาไม่ได้ไปหาเรื่องใครเลยนอกจากคน ๆ เดียว ดังนั้นมันต้องไม่ใช่ใครอื่นแน่นอนนอกจากอวี้ฮ่าวหราน!

 เป็นมันแน่ ๆ! บัดซบ! มันกล้าทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง!? 

ขณะนี้สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงไม่หลงเหลือความร่าเริงเหมือนตอนอยู่บนรถเลยแม้แต่น้อย

อันที่จริงความเลวร้ายในขณะนี้มันยังไม่สิ้นสุด หลังจากผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เสาสองสามต้นของตึกสำนักงานก็เริ่มส่งเสียงปริแตกดังลั่นและจากนั้นต่อมาไม่นานเสาเหล่านั้นก็หักลง ส่งผลให้ตัวตึกเริ่มเอียงไปราวสิบองศา!

ภาพนี้ทำให้พวกพนักงานของกัวหย่งซินส่งเสียงกรีดร้องในทันที

 น…นี่ มันกำลังจะโค่นลงมาหมดใช่ไหม? แบบนี้เราคงเข้าไปทำงานไม่ได้แน่นอน! 

 พระเจ้า! ดูนั่นสิ เสาต้นนั้นเริ่มมีรอยร้าวเกิดขึ้นบ้างแล้ว! ไปเร็ว พวกเรารีบวิ่งออกจากตรงนี้กันก่อน ไม่งั้นตึกอาจจะถล่มมาทับเราตายกันหมด! 

 ไปเร็วพวกเรา รีบถอยห่างก่อนเร็ว! 

 … 

แน่นอนว่าเมื่อเห็นเสามันเริ่มปริแตกทุกคนจึงหวาดกลัวและถอยหนีกันจ้าละหวั่น

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเข้าไปทำงานข้างใน แค่เข้าไปใกล้ตึกยังไม่มีใครกล้าเลยตอนนี้!

สิบโมงเช้า อวี้ฮ่าวหรานก็เข้าไปทำงานในบริษัทของเขาตามปกติ

ในทันทีที่เห็นหน้าอวี้ฮ่าวหราน ผู้จัดการหวังเดินยิ้มแฉ่งเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียเบิกบาน

 ท่านประธาน! ท่านอาจจะยังไม่รู้ แต่มีข่าวใหญ่มาก ๆ ที่ท่านน่าจะยินดี! 

 ข่าวอะไรงั้นเหรอ? 

 ฮ่าฮ่า ไอ้กัวหย่งซิน มันคงหาเรื่องคนไปทั่ว จนเมื่อเช้านี้มีคนแก้เผ็ดมันโดยการไปขุดดินรอบตึกสำนักงานบริษัทของมันและทำให้เสาเข็มเสียหายจนตอนนี้ตัวตึกสามารถถล่มได้ทุกเมื่อ! 

ผู้จัดการหวังรู้สึกสะใจกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก เพราะเมื่อวานอีกฝ่ายได้ใช้วิธีที่น่ารังเกียจกับเจ้านายของเขา

อวี้ฮ่าวหรานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาด้วยความสะใจเมื่อได้ยินข่าวนี้

มันสมควรแล้ว! ไอ้กัวหย่งซิน มันเล่นสกปรกกับเขาก่อน ดังนั้นจึงต้องเอาคืนมันเป็นสิบเท่า!

 ไปกัน ไปดูรายละเอียดข่าวนี้เพิ่มกันดีกว่า 

หลังจากหัวเราะจนพอใจแล้ว อวี้ฮ่าวหรานเดินนำผู้จัดการหวังไปที่ออฟฟิศของเขาเพื่อติดตามข่าวนี้ต่อด้วยความเบิกบาน

ในเวลาเดียวกัน ขณะนี้กัวหย่งซินกลับมาถึงคฤหาสน์ของตัวเองแล้วและกำลังนั่งกุมขมับด้วยสีหน้ามืดมนอยู่บนโซฟา

เขาไม่นึกเลยว่าอวี้ฮ่าวหรานจะตอบโต้เขาอย่างรุนแรงขนาดนี้ เขาแค่เอาวัสดุก่อสร้างไปทิ้งกีดขวางทางเข้าบริษัท แต่อีกฝ่ายกลับตอบโต้ด้วยการพังตึกเขาซะงั้น!

ต้องรู้ว่าเอกสารข้อมูลการค้าหรือสัญญาต่าง ๆ ถูกเก็บเอาไว้ในตึกสำนักงานทั้งหมด ดังนั้นเมื่อไม่สามารถเข้าไปในตึกได้มันก็หมายความว่าธุรกิจของเขาไม่สามารถดำเนินงานต่อได้ นี่นับเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจนเขาแทบกระอักเลือด!

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ในที่สุดกัวหย่งซินก็ตัดสินใจโทรออกไปหา หลิ่วอวี้จิง หัวหน้าแก็งค์วาฬยักษ์

ในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้างั้นเขาต้องแก้แค้นให้เด็ดขาด!

ในทันทีที่ปลายสายอีกฝั่งรับสาย กัวหย่งซินเอ่ยถามขึ้นทันที

 พี่หลิ่ว พี่จำเรื่องแก้แค้นรอบที่แล้วที่ผมเล่าให้พี่ฟังได้ไหม? พี่ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว? ทำไมตอนนี้ไอ้นั่นมันยัง… 

 หุบปากแกไปเลย! ไอ้คนที่แกพูดถึงมันเพิ่งทำให้หัวหน้าสาขาของฉันสองคนและลูกน้องอีกเป็นสิบเข้าโรงพยาบาลไปหมาด ๆ แกคิดว่าฉันไม่อยากฆ่ามันหรือไง? แกคิดว่าการฆ่าไอ้ตัวประหลาดนั่นมันง่ายนักเหรอ? และยิ่งไปกว่านั้นแกรู้รึเปล่าว่ามันสนิทกับหวังเหยียน จนแก๊งพยัคฆ์เวหาส่งคนไปช่วยมันเป็นร้อยเพื่อถล่มบ่อนของฉันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้! 

ก่อนที่กัวหย่งซินจะทันได้พูดจบ หลิ่วอวี้จิงก็ตะคอกกลับมาก่อนด้วยน้ำเสียงเดือดดาล

สีหน้าของกัวหย่งซินยิ่งมืดมนมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินอวี้ฮ่าวหรานต่ำเกินไปมาก!

การที่แก๊งพยัคฆ์เวหาสนับสนุนอวี้ฮ่าวหรานมากขนาดนี้มันเป็นไปได้ว่า เครือฮ่าวหรานคือส่วนหนึ่งของแก็งค์พยัคฆ์เวหา!

อย่างไรก็ตาม หลังจากครุ่นคิดอยู่อีกพักใหญ่ กัวหย่งซินก็ยังไม่อาจปล่อยวางความแค้นนี้ลงได้

 พี่หลิ่ว เอาแบบนี้ดีกว่า ในเมื่อทั้งพี่และผมต่างก็แค้นไอ้อวี้ฮ่าวหรานไม่ต่างกัน ดังนั้นพวกเรามาร่วมมือกันเลยเป็นไง? ผมคิดว่าถ้าโจวเฟยหู่รู้ว่าเราร่วมมือกัน ต่อให้มันจะอยากปกป้องอวี้ฮ่าวหรานมากขนาดไหน มันก็คงต้องชั่งใจบ้างไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามกับเราทั้งคู่ 

หลิ่วอวี้จิงเมื่อได้ยินเช่นนี้เขาเงียบไปเพื่อครุ่นคิดอย่างจริงจังและหลังจากพักใหญ่เขาก็ตอบตกลง  ได้! นับจากนี้ฉันยินดีร่วมมือกับแกเพื่อจัดการไอ้เด็กเวรนั่น! 

 ถ้างั้นหากผมต้องการความช่วยเหลืออะไร ผมจะรีบโทรไปทันที! 

กัวหย่งซินตอบกลับก่อนที่จะวางสายไปด้วยดวงตาเป็นประกาย และต่อจากนั้นเขากดโทรออกไปอีกครั้ง

 ไอ้สารเลว แกจะต้องชดใช้กับสิ่งที่แกทำลงไป! แกเตรียมตัวตายได้เลย! 

แน่นอนว่าคนที่กัวหย่งซินโทรไปหาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอวี้ฮ่าวหราน เขาตะคอกใส่โทรศัพท์ทันทีที่ปลายสายอีกฝั่งรับสาย

 ชดใช้? ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดเท่าไหร่นะคุณกัว ชดใช้อะไรงั้นเหรอ? หึหึ 

อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ เขาอดที่จะสะใจไม่ได้เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เดือดดาลของกัวหย่งซิน

 

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

Status: Ongoing
ในที่สุด… มหาจักรพรรดิแห่งมวลเทพ ‘อวี้ฮ่าวหราน’ ก็สามารถกลับมาที่โลกได้สำเร็จ.. ! 3 หมื่นปี เขาต้องติดอยู่ในดินแดนแห่งเทพเจ้านานถึง 3 หมื่นปีหลักจากตกหน้าผาและเกิดใหม่ในดินแดนเหนือจินตนาการ !!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท