เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 49 สารภาพ

ตอนที่ 49 สารภาพ

ตอนที่ 49 สารภาพ

 เด็กโง่เหตุใดถึงยังไม่กลับบ้าน! มันดึกมากแล้ว!  น้ำตาของแม่เจิ้นไหลรินหล่นลงมา

ซูต้าเฉียงเองก็มองไปที่ซูหวานหว่านพร้อมกับพูดตำหนิออกมา  เหตุใดวันนี้เจ้าถึงมาที่ภูเขาด้านหลัง ทั้งยังเดินมาไกลนัก! 

 ท่านพ่อ!  ซูหวานหว่านตื้นตันใจ พลันใดก็สะอื้นร้องไห้ขึ้น  ข้าได้ยินมาว่าไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้ ข้าเลยคิดว่าผักในป่าบริเวณนี้น่าจะงดงาม ข้าก็เลย… ข้าก็เลย… 

ซูต้าเฉียงถอนหายใจ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์มากพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า  ในภายภาคหน้า ข้าจะทำให้ครอบครัวของพวกเรามีกินมีใช้ไม่อดยาก มีเสื้อผ้าดี ๆ ให้พวกเจ้าได้ใส่ จะไม่ปล่อยให้พวกเราต้องใช้ชีวิตลำบากเช่นนี้ต่อไปอีก! 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชาวบ้านต่างหัวเราะออกมาทันที  ตอนนี้พวกเราพบลูกคนสาวของเจ้าแล้ว รีบกลับบ้านไปพักผ่อนกันเถอะ! นี่มันก็ค่ำมืดแล้ว! 

 ขอบคุณพวกท่านทุกคนมาก  ซูต้าเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับจับมือของซูหวานหว่านและแม่เจิ้นเดินทางกลับบ้าน

ซูหวานหว่านได้หันไปมองทางทิศที่ฉีเฉิงเฟิงหลบซ่อนตัวอยู่ เมื่อนางกำลังจะเดินทางกลับบ้าน ในใจก็เกิดความรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเพราะเป็นห่วงฉีเฉิงเฟิง

ฉีเฉิงเฟิงไม่สามารถจะออกมาจากภูเขาได้ในตอนนี้ และคาดว่าเขาจะต้องอยู่ที่นี่เพียงลำพังในคืนนี้ นางเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าที่หลังภูเขานี้มันอันตรายมากแค่ไหน

ซูหวานหว่านรู้สึกเสียใจ เมื่อนางนึกถึงความปลอดภัยของฉีเฉิงเฟิงทั้งยังมาได้ยินถึงเรื่องที่ชาวบ้านพูดกันอีก ทำให้รู้สึกอ่อนไหวขึ้นมา

 นี่ ๆ ข้ามักจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องหมาป่าและเสือที่ด้านหลังภูเขาแห่งนี้ เดิมทีข้าก็เชื่อครึ่งหนึ่ง ไม่เชื่อครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อได้เข้ามาในวันนี้ ทั้งยังเดินเข้ามาลึกมากกลับไม่พบอะไรเลย! ตรงกันข้ามข้าคิดว่าผักในป่าลึกนี้กำลังเติบโตเบ่งบานน่ากินมาก อีกทั้งยังมีไก่ป่าด้วย! 

 งั้นพวกเราเข้ามาดูกันใหม่ในเวลากลางวันกันดีหรือไม่? 

 ….. 

ชาวบ้านต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดที่ชาวบ้านต้องพักผ่อนก็ตาม

ซูหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองจะต้องปล่อยความทุกข์ภายใน นางกำลังจะเอ่ยปากพูด ทว่าแม่เจิ้นแอบพูดกระซิบข้างหูของนางว่า  หวานหว่าน เจ้ายังมีเงินเหลืออยู่อีกหรือไม่? ข้าได้ตกปากรับคำไปแล้วว่าจะให้เงินพวกเขาคนละ 60 เหรียญ พวกเขาจึงตกลงที่จะออกช่วยมาตามหาเจ้า  ข้า… 

60 เหรียญ?

ทำงานทั้งวันยังได้เพียง 10 เหรียญเอง!

นี่พวกเขากำลังจะมาขโมยเงินพวกเรากันอยู่หรือเปล่า?

ซูหวานหว่านไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่นางจะต้องเสียเงิน แต่เด็กสาวก็ทำได้แค่พูดปลอบใจแม่เจิ้น  งั้นรอพรุ่งนี้ให้ข้าไปแลกเงินมาก่อน แล้วค่อยเอาให้พวกเขานะท่านแม่ 

แม่เจิ้นถอนหายใจ  มันก็ทำได้เพียงเท่านี้แหละ 

ซูหวานหว่านหยุดคิดไปครู่หนึ่ง นางมองไปยังชาวบ้านที่กำลังพูดคุยกันอยู่ จึงได้พูดเตือนไปว่า  ท่านลุงทั้งหลาย วันนี้ข้าได้เจอกับฝูงหมาป่าที่หลังภูเขานี้ พวกท่านยังกล้าที่จะเข้ามาเสี่ยงชีวิตกันที่นี่อีกอย่างงั้นหรือ! 

 นี่ซูหวานหว่าน เหตุใดเจ้าถึงพูดจาโกหกเช่นนี้ ข้าก็เห็นว่าเจ้าเข้ามาอีกทั้งยังไม่เป็นอะไร อีกทั้งยังไม่เห็นหมาป่าที่ไหนสักกะตัว! หากเจ้าเจอหมาป่าอย่างที่เจ้าบอกจริง ๆ ข้าว่าในตอนนี้เจ้าอาจจะไม่ได้มีชีวิตรอกออกมาแล้ว! เพราะไม่เช่นนั้นเจ้าจะยังมีชีวิตและยืนคุยอยู่กับพวกเราแบบนี้ได้อย่างไร! 

ขณะที่ชาวบ้านคนหนึ่งกำลังพูดอยู่ ชาวบ้านอีก 2 – 3 คนที่เดินอยู่ข้างหน้าพวกเขาต่างได้กลิ่นคาวเลือด และกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามันเป็นศพหรือไม่ พวกเขาหันไปมองซูหวานหว่านอย่างหวาดผวา  นี่เจ้า…เจ้าคงไม่ได้กลายเป็นผีไปแล้วใช่หรือไม่! 

นางเป็นผีอย่างงั้นหรือ?

ซูหวานหว่านมองไปที่ร่างของชายชุดดำที่ถูกฝูงหมาป่ากัดกิน จนตายอย่างสยดสยอง นางก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

นางหันไปมองชาวบ้านด้วยรอยยิ้ม แกล้งพูดให้ชาวบ้านหลงเชื่อ  พวกท่านลองเดาสิว่าข้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่? 

สีหน้าของชาวบ้านเริ่มพากันซีดขาวขึ้นมาทันใด แม่เจิ้นเองก็จับไปที่มือของซูหวานหว่านและสังเกตได้ว่าฝ่ามือของซูหวานหว่านยังคงมีความอุ่นอยู่ นางจะเป็นผีได้อย่างไร? เหตุใดถึงพูดออกไปเช่นนั้น?

ซูหวานหว่านส่งสัญญาณมือให้กับผู้เป็นพ่อ ซูต้าเฉียงเห็นถึงการกระทำของลูกสาว จึงนิ่งเงียบอยู่และปล่อยไปตามน้ำ เขารู้สึกว่าซูหวานหว่านนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก

ซูหวานหว่านยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ  ข้าจะไม่ปล่อยพวกท่านไปแน่ ๆ หากข้าตายไปแล้ว พวกท่านยังกล้าที่จะเข้ามาในนี้กันอีกหรือเปล่า? พวกท่านคิดว่าหากเข้ามาที่หลังภูเขานี้แล้วจะมีชีวิตที่รอดปลอดภัยกลับบ้านไปงั้นหรือ? 

 เจ้า… นี่เจ้าเป็นผีจริง ๆ อย่างงั้นหรือ!?  ชาวบ้านต่างพากันตื่นตระหนก

ซูหวานหว่านพูดพร้อมกับขยิบตาให้กับแม่เจิ้นอย่างเงียบ ๆ ส่วนแม่เจิ้น จึงแสร้งทำเป็นร้องไห้ออกมา  โถ่ ลูกสาวที่น่าสงสารของข้า! เจ้ายังมีชีวิตอยู่ดี ๆ แท้ ๆ ไม่น่ารีบมาตายเช่นนี้เลย! เป็นเพราะไม่ควรเข้ามาหลังภูเขาตั้งแต่แรก! เจ้าถึงถูกฝูงหมาป่ากัดตาย แล้วข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรกัน! 

แม่เจิ้นบีบไปที่มือซูต้าเฉียงอย่างแรงเพื่อส่งสัญญาณบอกเป็นนัย ๆ และนางก็ยังคงพูดออกมาว่า  ถูกกัดจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว! ไม่สามารถเอาร่างกลับไปได้แล้ว! เช่นนี้จะฝังเจ้าอย่างไรดี? 

 ซูหวานหว่าน! ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้เลยนะ ว่าอย่ามาหลอกให้พวกเราตกใจกลัว! พวกเรามีกันอยู่หลายคน เจ้าที่เป็นผีตนเดียวไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้หรอก!  ชาวบ้านคนหนึ่งได้ตะโกนออกมา ทว่ายังคงเดินก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว  ยิ่งไปกว่านั้นข้าและพวกเราที่นี่ทุกคนไม่เคยทำอะไรไม่ดีต่อครอบครัวของเจ้า! เจ้าไม่ควรมาหลอกหลอนพวกเราเช่นนี้! และไปตามทางของเจ้าซะ! 

 จริงหรือ?  ซูหวานหว่านหัวเราะเยาะเย้ยออกมา นางเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่ต้องทำเช่นนี้กับพวกชาวบ้าน

หลังจากที่ชาวบ้านคนหนึ่งได้พูดจบไปแล้ว ขาของเขาก็สั่นอย่างรุนแรง จากนั้นก็มีของเหลวไหลออกมาจากขาของเขา

 ก็ใช่น่ะสิ!  ชาวบ้านต่างพยักหน้าและพลางเดินถอยหลัง

จู่ ๆ ชาวบ้านคนนั้นก็เดินถอยหลังไปสะดุดเข้ากับก้อนหิน ทำให้ร่างของเขาล้มลงกองกับพื้น แต่เขากลับคิดว่ามีใครบางคนจับข้อเท้าของตัวเองเอาไว้ จึงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ

ซูหวานหว่านยังไม่ได้บีบบังคับให้เขาพูดออกมาเลยสักคำ ชาวบ้านคนนั้นชิงสารภาพออกไปว่า  ซูหวานหว่าน! ข้าไม่ได้ตั้งใจทำเช่นนั้นเลย! ใครจะไปรู้ว่าแม่ของเจ้าจะปิดหน้าต่างไม่สนิท ข้าเลยเข้าไปขโมยของในบ้านของเจ้า ไม่ใช่! ข้าหมายถึงว่าเข้าไปจัดของในบ้านของเจ้าต่างหาก! ใครจะไปรู้ล่ะว่าวันนั้นท่านย่าของเจ้าจะบุกเข้ามาในบ้าน มันทำให้ข้าตกใจจนรีบวิ่งหนีออกจากออกมา ทำให้แม่ของเจ้าถูกแม่เฒ่าซูตีเพราะคิดว่าเป็นหัวขโมย มันทำให้แม่ของเจ้าเกือบจะถูกไล่ออกจากบ้าน เจ้าอย่ามาโทษข้าฝ่ายเดียว! มันเป็นความผิดของแม่ของเจ้าเช่นกัน! 

ใบหน้าของแม่เจิ้นพลันเปลี่ยนสี

ซูหวานหว่านไม่มีวันลืมเรื่องคืนนั้น วันที่แม่ของนางถูกท่านย่าตีเจียนตาย อีกทั้งในเช้าวันรุ่งขึ้นแม่ของนางก็ได้ถูกแม่เฒ่าซูใช้ไปหว่านเมล็ดพืชอีกด้วย!

 ที่แม่ของข้าเกือบจะถูกไล่ออกจากบ้านในวันนั้น มันเป็นเพราะท่านเองหรอกหรือ?  ซูหวานหว่านจ้องมองชาวบ้านคนนั้นด้วยแววตาเย็นยะเยือกที่แทบจะระเบิดออกมาในทันที

ในค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดสลัว ดวงตาของนางในตอนนี้เหมือนดวงตาของฝูงหมาป่ากำลังหิวกระหาย

ทันทีที่มีลมหนาวพัดผ่านร่างกายมา ชาวบ้านต่างพากันสั่นสะท้านไปทั่วร่าง

 ไม่ใช่ความผิดของข้า! เรื่องนี้ต้องโทษแม่ของเจ้าด้วย! หากนางปิดหน้าต่างสนิท เรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน!  ชาวบ้านคนนั้นก็รีบพูดโวยวายร้อนตัวออกมา

ยังจะมีหน้ามาเถียงอีก!

มันจะมากเกินไปแล้วนะ!

ทว่านางก็ยังคงอยากรู้ว่าสิ่งที่ชาวบ้านเหล่านี้ทำมีวีรกรรมอะไรอีกบ้าง!

ซูหวานหว่านหันไปมองดูชาวบ้านคนอื่นอีกครั้ง แกล้งพูดออกมาว่า  จริง ๆ แล้วข้ารู้ทุกอย่างที่พวกเจ้าเคยกระทำเอาไว้ ดังนั้นพวกท่านควรรีบสารภาพออกมาเสียดีกว่า แล้วข้าจะรับไว้พิจารณาและจะไม่ไปตามหลอกหลอน หากพวกเจ้าไม่สารภาพออกมา…เห็นทีว่าข้าจะต้องลงโทษพวกเจ้าทุกคนกันซะให้หมด… 

คำพูดดังกล่าวถูกเอ่ยออกมาจากปากของซูหวานหว่านด้วยน้ำเสียงเย็นชา จนชาวบ้านต่างรู้สึกเสียวสันหลังไปจนถึงกระดูก พร้อมกับยืนหนาวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างกาย ชาวบ้านบางคนถึงกับกลัวจนเป็นลมล้มพับลงไป

 ข้าจะสารภาพก่อนก็ได้! ใช่! เมื่อข้าได้เห็นแม่เจิ้นกำลังจะแต่งงานออกเรือนไป ข้าที่หลงรักในความงามของนาง ข้าก็เคยวางแผนอยู่หลายครั้งเพื่อทำร้ายพ่อของเจ้าให้ได้รับบาดเจ็บ! 

 ข้าก็จะสารภาพออกมาด้วยเช่นกัน! เมื่อตอนที่แม่เจิ้นมาขอข้าวสารกับข้า ข้าได้นำเรื่องของครอบครัวเจ้าไปพูดคุยนินทาลับหลังให้พวกชาวบ้านคนอื่น ๆ ฟัง! 

 … 

สิ่งเหล่านี้มันคือการให้ร้ายผู้อื่น และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีอีกด้วย ทว่าพวกเขาก็ยังคงทำมัน

ซูหวานหว่านเดินเข้าไปใกล้กลุ่มชาวบ้านราวกับความตายกำลังมาเยือน ทำให้พวกเขาต่างพากันเดินถอยหลังออกไปอย่างหวาดหวั่น

หากซูต้าเฉียงและแม่เจิ้นไม่ได้อยู่ที่นี้ด้วย ซูหวานหว่านคงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่และคงอดไม่ได้ที่สั่งสอนและให้บทเรียนที่โหดเหี้ยมแก่พวกชาวบ้านเหล่านี้ให้หลาบจำ

 น่าเสียดาย  ซูหวานหว่านถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาชาวบ้านคนหนึ่งพร้อมกับมองด้วยสายตาที่เยาะเย้ยและเยือกเย็น  นี่ลุงหวัง ข้ายังไม่ตายเสียหน่อย และข้าก็ไม่ใช่ผีด้วย พวกท่านจะกลัวอันใดกัน?  

 อะไรนะ! เจ้ากล้าดียังไงมาโกหกพวกเรา!  เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของชาวบ้านก็ได้เปลี่ยนไปในทันใด ราวกับว่าพวกเขาโดนเล่นงานเสียแล้ว พวกชาวบ้านต่างชี้ไปที่ซูหวานหว่าน จนเกือบจิ้มนิ้วไปโดนที่จมูกของนาง

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing

เธอคือสายลับสาวแห่งดวงดาวแห่งหายนะ ที่ชื่อว่าดาว X เธอเสียชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ถือว่าเป็นโชคดีที่วิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยอายุ 13 ปีในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ของเธอได้ไม่นาน แต่เธอกลับรู้สึกรักครอบครัวของเธอมาก ทว่าครอบครัวของเธอมักจะถูกกลั่นแกล้งรังแกจากญาติ ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเริ่มทนไม่ไหวและต้องการแยกครอบครัวออกมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท