เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 83 ศัตรูหัวใจลงมือ

ตอนที่ 83 ศัตรูหัวใจลงมือ

 เจ้าชอบผู้หญิงคนนี้หรอกรึ? นางมีดีอะไรกัน?  เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาวดังขึ้นเรื่อย ๆ

ซูหวานหว่านเปิดประตูห้องอาหารมาก็พบกับสตรีสวมเสื้อคลุมขนนกสีชมพูดั่งลูกท้อ มีปิ่นหยกแกะสลักอยู่บนศีรษะ นางสวมใส่ตุ้มหูไข่มุกสีขาวบริสุทธิ์จากทะเลจีนใต้ มือเรียวยาวของนางกำลังถือภาพวาดหนึ่งเอาไว้

ฉีเฉิงเฟิงหยิบภาพวาดขึ้นมาพยักหน้าแล้วกล่าว  ใช่ 

ซูหวานหว่านเพิ่งสังเกตเห็นว่าหญิงสาวในภาพวาดที่กำลังส่งยิ้มสวยนั่นคือตัวนางเอง

ฉีเฉิงเฟิงวาดภาพนางตั้งแต่เมื่อใดกัน? ซูหวานหว่านรู้สึกประหลาดใจมากและมีความสุขในเวลาเดียวกัน

หญิงสาวคนนั้นเหลือบมองซูหวานหว่านและจ้องมองนางอยู่อย่างนั้น พร้อมกับกล่าวว่า  เจ้าทำให้ข้าต้องอดทนรอราวคนสติไม่ดี แต่ทว่าไม่เป็นไร ความรักของพวกเจ้าทั้งสองคน พวกเจ้าตั้งใจสร้างมันขึ้นมา ทำให้ข้ารู้สึกว่าตนเองเหมือนดอกไม้ที่ร่วงหล่นแห้งตายด้วยความตั้งใจ 

 ข้าขอโทษ  ฉีเฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วดึงซูหวานหว่านมานั่งข้างตนเอง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า  แม่นางสือ เจ้าไม่ต้องพูดอะไรออกมาแล้ว ต่อไปเจ้าอย่าได้รอข้าอีกเลย โปรดทำเหมือนกับว่าหลี่หยวนเอ๋อร์ผู้นั้นได้ตายไปแล้วเสียเถอะ 

หลี่หยวนเอ๋อร์คือผู้ใด? ซูหวานหว่านจ้องมองฉีเฉิงเฟิง เขาบีบข้อมือของนางเอาไว้เพื่อที่จะส่งสัญญาณให้ซูหวานหว่านรู้เป็นนัย ๆ ว่านั่นคือนามของเขา ทว่าก็ไม่ได้ทำอะไรมาก กลับเป็นหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามมีน้ำตาคลอไหลออกมาแทน

 ตกลง มันคงไม่มีหนทางเปลี่ยนแล้วสินะ ข้ายอมแพ้แล้วก็ได้  หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ยกมือขึ้นถอดสร้อยข้อมือหยกกลมออกแล้วกล่าวว่า  ภรรยาของหลี่หยวนเอ๋อร์ ข้าขอให้เจ้าทั้งสองคนครองรักกันตลอดไป ขอให้พวกเจ้าทั้งสองครองคู่กันจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะ 

เหตุใดนางถึงยอมแพ้ง่ายดายเช่นนี้? ทั้งที่ตัวเองมาไกลถึงเพียงนี้แล้วแท้ ๆ ซูหวานหว่านรับรู้ถึงความเศร้าและความเกลียดชังในดวงตาของนาง จึงเอ่ยปฏิเสธ  ไม่จำเป็น เจ้าเพียงอวยพรให้พวกเราทั้งสองก็พอแล้ว สำหรับสร้อยข้อมือเส้นนี้มีมูลค่าสูงเกินกว่าที่สาวบ้านนอกเช่นข้าจะจำเป็น เจ้านำมันคืนไปเถอะ 

สาวใช้ของเหยียนเอ๋อร์ที่ติดตามมาด้วยพูดออกมาด้วยความโกรธ  หากเจ้ารู้ว่าตัวเองเป็นแค่สาวบ้านนอก เหตุใดเจ้าจะต้องมาทำให้คุณชาย… 

 หุบปากเดี๋ยวนี้!  ชายที่อยู่ด้านข้างจ้องไปยังเหยียนเอ๋อร์ แล้วคิดในใจ ‘สาวใช้คนนี้ช่างปากมากนัก เกือบจะเผยตัวตนของฉีเฉิงเฟิงแล้ว’

ฉีเฉิงเฟิงมองซูหวานหว่านก่อนจะทำความเคารพคนทั้งสองและออกมา จากนั้นเขาก็ได้พาซูหวานหว่านเดินลงไปที่ชั้นล่าง เอ่ยถามอย่างออกมาอย่างครุ่นคิดว่า  เจ้าอยากกินอะไร? ข้าจะพาเจ้าไปเอง 

 ฉีเฉิงเฟิง อย่ามาเฉไฉเสียดีกว่า เจ้าเป็นอะไรกับสตรีผู้นั้นกันแน่! ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่เด็กหรอกนะ?  ซูหวานหว่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธจัด นางหยิกไปที่เอวของฉีเฉิงเฟิง ทำให้เขาส่งเสียงร้องอู้อี้ออกมาพร้อมกับคิดภายในใจว่ามันคงถึงเวลาที่เขาจะบอกความลับของตนเองเสียแล้ว

 ใช่  ฉีเฉิงเฟิงพยักหน้า

หัวใจของซูหวานหว่านก็กระวนกระวายขึ้นมา หลังจากที่ได้ยินฉีเฉิงเฟิงตอบรับมาเช่นนี้ มันก็มีแนวโน้มว่าเขาอาจจะมีเรื่องโกหกนางอีก

ฉีเฉิงเฟิงพูดออกมาอีกครั้งว่า  จริง ๆ แล้วข้าไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีพ่อหรือแม่หรอก ครอบครัวของข้าเป็นตระกูลใหญ่มาก ถือว่าเก่าแก่มากทีเดียว แต่ไม่ว่าจะยังไงข้าก็มีเรื่องที่ข้ายากจะหลีกหนี ข้าอยากจะมีความสุขและใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ข้าหนีออกจากบ้านมาตอนที่พวกเขากำลังจะจัดงานแต่งงานให้กับข้า… 

 ดังนั้นสตรีผู้นั้นก็คือผู้หญิงที่เจ้าหนีงานแต่งงานมาเหรอ?  ซูหวานหว่านเลิกคิ้วถาม จู่ ๆ นางก็เปลี่ยนบทสนทนาโดยการถามว่า  ในเมื่อเจ้าไม่อยากกลับไปแล้ว งั้นเจ้าก็ไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับที่บ้าน แล้วเจ้าก็คงจะต้องแต่งงานเข้าบ้านข้าแล้วซินะ? 

แต่งเข้า? เขานะหรือ?

แต่ไม่ว่าอย่างไร ในเมื่อเขาก็ไม่อยากกลับไปแล้ว และตัวตนนี้ของเขาก็ไม่มีอยู่จริง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจ ฉีเฉิงเฟิงพยักหน้ามองไปที่ซูหวานหว่าน พลันใดนั้นก็ยิ้มและพูดออกมาอย่างสดชื่นว่า  งั้นก็ฟังภรรยาแล้วกัน ภรรยาพูดอะไรก็คงตามนั้น 

 ใครคือภรรยาของเจ้า!  ซูหวานหว่านกระทืบเท้าของฉีเฉิงเฟิง แล้วพาฉีเฉิงเฟิงไปหาที่นั่งกินอาหารต่อ

ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง หญิงสาวในห้องอาหารก็กัดฟันพูดออกมาอย่างขมขื่น มองไปยังชายที่อยู่ข้างหน้าแล้วพูดว่า  ท่านพี่! ข้าอุตส่าห์มาตามเขาถึงที่ แต่เขายังไม่ชายตาแลข้าเลย ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะยอมทิ้งทุกอย่างไปเพื่อสาวบ้านนอกนั่น ท่านต้องทำเพื่อข้านะ ช่วยข้าจัดการกับนังผู้นั้นก่อนที่พวกเราจะกลับไปที่เมืองหลวง! 

ชายคนนั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาสีเข้มของเขาก็พลันเปลี่ยนสีพร้อมกับปิดบังความเกลียดชังที่แข็งแกร่งภายใต้ใบหน้าที่ยังคงสงบนิ่งและอ่อนโยน  ตกลง 

ชายคนนั้นเดินไปที่หน้าต่างของห้องอาหาร มองลงไปที่ซูหวานหว่าน ดวงตาของเขาเต็มไปแววตาที่อยากจะฆ่าซูหวานหว่าน

ทางด้านซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงที่เพิ่งจะจัดการอาหารมื้อตรงหน้าเสร็จ และพูดคุยว่าจะกลับไปที่หมู่บ้าน ฮวงเหล่าก็ได้ไล่ตามพวกเขามาถึงร้านอาหารพร้อมกับตำราโบราณสีเหลืองในมือ

เขาส่งมันให้กับซูหวานหว่าน ซึ่งฉีเฉิงเฟิงกำลังเอื้อมมือจะออกไปรับเอาไว้แทน แต่ซูหวานหว่านก็รู้ทันทีเมื่อเห็นหนังสือโบราณเช่นนี้ จึงแสแสร้งทำเป็นยิ้มและถามออกมาโง่เขลา  ท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ! 

 เหอะ! เจ้าออกมาทำอะไรข้างนอกเป็นเวลานานสองนานกัน? คนพวกนั้นที่อยู่ในบ้านของข้าถูกจับไปหมดแล้ว ตอนนี้ข้าอยู่บ้านคนเดียว เจ้าควรมาอยู่เป็นเพื่อนข้า! ตำราทั้งหมด 10 เล่ม วันนี้เจ้าจะต้องท่องจำให้ได้ 1 เล่ม หากท่องจำไม่ได้ พรุ่งนี้ข้าจะเพิ่มเป็น 2 เล่มให้เจ้าจำ!  ฮวงเหล่าลูบเคราของตนเองแล้วชี้ไปที่ร้านอาหาร  ไป ไปซื้อของอร่อยให้อาจารย์แล้วกลับบ้านไปกับข้าเสีย 

เหตุใดนางต้องมาเป็นลูกศิษย์หมอผู้นี้ด้วย?

ซูหวานหว่านเหลือบมองฉีเฉิงเฟิงอย่างเขินอายแล้วพูดออกมาว่า  งั้นวันนี้เจ้ากลับไปก่อนเถอะ อีกไม่กี่วันข้างหน้าข้าจะตามกลับไปที่หมู่บ้าน 

 ตกลง งั้นข้าจะกลับไปเตรียมตัวก่อน  ฉีเฉิงเฟิงพยักหน้า

 เตรียมตัวอะไร?  ซูหวานหว่านถามออกมาอย่างมึนงง

 เตรียมตัวสู่ขอเจ้าอย่างไรเล่า  ฉีเฉิงเฟิงพูดออกมา พลันใดใบหน้าของซูหวานหว่านก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ

ฮวงเหล่าที่ยืนอยู่ด้านข้างกระทืบเท้าด้วยความโกรธ พร้อมกับหยิบตำราโบราณที่อยู่ในอ้อมแขนของฉีเฉิงเฟิงกลับมา  ไป! ไป! ไปเลยนะ! พ่อหนุ่ม! เจ้ากล้าแสดงความรักต่อหน้าข้าได้อย่างไรกัน! คิดจะมารังแกข้าทางอ้อมอย่างงั้นรึ! 

ซูหวานหว่านยิ้มออกมาและบอกกล่าวให้ฉีเฉิงเฟิงกลับไป จากนั้นนางก็ได้เดินไปที่ร้านอาหารเจวียเซ่อเพื่อสั่งอาหาร ฮวงเหล่าก็เดินตามมาข้าง ๆ นาง แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนลูกศิษย์ของซูหวานหว่านมากกว่า จึงถามขึ้นมาว่า  สาวน้อย! อาหารล่ะ? 

 ข้าสั่งให้พวกเขาทำแล้ว เดี๋ยวพวกเขาจะไปส่งถึงที่เลยเจ้าค่ะ 

 อะไรนะ!  ฮวงเหล่าถึงกับกระทืบเท้าด้วยความตกใจ  พวกเขาจะคิดเงินเพิ่มเป็น 2 ตำลึงเชียวนะถ้าให้ไปส่งอาหาร! 

 ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มสักเหรียญหรอกเจ้าค่ะ อีกทั้งจะไม่คิดค่าอาหารด้วยซ้ำ  ซูหวานหว่านยิ้มออกมาและเหลือบมองฮวงเหล่า ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่านางเป็นคนที่ใจกว้างมากกับคนที่จู้จี้จุกจิกเช่นเขา

 เหตุใดถึงไม่คิดเงิน!  ฮวงเหล่าเหลือบมองซูหวานหว่านแล้วสงสัย  เจ้าคงไม่ใช่… 

 ข้าเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งในร้านอาหารเจวียเซ่อนี้เจ้าค่ะ  ซูหวานหว่านยิ้มออกมา

ฮวงเหล่าตกใจอย่างมาก ซึ่งไม่กี่วันต่อมา ซูหวานหว่านก็รู้สึกเสียใจที่บอกเรื่องนี้ให้กับฮวงเหล่าได้รู้ เพราะเมื่อฮวงเหล่ารู้ถึงตัวตนของนาง เขาก็ไม่เคยก่อไฟบนเตาหรือทำอาหารกินเองอีกเลย เขาเอาแต่สั่งอาหารจากร้านเจวียเซ่อแล้วก็ไม่จ่ายเงินสักแดงเดียว

ซูหวานหว่านกลับไปที่บ้านของฮวงเหล่า ที่อีกฝ่ายได้จัดเตรียมห้องส่วนตัวให้นางนอนเรียบร้อย แล้วก็ได้จัดเตรียมเสื้อผ้าสะอาดไว้สองสามชุดสำหรับผู้หญิงใส่

ดูเหมือนว่าเสื้อผ้าพวกนั้นจะเป็นของคนที่เสียไปแล้ว ซึ่งซูหวานหว่านปฏิเสธ หลังจากนั้นนางจึงออกไปซื้อเสื้อผ้าใหม่หลายตัว พอกลับมานางก็เข้าไปที่มิติฟาร์มเพื่อไปอ่านหนังสือที่ฮวงเหล่าให้นางมา

ข้อดีของมิติฟาร์มคือมีเวลาแตกต่างจากเวลาภายนอกอย่างมาก เวลา 1 วันข้างนอกเทียบเท่ากับ 5 วันในมิติฟาร์ม ซูหวานหว่านไม่เคยลืมเรื่องนี้ นางใช้เวลา 1 คืนในการทำความเข้าใจและจำเนื้อหาในหนังสือเกี่ยวกับหมอได้อย่างละเอียด

ท้องฟ้าในมิติฟาร์มเริ่มสว่างขึ้น ซูหวานหว่านก็พลันได้ยินเสียงบ่นออกมาจากข้างนอก ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงกระทบกันของดาบ นางจึงดึงจิตวิญญาณออกมาและมองออกไปนอกหน้าต่าง นางก็เห็นฮวงเหล่าและชายชุดดำกำลังต่อสู้กัน

 เจ้าเป็นใครกันแน่! กล้าดียังไงบุกรุกเข้ามาในบ้านของฮวงเหล่า!  ฮวงเหล่าพูดออกมาอย่างประหลาดใจ

 ไปให้พ้น! ข้าไม่ได้จะมาฆ่าเจ้า! ข้าแค่ได้รับคำสั่งให้มาเอาชีวิตเมียของหลี่หยวนเอ๋อร์! 

ซูหวานหว่านขมวดคิ้วและครุ่นคิดภายในใจ ชีวิตของภริยาของหลี่หยวนเอ๋อร์จะเป็นใคร? หากไม่ใช่นาง….!

มีคนต้องการอยากที่จะเอาชีวิตนาง! เมื่อดูจากทักษะการต่อสู้ของพวกเขาแล้วนั้นไม่เลวเลย

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing

เธอคือสายลับสาวแห่งดวงดาวแห่งหายนะ ที่ชื่อว่าดาว X เธอเสียชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ถือว่าเป็นโชคดีที่วิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยอายุ 13 ปีในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ของเธอได้ไม่นาน แต่เธอกลับรู้สึกรักครอบครัวของเธอมาก ทว่าครอบครัวของเธอมักจะถูกกลั่นแกล้งรังแกจากญาติ ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเริ่มทนไม่ไหวและต้องการแยกครอบครัวออกมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท