เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 97 ยั่วโมโห

ตอนที่ 97 ยั่วโมโห

ตอนที่ 97 ยั่วโมโห

 ท่านเจ้าบ้าน ข้าได้นำคะแนน 1 ล้านคะแนนไปแลกของเพื่อปลดปล่อยตัวเองแล้ว ตอนนี้ท่านเหลือคะแนนอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้ท่านจะต้องใช้สองมือของตนเองขยันทำงานให้มากขึ้นเพื่อจะได้รับคะแนนเพิ่ม! ในตอนนี้มีพื้นนาและพืชผักแห้งแล้งรอให้ท่านรดน้ำอยู่นะ!  จิตวิญญาณของมิติฟาร์มกล่าวออกมาอย่างหน้าตาเฉย

 … 

ในตอนนี้หัวใจของซูหวานหว่านเหมือนจะปะทุออกมาด้วยโทสะ  จิตวิญญาณฟาร์ม! เจ้าหุบปากไปเสีย! 

 ท่านจะดุร้ายไปใย แม้ว่าข้าจะใช้คะแนนของท่านไปเกือบหมด แต่ข้าก็ได้เตรียมของกำนัลไว้ให้ท่านด้วยนะ มาเถิด ท่านเข้ามาดูด้านในก่อน 

เมื่อซูหวานหว่านก้าวเข้าไปในกระท่อมที่มุงด้วยฟางบริเวณเชิงเขา นางก็พบกับชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งที่มีเพียงใบไม้ใหญ่ปกปิดร่างกายส่วนล่างเอาไว้เท่านั้น ดวงตาของเขาเป็นสีเขียวสดใสต่างจากคนทั่วไป ดวงตาคู่นั้นสะท้อนให้เห็นตัวนางอยู่ในดวงตาอีกฝ่าย

ชายผู้นี้เป็นใครกัน? ซูหวานหว่านตกตะลึง พลันใดก็นึกถึงคำพูดของจิตวิญญาณได้ว่าเขาใช้คะแนน 1 ล้านคะแนนของนางไปเพื่อปลดปล่อยตนเอง นางจึงเดาได้ทันทีว่าชายคนนี้น่าจะเป็นเจ้าจิตวิญญาณของมิติฟาร์ม หลังจากที่คิดได้เช่นนั้นหัวใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวด แสดงว่าจิตวิญญาณของมิติฟาร์มได้ใช้คะแนน 1 ล้านคะแนนของนางแลกร่างกายมนุษย์มา

 ท่านดูเสีย นี่คือของกำนัลที่ข้าตั้งใจให้ท่าน 

 อยู่ที่ใด?  ซูหวานหว่านยังไม่เห็นอะไรเลย!

 นี่ไง!  จิตวิญญาณมิติฟาร์มหันกลับมาแบบเต็มตัว ซูหวานหว่านจึงเห็นร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใบหน้าของนางก็เปลี่ยนสีในทันใด

เขาเอาตัวเองมาเป็นของขวัญอย่างงั้นหรือเนี่ย? ช่างไร้ยางอายนัก!

ซูหวานหว่านโยนเสื้อผ้าใส่อีกฝ่ายและเอ่ยออกมาอย่างรำคาญ  เจ้าใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย! ของขวัญชิ้นนี้หากเจ้าไม่สวมเสื้อผ้าดี ๆ ข้าจะทิ้งเจ้าเสีย! 

 ว่าอย่างไรนะ! ท่านจะทิ้งข้าได้อย่างไร?  เขาเป็นชายหนุ่มรูปงามเลยนะ! จิตวิญญาณมิติฟาร์มหยิบเสื้อผ้าแล้ววิ่งเข้าไปในตัวบ้าน พลางคร่ำครวญออกมา  ท่านจะมาเรียกข้าว่าจิตวิญญาณมิติฟาร์มไม่ได้แล้วนะ ข้ามีชื่อ ชื่อของข้าก็คือหลิงเชอ 

 ได้ ได้ ได้!  ซูหวานหว่านกลอกตามองบนและเหลือบมองไปที่แผ่นหลังของหลิงเชอโดยไม่ได้ตั้งใจ รูปร่างที่เปลือยเปล่าของบุรุษทำให้สตรีอย่างนางหน้าแดงอย่างมาก

นางจึงต้องหันหลังหนี รีบตักน้ำหลิงเยว่ออกมาเพื่อทำอาหารให้กับฉีเฉิงเฟิง นางหยิบไข่ไก่ออกมาด้วยเมื่อถอดจิตตัวเองออกมาจากมิติฟาร์ม

เมื่อออกมาก็เห็นแม่เจิ้นกำลังหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นางไม่รู้ว่าฉีเฉิงเฟิงพูดอะไรกับแม่เจิ้น จึงทำให้มารดาของตนหัวเราะออกมาได้อย่างมีความสุขเช่นนี้ ซูหวานหว่านจ้องมองไปที่ฉีเฉิงเฟิง ซึ่งแม่เจิ้นก็ได้เล่าเรื่องของนางให้กับฉีเฉิงเฟิงฟัง

ซูหวานหว่านไม่รู้ว่านางควรจะมีความสุขหรือเศร้าดี แม่ของนางพอใจกับฉีเฉิงเฟิงเป็นอย่างมาก!

 บ้านใหม่ของพวกเราต้องสวยแน่ ๆ!  ซูต้าเฉียงก็ได้เดินมานั่งลงข้าง ๆ แม่เจิ้นด้วยรอยยิ้ม แม่เจิ้นรีบลุกไปเชิญแม่เฒ่าเจียงมากินข้าวด้วยกันโดยไม่สนใจซูเสี่ยวเหยี่ยน

เมื่อคิดถึงเรื่องบ้าน นางก็ยังไม่เคยเห็นบ้านหลังใหม่ของตนเองเลย ซูหวานหว่านยังไม่ได้ไปตรวจดูด้วยซ้ำว่าบ้านสร้างเสร็จหรือยัง จึงถามออกมา  ท่านพ่อ บ้านของเราสร้างจะเสร็จหรือยัง? ข้าจะได้เตรียมค่าแรงเอาไว้ให้! 

เมื่อได้ยินลูกสาวถามออกมาเช่นนั้น ซูต้าเฉียงถึงคลี่ยิ้มออกมาพร้อมทั้งคีบอาหารให้กับซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่อาจซ่อนเอาไว้ได้เลย  ขอบคุณเจ้าลูกสาวข้า ทำให้เราสามารถสร้างบ้านหลังใหญ่เช่นนี้ได้ อีกทั้งยังต้องขอบคุณชายฉีด้วยเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะเขาช่วยวาดแบบให้ คนงานอาจจะทำผิดได้! 

ซูหวานหว่านอยากจะเห็นบ้านใหม่เหลือเกิน นางจึงรีบกินข้าวหมดถ้วยแล้ววางชามลงพร้อมกับตะเกียบก่อนเดินออกไป ฉีเฉิงเฟิงที่กินเสร็จแล้วก็รีบเดินตามนางออกไปเช่นกัน

เมื่อเดินมาถึงบ้านหลังใหม่ มีประตูทางทิศใต้และมีห้องทางปีกซ้าย ขวา และเหนือ แต่ละปีกจะมีห้องขนาดใหญ่ 3 ห้องที่อยู่ติดกัน มีพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ตรงกลางบ้าน ชั้นสองใช้หินและไม้รวมกันสร้างเป็นชั้นสองขึ้นมา เมื่อเทียบกับชั้นหนึ่งแล้ว พื้นที่และลวดลายยังคงเดิมและหลังคาปูด้วยกระเบื้อง ซึ่งมันดูสวยงามมาก

บันไดที่เชื่อมระหว่างชั้นหนึ่งกับชั้นสองถูกแบ่งออกเป็นสองด้านจากมุมของปีกตะวันออกและตะวันตก

ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงเดินเข้าไปด้านใน ภายในบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จยังไม่ได้รับการทำความสะอาด ทว่ามันก็ไม่ได้สกปรกมากนัก นางเดินขึ้นไปชั้นบนและมองลงไปยังทิวทัศน์เบื้องล่าง แม้ว่าลานบ้านนจะรกร้างทว่าในสายตาของซูหวานหวานก็มองเห็นภาพที่สวยงามขึ้นมาได้ในใจเมื่อตอนที่บ้านเสร็จสมบูรณ์

ต่อไปนางจะต้องปลูกต้นตั๊กแตนไว้ตรงกลางลานบ้าน จะสร้างหินและบ่อน้ำไว้ชมข้าง ๆ ต้นตั๊กแตน มันคงจะสวยงามมาก

เมื่อเห็นว่าสีหน้าแววตาของซูหวานหว่านกำลังมีความสุข ฉีเฉิงเฟิงจึงถามออกมา  เจ้าอยากอยู่ห้องไหน? 

ซูหวานหว่านเหลือบมองฉีเฉิงเฟิงด้วยความสงสัย นางรู้สึกงงเล็กน้อย  ให้พ่อกับแม่ข้าเลือกห้องก่อน ข้าพักห้องไหนก็ได้ทั้งนั้น 

นางเป็นคนกตัญญู! ฉีเฉิงเฟิงยิ้มออกมา  ท่านแม่บอกกับข้าว่าเดี๋ยวพวกเราจะต้องแต่งงานกัน ดังนั้นนางจึงให้พวกเราเลือกห้องก่อน 

 หือ?  จะแต่งงานกันเหรอ? หากอยู่กันสองคนในห้องเดียวกัน จะต้องเลือกห้องที่ใหญ่สุด ซูหวานหว่านยกมือขึ้นและเตรียมตัวจะชี้เลือกห้อง ทว่าฉีเฉิงเฟิงก็ชิงชี้ห้องพร้อมเอ่ยตัดหน้าว่า  ข้าคิดว่าห้องด้านบนและด้านล่างทางทิศเหนือก็ไม่เลวทีเดียว โดยเฉพาะห้องที่ใกล้กับมุมทิศตะวันออกนั้นคือห้องที่ดีที่สุด 

 ทำไมล่ะ?  ซู หวานหว่านถามออกมา

 ข้าไปลองดูมาแล้ว ในบ้านหลังนี้ห้องนั้นเป็นห้องที่ค่อนข้างเก็บเสียงได้ดีที่สุด 

 … 

เมื่อได้ยินคำตอบของฉีเฉิงเฟิงนางก็แทบจะกัดลิ้นของตัวเองไปที่ถามคำถามเหล่านี้

เหตุใดนางจะต้องถามคำถามนี้กับเขา!

เหมือนเขากำลังจะสื่อถึงอะไรเป็นนัย ๆ แต่นางไม่มีหลักฐานที่ว่า!

ซูหวานหว่านหน้าแดง ฉีเฉิงเฟิงจึงกล่าวว่า  เจ้าคิดว่าอย่างไร? 

 ข้าคิดว่าห้องนั้นไม่เหมาะ  ซูหวานหว่านชี้ไปที่ห้องที่ใกล้ที่สุด  ข้าคิดว่าห้องนี่ดีกว่า 

ซูต้าเฉียง พ่อของนางต้องการพักที่ห้องกลางเหนือปีกตะวันตกอยู่แล้ว จึงให้คนงานใช้ไม้พิเศษในการกันเสียง…

ทันใดนั้นภาพวาบหวิวก็ปรากฏขึ้นภายในใจของนาง

ฉีเฉิงเฟิงถามขึ้นอีกครา  เจ้าจะไม่เสียใจทีหลังแน่นะ? 

 มีอะไรให้เสียใจกัน!  ซูหวานหว่านจ้องฉีเฉิงเฟิง พร้อมกับเข้าไปดูที่ห้องครัวและเดินหนีทันที

ทันทีที่ทั้งสองกำลังจะลงบันได ซูหวานหว่านก็ได้ยินเสียงคนตะโกน  ซูหวานหว่าน! รีบไปที่บ้านเช่าของเจ้าเดี๋ยวนี้เลย! ข้าได้ยินจากเพื่อนบ้านมาว่ามีคนจะทุบตีพ่อแม่ของเจ้า! ทั้งยังบอกอีกว่าจะจับพ่อแม่ของเจ้าไปให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย! และยังบอกว่าจะจับกุมเจ้าอีก! 

 อะไรนะ?  ซูหวานหว่านตกใจและรีบเดินกลับบ้านทันที ส่วนฉีเฉิงเฟิงก็เดินตามกลับไปด้วย

ก่อนที่ซูหวานหว่านจะเดินมาถึงบ้าน นางก็ได้เห็นแม่เจิ้นและซูต้าเฉียงจากระยะไกลถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มชาวบ้าน และทั้งสองคนกำลังพูดอะไรบางอย่าง

เสียงของชาวบ้านต่างบ่นออกมาเสียงดัง จนทำให้พ่อแม่ของนางไม่สามารถพูดขัดหรืออธิบายอะไรออกมาได้เลย

 ครอบครัวของพวกเจ้าไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วหรือ! เหตุใดกับแค่เงินเพียงเล็กน้อยถึงให้พวกเราไม่ได้ อีกอย่างทำไมพวกเจ้าจะต้องให้พวกเราลำบากในการไปหาวัตถุดิบที่บนภูเขาแล้วมาขายให้กับพวกเจ้าอีก? 

 ใช่แล้ว! ครอบครัวของเจ้าช่างหน้าด้านจริง ๆ! หากว่าพวกเจ้าไม่ให้เงินกับเราในวันนี้ข้าก็ไม่ยอมเหมือนกัน! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินของวัตถุดิบภูเขา แค่พูดถึงความมานะบากบั่นในการไปหาวัตถุดิบ พวกเราต้องใช้ความอุตสาหะเป็นอย่างมาก มันล้ำค่ามาก! แน่นอนว่าพวกเจ้าไม่สามารถชดใช้มันได้! 

 … 

คนพวกนี้ช่างกล้าดีอะไรเช่นนี้ ไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขายังมาประจบสอพลอครอบครัวนางอยู่ไม่ใช่หรือไง? แล้วเหตุใดตอนนี้พวกเขาถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?

ซูหวานหว่านยิ้มเยาะอย่างเย็นชาและกำลังที่จะเอาเงินออกมา ทันใดนางก็เห็นกลุ่มผู้ชายวิ่งมาในระยะไกล แต่ก่อนที่พวกเขาจะวิ่งมาถึงนางก็ได้ยินเสียงดังขึ้น

ซูหวานหว่านเหลือบมอง นางตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเห็นกลุ่มผู้ชายทุกคนกำลังถือจอบอยู่ในมือเดินมาทางนี้

คนเหล่านี้มาเพื่อที่จะมาทำร้ายครอบครัวนางอย่างงั้นหรือ?

หรือต้องการที่จะมาทุบตีครอบครัวของนางกัน?

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing

เธอคือสายลับสาวแห่งดวงดาวแห่งหายนะ ที่ชื่อว่าดาว X เธอเสียชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ถือว่าเป็นโชคดีที่วิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยอายุ 13 ปีในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ของเธอได้ไม่นาน แต่เธอกลับรู้สึกรักครอบครัวของเธอมาก ทว่าครอบครัวของเธอมักจะถูกกลั่นแกล้งรังแกจากญาติ ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเริ่มทนไม่ไหวและต้องการแยกครอบครัวออกมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท