เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田 – ตอนที่ 123 แบ่งแยกเป็นสองฝั่ง

ตอนที่ 123 แบ่งแยกเป็นสองฝั่ง

ซูหวานหว่านลอบมองฮวงต้าถงแล้วยกยิ้ม  ข้าไม่เคยเห็นต้นพริกชนิดที่คล้ายของท่านมาก่อนเลย 

สายตาของชาวบ้านจ้องมองไปยังชายวัยกลางคนด้วยความโกรธทันที

 ฮวงต้าถง! เจ้าโกหกพวกข้างั้นรึ? พวกข้าต่างรู้ดีว่าซูหวานหว่านเคยปลูกพริกเอาไว้ขาย แน่นอนว่านางจะต้องเคยเห็นต้นพริกมาหลากหลาย! ต้นกล้าของซูหวานหว่านล้วนเป็นของจริงแน่! 

 ใช่! ฮวงต้าถง! เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่? คิดจะโกงพวกข้าใช่หรือไม่! 

 … 

คำพูดของชาวบ้านลอยกระแทกหน้าฮวงต้าถง ชายวัยกลางคนจ้องมองซูหวานหว่านและกล่าวออกมา  พวกเจ้าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป! ต้นพริกของซูหวานหว่านเป็นของปลอม! ที่พวกเราใช้ปลูกเป็นของร้านอาหารไท่อัน ล้วนเป็นต้นพริกที่นำเข้ามาจากเมืองอื่น! 

ถึงกระนั้นชาวบ้านก็ยังไม่หลงกลเชื่อและจ้องมองไปที่ฮวงต้าถง

 ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีเมืองอื่นเคยปลูกพริก ข้าสามารถยืนยันได้ว่าไม่มีที่ใดเลยที่มีพริกนอกจากเมืองเล็ก ๆ ของเรา  ซูหวานหว่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงเย็นชา ก่อนที่เด็กสาวจะนั่งลงวิเคราะห์ถึงการเติบโตของต้นพริกรวมถึงต้นกำเนิดของพริกให้แก่ชาวบ้านได้ฟัง

ชาวบ้านตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น หลายคนต้องการเงินที่ให้กับฮวงต้าถงคืน ชายวัยกลางคนรู้สึกเหมือนโดนฉีกหน้า เขามองไปยังต้นพริกบนโต๊ะและหยิบมันขึ้นมา ฮวงต้าถงเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า  แล้วพวกเจ้าสามารถเชื่อคำพูดของซูหวานหว่านได้อย่างไรว่าที่นางปลูกไม่ใช่พืชอื่น! 

ทุกคนหันไปมอง ทว่าก็ยังไม่เชื่อในคำพูดของฮวงต้าถง สิ่งนั้นทำให้เขาโกรธมากจนวิ่งออกไปข้างนอก แล้วขุดต้นไม้มาจากที่ไหนสักที่หนึ่งแล้ววางลงบนโต๊ะ ซึ่งลักษณะของมันเกือบจะเหมือนกับต้นพริกของซูหวานหว่าน!

ซูหวานหว่านมองเพียงครู่เดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นต้นมะเขือ ใบของมันมีลักษณะคล้ายใบพริกแต่เล็กกว่ามาก

ฮวงต้าถงยิ้มอย่างมีชัย  ซูหวานหว่าน เจ้ายังมีข้ออ้างอะไรอีกหรือไม่? ต้นไม้พวกนี้คือต้นไม้ที่พวกเด็ก ๆ ชอบเอามาเล่น หากมันสามารถออกผลผลิตเป็นเม็ดพริกได้พวกเราก็สามารถเก็บมันมากินได้แล้ว! ข้าจะรอให้เจ้ามาโพนทะนาอยู่ทำไมกัน 

ชาวบ้านหลายคนต่างเห็นพ้องต้องกันและคิดว่าซูหวานหว่านเป็นคนนิสัยไม่ดี เป็นคนชั่วร้าย ซูหวานหว่านได้ยินคำด่าเหล่านั้นมากจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางนั่งลงอย่างใจเย็นและจดรายชื่อคนเหล่านี้เอาไว้

บรรดาชาวบ้านต่างสงสัย  ซูหวานหว่าน! เหตุใดเจ้าถึงเขียนชื่อพวกข้าลงไป! 

 ที่ข้าเขียนชื่อพวกเจ้าลงไป เพราะในภายภาคหน้าข้าจะไม่ร่วมทำการกับพวกเจ้า ดังนั้นข้าต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม  ซูหวานหว่านกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาแล้ววางกระดาษลง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างตะโกนโวยวายออกมาทันที  พวกข้าไม่เต็มใจที่จะร่วมมือเจ้ากับเมื่อใดกัน! เจ้าจะเขียนชื่อของพวกข้าไปทำไมกัน! น่าขันเสียจริง! 

ฮวงต้าถงยิ้มออกมาราวกับตนเป็นผู้ชนะ และคิดว่าตนเองบรรลุเป้าหมายของตนเองแล้ว เขากลัวว่าซูหวานหว่านจะก่อปัญหาให้เขาอีก จึงรีบพาชาวบ้านมาที่บ้านของตนเอง

ทันทีที่ชาวบ้านเหล่านั้นออกจากบ้านตระกูลซูไปก็เหลือเพียงแต่ครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้นที่ยังอยู่ในลานบ้านของนาง

แม่เจิ้นนำต้นกล้าพริกของตัวเองและต้นมะเขือวางข้างกัน นางใช้เวลาสังเกตอยู่ครู่ใหญ่ อธิบายกับหัวหน้าหมู่บ้านและคนอื่น ๆ ว่า  ต้นกล้านี้เป็นต้นกล้าที่ข้าใช้เมล็ดพริกปลูกขึ้นมา ไม่ใช่ต้นมะเขืออย่างแน่นอน 

ซูหวานหว่านหัวเราะและกล่าวว่า  ท่านแม่ ข้าเชื่อว่าท่านหัวหน้าหมู่บ้านสามารถแยกออกว่าต้นไหนคือของจริง ต้นไหนคือของปลอม นอกจากนี้บ้านของพวกเราเคยกินพริกมาก่อน เหตุใดพวกเราจะจำไม่ได้ว่าต้นไหนของจริงต้นไหนปลอม 

หัวหน้าหมู่บ้านลูบเครา  ข้าไม่สามารถแยกได้ว่าต้นไหนจริงหรือปลอม แต่ข้ามั่นใจว่าแม่นางซูจะไม่ทำให้พวกข้าผิดหวัง 

หลังจากพูดแบบนั้น พวกเขาก็พากันปลอบใจซูหวานหว่านอยู่สักพัก แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

ซูหวานหว่านแอบเข้าไปขุดต้นกล้าพริกออกมาจากมิติฟาร์มแล้ววางลงบนหญ้าในลานบ้าน หลังจากนั้นก็หายไปในครัวเพื่อเตรียมอาหาร พลันใดก็มีหญิงสาวสองคนเดินถือตะกร้าเข้ามา หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อไคล เพียงมองก็รู้ว่าเป็นสะใภ้จากบ้านใดบ้านหนึ่งและเพิ่งกลับออกมาจากป่า

เมื่อเห็นเห็ดหูหนูในตะกร้า ซูหวานหว่านก็รับรู้ได้ว่าพวกนางมาที่นี่เพื่อนำเห็ดหูหนูมาขาย เด็กสาวจึงรีบเข้าไปในบ้านเอาที่ชั่งน้ำหนักออกมา แม่เจิ้นเห็นดังนั้นจึงรีบยกน้ำชามาให้พวกนางดื่มมาแก้กระหาย

หลังจากคำนวณน้ำหนักกับราคาแล้ว แม่เจิ้นจึงมอบเงินให้กับหญิงสาวทั้งสอง พลันใดร่างคุ้นตาก็ปรากฏขึ้นในลานบ้านตระกูลซู  ซูหวานหว่าน! เจ้าจะหาเรื่องกันอีกแล้วอย่างงั้นหรือ? 

เพียงแค่เห็นหน้า ซูหวานหว่านก็นึกออกทันทีว่านางคือหวังเซียนซูที่เพิ่งร่วมมือทำการค้ากับฮวงต้าถง!

ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว  ป้าหวัง ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าเช่นไร? 

 เจ้ายังกล้ามีหน้ามาถามอีกงั้นรึ!  หวังเซียนซูจ้องมองเด็กสาวพร้อมกับพูดออกมา  พวกเจ้าโดนซูหวานหว่านหลอกแล้ว! ตอนนี้ฮวงต้าถงเองก็รับซื้อเห็ดหูหนูเช่นเดียวกัน และเขาให้ในราคา 1 ชั่ง 30 เหรียญ! เจ้ายังมีหน้ามาขายให้ซูหวานหว่านอีก! 

ฮวงต้าถงคนเลว! นางไม่รู้จริง ๆ ว่าถังฟู่ให้อะไรกับชายผู้นี้ถึงทำให้เขารีบซื้อของเหล่านี้นัก! ทั้งยังมาแย่งลูกค้าของนางไปอีก!

นางเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าพวกนางไม่ต้องการขายให้กับตนเองแล้ว และคิดว่าครอบครัวของตนสามารถเพาะเห็ดหูหนูจำนวนมากพอที่จะส่งให้กับร้านเจวียเซ่อได้ จึงพูดออกมาว่า  ในเมื่อพวกเจ้าไม่อยากขายให้กับพวกข้าก็ไม่เป็นไร แต่ข้าขอบอกไว้ว่าราคาเห็ดหูหนูไม่มีทางขึ้นถึง 30 เหรียญ 

ตอนนี้มีเห็ดหูหนูขายมากมาย จนหลายคนไม่อยากที่จะจ่ายเงินในราคาสูงเพื่อซื้อมัน ซูหวานหว่านจึงริเริ่มในการปรับราคารับซื้อผลผลิตเข้าร้านอาหารเจวียเซ่อ หลังจากวางแผนราคาอาหารออกมาอย่างสมเหตุสมผลแล้ว ราคามันก็ต่ำมาก!

โดยพื้นฐานแล้วร้านอาหารได้กำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!

อีกทั้งนางยังไม่ได้บอกพวกชาวบ้านที่ออกมาก่อนเลยว่าจะปรับลดราคาในการรับซื้อเห็ดหูหนูกับพวกเขา!

ชั่วขณะหนึ่งซูหวานหว่านรู้สึกว่าหัวใจของนางเต้นแรง ทำให้รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา

หญิงสาวทั้งสองต่างพากันมองหน้ากันอย่างไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป หวังเซียนซูจึงพาพวกนางไปขายเห็ดหูหนูที่บ้านของฮวงต้าถง

ซูหวานหว่านยังคงยืนอยู่ที่เดิมและเดินเข้าไปในบ้านด้วยความโกรธ หลังจากนั้นนางก็ได้ใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวของนางและฉีเฉิงเฟิง ช่วยพากันย้ายเห็ดหูหนูกลับมายังห้องว่างที่บ้าน

วันรุ่งขึ้น ซูหวานหว่านเอ่ยวานให้ฉีเฉิงเฟิงตามนางไปช่วยดูที่นาของหัวหน้าหมู่บ้านและเดินสำรวจที่นาของคนอื่นด้วย ทั้งสามใช้เวลาสำรวจดูทุ่งนาทั้งหมดภายในวันเดียว เด็กสาวพบว่ามีเพียง 5 ผืนนาเท่านั้นที่ไม่เหมาะที่จะปลูกต้นพริก และเห็นคนในหมู่บ้านหลายคนกำลังเพาะเมล็ดและเตรียมตัวที่จะปลูกข้าวฟ่าง

ระหว่างเดินสำรวจทุ่งนา นางได้ทักทายชาวบ้านไปด้วย ชาวบ้านหลายคนต่างรู้เรื่องการปลูกพริกของซูหวานหว่าน แต่ก็ยังเกิดความสงสัยลังเลและต้องการแบ่งที่นาเพื่อเพาะปลูกพริกเหมือนกัน กระทั่งซูหวานหว่านกลับถึงหมู่บ้าน และพวกชาวบ้านได้ยินเรื่องค่าตอบแทนจากฮวงต้าถง แต่ทว่าพวกเขาก็ยังอยากที่จะร่วมมือกับเด็กสาวอยู่ดี

ซูหวานหว่านตอบตกลงในทันทีและนำต้นพริกออกมาจากมิติฟาร์ม ซึ่งเหล่าชาวบ้านต่างปลูกมันอย่างตั้งใจ เด็กสาวแวะเวียนไปดูแลอยู่หลายวัน เพื่อตรวจสอบความอยู่รอดของพริกและเห็นต้นกล้าของฮวงต้าถงที่ชาวบ้านปลูกเอาไว้ไม่น้อยทีเดียว

ต้นกล้าพริกที่ซูหวานหว่านให้มาได้รับการปลูกมาจากมิติฟาร์มอย่างดี พวกมันดูดซับน้ำแร่สารสำคัญของมิติฟาร์มออกมา ทำให้พวกมันเติบโตอย่างรวดเร็ว และดีกว่าต้นกล้าพริกของฮวงต้าถงที่ปลูกเอาไว้อีกด้วย อีกทั้งต้นกล้าพริกของนางนั้นมีขนาดใหญ่กว่ากันมาก

แม้ว่าต้นกล้าพริกบางต้นจะเติบโตแล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากอุณหภูมิและแสงแดดที่นี่ ซูหวานหว่านคิดว่าต้นพริกที่ปลูกในหมู่บ้านนี้น่าจะแก่และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3 ครั้งใน 1 ปี

ซูหวานหว่านเดินออกดูตามคันนา และทันใดนั้นก็เห็นกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากถือไม้และมีดทำครัวเดินเร่งรีบมาทางนี้ ซูหวานหว่านจำชาวบ้านพวกนี้ได้ดีว่าพวกเขาคือคนที่ปลูกต้นกล้าพริกของฮวงต้าถง!

 ซูหวานหว่าน! นี่เจ้าคิดจะมาทำอะไรกับต้นกล้าพริกของพวกข้า! 

สถานการณ์ตอนนี้มันคืออะไรกัน? เหตุใดนางถึงโดนกล่าวหาเช่นนี้?

ซูหวานหว่านถึงกับผงะไปเมื่อชาวบ้านขว้างก้อนหินใส่ตัวเอง!

 

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

Status: Ongoing

เธอคือสายลับสาวแห่งดวงดาวแห่งหายนะ ที่ชื่อว่าดาว X เธอเสียชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้กับศัตรู ถือว่าเป็นโชคดีที่วิญญาณของเธอไม่ได้แตกสลาย แต่กลับมาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยอายุ 13 ปีในหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง แม้ว่าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ของเธอได้ไม่นาน แต่เธอกลับรู้สึกรักครอบครัวของเธอมาก ทว่าครอบครัวของเธอมักจะถูกกลั่นแกล้งรังแกจากญาติ ๆ อยู่เสมอ จนวันหนึ่งเธอเริ่มทนไม่ไหวและต้องการแยกครอบครัวออกมา เธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวของเธอมีเงินใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน เธอต้องการให้ครอบครัวของเธอมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเธอ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท