ตอนที่ 128 เข้าใจผิด
ชายหนุ่มลนลานวิ่งหนีอยู่เป็นเวลานาน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนไล่ตามมาเขาจึงเดินผ่านกลุ่มคนจำนวนมากเงียบ ๆ และมายังร้านอาหารไท่อัน!
เขาหันซ้ายหันขวา ครั้นเห็นว่าไม่มีคนสนใจก็วิ่งเข้าไปในร้านอาหารไท่อันทันที!
ซูหวานหว่านเห็นดังนั้นจึงสรุปได้ว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังจะต้องเป็นถังฟู่อย่างแน่นอน ทว่าชายคนนั้นกลับถูกคนในร้านไล่ออกมา หลังจากนั้นจึงเดินไปยังบ้านแห่งหนึ่งแถบชานเมือง
ซูหวานหว่านไล่ตามเขามาติด ๆ
ชายหนุ่มคนนั้นเดินเข้าไปในห้องหนึ่ง ซูหวานหว่านจึงเดินตามเข้าไปแล้วใช้หูแนบกำแพงเพื่อลอบฟัง และลอบมองผ่านรอยแยกของไม้
ภายในห้องมีชายสองคนนั่งอยู่ ใบหน้าคุ้นเคยของพวกเขาทำให้ซูหวานหว่านมั่นใจ
เขาคือถังฟู่…. ส่วนอีกคนคือฉีเฉิงเฟิง!
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุขพลางจิบเหล้าอย่างสำราญใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสองดูเหมือนกำลังภูมิใจในบางสิ่ง ซูหวานหว่านเห็นดังนั้นก็รู็สึกตกใจ ร่างกายชาราวกับถูกฟ้าผ่า
ใครจะไปคิดว่าฉีเฉิงเฟิงจะรู้จักมักคุ้นกับถังฟู่! ยิ่งไปกว่านั้นฉีเฉิงเฟิงหายตัวไปตั้งแต่ลงจากเกวียน และเขาก็ปรากฏตัวที่นี่!
ซูหวานหว่านอดสงสัยไม่ได้ที่ฉีเฉิงเฟิงแย่งมีดจากถังฟู่ในตอนนั้น เขากำลังหลอกให้นางตายใจและเล่นละครตบตานางอยู่หรือไม่ เด็กสาวโกรธจนอยากเดินออกไปจากที่นี่ ทว่านางก็อยากรู้ว่าเหตุใดเขาถึงทำเช่นนี้
เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
ชายคนนั้นวิ่งเข้าไปอย่างรีบร้อนจนกระทั่งสะดุดธรณีประตูล้มลงกับพื้น ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งเข้าด้านในอย่างลุกลี้ลุกลน
ฉีเฉิงเฟิงเอ่ยด้วยท่าทีขยะแขยงและมองถังฟู่ คุณชายถัง คนของท่านไร้กาลเทศะเสียจริง!
ใบหน้าของคุณชายถังฟู่พลันเปลี่ยนสีทันที เขาทุบโต๊ะจนถ้วยน้ำชากระเด็น เกิดอะไรขึ้น! เหตุใดถึงตื่นตระหนกขนาดนี้! เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังมีแขกอยู่?
แต่ว่า… ผู้ชายคนรีบก้มหัวขอโทษและไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องที่ซูหวานหว่านทำลงไป ครั้นได้ยินดังนั้นถังฟู่ก็ตบโต๊ะอีกครั้งและพูดออกมาว่า แค่เรื่องเล็กน้อยเจ้ายังทำมันไม่ได้! เจ้าไม่ได้ทำตามคำสั่งที่ข้าบอกไว้หรอกหรือ? ทั้งยังทำให้ซูหวานหว่านหลุดรอดไปได้ง่าย ๆ อีก! เจ้ายังจะหวังให้ข้าวางใจให้เจ้าเป็นผู้ดูแลของตระซูต่อไปได้อย่างไรกัน!
คุณชายถังโมโหจนหน้าสั่น เขายกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบระงับความโกรธจนสำลักมันออกมา
ฉีเฉิงเฟิงที่นั่งอยู่ด้านข้างหยิบพัดขึ้นมาพัดเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้มประดับใบหน้า คุณชายถัง ดูเหมือนว่าทักษะและความสามารถของท่านจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว จ่ายเงินไปตั้งมากมายเพื่อสร้างร้านตระกลูซูขึ้นมา แต่ต้องมาจ่ายค่าชดเชยให้กับพวกชาวบ้าน ดูท่าแล้วหากท่านล้มเหลวแบบนี้ยังหวังที่จะให้ข้าร่วมมือกับท่านอยู่อีกอย่างงั้นหรือ?
ซูหวานหว่านได้ยินเช่นนั้นก็ยังคงไม่เข้าใจความหมายของทั้งสองคน เด็กสาวรู้สึกสับสนว่าเหตุใดฉีเฉิงเฟิงถึงร่วมมือกับถังฟู่!
ถังฟู่เกือบจะฆ่านาง! แล้วฉีเฉิงเฟิงเองก็ถูกทำร้ายในวันนั้น!
ทว่าเหตุใดฉีเฉิงเฟิงถึงไปให้ความร่วมมือกับถังฟู่? เพียงมองก็รับรู้ได้ว่าเจตนาของถังฟู่ตั้งใจต้องการที่จะกำจัดนาง หรือว่าความตั้งใจที่แท้จริงของฉีเฉิงเฟิงคือกำจัดนางด้วยเช่นกัน?
ครั้นคิดได้เช่นนั้นซูหวานหว่านก็รู้สึกจุกจนหายใจแทบไม่ออก!
พลันใดฉีเฉิงเฟิงก็เอ่ยออกมา เป็นอะไรไป? เหตุใดถึงไม่เอ่ยอะไรเลย? คุณชายถังแม้ว่าท่านจะไม่เก่ง แต่ข้าก็ยินดีที่จะร่วมมือกับท่านเพื่อจัดการกับซูหวานหว่าน!
ที่นางคิดเอาไว้ถูกต้อง!
ซูหวานหว่านตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของฉีเฉิงเฟิง หัวใจของนางบีบรัดและเต็มไปด้วยความผิดหวัง
สุดท้ายแล้วก็มีวันที่ฉีเฉิงเฟิงร่วมมือกับคนอื่นเพื่อทำลายนาง!
หัวใจของเด็กสาวสั่นสะท้าน นางไม่ต้องการได้ยินอะไรอีกต่อไปจึงรีบหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น
แต่ซูหวานหว่านได้พลาดข้อมูลสำคัญไป!
ฉีเฉิงเฟิงที่อยู่ภายในห้องก็พูดออกมาอีกครั้งว่า แต่… ข้าจะช่วยเจ้าจัดการกับซูหวานหว่าน และเจ้าต้องช่วยข้าจัดการกับฉีเฉิงเฟิง!
หึ! แน่นอนว่าเข้าต้องช่วยเจ้าอยู่แล้ว ข้าจะช่วยให้คุณชายซุนสมหวังดั่งใจ ถังฟู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นทั้งสองคนก็มองหน้ากันและยิ้มออกมา
ซูหวานหว่านไม่รู้ว่า ‘ฉีเฉิงเฟิง’ คนนี้คือซุนฮวน ลูกชายของซุนชางซู่ที่อยู่ในเมืองหลวง ที่ปลอมตัวมาเป็นฉีเฉิงเฟิง!
ชายคนนั้นบอกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่ส่งผลให้ใบหน้าของซุนฮวนเปลี่ยนไป ถังฟู่จึงแอบยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าจะยังจัดการซูหวานหว่านให้ข้าไม่ได้ เจ้าควรจะต้องจัดการกับฉีเฉิงเฟิงก่อนถึงจะถูก ไม่เช่นนั้นล่ะก็หญิงงามของเจ้าอาจจะหลุดมือเจ้าไปได้
หึ! ซุนฮวนยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและเดินออกไป
ซูหวานหว่านเดินกลับมาที่ตลาดในเมืองอีกครั้ง ชาวบ้านที่ซื้อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปไม่ได้คิดร้ายกับนางเหมือนก่อนแล้ว ซูหวานหว่านก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง นางรู้สึกว่าเงินนั้นสามารถไว้ใจได้ง่ายกว่าพวกผู้ชาย นางเลยคิดที่จะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยการคิดค้นขาย ‘น้ำนางฟ้า’ นางมุ่งหน้าไปที่ร้านกระเบื้องเพื่อสั่งทำขวดขนาดเล็กจำนวนมาก จากนั้นนางก็กลับไปพักที่บ้านของฮวงเหล่าเพื่อพักผ่อน ระหว่างทางนางก็พบฉีเฉิงเฟิงและสือเป้ยเอ๋อร์!
ซูหวานหว่านโมโหเป็นอย่างมาก!
เด็กสาวรีบเดินกลับไปที่บ้านของฮวงเหล่าทันทีเพื่อไปศึกษาตำรายา เสี่ยวเฮ่ยก็แสร้งทำเป็นว่าไปซื้ออาหารจากร้านเจวียเซ่อ และเมื่อเห็นซูหวานหว่านนั่งอยู่ในบ้าน เขาจึงถามหาฉีเฉิงเฟิง แต่เด็กสาวเลือกที่จะไม่สนใจเขาแต่อย่างใด
เสี่ยวเฮ่ยจึงออกไปตามหาฉีเฉิงเฟิงด้วยตัวเอง ทว่าก็ไม่พบใครในลานบ้านเลย เมื่อเขากลับมาก็เห็นซูหวานหว่านกำลังจัดสำรับอาหาร พอกำลังจะถามว่าฉีเฉิงเฟิงอยู่ที่ใด หญิงสาวก็พูดออกมาด้วยความโกรธ จะรอกินข้าวพร้อมกับเขาทำไม! ตอนนี้เขาคงจะอบอุ่นอยู่ในอ้อมกอดใครสักคน อยู่ดีกินดี! จะตามเขามากินอาหารบ้าน ๆ แบบนี้นะหรือ เขาคงจะมาหรอก!
เมื่อได้ยินแบบนี้เสี่ยวเฮ่ยก็ตกตะลึง และไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จึงนั่งลงและกินอาหารเงียบ ๆ
หลังจากกินอาหารไปคำนึง เด็กสาวก็รู้สึกอึดอัด นางไม่พอใจขึ้นมาและสถบ ฉีเฉิงเฟิง อย่าให้ข้าได้เจอเจ้าอีกเลย! ไม่เช่นนั้นข้าคงทนไม่ไหวและฆ่าเจ้าได้!
เมื่อเช้าทั้งสองยังเดินทางมาด้วยกันดี ๆ อยู่เลย เหตุใดตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้? เสี่ยวเฮ่ยรู้สึกสงสัยจนอยากถามออกมา ทว่าพอเห็นแววตาอันแสนเย็นชาของนางถึงปิดปากเงียบ ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตนเองต่อไป แสร้งทำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อกินไปได้สักพัก ซูหวานหว่านก็รู้สึกอิ่ม เด็กสาววางตะเกียบลง พลันใดนั้นเสียงเรียกของไป๋หยวนซูก็ดังขึ้นมาจากนอกบ้าน มีใครอยู่หรือไม่? คุณชายฉีฝากบางอย่างมาให้แม่นางซู
ครั้นได้ยินอย่างนั้นเสี่ยวเฮ่ยก็เตรียมตัวลุกขึ้น ทว่าถูกสายตาของซูหวานหว่านจ้องมองเอาไว้ ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวและนั่งลงเช่นเดิม
ซูหวานหว่านไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใดพร้อมทั้งตะโกนออกมาว่า มีอะไรที่เขาฝากมาให้ข้าอย่างงั้นหรือ? เป็นจดหมายลาตายของเขาใช่หรือไม่ หากไม่ใช่ไม่ต้องเอามาให้ข้า!
จดหมายลาตาย?
ไป๋หยวนซูชะงักไปครู่หนึ่งแล้วพูดออกมา มันคือปิ่นปักผม ข้าเพิ่งพบกับคุณชายที่ถนนพอดีแล้วเขารีบไปจัดการธุระ เขาเลยฝากของสิ่งนี้มาให้ท่านแล้วให้บอกว่ามันเป็นปิ่นปักผมที่สวยที่สุดในเมืองนี้
คิดว่านางจะเชื่อคำพูดพวกนี้งั้นเหรอ คิดว่านางเป็นคนโง่หรือย่างไร!
ซูหวานหว่านกัดฟันแน่นและพูดว่าออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายหลายใจ ดังนั้นข้าเกรงว่าปิ่นปักผมอันนี้คงจะถูกเลือกมาให้กับผู้หญิงคนอื่น ๆ เช่นกัน! ท่านช่วยโยนมันทิ้งแทนข้าได้หรือไม่! ข้ารู้สึกขยะแขยงมาก!
ไป๋หยวนซูได้ยินดังนั้นก็รู้สึกสับสน แม่นางซู ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?
ข้าไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไป! อย่าพูดถึงฉีเฉิงเฟิงอีก! บางทีมันอาจจะบรรเทาความเกลียดชังของข้าลงได้บ้าง! ซูหวานหว่านพูดออกมา นางเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูเสียงดัง
ได้ยินเช่นนี้ไป๋หยวนซู่ก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น โดยคิดว่าจะอธิบายให้ซูหวานหว่านเข้าใจดีหรือไม่ว่าที่จริงแล้วนั้น… สิ่งที่ฉีเฉิงเฟิงกำลังทำอยู่มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก บางทีเรื่องนี้อาจจะถึงตายได้!