ตอนที่ 193 เอาคืนศัตรูสำเร็จ
พอดีเลย! เจ้ามาให้ข้าจับถึงที่เลยแหะ! เจียเหวินจ้องไปที่ซูหวานหว่านอย่างโกรธเคือง ใครก็ได้! พาตัวเขาไปส่งให้กับพลลาดตระเวนที!
ฉีเฉิงเฟิงเข้ามาขวางหน้าซูหวานหว่านเอาไว้ทันที และมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา คุณชายเจีย ท่านกำลังหมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่าอย่างไรงั้นรึ? พวกเจ้าขายเศษหินให้กับข้าด้วยเงินพันตำลึงยังมีหน้ามาถามอีกรึ? เจียเหวินรู้สึกเจ็บปวด เพราะเงินพันตำลึงเป็นรายรับของตระกูลเจียที่อาศัยการทำกิจการในเมืองนี้ถึงได้มา!
ตอนนี้ดูเหมือนเขากำลังถูกหลอก เขาจะอธิบายให้พ่อแม่ของตัวเองฟังได้อย่างไร!
เจียเหวินเห็นว่าทั้งสองคนยังไม่พูดอะไรออกมา ก็พูดออกมาอีกว่า แค่พวกเจ้าเอาเงินมาคืนให้ข้า ข้าจะไม่ทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้!
เงินอยู่ในมือของนางแล้ว และนางก็ไม่มีเหตุผลที่จะคืนเงินกลับไปให้กับเจียเหวิน! ซูหวานหว่านหัวเราะออกมาราวกับว่านางได้ยินเรื่องตลก ข้าเคยบอกกับเจ้าไปแล้วครั้งหนึ่ง ว่าการพนันย่อมมีความเสี่ยง แต่เป็นเจ้าเองที่ดึงดันที่จะซื้อมันไป แล้วข้าจะทำอะไรได้? ทว่าตอนนี้เจ้ายังอยากที่จะได้เงินคืน คุณชายเจีย ตระกูลเจียของเจ้าก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวยใหญ่โต และเพียงเจ้าพนันหินไปแล้วได้เศษขยะกลับมายังจะมาทวงเอาเงินคืนไปอีก เช่นนี้มันใช่แล้วหรือ?
เขาช่างเป็นคนไร้ยางอายยิ่งนัก ไม่ต้องพูดถึงใบหน้าของคนตระกูลเจียว่าจะต้องขายหน้าขนาดไหน ซูหวานหว่านยิ้มออกมาพร้อมกับพูดออกมาอีกครั้งว่า คุณชายเจีย หากตระกูลเจียกำลังจะล้มละลาย เจ้าก็หยิบชามออกไปเดินตามข้างถนนได้! หรือว่า…ไปที่หอซุยซุนโหลวเพื่อไปหาเงินก็ได้นะ ด้วยรูปร่างและหน้าตาของเจ้า บางทีเจ้าก็อาจจะหาเงินมาคืนให้กับคนในตระกูลได้ภายในหนึ่งเดือนก็ได้! ทุกคนคิดแบบเดียวกับข้าไหม!
เจ้า! เมื่อมองไปที่ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิง เจียเหวินก็ดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขากัดฟันกรอดและพูดว่า เป็นเจ้าสองคนใช่ไหมที่ไปทำลายหอซุยซุนโหลว?
หอซุยซุนโหลวเป็นขุมทรัพย์ที่มีค่ากับเขามากที่สุด! ไม่มีสิ่งใดสามารถเปรียบเทียบได้! เป็นเพราะทั้งสองคนนี้ที่ทำให้หอซุยซุนโหลวต้องพังพินาศ และเขาต้องการฆ่าพวกเขาทั้งสองคนทันที!
แล้วมันจะทำไม? สถานที่อย่างหอซุยซุนโหลวมีแต่ควันไฟ มันควรได้รับการแก้ไขมานานแล้ว! ซูหวานหว่านมองไปที่เจียเหวินด้วยสายตารังเกียจ และพูดหยอกล้อออกมาทันทีว่า เป็นอะไรไป คุณชายเจียชอบไปที่หอซุยซุนโหลวงั้นหรือ? ข้าได้ยินมาว่าที่นั้นมีเด็กผู้ชายคอยปรนเปรออยู่ด้วย!
คุณชายอย่างข้าจะชอบไปสถานที่แบบนั้นได้อย่างไร! เจียเหวินตอบกลับ ผู้คนที่อยู่รอบข้างก็จ้องมองมาที่เขา ทำให้เจียเหวินรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาถอนหายใจออกมาและหยุดพูดทันที แสร้งทำเป็นเลือกก้อนหินการพนันที่วางอยู่แทน
หินพนันที่นี่มีราคาแพงมาก แน่นอนว่าหนึ่งก้อนมันมีราคาอย่างน้อยหนึ่งร้อยตำลึง และแม้แต่ช่างผ่าหินออกก็ยังคิดค่าจ้าง ซูหวานหว่านมีท่าทางนิ่งเฉย พร้อมกับนำหินออกมากองหนึ่ง แล้ววางไว้บนโต๊ะ ทำให้เป็นที่ดึงดูดต่อสายตาผู้คนอย่างมาก
เจียเหวินที่เห็นก็อดไม่ได้ที่จะพูดเสียดสีออกมา ข้าเพิ่งจะซื้อหินเศษขยะมาจากเขา! หินพนันที่อยู่ในมือของเขาคงไม่ได้แตกต่างจากที่ข้าได้มาอย่างแน่นอน! ทุกคนอย่าไปสนใจมันเลย เดี๋ยวมันจะทำให้เขาขายหน้าจนซุกหน้าหนีแทบไม่ทันเปล่า ๆ
เฮ้อ ซูหวานหว่านถอนหายใจออกมา หินพนันที่เจียเหวินได้ไปเป็นเพราะนางตั้งใจที่จะเอาคืนเจียเหวินต่างหาก แต่หินที่อยู่ในอ้อมแขนของนางทั้งหมดนี้ ซูหวานหว่านและฉีเฉิงเฟิงเลือกซื้อมาจากในตลาดด้วยตัวเอง! แน่นอนว่านางมีสายตาที่แหลมคมมาก นางเคยไปยูนนานและพม่ามาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง และนางก็รู้วิธีเลือกหินพนันดี ๆ อีกด้วย นางไม่เคยเลือกพลาดเลยสักครั้ง!
เมื่อเห็นท่าทีของซูหวานหว่าน เจียเหวินก็พูดออกมาอีกว่า เป็นอะไรไป? หรือเรื่องที่ข้าพูดอยู่ไม่ใช่เรื่องจริง?
สิ่งที่เจ้าพูดมามันไม่ใช่เรื่องจริง ซูหวานหว่านพูดพร้อมทั้งยิ้มออกมา คุณชายเจีย เจ้าไม่ใช่เป็นนักพนันหรอกหรือ? ตอนนี้เจ้ากล้าที่จะมาเดิมพันกับข้าอีกหรือไม่?
เอ่อ… เจียเหวินรู้สึกลังเลนิดหน่อย เพราะว่าเงินหนึ่งพันตำลึงที่เขาได้นำมาในวันนี้มันอยู่ในมือของซูหวานหว่านหมดแล้ว หากตอนนี้เขาอยากเดิมพันอีก เขาก็ไม่มีเงินแล้ว! แต่ถ้าไม่เดิมพัน เขาก็จะโดนอีกฝ่ายหัวเราะเยาะเย้ยเอาได้! เจียเหวินจึงพูดออกมา วันนี้ข้ามีเรื่องที่จะต้องไปจัดการที่บ้าน ต้องขอตัวกลับก่อนคงจะไม่ได้เดิมพันหรอก แต่…หากทุกคนที่นี่อยากจะเดิมพันกับเขาก็เดิมพันเถอะ
ตัวเองไม่เดิมพัน แต่กลับเชิญชวนให้คนอื่นเดิมพัน หากเขาไม่โง่! ก็คงจะเป็นตัวตลก!
ซูหวานหว่านจึงเอ่ยออกมาว่า เจ้าคิดว่าคนอื่นจะโง่เหมือนกับเจ้างั้นหรือ?
แต่มันก็มีคนโง่เง่าที่อยากจะประจบประแจงคนในตระกูลเจีย! เมื่อได้ยินแบบนี้พวกเขาก็พูดออกมาทันทีว่า คุณชายเจียฉลาดมาก แน่นอนว่าเขาแตกต่างจากเจ้า! เจ้านั้นแหละที่เป็นคนโง่! พวกเราจะเดิมพันกับเจ้าเอง! หากหินพนันในมือของเจ้าเป็นหยกจริง ๆ พวกเราจะให้เงินเจ้าหนึ่งร้อยตำลึง! ถ้ามันไม่ใช่เจ้าจะต้องก้มหัวเอ่ยขอโทษคุณชายเจียซะ!
ตกลง! ซูหวานหว่านพยักหน้าและพูดออกมาอีกครั้ง เลิกพูดจาซี้ซั้วได้แล้ว เชิญวางเงินเดิมพันได้เลย
ฮึ่ม! คนเหล่านั้นพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา แต่ก็นำเงินออกมาวาง ซูหวานหว่านนับเงิน เมื่อเห็นว่าครบจำนวนแล้วนางก็รู้สึกดีใจ หากแต่ก็ยังมีความรังเกียจเกิดขึ้นในใจของนางอยู่บ้าง หญิงสาวโยนมันลงไปบนโต๊ะและพูดกับช่างตัดหินว่า ช่วยตัดหินนี้ของข้าให้ที
พูดจบก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาพร้อมกับหินจำนวนมากและพูดว่า คุณชายเป่ยฉวน หินพนันที่ท่านเพิ่งซื้อมา ข้าได้นำมาส่งให้กับท่านแล้ว!
บริเวณโดยรอบอยู่ท่ามกลางความโกลาหลทันที เหตุใดซูหวานหว่านถึงมีหินมากมายเพียงนี้! ยิ่งหินถูกตัดมากเท่าไร โอกาสในการเสียพนันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น!
ซูหวานหว่านช่างใจกล้ามาก! หลายคนชื่นชมซูหวานหว่านอย่างจริงจัง แต่เจียเหวินกลับเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา ทำมาเป็นแสร้ง! คอยรับความอับอายได้เลย!
นั่นสินะ! คนที่ประจบสอพลอตระกูลเจียช่วยเสริมออกมาอย่างรวดเร็ว
…
ซูหวานหว่านยิ้มเยาะเย้ยออกมา และให้ช่างลงมือตัดหินได้ทันที
หินพนันก้อนแรกถูกเปิดออก และเป็นหยกสีเขียวข้างใน!
หินพนันก้อนที่สองก็ถูกเปิดออก
ก็ยังเป็นหยกสีเขียวที่เป็นธรรมชาติ!
ก้อนที่สาม ก้อนที่สี่…
ทุกคนต่างพากันตกตะลึง ภายในเวลาหนึ่งเค่อ พวกเขาก็ยังไม่เห็นหินก้อนไหนที่เปิดออกมาแล้วจะเป็นเพียงก้อนกรวดเลย พวกเขาตกใจมากและแอบชื่นชมซูหวานหว่าน คุณชายเป่ยฉวน ขอถามหน่อยได้หรือไม่ว่าท่านเป็นใครมาจากที่ใดกัน?
คุณชายเป่ยชวนตอนนี้ท่านพักอาศัยอยู่ที่ไหน? หากไม่มีที่พัก ไปพักบ้านข้าสักสองสามวันก็ได้ ท่านจะว่าอย่างไร?
…
เมื่อมองไปยังกลุ่มคนที่กำลังประจบเลียแข้งเลียขาซูหวานหว่านอยู่ เจียเหวินพลันรู้สึกไม่สบายใจ เขาจ้องมองไปยังช่างตัดหินที่หยิบหินการพนันก้อนสุดท้ายขึ้นมา ช่างตัดหินพนันได้ตัดผ่ามันออกมาแบ่งครึ่ง แต่เขาไม่เห็นสีเขียวของหยกเลย!
นี่มันคือก้อนกรวดชัด ๆ เจียเหวินหัวเราะออกมาทันที ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ข้ารู้อยู่แล้วเขาไม่มีความสามารถ! ดูหินก้อนนี้สิ! มันไม่เห็นมีอะไรเลย!
แต่ว่าทุกคนกลับมองไปที่เจียเหวินเหมือนคนโง่ ส่วนช่างตัดหินก็ตื่นเต้นจนมือสั่น นี่! นี่คือโม่ฉุย[1]! นี่มันคือโม่ฉุย ครั้งหนึ่งในชีวิตและเป็นครั้งเดียวที่พบมัน พบได้ยากในหินพนันเหล่านี้!
อะไรนะ? โม่ฉุย? มันคือหยกที่มีคุณภาพสูงในบรรดาหยกทั้งหลาย แน่นอนว่าคนเฒ่าคนแก่ในครอบครัวตระกูลเจียของเขานั้นใช้เวลาในการเก็บหอมรอมริบนานมากกว่าจะซื้อหยกชนิดนี้มาได้ในราคาห้าพันตำลึง ซื้อมันมาทำแหวนขนาดเล็กใส่! พลันใดนั้นสีหน้าของเจียเหวินก็เปลี่ยนไปทันที
กลุ่มคนที่เพิ่งจะประจบตระกูลเจียก็ถึงกับโกรธจนหน้าแดง และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ แม้แต่เจียเหวินก็อดไม่ได้ที่จะเดินหนีออกไป
พวกที่เหลืออยู่ต่างเอ่ยประจบประแจงเอาใจซูหวานหว่าน และนางก็พูดออกมาว่า ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน หากมีใครที่ต้องการซื้อหยก สามารถไปที่ร้านของข้าได้ที่ร้านหยูเซิงหยาน หากใครอยากรู้วิธีการเลือกเล่นหินพนันเหล่านี้ ก็มาเลี้ยงข้าวข้าได้ที่ร้านเจวียเซ่อ
เฮอะ ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าซูหวานหว่านจะขี้เหนียวเช่นนี้! บอกให้พวกเขาเลี้ยงข้าวนาง ต้องออกเงินไปไม่กี่ตำลังจึงจะสามารถเจอนางได้งั้นเหรอ?
ทุกคนคิดว่าซูหวานหว่านเป็นคนเย่อหยิ่ง แต่เมื่อเห็นว่าหินพนันที่ซูหวานหว่านซื้อมาในวันนี้ล้วนเป็นหินหยกคุณภาพดี พวกเขาจึงรู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์มากในตอนนี้ เลยกลับบ้านและวางแผนที่จะหารือเรื่องนี้กับครอบครัวของตัวเอง ทุ่มเงินขอเชิญให้ซูหวานหว่านมาร่วมกินอาหารให้ได้
เรื่องในวันนี้แพร่กระจายออกไปทั่วทันที ชื่อเสียงของร้านอาหารเจวียเซ่อและร้านขายหยกหยูเซิงหยานก็กลายเป็นที่รู้จักในทันที รวมทั้งชื่อเสียงของ ‘เป่ยฉวนเฟิงหลิว’ ที่ก็กลายเป็นที่รู้จักในเมืองนี้อีกด้วย!
กิจการของร้านหงเหมินเงียบเชียบไร้ผู้คน ซูเสี่ยวเหยียนโดนสองพี่น้องตระกูลสือดุด่าเสีย ๆ หาย ๆ ตระกูลสือไม่ต้องการมอบอะไรให้นางอีก นางจึงคิดหาวิธีและสั่งให้ใครสักคนไปทำตามแผน
หลังจากนั้นนางก็ยืนรอที่ประตูร้านหงเหมินเพื่อรอดูเหตุการณ์สนุก ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เที่ยงวันของวันนี้ มีผู้คนมากินอาหารจนแน่นร้าน ซูหวานหว่านที่กำลังจิบชาอยู่ในห้องอาหารส่วนตัวได้ยินเสียงของคนสองคนอยู่ในห้องข้าง ๆ กำลังกันถกเถียงกันในเรื่องนึงอย่างเผ็ดร้อน
ข้าไม่นึกเลยว่าคุณชายเป่ยฉวนจะเป็นคนแบบนี้! น่ารังเกียจนัก!
ใช่! น่ารังเกียจ! ร้านนี้ก็เป็นของเขา ข้าจะกินอาหารลงไปได้อย่างไร? ไปกินที่อื่นกันเถอะ!
…
ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว มันเกิดอะไรขึ้น?
————————————————————————————————
[1] 墨翠 โม่ฉุย คือหยกสีดำ ที่ถือว่าเป็นสีแห่งความอมตะ มีพลังต้านพลังด้านลบสูง หรือต้านสิ่งที่ไม่ดีไม่ให้มาสู่เจ้าของหยก คนจีนเชื่อว่าถ้าใส่หยกสีดำจะนำความร่ำรวยเงินทองไหลมาเทมาให้กับเจ้าของ